จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ความเป็นมาของชบาฉาย




ห่างไกล ไม่ห่างกัน ของ โดม วุฒิชัย วางแผงแล้ว และกำลังจัดพิมพ์ครั้งที่ 2 ภายในเดือนกรกฎาคมนี้





สำหรับเพลง “นางฟ้า” จากการแต่งเนื้อร้อง-ทำนอง และขับร้องโดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ ผู้มีน้ำเสียงอันไพเราะชวนให้หลงใหลถึงขั้นทำให้หัวใจละลายได้ เพราะฉะนั้นผมจึงขออาศัยเสียงของศักดิ์สิริบอกความรู้สึกผ่านถึงนางฟ้าที่มาเยือนบล็อกนี้

- ขอมอบแด่นางฟ้าทุกนางครับ -

ทั้งนี้และทั้งนั้นขอได้รับความขอบคุณจากคุณตะเบบูญ่าที่เอื้อเฟื้อเพลงนี้และคุณสเลเตจัดทำโค้ดเพลงให้






นิตยสาร ขวัญเรือน ฉบับปักษ์หลังกรกฎาคม 2550





ในคอลัมน์ นัดพบคนวรรณกรรม




-------------------------------------------------




ความเป็นมาของชบาฉาย



หลังจากที่ผมได้พบกับคุณปะการังที่บล็อกนี้อย่างไม่คาดฝันแล้ว นอกจากเรื่องที่เราคุยกันทางบล็อกแล้วเรายังคุยกันทางอีเมล์อีก คุยกันไปคุยกันมาเหมือนกับว่าจะยังไม่จบง่ายๆผมเลยชวนย้ายที่คุย ไปคุยกันในบล็อกชบาฉายดีกว่า (//chabachay.bloggang.com)

ถ้าจะพูดกันจริงๆแล้ว...แต่ก่อนนี้ผมกับคุณปะการังก็ไม่ถึงกับสนิทสนมกันมากนัก เราแค่รู้จักกันในฐานะคนหนุ่มที่รักการเขียนหนังสือด้วยกันเท่านั้น


อาจจะเคยมีผลงานตีพิมพ์อยู่ในนิตยสารเล่มเดียวกันบ้างเล็กน้อย จัดได้ว่าเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ก็ไม่ถึงกับเคยคลุกคลีเที่ยวเตร่ดื่มกินร่วมโต๊ะกันเหมือนเพื่อนสนิทกลุ่มอื่นๆ

เพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกันในยุคนั้นก็จะมี นิรันศักดิ์ บุญจันทร์, วิสรรชนีย์ นาคร,รักษ์ มนัญญา, แก้ว ลายทอง ,สมพงษ์ ทวี’ , มายา (แดนอรัญ แสงทอง) ,วิมล ไทร นิ่มนวล, วิทยารัตน์, สำรวม ศุกร์ เตือนจิต นวตรังค์, คำปัน สีเหนือ ,วสันต์ สิทธิเขตต์ , สุคนธ์ แคแสด , อุดร วงษ์ทับทิม ฯลฯ นี่เท่าที่ผมนึกชื่อออกในตอนนี้

ในช่วงนั้นผมคิดว่าปะการังไปได้ไกลกว่าคนอื่นๆในแง่เรื่องความมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของผู้อ่าน(ประกอบกับหน้าตาดีเป็นทุนเดิม - สาวกรี๊ดในตอนนั้น) และมีความสามารถในการแต่งเพลงอีกต่างหาก

เขาทำงานอยู่ในนิตยสารแพรวซึ่งถือว่าดังสุดๆในช่วงนั้น ต่อมาเขาทำสำนักพิมพ์เอง (สำนักพิมพ์วตา) ผมจำได้ว่าคุณชรัส เฟื่องอารมย์ เคยแต่งเพลงและร้องเพลงให้เขาหนึ่งเพลงคือเพลง “ปะการัง” ซึ่งในยุคนั้นคุณชรัสก็เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงพอสมควร

ในขณะที่ตอนนั้นผมก็เขียนหนังสือเล็กๆน้อยๆ เดินเข้าออกสำนักงานทำนิตยสารบ้าง เขียนเรื่องสั้นบ้าง เขียนสารคดีบ้าง เขียนบทกวีบ้าง ดำเนินชีวิตตามความฝันอย่างอย่างเลื่อนลอย ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน และส่วนหนึ่งของชีวิตจมหายไปกับความสำเริงสำราญอย่างไรส้าระ

วันนี้เราได้มาพบกันในวัยที่ไม่ใช่คนหนุ่มเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว เพียงเราได้สนทนากันทางบล็อกของผมและทางอีเมล์อย่างเปิดใจกันอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ผมสัมผัสถึงบางสิ่งบางอย่างที่บอกผมว่า แต่ก่อนเราเพียงแค่เคยพบรู้จักกันเท่านั้นแต่นี้ต่อไปเราจะเป็นเพื่อนกัน

ปัจจุบันเขาอยู่อเมริกามาสิบกว่าปีแล้ว ขณะที่ผมอยู่เมืองไทยไม่เคยไปต่างประเทศไกลกว่าพม่าและลาว เขมรก็ยังไม่เคยไป (แค่เฉียดๆเท่านั้น) แต่ถ้าในเมืองไทยแล้วก็ผมก็ไปมาไม่น้อยเหมือนกัน เขาคุ้นเคยกับเมืองนอกแสนเมืองศิวิไลซ์ ผมนั้นคุ้นเคยกับชีวิตบ้านนอกของเมืองไทย เพราะผมชอบเดินทางไปต่างจังหวัดอยู่เสมอ

เขาแต่งเพลงที่เคยดังและยังคงความไพเราะอยู่ไว้มากมายเช่นอัลบั้มของ สุชาติ ชวางกูร และเพลงไดอะรี่สีแดงของคุณแหวน - ฐิติมา สุตสุนทร และเพลงอื่นๆอีกมากมาย ในขณะที่เรื่องเพลงผมไม่กระดิกเลย เรามีความแตกต่างกันมากมายในการดำเนินชีวิต แต่ในความต่างกันนั้นดูจะเหมือนกันอยู่อย่างก็คือ ต่างฝ่ายต่างก็มีใจรักในการเขียนหนังสือเหมือนกัน เขาห่างหายจากวงการนักเขียนไปนานพอสมควร ในขณะที่ผมก็เพิ่งกลับมาเพียงไม่กี่ปี

เราจึงตกลงใจร่วมกันว่าเราจะเขียนจดหมายคุยกันที่ “บ้านชบาฉาย” เจ้าของบ้านใจดีที่ยกพื้นที่ให้เราได้เขียนจดหมายสนทนากัน ไม่มีเงื่อนไขอะไรตายตัว หากใครเบื่อไม่อยากเขียนก็มีสิทธิ์ที่จะหยุดเขียนได้อย่างสบายใจ เราจะเขียนเรื่องราวจากความจริงเล่าสู่กันฟัง

สมมุติว่าวันนี้คุณปะการังเขียนจดหมายถึงผม ครั้งต่อไปก็คือผมจะเป็นผู้เขียนจดหมายถึงเขา สลับกันไป

ส่วนเรื่องราวหรือเนื้อหาในจดหมายไม่ว่าจะเป็นของเขาหรือเป็นของผมถือว่าเป็นอิสระจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ที่ตั้งใจไว้ว่าจดหมายสนทนาระหว่างเขากับผมนั้นไม่ควรจะเกินหนึ่งสัปดาห์ต่อฉบับ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องยึดตายตัวในเรื่องเวลา...สบายๆ

นานนับเกือบยี่สิบปีได้แล้วที่เราไม่ได้พบกันและไม่เคยติดต่อกันเลย ผมจำได้แต่เพียงว่าครั้งสุดท้ายเขามาในงานแต่งงานของผม และจากนั้นผมจำไม่ได้อีกว่าเราพบกันที่ไหนอีกหรือไม่ ? มาพบกันในโลกอินเตอร์เน็ตแห่งนี้อีกทีก็เพิ่งรู้ว่าเขาอยู่ที่อเมริกาแล้ว

