จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 

ห่างไกล ไม่ห่างกัน (12)





สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่าน


ผมนำบันทึกที่เขียนถึงลูกเมื่อก่อนหน้านี้มาขัดเกลาตัดต่อเพิ่มเติม
ขยับปรับแต่งเรียบเรียงเรียบร้อยแล้วมาให้อ่านกันเล่น

แต่สิ่งที่ยังคงอยู่เหมือนเดิมก็คือเรื่องราวความจริงและความรัก
ของพ่อที่อยู่ไกลบ้านคนหนึ่ง


ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงได้เห็นหนังสือชื่อ "ห่างไกล ไม่ห่างกัน"
ในไม่ช้าไม่นานนี้



ด้วยมิตรภาพ


---------------------------------------




(12)



พเยีย ลูกรัก


เช้าวันนี้พ่อตื่นตั้งแต่เช้ามืด ก่อนจะลืมตาขึ้นก็นึกถึงเรื่องที่อ่านจากหนังสือ “จากต้นสู่ปลาย” ของโรเบิร์ต ฟูลกัม เขาเล่าถึงชีวิตเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งแต่ก่อนเป็นคนผลีผลามลุกลี้ลุกลน แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไป เธอบอกกับเขาว่ามันเกิดจากการเริ่มต้นวันใหม่ของเธอ ขนบประจำเวลาเช้าของเธอคือ

“ดิฉันเริ่มชั่วโมงแรกของวันได้ค่อนข้างดี แล้ววันที่เหลือคงจะตามมาเรื่อยๆ”

พ่อค่อยๆเปิดเปลือกตามองไปรอบๆห้องโดยที่ยังไม่ลุกขึ้นจากเตียง แสงสว่างภายนอกหน้าต่างยังสลัว…พ่อลุกขึ้นยืนมองต้นปีบที่พ่อปลูกไว้ริมหน้าต่างมันโตทะลึ่งพรวดเหมือนหนีน้ำ ต้นปีบสองต้นที่พ่อนำมาปลูกที่บ้านพักแห่งนี้ทำให้พ่อนึกถึงต้นปีบจำนวนนับไม่ถ้วนที่พ่อปลูกทิ้งไว้ที่วัดหนองยายดาในช่วงที่พ่อไปพักอยู่ที่นั่น..ป่านฉะนี้มันจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ใจพ่อกระหวัดไปถึงเหตุการณ์ตอนที่พ่อพักอยู่ที่นั่น

การใช้ชีวิตอยู่ห่างจากครอบครัวทำให้พ่อได้ข้อคิดอยู่หลายประการ ชาวบ้านย่านนี้มักแสดงความแปลกใจอยู่เสมอเมื่อรับทราบว่าพ่อยังมีครอบครัวคือลูกและภรรยาอยู่เบื้องหลัง แต่กลับมาใช้ชีวิตเพียงลำพังเป็นพักๆที่วัด คล้ายกับเป็นวิถีชีวิตที่ผิดปกติจากชาวบ้านทั่วๆไป การงานก็แตกต่างจากพวกเขาซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา


พ่อยิ่งดูแปลกแตกต่างมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อกิจวัตรประจำวันของพ่อคือการไปขุดต้นไม้มาปลูกในวัด เพราะชาวบ้านที่นี่เขามีแต่ถากถางป่าให้มันเตียนโล่ง เพื่อที่จะได้มีพื้นที่โล่งๆเป็นของตัวเองมากยิ่งขึ้น เป็นกันอย่างนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษคือช่วยกันหักร้างถางพงจนติดเป็นคำพูด เหมือนเป็นลักษณะของคนขยันที่จะไม่อยู่เฉยๆต้องทำที่รกๆให้เตียนโล่งอยู่ร่ำไป

