จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
25 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
ห่างไกล ไม่ห่างกัน (5)

สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่าน


ผมนำบันทึกที่เขียนถึงลูกเมื่อก่อนหน้านี้มาขัดเกลาตัดต่อเพิ่มเติม
ขยับปรับแต่งเรียบเรียงเรียบร้อยแล้วมาให้อ่านกันเล่น

แต่สิ่งที่ยังคงอยู่เหมือนเดิมก็คือเรื่องราวความจริงและความรัก
ของพ่อที่อยู่ไกลบ้านคนหนึ่ง


ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงได้เห็นหนังสือชื่อ "ห่างไกล ไม่ห่างกัน"
ในไม่ช้าไม่นานนี้



ด้วยมิตรภาพ


---------------------------------------




(5)



พเยีย ลูกรัก



เมื่อวันก่อนพ่อได้เข้าไปอ่านเว็บไซต์ //www.dungtrin.com ของคุณ ดังตฤณ (ผู้เขียน ทางนฤพาน, กรรมพยากรณ์, เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน ฯลฯ) นักเขียนธรรมะที่กำลังฮ็อตสุดๆอยู่ในขณะนี้ พ่อได้อ่านหัวข้อเรื่องภาษาเขียนกับภาษาพูดนั้นแตกต่างกันอย่างไร


ส่วนใหญ่ก็พอจะรู้กันอยู่แล้วว่าทั้งสองภาษามีความแตกต่างกัน แต่เมื่อลองมาคิดให้ละเอียดขึ้นก็ได้แง่มุมใหม่ๆขึ้นมาอีก ลูกอาจจะคิดว่าพ่อก็โทรศัพท์หาลูกหาแม่ทุกวันอยู่แล้ว แต่ยังมาเขียนบันทึกถึงลูกอีกทำไม ?

อีกเหตุผลหนึ่งที่พ่อเขียนบันทึกถึงลูกก็เพราะว่า พ่อมีเรื่องอยากพูดอยากเล่าให้ลูกฟังในแต่ละวัน หากไม่เขียนไว้เมื่อวันเวลาผ่านไปเรื่องราวเหล่านั้นก็จะผ่านไปด้วย พ่อเคยอ่านที่ท่านพุทธทาสภิกขุเขียนไว้ว่า เมื่อมีความคิดดีๆหรือนึกคิดอะไรได้ก็ควรจดเอาไว้ หากไม่จดเอาไว้มันก็ผ่านไป และบางทีมันอาจไม่หวนคืนมาอีก


นอกจากจะเป็น “ความหมายเดียวกัน” แต่ใช้ “คำต่างกัน” อย่างที่คุณดังตฤณว่าไว้แล้ว อีกอย่างหนึ่งพ่อคิดว่าภาษาพูดอาจจะได้ความรู้สึกหนึ่ง แต่ภาษาเขียนนั้นก็เป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง อาจจะเป็นความรู้สึกเดียวกันแต่ทว่าการได้สัมผัสความรู้สึกนั้นต่างกัน ภาษาพูดได้ยินด้วยหู แต่ภาษาเขียนอ่านด้วยตา แต่ทุกอย่างก็ลงที่ “ใจ” ทั้งหมด


เวลาที่พ่ออยู่กับลูก ยังจำได้ไหม พ่อจะบอกว่า “พ่อรักลูกนะ ลูกรู้ไหม” ลูกก็จะตอบพ่อว่า “รู้ค่ะ” แล้วพ่อก็จะแกล้งย้อนถามว่า “แล้วลูกล่ะรักพ่อหรือเปล่า” ลูกก็จะตอบสั้นๆว่า “รักค่ะ” ตั้งแต่เล็กจนโตพ่อพูดคำนี้กับลูกบ่อยจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่พ่อก็ไม่เคยเบื่อที่จะพูดจะถามจะตอบลูกในเรื่องนี้

ทำให้พ่อนึกถึงบทกวีบทหนึ่งที่พ่อเคยเขียนเกี่ยวกับความรักเมื่อสมัยที่พ่อยังเป็นหนุ่มและยังไม่มีลูก พ่อยังจำบทกวีสั้นๆบทนั้นได้ดี


ความรัก…

หากปราศจากการแสดงออก

ก็เหมือนตัวละครที่ไม่รู้จักบทบาทของตัวเอง



การแสดงออกมาจากใจจริงนั้นย่อมแตกต่างกับการเสแสร้งแกล้งทำ ลูกต้องรู้ความจริงข้อนี้ไว้ด้วย
เวลาเราอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก พ่อก็รู้ว่าลูกนั้นสนิทสนมกับแม่มากกว่าพ่อ

อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นเพศเดียวกัน หรือเป็นเพราะว่าแม่ดูแลลูกใกล้ชิดมากกว่าพ่อ หรือจะด้วยเหตุอะไรก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะรักกันน้อยกว่ากันใช่ไหม เพราะแม่กับลูกก็รักกันแบบแม่กับลูก ส่วนพ่อกับลูกก็รักกันแบบพ่อกับลูก จะเอาความเป็นพ่อไปเปรียบกับความเป็นแม่ก็คงไม่ได้ เพราะสถานะความเป็นพ่อแม่นั้นต่างกันอยู่แล้ว ในบางเรื่องพ่อกับแม่จึงคิดเกี่ยวกับเรื่องลูกแตกต่างกัน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอันใด

พ่ออยากบอกลูกว่าเป็นความสุขของพ่ออย่างหนึ่งที่เห็นแม่กับลูกรักสนิทสนมผูกพันกันมากๆ บางทีเห็นลูกสอนศัพท์ภาษาเยอรมันให้แม่ พอคำพูดเข้าหูแม่แล้วมันก็หายไปเลย ไม่สามารถออกเสียงตามเสียงที่ลูกเพิ่งออกผ่านหน้าไปหยกๆได้ บางทีก็วิจารณ์ละครที.วี.ด้วยกัน ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกันหลายๆอย่างด้วยความสุขตามประสาแม่ลูก

กิจกรรมบางอย่างแม้พ่อจะไม่ได้ร่วมด้วย แต่ให้ลูกรับรู้เถอะว่าทุกๆครั้งที่ความสุขและความรื่นรมย์ระหว่างลูกกับแม่เกิดขึ้นนั้นมันได้แผ่กระจายมาถึงหัวใจพ่อเสมอ

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ทำให้พ่อต้องนึกย้อนไปเมื่อตอนลูกเป็นเด็กๆ พ่อเคยแกล้งถามว่า พ่อกับแม่ลูกรักใครมากกว่ากัน ลูกตอบว่ารักเท่ากัน พ่อแกล้งเย้าว่า ความรัก ชั่ง ตวง วัดไม่ได้ ลูกจะรู้ว่าเท่ากันได้อย่างไร

ตอนนั้นลูกยังเล็กอยู่ แต่ลูกก็พยายามแสดงให้พ่อกับแม่ดูว่า “นี่ไง…เท่ากัน” ลูกกำมือน้อยๆ เป็นกำปั้นทาบอยู่ตรงหน้าอกของลูก พ่อเป็นกำปั้นข้างซ้าย แม่เป็นกำปั้นข้างขวา แล้วลูกก็เอากำปั้นทั้งสองมาชิดกัน แล้วบอกตามประสาเด็กน้อยว่านี่ไงคือความรักที่ลูกมีให้พ่อกับแม่เท่ากัน พ่อยังประทับใจการเปรียบเทียบของลูกมาจนถึงวันนี้

คุณดังตฤณได้ยกตัวอย่างภาษาเขียนและภาษาพูดเรื่องความรักแม่ในวันแม่ เพื่อเปรียบเทียบให้ดู ซึ่งพ่อขอยกมาทั้งหมดเลยก็แล้วกัน

ภาษาเขียนกับภาษาพูดนั้นแตกต่างกัน และภาษาเขียนสำหรับสื่อกับบุคคลในโอกาสต่างๆก็ผิดแผกกันไป ผมจะลองยกตัวอย่างว่าถ้าเราบอกอะไรกับบุคคลคนหนึ่งในวันพิเศษวันหนึ่ง

ถ้าผ่านภาษาเขียนกับภาษาพูด ความหมายเดียวกันใช้คำต่างกันได้แค่ไหน….