และที่นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ใจเล็กๆก็คือ ผมเพิ่งอ่านจดหมายฉบับแรกที่เขาเขียนถึงผมว่า ในนิยายเรื่อง “มนต์รักนักเรียนนอก” ที่เขาเคยเขียนเมื่อหลายปีก่อนนั้นนางเอกชื่อ “ชบาฉาย” ซึ่งเหมือนกับชื่อบล็อกที่ผมเป็นคนตั้งอย่างไม่น่าเชื่อ !! (ชื่อบล็อกนี้ตั้งไว้นานแล้วก่อนที่จะได้พบกับเขาที่นี่ )

เพราะฉะนั้นที่ผมมาเขียนบอกเล่าตรงนี้ก็เพื่อที่จะบอกว่า บล็อกของพ่อพเยียก็ยังเขียนอะไรต่อมิอะไรตามประสาของผมต่อไป ส่วนที่บล็อกชบาฉายนั้นคือจะมีจดหมายคุยกันระหว่างผมและปะการัง ซึ่งแน่นอนว่าผมกับเขาคงจะไม่ต้องการที่จะสื่อสารถึงกันเพียงลำพังสองคนเท่านั้น

ใครที่เคยเป็นแฟนคลับของปะการังยุคเก่าหรืออยากทำความรู้จักเขาในยุคใหม่ตอนนี้ ก็เชิญคลิกเข้าไปได้ที่บล็อกชบาฉายได้เลยนะครับ เพื่อพบและทักทายพูดคุยกับเขาได้ที่นั่นครับ


อีกเรื่องหนึ่งก็คือจะมาบอกว่า นิตยสารขวัญเรือนฉบับปักษ์หลังกรกฎาคม 2550 นี้มีบทสัมภาษณ์ผม ในคอลัมน์ นัดพบคนวรรณกรรม หากอยากรู้จักแง่มุม “สุขอย่างพอเพียง” ของผมเป็นอย่างไรเชิญพลิกไปดูได้เลยครับ !

ด่วน ! หากต้องการได้ "ห่างไกล ไม่ห่างกัน" อ่านฟรี กรุณารีบไปหาขวัญเรือนฉบับนี้มาอ่าน คอลัมน์นี้มีแจกหนังสือของผมด้วยครับ

---------------------------------------



Create Date : 13 กรกฎาคม 2550
Last Update : 14 กรกฎาคม 2550 7:20:44 น. 89 comments
Counter : 1360 Pageviews.

 
มั่ยชั่ยนังฟ้า..เราเป็งนังแม่มดง่ะ วันนี้แวะมาเจิมก่อนคัยๆ..พ่อพเยียแวะไปอ่านblogที่แล้วมั่งดิ เราขี้เกียจพิมพ์ใหม่ง่ะ.......


โดย: ปิ่นแก้ว....นังแม่มด.... IP: 203.113.45.196 วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:59:04 น.  

 
รีบแวะไปที่ชบาฉายมาแล้วค่ะพี่โดม...
แวะ..เพราะว่าไม่เคยคิดว่าแกจะเป็นคนทีมาร่วมถนนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เดิน

นึกคำพูดได้อย่างหนึ่งแล้วค่ะที่จะใช้แทนคำว่าบัง
เอิญ "การบรรจบกันของเวลาและสถานการณ์"

เหมือนก่อนนี้ที่ปลายแปรงไม่เคยรู้จักพี่โดม..ใครสักคนหนึ่งซึ่งอยู่ในโลกที่ไม่ใช่เราเพียงแต่เราบังเอิญมาพานพบกัน...แต่มีเหตุผลที่ดำรงสัมพันธภาพให้คงอยู่และดำเนินต่อไป โดยที่เราไม่อาจรู้

วันก่อนเพิ่งถกเถียงกับลุงบูลย์เรื่องธรรม
ปลายแปรงบอกว่า พระพุทธเจ้าสอนธรรมชาติ...ธรรมะคือธรรมชาติ ชีวิตที่เราดำเนินอยู่คือธรรมชาติ เราคือธรรม ที่เราเอาจิตถอยห่างมันไป

แต่ลุงบูลย์บอกว่าธรรมะไม่ใช่ธรรมชาติ กิเลศก็ต้องเป็นธรรมชาติ ก็ลืมคุยไปว่ากิเลสก็คือธรรมชาติ แต่ธรรมชาติที่เหนือกว่ากิเลส

สรุปว่าเถียงกันไม่จบ...จริงไม่ได้เถียงแต่เป็นทัศนะ....เลยไม่ได้คุยต่อว่า การที่เราพบใครต่อใคร สูญเสียใครๆก็เป็นธรรมชาติ..เป็นเรื่องกาละ เทศะของเวลาเหมือนกัน

เข้าไปบ้านชบาฉายแล้ว..ไปแปะความรู้สึก...ทิ้งรูปฝังรอย..ง
ไม่รู้จัก ไม่ใช่มิตรรักแฟนเพลง....เป็นคนร่วมทางอีกคนที่ไม่ได้รู้จักเพราะเขาเป็นใคร เหมือนเช่นรู้จักพี่โดม ถ้ารู้จักพี่ตรงที่พี่เป็นใครก็คงถอยห่างออกไปนานแล้ว
แต่รู้จักตรงที่พี่โดมไม่เป็นใคร ปลายแปรงไม่ใช่อะไรถึงอยากเป็นพี่เป็นน้องตรงนี้ที่ไม่มีอะไร....
ประการังเป็นใคร...เพียงคนที่เข้ามาในบ้านตรงนี้..เพียงคนรู้จัก เพียงคนคุ้นเคย
เพราะไม่รู้จัก เพราะไม่เป็นอะไร...ถึงเข้าไปทักทายในฐานะที่ไม่ใช่ใคร....แต่ในเวลามีร่องรอย
ในการเดินทางทิ้งรอยเท้า...
ไม่นึกว่า...รอยเท้าบางๆทีสัมผัสเป็นรอยแผ่วจางที่ประทับอยู่ข้างกายเราตลอดเวลา..เป็นวันเวลา เป็นแคปซูลความรู้สึกที่เราเป็นเพียงคนเปิดผนึกให้วันเวลา....

คงเป็นได้เท่านี้...เป็นสายลมที่เพียงพอ
เพราะคงเพียงพอ..งไผสิจักงามสม งามดังคำลมเล่าอ้าง...

อะเหอ...นานๆได้มาต้นๆขอยึดครองจั๊กหน๋อนแน๊...


โดย: ปลายแปรง วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:23:35 น.  

 
อ้อ...ถ้าอะไรมันผิดเพี้ยนไปบ้างอย่าว่ากันนะ
คีย์บอร์ดมันเริ่มอยากขึ้นอะไรตามใจฉัน ไม่ว่าเธอจะจิ้มอะไรก็ช่าง

ท่าจะต้องหาใหม่แล้วกระมัง


โดย: ปลายแปรง วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:27:46 น.  

 
ผ่านมาห้าหกปี มิเปลี่ยนไปเล๊ยคุณพ่อพเยีย
ขวัญเรือนฉบับปักษ์หลังกรกฏา สำหรับที่โน่นคงต้องคอยรับหลังวันที่ 16 โน่นแหละค่ะ

แล้วจะตามไปอ่านชายหนุ่มคุยกัน ในบล๊อกชบาฉายค่ะ



โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.138.223 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:31:04 น.  

