ส่งท้ายอินเดีย 2009
ก่อนจะถึงบทส่งท้ายอินเดีย ปอ ป้า ขอนำภาพเก็บตกมาฝากค่ะ.... ร้านน้ำชา ...อันลือชื่อในเมืองพาราณสี...ใครมาพาราณสีจะต้องแวะมาทาน กะลัมจาย หรือ จาย ที่แปลว่า ชาร้อน
อันว่า จาย ของอินเดียนั้น เค้าจะใช้ใบชาต้มกับสมุนไพรสด จำพวกข่า แล้วใส่นมแพะ ทานแล้วจะสดชื่นไปด้วยความหอมกรุ่นของกลิ่นชาและกลิ่นสมุนไพร ช่วยอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าไม่ระมัดระวัง ปากท่านอาจจะพองได้ในบัดเดี๋ยวนั้น เนื่องจากมันร้อนสุด ๆ ส่วนของที่นิยมทานร่วมกับ จาย นั้นก็คือบรรดาโรตีทั้งหลาย แต่ที่ร้านนี้บริการด้วย จาปาตี ทำกันสด ๆ ให้เห็นจะ..จะ
ที่ร้านโนเนมแห่งนี้ มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำความประหลาดใจให้กับปอ ป้า เป็นอย่างยิ่ง นั่นคือ เมื่อบริกรเข้ามาต้อนรับ ทำการเช็ดถูโต๊ะเก้าอี้ให้เสร็จแล้ว ก็จะยกจานของว่างมาให้ทานเล่นในระหว่างที่รอชาร้อน ที่ประหลาดใจเพราะของว่างดังกล่าว คือ พริกขี้หนูสดใส่มาในจาน แล้วมีเกลือป่นให้จิ้มด้วย...พระวิทยากรท่านพูดติดตลกว่า กินแล้วตามด้วยชาร้อน ๆ มันสะใจดี...( มั้ง )...แต่อาตมาไม่เคยลอง และไม่คิดจะลอง...
โฉมหน้าของว่าง ระหว่างรอน้ำชา
กรรมวิธีในการชง " จาย "
ปั้นแป้ง " จาปาตี " อย่างนี้...
แล้วก็แปะใส่เตา...แบบนี้...
" จาปาตี " ได้ที่สุกดีแล้ว ก็เสียบออกมา..อย่างนี้
นี่คือ " จาปาตี " ร้อน ๆ เคียงคู่อยู่กับหมูหยองของพวกเรา
นำ " จาปาตี " มาใส่หมูหยองเข้าไป...
แล้วก็..ม้วน...อย่างนี้
อืมมม...อาหย่อย...คอนเฟิร์ม !
ตามด้วย " จาย " ร้อน ๆ ในกาดำ ๆ อีกสักแก้ว..
น้ำอัดลมก็มีบริการ..แต่ใครจะกล้าซื้อ...
ถัดมาอีก ๒ ห้อง มีร้านมินิมาร์ตขนาดเล็ก ๆ ดูสะอาดสะอ้านดี เจ้าของร้านแต่งกาย...อย่างหล่อ..
..ก็เลยได้มา ๒ อย่าง...เป๊บซี่ ๒๕ รูปี ช็อกกาแล็ต ๗๕ รูปี...
ในการเดินทางแสวงบุญอินเดีย เนปาล ครั้งนี้ คณะของเราได้ทำการทอดผ้าป่ารวมทั้งหมด ๗ วัดด้วยกัน ดังนี้ค่ะ
1) วัดไทยพุทธคยา 57,600.- 1) วัดไทยราชคฤห์ 52,200.- 2) วัดไทยเวสาลี 50,000.- 3) วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ 611,100.- 4) วัดไทยลุมพินี 70,000.- 5) บริจาคผ้าห่ม ข้าวสาร และเกลือ แก่ผู้ยากไร้ คิดเป็นจำนวนเงิน 57,420.- 6) สร้างห้องพักที่ 960 จำนวนเงิน 750,000.-
รวมเป็นเงินสดทั้งสิ้น 1,648,320.- ( หนึ่งล้านหกแสนสี่หมื่นแปดพันสามร้อยยี่สิบบาทถ้วน ) ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้ยังไม่รวมค่าข้าวของเครื่องใช้ อาหารแห้งต่าง ๆ ที่นำไปจากเมืองไทย ก็ช่วยกันอนุโมทนาบุญด้วย...นะคะ
ขอขอบคุณ :
คุณพัชรา หวังว่องวิทย์ ผู้จัดการภาคอาวุโส ภาคนำทอง บริษัท เอ ไอ เอ ( ประเทศไทย ) จำกัด หัวหน้าคณะ ผู้นำพาพวกเราเดินทางไปแสวงบุญในครั้งนี้ พร้อมทั้งชาวคณะเครือนำทองที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง
ท่านเจ้าคุณ พระราชรัตนรังสี ที่มีเมตตาอย่างมากต่อคณะของพวกเรา ให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่น ทำให้พวกเราอิ่มท้อง และอิ่มบุญ กันถ้วนหน้า
หลวงตาชงค์ พระวิทยากร ที่ให้วิชาความรู้เทศนาสั่งสอนด้วยความเมตตา ตลอดการเดินทาง
ครอบครัวของปอ ป้า ที่ให้โอกาสและเวลาแก่ปอ ป้า ทุกครั้งที่บอกว่าจะไปปฏิบัติธรรม หรือไปแสวงบุญ นับว่าปอ ป้า โชคดีมากที่สามี และลูก ๆ เข้าใจและเปิดโอกาสให้ตามที่ต้องการ มิได้ขัดขวางแต่อย่างใด
คุณศุภางค์ อัยรักษ์ ภาคนำทอง 14 ซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องการประกันภัยทุกอย่างให้กับครอบครัวของปอ ป้า มานานกว่า 30 ปี นับได้ว่าเป็นน้องรักคนหนึ่งของปอ ป้า เป็นผู้ชักชวนพร้อมทั้งจัดการเป็นธุระนำพาปอ ป้า มาแสวงบุญถึง 2 ครั้งแล้ว
