ลงจากภูเขาไฟกูนุงบาร์ตูร์แล้ว
คณะของเราแวะเยี่ยมชมวัดเตียร์ตาอัมปีลกัน...ค่ะ

วัดเตียร์ตาอัมปีล

คนไทยมักจะเรียกกันว่า วัดตัมปะก์ซีริง วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณหมู่บ้านตัมปะก์ซีริง ตามตำนานเล่าว่า เกอโบอีวา มหาเสนาบดีผู้ยิ่งใหญ่ของเบอดูลู ใช้เวทมนต์แกะสลักอนุสรณ์สถานในชั่วคืนด้วยเล็บมือของเขา สิ่งปลูกสร้างนี้คืออนุสรณ์สถานแห่งราชวงศ์วาร์มาเดวา ประเพณีปลงพระศพของราชวงค์ ซึ่งจะทำให้กษัตริย์ ราชินี และนางสนมผู้วายชนม์กลายเป็นเทพเจ้า

ภายในวัดมีบ่อน้ำศักด์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันนี้ยังมีน้ำผุดขึ้นมาตลอดเวลา เชื่อกันว่าพระอินทร์ทรงสร้างขึ้นตอนที่เจาะพื้นพิภพเพื่อสร้างบ่อน้ำอมฤตชุบชีวิตนักรบของพระองค์

สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ ๑๐ ว่ากันว่าน้ำในสระมีอำนาจในการรักษาโรคภัยต่าง ๆ จึงได้มีการต่อท่อออกมาลงในบ่อ ชาวบาหลีนิยมมาชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ หลังจากถวายเครื่องบัดพลีแก่เทพเจ้าแห่งสระน้ำแล้ว หญิงและชายจะแยกไปอาบน้ำกันคนละด้าน แม้น้ำจะมาจากแหล่งเดียวกันแต่จะมีท่อแยกเพื่อประกอบพิธีกรรมต่างกันไป

ประตูเข้าวัดที่บาหลีนั้น
จะมีลักษณะเหมือนบานประตูที่ก่อขึ้นมา แล้วถูกผ่ากลางออกเป็น ๒ ซีก
เป็นคติความเชื่อที่ว่า ซีกหนึ่งคือโลกมนุษย์ ส่วนอีกซีกหนึ่งคือสวรรค์




ประตูด้านข้างกำแพงวัด
มองดูในขณะที่บรรยากาศเย็น ๆ ครื้ม ๆ ...ดูแล้วขลังมาก




อีกหนึ่งประตูด้านข้างกำแพงวัด ศิลปะอันงดงาม




บ่อน้ำผุด..บริเวณสีเทาดำ คือน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นระยะ ๆ




ท่อน้ำที่ต่อมาจากบ่อน้ำผุด ชาวบาหลีเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์
จึงมีผู้คนจำนวนมากพากันมาอาบชำระล้างร่างกาย
เพื่อรักษาโรคและเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต




ภายในวัด มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเข้าไปได้เฉพาะคนท้องถิ่นเท่านั้น




วันที่ไปเยี่ยมชม ถือว่าคณะของเราโชคดี
เพราะมีการประกอบพิธีกรรมถวายองค์เทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์พอดี
ผู้นำทางบอกว่า นักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่จะได้ชมพิธีกรรมนี้




บรรดาเครื่องสังเวยที่ถวายองค์เทพ ถูกจัดวางเรียงไว้บนกำแพงอันศักดิ์สิทธิ์




ผู้นำจิตวิญญาณ นั่งบนแท่นบูชาองค์เทพ




ปลาคาร์ฟจำนวนมาก รอผู้ใจบุญนำอาหารมาเลี้ยง




ศิลปะอันงดงาม รอบ ๆ บริเวณวัด











Music : Moon River