 
ขอแสดงความยินดี
ที่บล็อกชบาฉายได้กลายเป็นบ้านหลังงามของคุณปะการัง
พ่อพเยียนี่...
เหมาะจะเป็น PR จริง ๆ (ในทุก ๆ เรื่อง)
หวังว่าบ้านชบาฉายคงจะทำให้ทั้งพ่อพเยียและคุณปะการังมีความสุขที่จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะเป็นเรื่องเป็นราวกันต่อไปคะ
ก็จะตามไปอ่าน...เหมือนเดิม

ชอบเพลงนางฟ้าของคุณศักดิ์สิริ และอีกหลาย ๆ เพลงของเขาค่ะ โดยเฉพาะเพลงนางฟ้า...ฟังเพลิน...เคลิ้มใจจนหลงไปว่าตัวเองเป็นนางฟ้าไปซะแหล่ว...นางฟ้าร่างใหญ่ใจดี...ที่ไหนได้...อันนั้นมันแค่เคลิ้มฝันไป เพราะในความเป็นจริง...เป็นได้แค่นางยักษ์ใหญ่ (แต่ใจดี -ขี้บ่น)...เท่านั้นค่ะ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:57:18 น.  

 
เป็นนักเขียนชีร์ไรต์ ยังร้องเพลงเก่งอีก ดิฉันเป็นนางฟ้าในร่างแม่มดเพื่อนมันตั้งให้ แต่ที่บ้านดิฉันเป็นนางพญาของตาสตีฟและลูกๆ เพราะนางฟ้าต้องสวยสิ ตอนลูกสาวเล็กๆก่อนนอนลูกสาวบอกว่าแม่ค่ะใครก็อยากเกิดเป็นลูกแม่ ดิฉันก็คิดว่าลูกต้องตอบว่าสวยร้อยเปอร์เชนต์เพื่อนในหมู่บ้านรุ่นเดียวกันไม่เห็นมีใครสวย(เข้าข้างตัวเอง )ลูกก็ตอบแบบมั่นใจว่า ไม่ค่ะเพื่อนบอกว่า เป็นลูกแม่ได้เงินไปโรงเรียนเยอะ ไปเล่าให้เพื่อนฟังโดนแชว ว่าลูกพูดความจริงนะ ความพอเพียง หญิงแม่อยู่ที่ศรีสะเกษ ชื้อโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง พ่อมีแล้วไม่ว่า โทรศัพท์บ้านอีกหนึ่งเครื่อง พอดิฉันทราบก็โถแม่เอาแต่เงินไปให้บริษัทเขารวยนะ แม่ตอบว่าอย่างไรรู้ไหมค่ะคุณโดม "ไม่สนละแม่ชื้อเอามานอนกอดเพราะคิดถึงลูกและหลาน เสียงมันมาจากตรงนี้และหายเหงา ที่อเมริกา ใครบอกมันศิวิไลช์คะ ดิฉันอยู่เมืองเล็ก ค่ำมาดูทีวีเดินออกกำลัง โทรหาแม่ อยู่ไปอยู่มาความเหงาเลยกลายเป็นเพื่อน


โดย: บุญสิตา IP: 67.9.4.204 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:45:01 น.  

 
ฝากพี่โดมลบความเห็นก่อนหน้าด้วยนะคะ

พอดีแย่งเครื่องพี่ยายมาใช้ ล็อกอินค่อนข้างช้า ก็เลยมาขออนุญาตแปะไว้ก่อนค่ะ

^^


โดย: สีน้ำฟ้า IP: 203.113.50.14 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:51:11 น.  

 

- ขอมอบแด่นางฟ้าทุกนางครับ -
นั่นแน่ กระชากหัวใจสาวๆอีกแล้วนะคะ

โถ พี่โดม แค่บล็อกพ่อพเยียนี่
น้องหนูก็แทบจะหาเวลาไปลาดตะเวนที่อื่นไม่มีแล้ว

ยังอีก..ยังปล่อยบ้านชบาฉายมาอี๊ก...
แล้วน้องหนูจะไปไหนรอดเนี่ย...

ป.ล.ไปเยือนมาแล้วล่ะคะ ถ้อยคำยาวจัง
เพียงแค่เห็นปากคุณปะการัง
ก็น่าจะเรตติ้งกระฉูดแล้วล่ะค่ะ อิอิ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:19:51 น.  

 
สวัสดีครับแม่มดปิ่นแก้ว


ไปอ่านบล็อกที่แล้วมาแล้วจ้ะ
ก็ขอให้ปลูกต้นไม้ให้เติบโตอย่างมีความสุขก็แล้วกัน
ระวังเรื่องเพลี้ยแมลงอารมณ์มันกัดกินใบบ้างก็แล้วกัน
คอยดูแลให้ดีๆหน่อยนะครับ


สวัสดีจ้ะปลายแปรง

จะว่าไปแล้วคนอายุรุ่นพ่อพเยียจะเหลืออายุช่วงหลังน้อยกว่าช่วงแรกที่ใช้มาแล้ว
น้อยกว่าแน่นอน จะเหลือน้อยแค่ไหนนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เพราะฉะนั้นส่วนที่เหลือก็อยากเลือกใช้ให้ไปในทางที่ดีที่สุด สงบสุขเท่าที่จะทำได้ ส่วนที่จะทำได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเองทั้งนั้น


เรื่องที่เราพบกันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะ "ทุกสิ่งเกิดขึ้นแต่เหตุ" ทั้งนั้น เพียงแต่เราไม่รู้ละเอียดเท่านั้นเอง ก่อนที่เราจะพบกันนั้นไม่สำคัญ แต่หลังจากที่เราพบกันแล้วนี่ต่างหากสำคัญกว่า

มิตรภาพต่างวัยของเราจะดำเนินต่อไปอย่างไร ก็ขึ้นกับการปฏิบัติต่อกันระหว่างเรานั่นแหละจะพามิตรภาพของเราไป

---------------------------------

ขอยกที่ปลายแปรงพูดว่า..
ปลายแปรงบอกว่า พระพุทธเจ้าสอนธรรมชาติ...ธรรมะคือธรรมชาติ ชีวิตที่เราดำเนินอยู่คือธรรมชาติ เราคือธรรม ที่เราเอาจิตถอยห่างมันไป

แต่ลุงบูลย์บอกว่าธรรมะไม่ใช่ธรรมชาติ กิเลสก็ต้องเป็นธรรมชาติ ก็ลืมคุยไปว่ากิเลสก็คือธรรมชาติ แต่ธรรมชาติที่เหนือกว่ากิเลส

---------------------------------------


เรื่องนี้ไม่ต้องถกเถียงกันหรอก เอาแค่แสดงทัศนะต่อกันก็พอ

ว่าจะไม่แล้วเชียวนา.. ขอแจมนิดนึงก้แล้วกัน

คำว่าธรรมะนั้นกินความกว้างมาก ขึ้นอยู่ว่าเราเอาคำนี้ไปวางไว้ที่ไหนด้วย แต่สำหรับพ่อพเยียคิดว่า...

อย่างปลายแปรงพูดธรรมะคือธรรมชาติ เพราะกำลังพูดถึงธรรมะที่อยู่ในความหมายฝั่งกุศลธรรม แต่พี่บูลย์พูดถึงกิเลส คือ ธรรมชาติที่เป็นธรรมะในฝั่งอกุศลธรรม ซึ่งทั้งกุศลธรรมและอกุศลธรรมล้วนคือ "ธรรมะ" ที่สอนเราได้ทั้งนั้น ถ้าเรามีปัญญาพอที่จะ "รู้" ในสิ่งนั้นๆว่าคืออะไร

ที่พ่อพเยียเข้าใจเป็นอย่างนี้นะ ไม่เป็นไรหรอก อาจจะมีผู้รู้ผ่านมาเมตตามาอธิบายก็เป็นได้ เพราะพูดๆนี่ก็จากความจำมาไม่ได้รู้กระจ่าง (บางทีก็อาจจะจำผิดก็ได้) ถ้าเรารู้ชัดกระจ่างแล้วเราจะพูดไม่ผิดเลย และก็ไม่ได้พลิกตำราดูในตอนนี้ ยินดีทำความเข้าใจให้ถูกต้อง หากมีผู้มาอธิบายให้แจ่มชัดขึ้น อย่างคุณป่ามืดนี่ก็ถือว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมเชียวนะ

แต่มีประโยคหนึ่งจำได้เวลาเผลอถกเถียงกับใครเรื่อง"ธรรมะ" แล้วทำให้มีสติและรู้สึกตัวขึ้นมาก็คือ ชะงัดนัก

"ผู้รู้ธรรมะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่ผู้ปฏิบัติธรรมชอบเอาชนะตัวเอง"

พูดแค่นี้พอแล้ว พูดมากเดี๋ยวเข้าเนื้อตัวเอง (เหอะ เหอะ)



สวัสดีจ้ะแม่น้องนิก

กางเกงยีนส์ที่นุ่งอยู่นั่นแหละคือตัวล่าสุดที่แม่น้องนิกส่งมาให้ จำได้ไหม...ตอนแรกส่งรูปมาให้ดูทางอีเมล์ก่อน แล้วออกเดินทางไกลมาทางเรือ แล้วเข้าไปเป็นรูปอยู่ในหนังสือ จากนั้นก็ย้อนกลับไป (ทางเรือหรือทางเครื่องบินก็ไม่รู้ - เวลาเขาส่งหนังสือไปอเมริกาน่ะ)ให้แม่น้องนิกเห็นอีก

ถึงแม้จะเห็นกางเกงยีนส์นิดเดียว ก็ขอให้แม่น้องนิกรู้ว่ากางเกงตัวยีนส์ที่ใส่นั้นคือน้ำใจจากแม่น้องนิกที่ส่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้ได้เดินทางกลับไปให้แม่น้องนิกเห็นแล้ว

สวัสดีจ้ะหนอนคนนอนดึก

เรื่องประชาสัมพันธ์นี่พูดไปแล้วก็เขิน
ที่ต้องประชาสัมพันธ์ตัวเองถึงขนาดนี้
ก็ไม่มีอะไรหรอกอย่างที่รู้ๆกันนั่นแหละ
สำนักพิมพ์ "มังกรยิ้ม" เป็นสำนักพิมพ์เล็กๆ
ที่เลือกที่จะพิมพ์งานของเรา ซึ่งก็ไม่ใชว่าจะหาสำนักพิมพ์พิมพ์ให้ง่ายๆ

เมื่อมีโอกาสก็พยายามทำโอกาสนั้นให้ดียิ่งขึ้น

เราก็ขอเพิ่มหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้โดยที่สำนักพิมพ์ไม่ต้องร้องขอ
คือประชาสัมพันธ์เพื่อให้ใครๆจะได้เอื้อมมือไปหยิบ "ห่างไกล ไม่ห่างกัน" ที่วางเบียดเสียดกับเพื่อนๆพ็อคเก็ตบุ๊คนับอสงไขยอยู่บนแผงมาพลิกอ่านดูบ้าง

แต่หลังจากนั้นก็ขอให้เขาหรือเธอได้ตัดสินใจเองว่าเหมาะสมที่จะซื้อไปอ่านหรือไม่ ?

จะว่าไปแล้วก็ให้นึกเขินอยู่เหมือนกันนั่นแหละ
ที่ทำเอารูปคนเริ่มแก่แล้วมาโชว์ในบล็อกของตัวเองอย่างที่เห็นน่ะ ไม่ใช่หล่อเหล่ออะไร นึกๆก็กลัวยอดขายจะตกเหมือนกัน เมื่อคนคิดจะซื้อแล้วเห็นรูปผู้เขียน

แต่เนื้อข้างในน่ะก็อยากสื่อสารถึงความคิดของตัวเองที่ให้สัมภาษณ์ไปน่ะ ส่วนหนึ่งก็ถือว่าเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์หนังสือของตัวเอง ช่วยสำนักพิมพ์ด้วย ช่วยตัวเองไปด้วย ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน เกิดขึ้นตามสมควร ก็โอเคแล้ว..

ไม่ถึงกระทำผิดคิดร้ายต่อบ้านเมือง ก็ทำกันไปเนาะ


ส่วนเพลงนางฟ้า เพลงนี้คุณศักดิ์สิริ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ความคิดใครนะ ว่าเมื่อฟังแล้วจะ "แอบ" เป็นนางฟ้าในเพลงนี้ก็ได้ ไม่ผิดกฏหมายละเมิดลิขสิทธิ์


สวัสดีครับคุณบุญสิตา อารมณ์ดี

ชอบใจประโยคที่แม่คุณบอกจริงๆ ว่า"ไม่สนละแม่ชื้อเอามานอนกอดเพราะคิดถึงลูกและหลาน เสียงมันมาจากตรงนี้และหายเหงา"

ผมเคยได้ยินคนพูดกันเรื่อยเลยนะว่า "มีความเหงาเป็นเพื่อน" เนี่ยะ ลองอธิบายให้ฟังหน่อยสิครับ ว่าความเหงามันเป็นเพื่อนชนิดไหน ดีหรือไม่ดี

ลองบรรยายความเหงาของคุณบุญสิตาให้ฟังสักครึ่งหน้ากระดาษฟุลสแก๊ปหน่อยซิ (เด็กสมัยนี้ไม่รู้จักกระดาษฟุลสแก๊ป หรอก แต่คิดว่าคุณบุญสิตาน่าจะรู้นะครับ)


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:13:44 น.  

 
เห็นภาพพี่โดมแล้วต้องอุทาน เท่มั่กๆ!

**การมีโลกในบล๊อกอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ อย่างน้อยๆ ผมคนตัวเล็กๆ บ้านนอก ไกลปืนเที่ยง แถมหน้าตาไม่ดีอีกตะหาก มีโอกาสกระทบไหล่คนดังๆ ผู้ทรงอิทธิพลในวงการศิลปะศิลปิน โห...ออกแนวอาชญนิยายนะเนี่ย

ผมไม่เคยอ่านงานของคุณปะการังเลย เพิ่งมาอ่านคอมเมนท์ในบล๊อกนี่เอง
ก็พอจะสัมผัสถึงกลิ่นอายของอักขระอันแสนจะเบิกบาน บันเทิงใจ


โดย: ธารดาว IP: 203.146.63.185 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:25:47 น.  

 


มาอ่านก่อน...เพิ่งจะตื่นแต่ใจยังไม่ตื่น เลยขอฝากไว้ก่อน ค่อยมาต่อ


โดย: แม่ปัน-ปอง IP: 125.24.99.10 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:38:28 น.  

 
การเดินทางข้ามทะเลของกางเกงยีนส์ตัวหนึ่ง กับการเดินทางข้ามฟ้าของหนังสือเล่มหนึ่ง

อือม์ บล็อกหน้านี้คงไม่มีใครเป็นปลื้มมมมมม...เท่าแม่น้องนิกอีกแล้ว

เพราะของฝากของผู้ให้จะมีค่าเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับผู้รับว่าได้ใช้ประโยชน์จากมันมากน้อยเพียงใด

สำหรับหนอนฯ แล้ว
รู้สึกอย่างที่แม่น้องนิกว่า
พ่อพเยียไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงค่ะ
เมื่อหลายปีก่อนเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เป็น (หล่ออย่างที่เห็น) อย่างนั้น
กลับเห็นว่าเมื่อเทียบกะตะก่อน
ตอนที่ยังเพลิดเพลินอยู่ในยุทธจักรนักเขียนนั้น
ดูแย่กว่าค่ะ
แน่นอนว่ารสน้ำเมา...ต้องสู้รสแห่งธรรม...ไม่ได้หรอกค่ะ
ใครที่รู้จักพ่อพเยียมาก่อน
ก็ต้องเห็นเหมือนดั่งที่หนอนฯ ว่าแน่นอน...เชื่อเถอะ !!!


