|
ห่างไกล ไม่ห่างกัน (12)
สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่าน
ผมนำบันทึกที่เขียนถึงลูกเมื่อก่อนหน้านี้มาขัดเกลาตัดต่อเพิ่มเติม ขยับปรับแต่งเรียบเรียงเรียบร้อยแล้วมาให้อ่านกันเล่น
แต่สิ่งที่ยังคงอยู่เหมือนเดิมก็คือเรื่องราวความจริงและความรัก ของพ่อที่อยู่ไกลบ้านคนหนึ่ง
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงได้เห็นหนังสือชื่อ "ห่างไกล ไม่ห่างกัน" ในไม่ช้าไม่นานนี้
ด้วยมิตรภาพ
---------------------------------------
(12)
พเยีย ลูกรัก
เช้าวันนี้พ่อตื่นตั้งแต่เช้ามืด ก่อนจะลืมตาขึ้นก็นึกถึงเรื่องที่อ่านจากหนังสือ จากต้นสู่ปลาย ของโรเบิร์ต ฟูลกัม เขาเล่าถึงชีวิตเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งแต่ก่อนเป็นคนผลีผลามลุกลี้ลุกลน แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไป เธอบอกกับเขาว่ามันเกิดจากการเริ่มต้นวันใหม่ของเธอ ขนบประจำเวลาเช้าของเธอคือ ดิฉันเริ่มชั่วโมงแรกของวันได้ค่อนข้างดี แล้ววันที่เหลือคงจะตามมาเรื่อยๆ พ่อค่อยๆเปิดเปลือกตามองไปรอบๆห้องโดยที่ยังไม่ลุกขึ้นจากเตียง แสงสว่างภายนอกหน้าต่างยังสลัว
พ่อลุกขึ้นยืนมองต้นปีบที่พ่อปลูกไว้ริมหน้าต่างมันโตทะลึ่งพรวดเหมือนหนีน้ำ ต้นปีบสองต้นที่พ่อนำมาปลูกที่บ้านพักแห่งนี้ทำให้พ่อนึกถึงต้นปีบจำนวนนับไม่ถ้วนที่พ่อปลูกทิ้งไว้ที่วัดหนองยายดาในช่วงที่พ่อไปพักอยู่ที่นั่น..ป่านฉะนี้มันจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ใจพ่อกระหวัดไปถึงเหตุการณ์ตอนที่พ่อพักอยู่ที่นั่น การใช้ชีวิตอยู่ห่างจากครอบครัวทำให้พ่อได้ข้อคิดอยู่หลายประการ ชาวบ้านย่านนี้มักแสดงความแปลกใจอยู่เสมอเมื่อรับทราบว่าพ่อยังมีครอบครัวคือลูกและภรรยาอยู่เบื้องหลัง แต่กลับมาใช้ชีวิตเพียงลำพังเป็นพักๆที่วัด คล้ายกับเป็นวิถีชีวิตที่ผิดปกติจากชาวบ้านทั่วๆไป การงานก็แตกต่างจากพวกเขาซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา
พ่อยิ่งดูแปลกแตกต่างมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อกิจวัตรประจำวันของพ่อคือการไปขุดต้นไม้มาปลูกในวัด เพราะชาวบ้านที่นี่เขามีแต่ถากถางป่าให้มันเตียนโล่ง เพื่อที่จะได้มีพื้นที่โล่งๆเป็นของตัวเองมากยิ่งขึ้น เป็นกันอย่างนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษคือช่วยกันหักร้างถางพงจนติดเป็นคำพูด เหมือนเป็นลักษณะของคนขยันที่จะไม่อยู่เฉยๆต้องทำที่รกๆให้เตียนโล่งอยู่ร่ำไป ตอนแรกที่พ่อปลูกต้นไม้ในวัดก็ไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรนัก เพียงแต่ปลูกด้วยใจรักและชื่นชอบเท่านั้น ค่อยๆเริ่มจากถามเพื่อนฝูง พี่น้องและคนรู้จักกันว่าอยากจะปลูกต้นไม้อะไรเป็นที่ระลึกในวัดบ้าง พ่ออาสาจะปลูกเป็นที่ระลึกให้