ตอนแรกที่พ่อปลูกต้นไม้ในวัดก็ไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรนัก เพียงแต่ปลูกด้วยใจรักและชื่นชอบเท่านั้น ค่อยๆเริ่มจากถามเพื่อนฝูง พี่น้องและคนรู้จักกันว่าอยากจะปลูกต้นไม้อะไรเป็นที่ระลึกในวัดบ้าง พ่ออาสาจะปลูกเป็นที่ระลึกให้

พ่อปลูกต้นมณฑาให้ คุณมณฑา ศิริปุณย์ บรรณาธิการนิตยสาร “ขวัญเรือน” เพื่อเป็นที่ระลึกให้แก่เธอ พ่อเก็บต้นม่านบาหลีมาจากคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชรมาปักชำ เพื่อเป็นที่ระลึกในการเดินทาง พ่อหอบหิ้วต้นประดู่เล็กๆมาจากภูเขียวสองต้นมาปลูกคู่กัน เพราะเป็นต้นประดู่ที่ลุงสอน กล้าศึกนักปลูกต้นไม้แห่งโนนเสลาขุดให้มาปลูกเป็นที่ระลึก

พ่อหอบต้นมะสัง มะตูม ฯลฯ จากบ้านลุงหาญนักปลูกต้นไม้มืออาชีพที่เขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว มาปลูกไว้เป็นที่ระลึกในวัด พ่อเก็บต้นไม้เล็กๆที่ลูกทำส่งครูที่โรงเรียนแล้วทิ้งกระถางเล็กๆไว้จะตายแหล่มิตายแหล่ที่หน้าบ้านมาประคบประหงมเปลี่ยนกระถางใหม่จนมันฟื้นคืนชีพแข็งแรงแล้ว

พ่อแยกไหลต้นเล็บมือนางและกระเทียมเถาจากบ้านมาปลูก ตอนนี้มันเลื้อยขึ้นซุ้มแล้ว เมล็ดลำใยที่เป็นของฝากจากเพื่อนคนหนึ่งกินแล้วลองเพาะไว้บัดนี้มันก็แตกใบแล้ว ต้นไม้หลายๆต้นเป็นต้นไม้ที่ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรนัก แต่มันมีคุณค่าทางใจของพ่อ

เพื่อนคนหนึ่งส่งเมล็ดมะฮอกกานีมาทางไปรษณีย์ พ่อก็ใส่ถุงดำชำไว้ เพื่อนอีกคนอยากปลูกต้นปาริชาต อีกคนอยากปลูกต้นตะเบบูญ่า แม่อยากปลูกต้นหางนกยูงยักษ์ ลูกอยากปลูกต้นไม้ที่มีดอกสีน้ำเงิน ย่าอยากปลูกต้นพิกุล ยายอยากปลูกต้นสารภี พ่ออาสาหาต้นไม้เหล่านี้มาปลูกให้แก่คนอื่นๆอย่างมีความสุข เป็นความสุขที่ทำได้ไม่ยากนัก พ่ออาจจะไม่มีความสุขเท่านี้หากปลูกต้นไม้อยู่เพียงลำพัง

จากคราวละเล็กละน้อยที่ทยอยขนต้นไม้มาวัด ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ หรือต้นกล้าเล็กๆ จนกระทั่งเริ่มลงมือขุดเอง...

วันหนึ่งพ่อโทรหาป้าขวัญ เพียงหทัย นักเขียนใจบุญ ถามว่าเธออยากจะปลูกต้นไม้อะไรในวัดบ้าง เธอบอกว่าอยากปลูกต้นปีบ เธอชอบดอกปีบเพราะว่ากลิ่นหอมดี พ่อรับปากเธอไว้นานพอสมควรกว่าจะได้ลงมือปลูกต้นปีบ

จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อได้หอบหิ้วต้นปีบข้ามจังหวัดมาต้นหนึ่ง ขนาดสูงราว 1 เมตร รูปทรงสวยงามและราคาไม่แพงนัก เมื่อพ่อลงมือปลูกต้นปีบเสร็จเรียบร้อยก็โทรบอกเธอ เธอบอกว่าปลูกต้นปีบให้เป็นป่าปีบเลย โดยส่วนตัวพ่อนั้นชอบต้นไม้ไม่จำกัดชนิดอยู่แล้ว แต่เมื่อรู้ว่าป้าขวัญชอบต้นปีบ เมื่อเห็นต้นปีบก็อดนึกถึงเธอไม่ได้

จากนั้นก็เริ่มสังเกตว่าข้างทางเข้าวัดนั้นมีต้นปีบต้นเล็กต้นน้อยขึ้นอยู่เต็มไปหมด จะขุดจากข้างทางก็เกรงว่าจะทำลายสภาพแวดล้อม ทั้งที่ข้างทางนั้นก็เห็นร่องรอยต้นปีบถูกฟันทิ้งและถูกไฟไหม้ตามยถากรรม ใจพ่อรู้สึกเสียดายต้นปีบเหล่านั้น

ในฐานะที่พ่อเคยปลูกและเคยขายต้นไม้มาก่อน พอจะมองออกว่าต้นปีบหรือชาวเหนือเรียกว่ากาสะลองนี้เป็นไม้ที่มีคุณค่ามีสกุลและไม่ตกยุคสมัยอย่างแน่นอน เพราะเป็นไม้ยืนต้นที่เลี้ยงง่ายและดอกมีกลิ่นหอม คุณสมบัติเท่านี้ก็ทำให้ต้นปีบเป็นต้นไม้ที่ขายได้ตลอดกาลแล้ว

อยู่มาวันหนึ่งพระที่ปลูกต้นไม้ด้วยกันมาชวนพ่อไปขุดต้นปีบตามป่าละเมาะข้างบ้านญาติโยม เพราะมีต้นปีบขึ้นเยอะมาก พ่อตกลงใจที่จะไปขุดต้นปีบด้วยความรู้สึกว่า เป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้บริเวณวัดมีต้นไม้เพิ่มมากขึ้น

บริเวณขอบสระน้ำและป่าละเมาะมีต้นปีบขนาดสูงท่วมหัวขึ้นเต็มไปหมด รอบๆบริเวณมีร่องรอยถูกไฟไหม้ เพราะเจ้าของบ้านเผาหญ้าและไม่ได้สนใจว่าต้นไม้เหล่านี้จะเป็นอย่างไร โคนต้นไม้บางต้นถูกไฟไหม้เกรียม แต่ถึงกระนั้นที่ปลายยอดกลับผลิแตกใบอย่างมีชีวิตชีวาตามสัญชาตญานการดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่

พ่อกับพระและชาวบ้านช่วยกันขุดต้นปีบเอามาวัดตามกำลัง ทยอยปลูกตามบริเวณที่เห็นว่าเหมาะสม

พ่อมองต้นไม้นานาชนิดที่พ่อกับพระและชาวบ้านช่วยกันปลูกไว้ ค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นวันละเล็กละน้อย บางต้นกำลังค่อยๆหยั่งรากลงพื้นดิน บางต้นผลิดอกออกใบ บางต้นก็ตายไป ต้นไม้แต่ละต้นที่พ่อปลูกก็ให้บทเรียนเล็กๆน้อยๆแก่ชีวิตพ่อในช่วงที่ผ่านมา

ต้นไม้แสดงความใจกว้างด้วยการไม่หวงกลิ่นหอมของดอกไว้เฉพาะผู้ปลูก, ต้นไม้แสดงความยุติธรรมด้วยการให้ร่มเงาแก่ทุกสิ่งอย่างเท่าเทียมกัน ต้นไม้ให้อภัยยามถูกเด็ดยอดด้วยการผลิใหม่อย่างรวดเร็ว, ต้นไม้รอคอยอย่างอดทนจนถึงที่สุดเมื่อขาดน้ำ, ต้นไม้สอนถึงการรับอย่างไม่มีขอบเขตจนทำให้รากเน่าเมื่อได้รับน้ำมากเกินไป,