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:09:41 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม (พ่อพเยีย)
มิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
----------------------------------------------------------
อ่านจบ...อึ้ง! ทึ้ง!
อึ้ง! เห็นภาพพี่โดม ครึ่งตัว.....เท่
(นี่แค่นั่งนะเนี่ย!)

ทึ้ง! พี่โดม เขียนสั้น-ยาว เป็นเรื่อง - ไม่เป็นเรื่อง
ก็ชวนให้นั่งทน(จ้องหน้าจอคอม) อ่านได้เรื่องทุกครั้ง

โทร.มาบ่น เอ้ย! คุยเรื่องเขียนหนังสือ ครึ่งชั่วโมง
สาวฯ ก็ทนฟัง เพราะไม่เสียตังค์ค่าโทร (วอนตืบจัง)
อะคึ่ ๆ

ปล. ไปบ้าน "ชบาฉาย" ก่อนนะค๊า


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:52:33 น.  

 
ก่อนอื่น ต้องขอชมว่าคุณโดมคมเข้ม ไม่เสื่อมคลาย แถมดูสุขุม เคร่งขรึม น่าเกรงขาม--

ว่าแต่ว่า--ที่คุณโดมเขียนถึงผม ในช่วงแนะนำบล็อก"ชบาฉาย"ข้างบน.. มีหลายอย่างที่คันๆอยากจะขอแก้ไข แต่ขอเก็บไว้ไปคุยกันที่"ชบาฉาย"แล้วกัน

แต่ขอกระซิบนิดหนึ่ง ตอนเขียนจดหมายคุยกันนอกบล็อก เกือบจะผิดใจกันไปแล้วครั้งหนึ่งล่ะ..

คราวนี้ คุยกันต่อหน้าประชาชน ใน "ชบาฉาย" คงแปลกพิลึกล่ะ- -


โดย: ปะการัง (ชบาฉาย ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:55:09 น.  

 
เจ้าบ้านเปิดบ้านแต่เช้าเลย...


หนังสือจะได้พิมพ์ครั้งที่ ๒ แล้ว ยินดีด้วยค่ะ


มารายงานตัวแค่นี้ก่อนค่ะ เดี๋ยวมาใหม่

ปล.ไปบ้านชบาฉาย มาแล้ว
บล๊อกนี้เป็นที่สร้าง ที่จุดประกาย นักเขียนได้เลยนะคะ


โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:12:26 น.  

 
สวัสดีจ้ะยิปซีสีน้ำเงิน

ป.ล.ไปเยือนมาแล้วล่ะคะ ถ้อยคำยาวจัง
เพียงแค่เห็นปากคุณปะการัง
ก็น่าจะเรตติ้งกระฉูดแล้วล่ะค่ะ อิอิ

-------------------
ถ้าอย่างนั้นก็ขอฝากล็อกชบาฉายไว้ในเปลญวนใต้ดวงดาวด้วยสักบล็อกก็แล้วกันนะ



สวัสดีครับธารดาว

แหมขนาดบอกอยู่บ้านนอกแล้วยังใช้ภาษาวัยรุ่น(มั่กๆ)ทันสมัยมิยมจริงๆ


จะว่าไปแล้วบล็อกก็นับเป็นเรื่องที่ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนเหมือนกันว่าจะมีเครื่องมือสื่อสารอะไรที่เป็นแบบนี้ ไม่เคยรู้ล่วงหน้าใก่อน จู่ๆมาหัดใช้แล้วก็ใช้เลยแล้วก็ต่อเนื่องมาเลย ติดต่อแพร่ระบาดกันไปในหมู่คนที่จริตต้องตรงกัน


สวัสดีจ้ะแม่ปัน-ปอง

คนนี้เป็นแฟนปะการังตัวจริง เพราะเคยไปสัมภาษณ์ปะการังตอนที่เธอเป็นสาวๆ แต่เดี๋ยวนี้ถึงไม่เป็นสาวแล้ว แต่ก็มีเค้าว่าอดีตนี้เคยสวยมาก่อนเหมือนกันนะ เพียงแต่ระยะเวลาที่ผ่านไปก็ทำความสวยหกหล่นระหว่างการเดินทางไปบ้างเล็กน้อย แต่น้ำใจยังดีเยี่ยมเสมอไม่เปลี่ยนแปลง


สวัสดีจ้ะคุณหนอน


นึกถึงแต่ก่อนเจอน้องนุ่งรุ่นไหนก็จะชวนดื่มเบียร์หมด
เวลาเราชวนเขาเมานี่ราวกับว่าปรารถนาดีต่อเขาสุดหัวใจแล้ว เฮ้อ...

หนอน...เรื่องหล่อน่ะอย่าพูดบ่อยนัก

พ่อพเยียยิ่งเป็นคนจิตใจไม่มั่นคงอยู่ด้วย
คนโน้นพูดนิด คนนี้พูดหน่อย เดี๋ยวก็หูเบาเชื่อเขาหรอก




สวัสดีครับปะการัง

ที่เกือบไม่ได้มาเขียนจดหมายคุยกันก็เพราะการเขียนบางประโยคของผมไม่รอบคอบนั่นแหละครับ โชคดีที่เข้าใจกันได้

ทำให้นึกถึงท่อนหนึ่งของเรื่องเจ้าชายน้อยที่ว่า "ภาษาเป็นที่มาของความเข้าใจผิด" หรืออะไรนะ แบบนี้แหละ ใครจำได้ช่วยบอกทีเถอะ นานแล้ว จำได้ประมาณนี้

อีกสามสี่วันผมจะเข้าไปตอบจดหมายที่ชบาฉายนะครับ



สวัสดีจ้ะหนอนบ้านนอก

เรื่องหนังสือพิมพ์ซ้ำครั้งที่ 2 นี่

นักเขียนขายดีที่เคยพิมพ์ซ้ำเขาคงไม่ตื่นเต้นอะไร
แต่สำหรับนักเขียนอย่างเรา ดีใจจนออกนอกหน้า ต้องมาป่าวประกาศให้รู้กันไปให้ทั่ว

ก็พูดได้ว่า ตั้งแต่พิมพ์หนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คออกมาก็เพิ่งมีเล่มนี้แหละที่พิมพ์ซ้ำในเวลาอันรวดเร็ว จะไม่ให้ตื่นเต้นอย่างไรล่ะ


เป็นยังไงเลี้ยงหนอนไปถึงไหนแล้ว เดี๋ยวจะตามไปดูเสียหน่อย หนอนตายหมดแล้วมั้ง ?


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:32:12 น.  

 
สวัสดีจ้ะสาวนางบ้านนอก

ข้ามไปได้ไง หญิงสาวผู้มีเสียงหัวเราะเป็นเอกลักษณ์
เห็นคุณธารดาวบอกว่าเสียงหัวเราะ "อะคึๆ" ต้องเป็นเสียงของสาวอิสานเท่านั้นจริงหรือเปล่า ?




โดย: พ่อพเยีย วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:35:02 น.  

 
ช่วงนี้ไม่ได้มาเม้นต์ แต่เข้ามาอ่านเป็นระยะๆ ค่ะ

ชินได้เข้าไปอ่านในบล็อคของคุณชบาฉาย อดทึ่งถึงโลกในเน็ตไม่ได้ โห....อะไร ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้

วันนี้ชินต้องไปต่างอำเภอ เดี๋ยวจะกลับมาใหม่ค่ะ


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:49:00 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่พ่อพเยีย
ท่าทางมีความสุขจังเลยนะคะ

กลับมาจากเดินทางคราวนี้ มีบล็อกให้อ่านเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง 'ชบาฉาย'
มีความสุขที่ได้เข้ามาบ้านนี้เช่นเคยค่ะ

สาวอีสานบางคนหัวเราะ คิก ๆ เท่านั้นค่ะคุณธารดาว



โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:51:36 น.  