ภาษาเขียน: ผมลืมวันเกิดตัวเองได้ แต่ไม่มีทางลืมวันสำหรับคนที่ทำให้ผมเกิดเด็ดขาด
ภาษาพูด: คิดถึงแม่เป็นพิเศษเลยครับวันนี้

ภาษาเขียน: ความรักที่ลูกมีให้แม่ มากเกินชีวิตที่แม่ให้ผมมา (ให้หนูมา)
ภาษาพูด: ผมรักแม่ครับ (หนูรักแม่ค่ะ)

ภาษาเขียน: ถ้าแม่มีความสุขตลอดไป ผมจะดีใจมาก (หนูจะดีใจมาก)
ภาษาพูด: ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ (นะคะ)

ภาษาเขียน: ปีก่อน ปีนี้ ปีหน้า สิบสองสิงหามีความหมายกับผมที่สุด (กับหนูที่สุด)
ภาษาพูด: รู้สึกดีกับวันนี้จังเลยแม่

ภาษาเขียน: ร้อยมาลัยพวงนี้ ดีไม่เท่าครึ่งที่ผมอยากร้อยใจบูชาคุณ
ภาษาพูด: สวยไหมแม่? ซื้อมากับมือจากสะพานควาย ถ้าร้อยเองสวยกว่านี้อีก


นี่คือตัวอย่างที่คุณดังตฤณเขายกไว้เทียบเคียงในเรื่องถ้อยคำที่ต่างกัน แต่ยังมีความหมายเดียวกัน และพ่อจะขอยกข้อความที่ลูกเขียนคอมเม้นต์ในบล็อกของพ่อว่า

ดีใจจังที่พ่อเขียนไดด้วย ^^
เมื่อกี้อ่านพร้อมกันกับแม่
แต่ยังไม่ได้เม้นท์
เยียก็ว่าเยียโชคดีที่สุดเลยที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่
พ่อกับแม่ของเยียน่ะแสนดีที่สุดเลย
ถึงพ่อจะอยู่ไกล ,,
แต่เยียก็ยังรู้สึกว่าพ่ออยู่ข้างๆเสมอ
เยียรู้ว่าพ่อรักเยีย
และเยียก็รักพ่อเช่นกันค่ะ
รักพ่อค่ะ * *


แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นภาษาพูดล่ะ ลูกจะพูดกับพ่ออย่างไร ลูกพูดให้พ่อฟังหน่อยได้ไหม ? ลูกเห็นไหมว่าภาษาเขียนสามารถถ่ายทอดความรู้สึกละเอียดอ่อนลึกซึ้งออกมาได้ หากเวลาพูดเราคงจะไม่พูดกันด้วยถ้อยคำเช่นนี้ แต่มันจะไร้ค่าทันทีหากเสแสร้งเขียนออกไปอย่างนั้นโดย ปราศจากความรู้สึกที่แท้จริง

เพราะฉะนั้นภาษาเขียนกับภาษาพูดยังคงทำหน้าที่ของมันตามบทบาทที่ได้รับมา

ไม่ว่าจะพูดหรือเขียน ถ้าออกมาจากความรู้สึกอันแท้จริงแล้วล้วนมีค่าเสมอ พ่อขอจบแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน
รักและคิดถึง
พ่อ





Create Date : 25 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2549 8:34:42 น. 10 comments
Counter : 914 Pageviews.

 
อบอุ่นค่พที่เข้ามาบล็อคนี้

สุขสันวันหยุดค่ะ


โดย: นู๋ตาโต๊โต วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:55:54 น.  

 
แวะมาอ่าน ผ่านมาทักทาย มีความสุขมากๆน๊ะครับ


โดย: ตี๋น้อย Zantha ไม่ได้ล็อคอิน IP: 121.22.44.102 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:55:20 น.  

 
เป็นพ่อที่น่ารักจริงๆ


โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:27:28 น.  

 
น้ำตาซึมเลยเรา


โดย: shadow-of-art (shadow-of-art ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:55:18 น.  

 
จากปลายวาส่งข่าวมา เดี๋ยวค่อยคุยอีกที


โดย: บ้านปลายฟ้า IP: 203.113.17.130 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:48:16 น.  

 

น้องพเยียโชคดีจังค่ะที่เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นเช่นนี้


โดย: Htervo วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:20:57:27 น.  

 
คุณพเยียโชคดีมากค่ะ จาก นฤมล


โดย: ด.ญนฤมล อุ่นใจ IP: 125.24.159.137 วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:15:55:02 น.  

 
คุณพเยียโชคดีมากค่ะ จาก นฤมล


โดย: ด.ญนฤมล อุ่นใจ IP: 125.24.159.137 วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:15:55:02 น.  

 
คุณพเยียโชคดีมากค่ะ จาก นฤมล


โดย: ด.ญนฤมล อุ่นใจ IP: 125.24.159.137 วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:15:55:02 น.  

 
ชื่อเหมือนเราเลยแหละ


โดย: เยียเ IP: 124.157.174.61 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:18:33:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.