คุณกอบกุล เรืองระวีนุกิจ เจ้าของร้านทองกอบกุล ตลาดหัวรอ จังหวัดอยุธยา เป็นน้องเลิฟอีกคน ที่คอยอำนวยความสะดวกในการเดินทางครั้งนี้ พร้อมทั้งดูแลปอ ป้าเป็นอย่างดีชนิดไม่ให้คลาดสายตา เพราะนอนห้องเดียวกันตลอดทริป..อิ อิ
คุณยุวดี เลิศเจริญโชค น้องนก ที่คอยดูแลสารทุกข์สุขของพี่ ๆ ในกลุ่มพวกเราเป็นอย่างดี น่ารัก....ซะ
คุณศิริพร กนิษฐานนท์ คุณเพื่อนเลิฟของปอ ป้า เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่ชั้นมัธยมปลาย สายสัมพันธ์เหนียวแน่นมาแต่กาลก่อน...ซื้อก็ไม่ขาย..ถึงขายได้ก็ไม่ขาด..ตัดกันบ่อด้ายยยย....ต้องขอบคุณที่ครั้งนี้เธอยอมเดินทางมาด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่หล่อนกลัวอินตะระเดียเป็นอย่างมาก แต่สุดท้าย..ติดใจเสียแล้ว ถามว่าปอ ป้าจะมาอีกเมื่อไร ขอมาด้วย...นะจ๊ะ
บริษัท มายด์ วาเคชั่น จำกัด บริษัททัวร์ผู้เชี่ยวชาญประเทศอินเดียและเนปาล ที่ให้บริการคุณพัชราและคณะมาทุกปี โดยส่งคุณณฐนนท์ พงศ์ตระหง่าน และ คุณศรายุทธ ตลับนาค มาเป็นไกด์บริการอย่างได้ใจตลอดการเดินทาง ( รายนี้ปอ ป้า น่าจะไปขอค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์สักหน่อย..เนอะ...อิ อิ )
การบินไทย ที่พาคณะของเราเหินฟ้าด้วยความปลอดภัยไร้กังวลทั้งขาไปและขากลับ เพราะหากการบินไทยไม่เปิดเส้นทางบินสายกรุงเทพฯ เมืองคยา หมู่เฮาก็ต้องไปแอร์อินเดีย นั่งไปดมยาดมกับกลิ่นแขกกันไป...หุ หุ ( นี่ก็เหมือนกัน น่าจะคิดค่าโฆษณาซะหน่อย...อิ อิ )
BLOGGANG ที่ให้พื้นที่ในโลกไซเบอร์แห่งนี้ ทำให้ปอ ป้า ได้มีโอกาสนำบันทึกการเดินทาง และเรื่องราวต่าง ๆ มาเผยแพร่สู่สายตาสาธารณชน ( ส่วนรายนี้ ขอค่าโฆษณา...ไม่ได้หรอก...กะเด๋วเค้าหันกลับมาเก็บค่า host...แย่เรยยย...555 )
และสุดท้าย ขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามอ่านบันทึกการเดินทางในครั้งนี้ รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ที่ปอ ป้า นำมาเผยแพร่ด้วย หากขาดเสียซึ่งผู้อ่าน เรื่องราวต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกไว้ก็คงจะไร้ความหมาย
ข้อมูลพุทธประวัติ :
1) หนังสือ สู่แดนพระพุทธองค์ อินเดีย เนปาล แต่งโดย ท่านเจ้าคุณ พระราชรัตนรังษี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง พระวิเทศโพธิคุณ ( ว.ป. วีรยุทโธ ) 2) หนังสือ พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน โดยมกุฏราชมหาวิทยาลัย 3) หนังสือ ตำราวิสุทธิมรรค 4) คำบอกเล่าของ หลวงตาชงภ์ พระวิทยากร
ปิดท้ายอินเดีย 2009 ด้วยภาพเก่าเมื่อปี 2005 เป็นภาพต้นโพธิ์ดั้งเดิมที่พระอานนท์ขอพระบรมราชานุญาติจากพระพุทธเจ้า นำมาปลูกไว้ที่วัดเชตวัน นครสาวัตถี จึงเรียกกันว่า " โพธิ์พระอานนท์ " ด้วยพระอานนท์ต้องการให้ต้นโพธิ์นี้แทนองค์พระพุทธเจ้ายามที่พระองค์ไม่ได้ประทับอยู่ที่วัดเชตวัน ประชาชนจะได้มากราบไหว้ระลึกถึงพระองค์ เป็นหน่อแรกที่นำมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยา แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมากว่า 2500 ปีแล้วก็ตาม ต้นโพธิ์พระอานนท์นี้ ก็ยังสวยงามยืนตระหง่านอยู่คู่พระพุทธศาสนาตลอดมา...
ฐาตุ จิรํ สตํ ธฺมโม
ขอพระสัทธรรม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงสถิตเสถียรยั่งยืนนาน
Create Date : 28 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 14 สิงหาคม 2558 22:48:02 น. |
|
56 comments
|
Counter : 3766 Pageviews. |
|
|
|