 
"ภาษาคือที่มรของความเข้าใจผิด"

เป็นตอนที่หมาป่าสอนเจ้าชายน้อยให้เขาหัดตัวมัน (หมาป่า)ให้เชื่อง

หนอนฯ ว่าตอนที่พบหมาป่าเป็นตอนที่กินใจและสวยมากเลยค่ะ

"เธอจะต้องนั่งห่างจากฉันหน่อยในตอนแรก อย่างนั้นแหละ นั่งบนหญ้า ฉันจะชายตามองดูเธอ และเธอก็อย่าพูดอะไรเลยนะ เพราะ ภาษาคือที่มาของความเข้าใจผิด แล้วเธอก็เขยิบเข้ามาใกล้ ๆ ฉันมากขึ้นทุกวัน"

สุนัขป่าบอกให้เจ้าชายน้อยมาพบมันในเวลาเดียวกันเสมอ เพื่อที่จะได้รู้จักคุณค่าของความสุข เพราะ "มันเป็นสิ่งซึ่งทำให้วันหนึ่งมีความหมายต่างจากวันอื่น ๆ เวลาหนึ่ง มีความหมายเป็นพิเศษจากเวลาอื่น ๆ

เมื่อสุนัขป่าและเจ้าชายน้อยสร้างสัมพันธภาพกันแล้ว ก่อนจากลากัน สุนัขป่าได้เผยความลับซึ่งเป็นประโยคมหาอมตะนิรัตดร์กาลและเรามักหยิบยกมาพูดกันเสมอว่า

"เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา"

และประโยคสุดท้ายที่หมาป่าบอกกับเจ้าชายน้อย ก็เป็นประโยคที่มีความหมายเช่นกัน

"มนุษย์ลืมความจริงข้อนี้...แต่เธอต้องไม่ลืมมัน เธอจะต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วย เธอต้องรับผิดชอบดอกกุหลาบของเธอ…."

เฮ้อ...พอพูดถึงเจ้าชายก็อดไม่ได้อ่ะค่ะ เพราะเป็นหนังสือโปรดเล่มหนึ่งในดวงใจหนอนฯ ทีเดียว อยากให้เด็ก ๆ ไปถึงผู้ใหญ่ได้อ่าน

อ่านกี่ครั้งกี่รอบก็ได้รับความรู้สึกที่แตกต่างกันไป เป็นหนังสือที่แปลกมากเล่มนึง เพราะมันจะมีคุณค่าหรือมีความหมายแปรเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ชีวิตและวัยวุฒิของคนอ่านจริง ๆ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ใครยังไม่เคยอ่านก็อยากจะให้ลองหามาอ่าน เพราะได้แง่มุมให้ขบคิดเยอะเลยล่ะ

แวะมาบอกเล่าเท่านี้ก่อนค่ะ

ไม่รู้ว่าพอโพสต์แล้วหน้าตาเมนต์จะออกมาเป็นยังไง เพราะมาใช้คอมที่ห้องลูกชายคนโต เขาใช้โปรแกรมเลอนุกซ์อะไรนี่ล่ะ ไม่มีวินโดวส์ในเครื่อง และใชโปรแกรม้Mozilla Firefox เวลาโพสต์ภาษาไทยมันจะยึกยือ ๆ มีวรรคตอนเต็มไปหมดเลยค่ะ กะไม่ค่อยถูก อาศัยว่าเป็นมือพิมพ์ดีดเก่า ก็ไม่ค่อยได้ดูแป้น มันจะปรากฏอะไรบนหน้าจอก็ปล่อยมันไปค่ะ

ทดลองเมนต์ คลิกแล้ว หวังว่าคงเรียบร้อยดีค่ะ ลุ้นนิดหน่อย เพราะไม่อยากโพสต์ใหม่


โดย: หนอนเมืองกรุง IP: 58.9.170.79 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:24:12 น.  

 
โอย...ข้างบนมีคำผิดเยอะจัง
ต้องขออภัยค่ะ
เพราะตอนโพสต์ตัวหนังสือเล็กมาก ๆ เลย
ซ้ำตัวอักษรถี่ห่างไม่เท่ากัน ตรวจทานยากมากเลย

"ภาษาคือที่มาของความเข้าใจผิด"

พ่อพเยียเป็นนักอ่านที่จำรายละเอียดในหนังสือได้มากจริง ๆ

นับถือ ๆ ค่ะ


โดย: หนอนเมืองกรุง IP: 58.9.170.79 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:28:57 น.  

 
ไม่ได้ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ค่ะ แต่พอพ่อพเยียเปิดช่อง ก็อดไม่ได้ที่จะขอเสียบค่ะ

เจ้าชายน้อย
(The Little Prince)
ผู้เขียน Antoione De Saint Exupery (ออ
ตวน เดอ แซง-เตกซูเปรี
ผู้แปล : อำพรรณ โอตระกูล

หาซื้อได้ง่ายตามร้านหนังสือทั่วไป เพราะว่าเป็นหนังสือคลาสสิกสุด ๆ ค่ะ





ทดลองเอาภาพเจ้าชายน้อยมาฝาก ไม่รู้ว่าจะภาพจะมาหรือเปล่าค่ะ มือใหม่หัด Link อ่ะค่ะ ผิดพลาดพลั้งไปก็ตามไปดูรูปเอาเองก็แล้วกันค่ะ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:49:14 น.  

 
แก้คำตกหล่น

อองตวน เดอ-แซงเตกซูเปร

เพลงเพราะมากค่ะ "รู้ว่าความรักมีพลัง" ของศักดิ์สิริ ชุดนี้ขายได้ยอดจำหน่ายดีกระมังคะ

ขอบคุณตะเบบูญ่าค่ะที่ทำให้ได้ฟังเพลงที่บล็อกนี้ อ้อ...สเลเต...คนให้โค้ดด้วย



โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:14:52 น.  

 
ชบาฉาย แปลว่าอะไรค่ะ...


โดย: ทะเล IP: 58.9.148.220 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:39:36 น.  

 
อีกเรื่องหนึ่งก็คือจะมาบอกว่า นิตยสารขวัญเรือนฉบับปักษ์หลังกรกฎาคม 2550 นี้มีบทสัมภาษณ์ผม ในคอลัมน์ นัดพบคนวรรณกรรม หากอยากรู้จักแง่มุม “สุขอย่างพอเพียง” ของผมเป็นอย่างไรเชิญพลิกไปดูได้เลยครับ !
>>>

อ่านแล้วค่ะ

ปลึ้มอกปลึ้มใจ



โดย: filmgus วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:47:18 น.  

 
วันนี้สามคนแม่ลูกไปเที่ยวเขาดินมาค่ะ
ลูกสาวถือคทาดาวแกว่งไปมาแล้วบอกว่า...
ขอเสกคุณแม่เป็นนางฟ้า...
ยิ้มแป้นแหละ เพราะก่อนหน้านี้เธอเสกพี่ชายเป็นเต่า
เสกใครๆและอะไรต่อมิอะไรเป็นสารพัดสัตว์ในเขาดิน
แต่พอถึงแม่ เธอเสกเป็นนางฟ้า...

พอมาเยี่ยมบล๊อกนี้..ก็แหม..หวานซะ...
"ขอมอบแด่นางฟ้าทุกนาง" เผลอเคลิ้มไปแว้บๆ แว้บเดียว..
เพราะเสียงคุณศักดิ์สิริชวนเคลิ้มกว่า..