พ่อปลูกต้นมณฑาให้ คุณมณฑา ศิริปุณย์ บรรณาธิการนิตยสาร ขวัญเรือน เพื่อเป็นที่ระลึกให้แก่เธอ พ่อเก็บต้นม่านบาหลีมาจากคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชรมาปักชำ เพื่อเป็นที่ระลึกในการเดินทาง พ่อหอบหิ้วต้นประดู่เล็กๆมาจากภูเขียวสองต้นมาปลูกคู่กัน เพราะเป็นต้นประดู่ที่ลุงสอน กล้าศึกนักปลูกต้นไม้แห่งโนนเสลาขุดให้มาปลูกเป็นที่ระลึก พ่อหอบต้นมะสัง มะตูม ฯลฯ จากบ้านลุงหาญนักปลูกต้นไม้มืออาชีพที่เขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว มาปลูกไว้เป็นที่ระลึกในวัด พ่อเก็บต้นไม้เล็กๆที่ลูกทำส่งครูที่โรงเรียนแล้วทิ้งกระถางเล็กๆไว้จะตายแหล่มิตายแหล่ที่หน้าบ้านมาประคบประหงมเปลี่ยนกระถางใหม่จนมันฟื้นคืนชีพแข็งแรงแล้ว พ่อแยกไหลต้นเล็บมือนางและกระเทียมเถาจากบ้านมาปลูก ตอนนี้มันเลื้อยขึ้นซุ้มแล้ว เมล็ดลำใยที่เป็นของฝากจากเพื่อนคนหนึ่งกินแล้วลองเพาะไว้บัดนี้มันก็แตกใบแล้ว ต้นไม้หลายๆต้นเป็นต้นไม้ที่ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรนัก แต่มันมีคุณค่าทางใจของพ่อ เพื่อนคนหนึ่งส่งเมล็ดมะฮอกกานีมาทางไปรษณีย์ พ่อก็ใส่ถุงดำชำไว้ เพื่อนอีกคนอยากปลูกต้นปาริชาต อีกคนอยากปลูกต้นตะเบบูญ่า แม่อยากปลูกต้นหางนกยูงยักษ์ ลูกอยากปลูกต้นไม้ที่มีดอกสีน้ำเงิน ย่าอยากปลูกต้นพิกุล ยายอยากปลูกต้นสารภี พ่ออาสาหาต้นไม้เหล่านี้มาปลูกให้แก่คนอื่นๆอย่างมีความสุข เป็นความสุขที่ทำได้ไม่ยากนัก พ่ออาจจะไม่มีความสุขเท่านี้หากปลูกต้นไม้อยู่เพียงลำพัง
จากคราวละเล็กละน้อยที่ทยอยขนต้นไม้มาวัด ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ หรือต้นกล้าเล็กๆ จนกระทั่งเริ่มลงมือขุดเอง... วันหนึ่งพ่อโทรหาป้าขวัญ เพียงหทัย นักเขียนใจบุญ ถามว่าเธออยากจะปลูกต้นไม้อะไรในวัดบ้าง เธอบอกว่าอยากปลูกต้นปีบ เธอชอบดอกปีบเพราะว่ากลิ่นหอมดี พ่อรับปากเธอไว้นานพอสมควรกว่าจะได้ลงมือปลูกต้นปีบ จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อได้หอบหิ้วต้นปีบข้ามจังหวัดมาต้นหนึ่ง ขนาดสูงราว 1 เมตร รูปทรงสวยงามและราคาไม่แพงนัก เมื่อพ่อลงมือปลูกต้นปีบเสร็จเรียบร้อยก็โทรบอกเธอ เธอบอกว่าปลูกต้นปีบให้เป็นป่าปีบเลย โดยส่วนตัวพ่อนั้นชอบต้นไม้ไม่จำกัดชนิดอยู่แล้ว แต่เมื่อรู้ว่าป้าขวัญชอบต้นปีบ เมื่อเห็นต้นปีบก็อดนึกถึงเธอไม่ได้ จากนั้นก็เริ่มสังเกตว่าข้างทางเข้าวัดนั้นมีต้นปีบต้นเล็กต้นน้อยขึ้นอยู่เต็มไปหมด จะขุดจากข้างทางก็เกรงว่าจะทำลายสภาพแวดล้อม ทั้งที่ข้างทางนั้นก็เห็นร่องรอยต้นปีบถูกฟันทิ้งและถูกไฟไหม้ตามยถากรรม ใจพ่อรู้สึกเสียดายต้นปีบเหล่านั้น ในฐานะที่พ่อเคยปลูกและเคยขายต้นไม้มาก่อน พอจะมองออกว่าต้นปีบหรือชาวเหนือเรียกว่ากาสะลองนี้เป็นไม้ที่มีคุณค่ามีสกุลและไม่ตกยุคสมัยอย่างแน่นอน เพราะเป็นไม้ยืนต้นที่เลี้ยงง่ายและดอกมีกลิ่นหอม คุณสมบัติเท่านี้ก็ทำให้ต้นปีบเป็นต้นไม้ที่ขายได้ตลอดกาลแล้ว อยู่มาวันหนึ่งพระที่ปลูกต้นไม้ด้วยกันมาชวนพ่อไปขุดต้นปีบตามป่าละเมาะข้างบ้านญาติโยม เพราะมีต้นปีบขึ้นเยอะมาก พ่อตกลงใจที่จะไปขุดต้นปีบด้วยความรู้สึกว่า เป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้บริเวณวัดมีต้นไม้เพิ่มมากขึ้น บริเวณขอบสระน้ำและป่าละเมาะมีต้นปีบขนาดสูงท่วมหัวขึ้นเต็มไปหมด รอบๆบริเวณมีร่องรอยถูกไฟไหม้ เพราะเจ้าของบ้านเผาหญ้าและไม่ได้สนใจว่าต้นไม้เหล่านี้จะเป็นอย่างไร โคนต้นไม้บางต้นถูกไฟไหม้เกรียม แต่ถึงกระนั้นที่ปลายยอดกลับผลิแตกใบอย่างมีชีวิตชีวาตามสัญชาตญานการดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ พ่อกับพระและชาวบ้านช่วยกันขุดต้นปีบเอามาวัดตามกำลัง ทยอยปลูกตามบริเวณที่เห็นว่าเหมาะสม พ่อมองต้นไม้นานาชนิดที่พ่อกับพระและชาวบ้านช่วยกันปลูกไว้ ค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นวันละเล็กละน้อย บางต้นกำลังค่อยๆหยั่งรากลงพื้นดิน บางต้นผลิดอกออกใบ บางต้นก็ตายไป ต้นไม้แต่ละต้นที่พ่อปลูกก็ให้บทเรียนเล็กๆน้อยๆแก่ชีวิตพ่อในช่วงที่ผ่านมา ต้นไม้แสดงความใจกว้างด้วยการไม่หวงกลิ่นหอมของดอกไว้เฉพาะผู้ปลูก, ต้นไม้แสดงความยุติธรรมด้วยการให้ร่มเงาแก่ทุกสิ่งอย่างเท่าเทียมกัน ต้นไม้ให้อภัยยามถูกเด็ดยอดด้วยการผลิใหม่อย่างรวดเร็ว, ต้นไม้รอคอยอย่างอดทนจนถึงที่สุดเมื่อขาดน้ำ, ต้นไม้สอนถึงการรับอย่างไม่มีขอบเขตจนทำให้รากเน่าเมื่อได้รับน้ำมากเกินไป,
ต้นไม้บางชนิดเป็นเข็มนาฬิกาของฤดูกาลจะออกดอกเมื่อฤดูนั้นมาถึง, ความเย็นจากร่มไม้ฉ่ำชื่นกว่าเครื่องปรับอากาศยี่ห้อไหนๆ เพราะเป็นความฉ่ำเย็นจากสิ่งมีชีวิตสู่สิ่งมีชีวิต, สีเขียวของใบไม้ให้ความสบายตากว่าสีใดๆ, เวลาที่รดน้ำต้นไม้จะส่งความสดชื่นกลับมาให้แก่ผู้รดน้ำด้วย, การแตกตุ่มตาและผลิใบสีเขียวเล็กๆแสดงถึงพลังแห่งชีวิตใหม่จนสัมผัสได้, ฯลฯ
ต้นปีบขนาดเดียวกันในร้านต้นไม้ที่ต่างจังหวัดขายราคาหนึ่ง ในร้านต้นไม้ที่สวนจตุจักรกรุงเทพฯ นั้นขายอีกราคาหนึ่ง และที่เป็นป่าปกรกพีอยู่อย่างนี้ย่อมไม่มีค่าในสายตาของชาวบ้าน บางคนตัดลำต้นไปทำเสากระท่อมหรือล้อมรั้วคอกควาย บางคนก็นำต้นใหญ่ๆไปเผาถ่าน บางคนฟันโค่นและเผาทิ้ง ฯลฯ ไม่ว่าใครจะนำมันไปทำอะไรหรือตั้งราคาของมันไว้ต้นละเท่าไรก็ตาม แต่คุณค่าดั้งเดิมของมันจะยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ปีบยังคงเป็นไม้ยืนต้นที่มีกลิ่นหอม เลี้ยงง่าย คงทนและยังคงให้ประโยชน์แก่มวลมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากมาย .
จะว่าไปแล้วชีวิตช่วงนี้ของพ่อก็นับว่ามีความสุขตามสมควร และมันเป็นอย่างที่พ่อเคยพูดอยู่บ่อยๆว่า การงานกับการดำเนินชีวิตของพ่อนั้นเป็นอย่างเดียวกัน และตอนนี้มันค่อยๆเป็นไปและขับเคลื่อนไปข้างหน้าทีละน้อยๆ ด้วยรักและห่วงใย พ่อ
Create Date : 06 ธันวาคม 2549 |
|
3 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2549 14:12:08 น. |
Counter : 772 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เจ้าอาวาส IP: 124.157.205.189 6 ธันวาคม 2549 23:36:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: โยมโดม IP: 222.123.96.213 7 ธันวาคม 2549 7:51:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: Htervo 13 มิถุนายน 2550 21:35:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
ด้วยความยินดี... หากมีผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่าย,บทความ หรือข้อเขียนต่างๆ ใน Blog นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถทำได้เลยทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
เว้นเสียแต่ว่า
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย
|
|
|
|
|
|
|
ตั้งใจจะปลูกอยู่แล้ว แค่คิดก็มีความสุขแล้วนะ ต้นไม้เขียวๆ มีกลิ่นหอม ๆ เอาโยมช่วยกันปลูกหน่อย