ต้นไม้บางชนิดเป็นเข็มนาฬิกาของฤดูกาลจะออกดอกเมื่อฤดูนั้นมาถึง, ความเย็นจากร่มไม้ฉ่ำชื่นกว่าเครื่องปรับอากาศยี่ห้อไหนๆ เพราะเป็นความฉ่ำเย็นจากสิ่งมีชีวิตสู่สิ่งมีชีวิต, สีเขียวของใบไม้ให้ความสบายตากว่าสีใดๆ, เวลาที่รดน้ำต้นไม้จะส่งความสดชื่นกลับมาให้แก่ผู้รดน้ำด้วย, การแตกตุ่มตาและผลิใบสีเขียวเล็กๆแสดงถึงพลังแห่งชีวิตใหม่จนสัมผัสได้, ฯลฯ

ต้นปีบขนาดเดียวกันในร้านต้นไม้ที่ต่างจังหวัดขายราคาหนึ่ง ในร้านต้นไม้ที่สวนจตุจักรกรุงเทพฯ นั้นขายอีกราคาหนึ่ง และที่เป็นป่าปกรกพีอยู่อย่างนี้ย่อมไม่มีค่าในสายตาของชาวบ้าน บางคนตัดลำต้นไปทำเสากระท่อมหรือล้อมรั้วคอกควาย บางคนก็นำต้นใหญ่ๆไปเผาถ่าน บางคนฟันโค่นและเผาทิ้ง ฯลฯ

ไม่ว่าใครจะนำมันไปทำอะไรหรือตั้งราคาของมันไว้ต้นละเท่าไรก็ตาม แต่คุณค่าดั้งเดิมของมันจะยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ปีบยังคงเป็นไม้ยืนต้นที่มีกลิ่นหอม เลี้ยงง่าย คงทนและยังคงให้ประโยชน์แก่มวลมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากมาย .

จะว่าไปแล้วชีวิตช่วงนี้ของพ่อก็นับว่ามีความสุขตามสมควร และมันเป็นอย่างที่พ่อเคยพูดอยู่บ่อยๆว่า การงานกับการดำเนินชีวิตของพ่อนั้นเป็นอย่างเดียวกัน และตอนนี้มันค่อยๆเป็นไปและขับเคลื่อนไปข้างหน้าทีละน้อยๆ


ด้วยรักและห่วงใย
พ่อ




 

Create Date : 06 ธันวาคม 2549
3 comments
Last Update : 6 ธันวาคม 2549 14:12:08 น.
Counter : 772 Pageviews.

 

ชอบทุกต้นที่กล่าวถึง ปรกติก็ชอบต้นไม้กลิ่นหอมเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เริ่มต้นปลูกที่บ้านก่อนดีกว่า จริงๆ แล้วก็
ตั้งใจจะปลูกอยู่แล้ว แค่คิดก็มีความสุขแล้วนะ ต้นไม้เขียวๆ มีกลิ่นหอม ๆ เอาโยมช่วยกันปลูกหน่อย

 

โดย: เจ้าอาวาส IP: 124.157.205.189 6 ธันวาคม 2549 23:36:45 น.  

 

สวัสดีครับเจ้าอาวาสที่รักและนับถือ

อยากนิมนต์มาอยู่ที่วัดประจำใจ เมืองปอนจังเลยครับ

 

โดย: โยมโดม IP: 222.123.96.213 7 ธันวาคม 2549 7:51:48 น.  

 


ต้นปีบ เป็นต้นไม่ที่มีอายุยืนมากๆเลยค่ะ สมัยเด็กๆชอบไปวัดกับคุณแม่ เพื่อจะไปนั่งดมกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดนี้มากเลยค่ะ

 

โดย: Htervo 13 มิถุนายน 2550 21:35:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.