ชอบเพลงนี้เพราะ นอกจากงดงามแล้ว ยังต้องตีความ
นางฟ้าในเพลงนี้อาจเป็นใครก็ได้ เพราะผู้เขียนไม่ได้เจาะจง
อาจเป็นคน เป็นดาว หรือแม้กระทั่งเป็นความรู้สึกทางนามธรรม
นี่แหละงานศิลปะ สุดแต่ผู้เสพจะจินตนาการ ไม่มีผิดถูก..หนูว่างั้นนะ

หนูอ่านเจ้าชายน้อยก็เพราะพี่หนอนฯแนะนำ
มันลึกซึ้งมาก หนูตีความไม่ได้หลายๆตอนทีเดียว
แก่ตัว(กว่านี้)จะอ่านใหม่ค่ะ
หนังสือในดวงใจที่สุดของหนูเล่มหนึ่งคือ The giving tree
หนูซื้อภาคภาษาไทยมา ตั้งใจอ่านให้ลูกฟัง
เป็นการให้ที่หมดจดสวยงามและเข้าใจได้ง่าย เด็กๆก็น่าจะเข้าใจได้

หนูยังไม่ได้ซื้อขวัญเรือนเลยค่ะ อีกสองวันนะ







โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.59.65 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:31:21 น.  

 
เฮ้อ...เพิ่งกลับมาถึงบ้านอีกหลังหนึ่ง
(คนหลายบ้านก็อย่างงี้แหละจ้า...เหนื่อยหนักหน่อย)

อองตวน เดอ แซง-เตกซูเปรี

แหม...โพสต์ข้างบนหลายหนก็ผิดอยู่นั่นแล้ว

งงอ่ะค่ะ เมื่อเย็นตอนเข้ามาก็เป็นเพลงอีกเพลงนึงนี่นา ยังคิดว่าพ่อพเยียเปลี่ยนเพลงเร็ว แล้วตอนนี้กลับไปเป็นเพลงเดิมแล้ว

แต่ไม่ว่าเพลงไหน ๆ ของคุณศักดิ์สิริ ก็เพราะทั้งนั้นแหละค่ะ

สำหรับตะเบบูญ่า
คำแนะนำก็คือว่า ลองกลับไปอ่านเจ้าชายน้อยใหม่อีกครั้ง
แล้วจะค่อย ๆ รู้และเข้าใจค่ะ
ยิ่งสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้
มีหลายอย่างที่สามารถนำเรื่องเจ้าชายน้อย
มาเทียบเคียงได้เลย
ไม่เชื่อก็ลองดูนะ (หึ หึ ยุจริงยุจังเลย...)
ตะเบบูญ่าก็ต้องเป็นนางฟ้าของน้องจินนี่
ถูกต้องที่สุดแล้วล่ะจ้า

แต่ก็ใช่ว่าหนังสือเล่มนี้จะถูกจริตกับทุกคน
บางคนอ่านแล้วไม่ชอบก็มี
หนึ่งในนั้นคืออาบูลย์นั่นเอง
แต่ก็ไม่ว่ากันค่ะ
หนังสือเหมือนอาหาร
มีหลายแบบหลายรสให้หยิบชิม
สุดแต่ใครจะชอบรสแบบไหน
เพียงแต่รู้ว่าอาหารแบบไหนอร่อย ร้านไหนอร่อย
ก็อดไม่ได้ที่จะเป็น หนอนฯ...ชวนชิม...อ่ะจ๊ะ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:23:00 น.  

 
แต่อ่านขวัญเรือนแล้วค่ะคุณพ่อพเยีย
แอบยิ้ม และอ่านให้จอห์นเค้าฟังด้วย
จอห์นบอก คุณโดมยังไม่แก่เลยนะ
ชมแล้วไม่ได้ตัง..ก็รับว่าเป็นความจริงไปเถอะค่ะคุณโดม

เดี๋ยว..ไปโอเรก้อนรอบนี้ จะหาทรงใหม่
ดูหนุ่มกว่าวัยให้


โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.191 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:50:06 น.  

 
อ่ะ...ที่กาน่าไม่มีขวัญเรือนเลยค่ะ ขออภัยที่ไม่ได้อุดหนุน ..ตอนนี้บล็อกคุณพ่อพเยีย มีเรื่องให้ทำแบบน่าตื่นเต้น...


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:10:43 น.  

 
ความเหงาเก็บเอาไว้ในใจคนเดียว คือไปอยู่ไหนก็ได้ในโลกนี้ไม่เหงาเพราะจะหยิบกระดาษขึ้นมาเขียน เช่นว่านกตัวนี้มันจะไปไหนนะมันคิดอะไรอยู่ ที่ชอบริมรั้วหัวใจ ตอนเรียนก็คิดว่าเมื่อเมีงานทำ มีเงินจะไปให้ทั่ว แล้วกลับมาทำงาน ติดตรงที่เกิดมาไม่เคยนอนคนเดียวกลัวผีเป็นที่สุด ดิฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง เวลามีความทุกข์ชอบเดินทางไปหาเขาที่นครปฐม แต่ไม่เคยเล่าว่าเราทุกข์เรื่องอะไร พูดเก่งมากหยิบทุกเรื่องที่อยู่ต่อหน้ามาเล่าจนคนฟังต้องบอกขอเวลานอนพักสมองหนึ่งช.ม. คบกันมาเกียบจะะยี่สิบปีแล้ว จะขอเล่าเรื่องวัดต่อค่ะ ไปวัดเจอพระลูกครึ่งหล่อมากหลวงพ่อท่านยุ่งเพราะคนเข้าวัดวันอาทิตย์เยอะคะอาทิตย์หลังดิฉันไปอีก ดิฉันมาวันนี้อยากจะมาสอบถามหลวงพี่รูปหล่อนึกอย่างไรถึงมาบวชให้ไปใช้ชีวิตในทางโลกให้พอก่อนค่อยมาบวชเสียดายความหล่อ หลวงพ่อท่านว่า ไม่ต้องห่วงหรอกสึกไปแล้ว โล่งอกไปทีเรา น้องสาวเขาชอบเขาไปบล็อกการเมือง ดิฉันบอกไม่ชอบบล็อกของนักการเมืองดิฉันชอบชอบบล็อกนักเขียน ภาพเขาสละสหล่วยดี( เขียนไม่ถูกอีก)



โดย: บุญสิตา IP: 67.9.4.204 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:09:13 น.  

 
แหม...เดี๋ยวนี้ มีหนอนฯนอนดึกมาเป็นรปภ.ให้พ่อพเยียแล้วรึ เข้าที...เข้าที...

เผอิญคอมเมต์บ้านนี้ยาวนะ...คปป.เป็นยามที่ขี้เกียจเลยอำลาวงการเป็นเฝ้ากระทะทุเรียนดีก่า

เฮ้อ...เขาถึงว่านะผู้ชายเนี่ยยิ่งแก่ ยิ่งมีเสน่ห์ ดูเอาเถิดพ่อแม่พี่น้อง อีตอนเอารูปสมัยหนุ่มมาแปะ...ขนาดหล่อคั่กๆ จนสาวเหนือเสียจริตไปแล้วนะ
พอแก่ตัวผ่านวัยกลับกรี๊ดสนั่นทุ่งยิ่งกว่า...
ดูแต่บ้านกวีสีชมพูสิ...อื้อ..สาวน้อยเพียบ...

ดวงคนขึ้นลิฟท์ตึกใบหยกรุ่นปะภาพจตุคามเนี่ยทำยังไงก็เรียกลงชั้นล่างไม่ไหวนะ.......

โว้ว...แดดออก!!!!!!

ไปแล้ว...ไปแล้ว....นี่แหละสวรรค์ในอกตน...
แดดออกบ้านปลายฟ้า...ในฤดูวสันต์...คือสวรรค์ดีๆนี่เอง




โดย: ปลายแปรง วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:40:34 น.  

 
สวัสดีค่ะ..คุณโดม..

ไม่ได้เข้ามาทักทายหลายวัน แต่ยานาก็เข้ามาเยี่ยมเงียบๆ
ทุกวันค่ะ..เห็นคนเยอะๆเลยเกิดอาการ " กลัว " ขึ้นมา
อย่างไม่ทราบเหตุผล..ว่าเพราะอะไร? แต่ก็แว๊บเข้า-ออก
บ้านโน้น บ้านนี้ประจำค่ะ...

ตามมารยาทแล้วควรจะทักทายเจ้าของบ้านก่อน..แต่เหตุผล ก็อย่างที่บอกให้ทราบนั่นแหละค่ะ...

พักนี้สมองไม่มีความกระตือรือร้น เลยค่ะ..เฉื่อยชามาก
อยากนอนอย่างเดียว..แต่ก็ยังไม่อยากไปพบหมอ..
เพราะ " กลัว " อีกนั่นแหละ

สักพักคงดีขึ้นค่ะ...


โดย: ยานา IP: 61.7.173.200 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:13:48 น.  

 
สวัสดีครับคุณชินจัง


เป็นเรื่องเหลือเชื่อเหมือนกันนะครับที่อินเตอร์เน็ตทำให้ผมได้มาพบเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันมา 20 กว่าปีแล้ว

ตอนแรกกลั้นใจว่าจะไม่ไปตอบจดหมายคุณปะการังสักหนึ่งสัปดาห์ พอได้อ่านแล้วก็อดไม่ได้ ต้องรีบเข้าไปตอบเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้

แล้วเดี๋ยวจะไปเที่ยวกาน่าที่บล็อกคุณนะครับ

สวัสดีครับนกแสงตะวัน


ขอบคุณนะครับที่เข้ามาชี้แจงเรื่องเสียงหัวเราะของสาวอีสาน

ไม่รู้ว่าที่ "บ้านชบาฉาย" จะเป็นอย่างไรบ้างนะ

เพราะเกิดความรู้สึกกอยากเขียนจดหมายคุยกันในลักษณะนั้น แต่ก็ตามสบายๆ นี่ขนาดว่าจะไปตอบให้ล่าช้าหน่อย เมื่อเห็นจดหมายคุณปะการังแล้วก็อดรีบไปตอบไม่ได้


สวัสดีจ้ะหนอนนอนดึก

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องเจ้าชายน้อย

จริงๆพ่อพเยียไม่ได้เป็นคนจำอะไรแม่นหรอก เป็นบางเรื่องบางอย่างเท่านั้นแหละจ้า

รูปเจ้าชายน้อย สวยมาก ไปเอามาจากไหนน่ะ

วันก่อนถ่ายรูป "เจ้าชายโรแมนติค" มา ว่าจะเอามาให้ดูก็ยังไม่ได้โอกาสเสียที (เกี่ยวกันไหมเนี่ยะ)



สวัสดีครับคุณทะเล

ชื่อชบาฉายไม่รู้จะแปลว่าอย่างไรดี เพราะเป็นชื่อเฉพาะที่ตั้งขึ้นมา ไม่ได้ลองเปิดดูในพจนานุกรม หากจะแปลจริงๆก็น่าจะได้

แต่ที่ผมตั้งชื่อบล็อกนั้นว่า "ชบาฉาย" ก็เพราะชอบชื่อนี้
ชบาเฉยๆดูเชยๆเก่าๆ แต่พอเติมคำว่าฉายเข้าไปแล้วสวยงามทันสมัยขึ้นมาทันที อานุภาพของคำภาษาไทยช่างมหัศจรรย์จริงๆ

แต่ผมจะบอกที่มาเสียหน่อยว่าที่ผมตั้งชื่อนี้ขึ้นมา ความจริงแล้วผมไม่ได้เป็นคนต้นคิดคำนี้ขึ้นมาหรอก ชื่อนี้อยู่ในใจผมมานาน ถ้าความจำผมไม่คลาดเคลื่อน ชื่อนี้เป็นชื่อของลูกสาวนักเขียนคนหนึ่ง คือยุพา ลำเพา เธอเคยให้สัมภาษณ์หรือพูดไว้ที่ไหนสักแห่งว่าเธอมีลูกสาวชื่อ "ชบาฉาย"

ผมเลยจำชื่อนี้ติดมาอยู่ในความทรงจำว่าชื่อนี้เพราะและเก๋ดี แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้นำไปใช้เป็นชื่อตัวละครเสียที เมื่อมีคนให้ผมตั้งชื่อบล็อกให้ ผมก็เลยตั้งชื่อนี้ให้เธอ

และบังเอิญอย่างยิ่งที่คุณปะการังที่เข้ามาเขียนจดหมายถึงผมในบล็อกชบาฉายนี้ บอกว่านางเอกในนิยายของเขาชื่อชบาฉาย และก็เป็นเรื่องบังเอิญอย่างเหลือเชื่อที่เรามาเขียนจดหมายคุยกันที่บล็อกชบาฉาย ซึ่งเป็นที่เดียวกัน

ความจริงก็มีด้วยประการฉะนี้แหละครับ

สวัสดีครับคุณfilmgus

ขอบคุณครับที่ส่งข่าวให้ทราบ
ขอให้มีความสุขกับการถ่ายรูป
ที่ทำอยู่นะครับ




สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า



แหมตีความเพลงเก่งจริงๆนะหนูตะเบบูญ่า

แต่ตีความเป็นนามธรรมหรือตีความเป็นดวงดาวอะไร
ก็ไม่สนุกเท่ากับตีความว่าตัวเองเป็นนางฟ้าตรงๆหรอก
เพราะไม่ว่าจะเป็นอะไรที่ไหนอย่างไร
ก็ต้องเป็น "นางฟ้า" ของใครสักคนบ้างหรอกน่า

เพลงของศักดิ์สิริเพลงนี้ พ่อพเยียว่าเป็นเพลงรักที่ลึกซึ้ง
มากกว่าพูดถึง "นางฟ้า" ส่วนตัว เท่านั้น
ทั้งเนื้อทำนองเสียงร้อง (โป๊ะเชะ โดนใจๆ)
เป็นเพลงที่ฟังซ้ำได้ไม่เบื่อ

เมื่อวานคุยกันกับเจ่าของเพลงจนหูชาเลย เรื่องเพลงแล้วก็เรื่องอื่นๆด้วย

สวัสดีครับแม่น้องนิก

เวลาอ่านขวัญเรือนให้จอห์นฟัง แม่น้องนิกอ่านเป็นภาษาไทยหรือว่าแปลเป็นภาษาอังกฤษครับ

เรื่องกางเกงยีนส์ไม่ต้องซื้อให้อีกหรอกครับ
ขอบคุณมาก เพราะตอนนี้ผมมีกางเกงยีนส์เหลือใส่แล้วครับ ขนาดแบ่งให้คนอื่นไปบ้างแล้วนะยังเหลือใส่

อีกอย่างเวลาซื้อกางเกงยีนส์โดยไม่ทดลองใส่ก่อน เป็นเรื่องยากมากๆที่จะสวมใส่ได้พอดี ส่วนตัวที่แม่น้องนิกส่งมาให้แล้วผมชอบใส่และพอดีนี่ผมว่าฟลุ้คจริงๆ


สวัสดีคับคุณบุญสิตา

อ๋อ เวลามีความเหงาแล้วเก็บไว้ในใจนี่เอง

แปลกเหมือนกันนะ ผมเป็นคนไม่ค่อยเหงากับเขาเลย
นานมากแล้วที่ไม่รู้สึกเหงา


สวัสดีจ้ะปลายแปรง

เป็นไงตกลง..ตกลงเป็นไง..เรื่องที่เขาขอลูกสาวกันน่ะ

พ่อยกให้หรือเปล่า...อย่าเอ็ดไปนะ...

แล้วค่อยมาบอกเงียบๆก็ได้

แหมพูดชมว่าหล่ออย่างโน้นอย่างนี้

อยากได้อะไรก็บอกมานะ ถ้าจัดได้จะจัดให้



สวัสดีครับคุณยานา


ไม่เป็นไรครับบ้านนี้สบายๆ
ไม่ต้องเกรงใจ ทักเพื่อนๆก็ได้
ไม่ทักเจ้าของบ้านก็ไม่น้อยใจหรอก แค่คลิกเข้ามดูก็ยินดีแล้ว

พ่อพเยียเองยังเคยเข้าไปดูบ้านอื่นโดยไม่ทิ้งคอมเม้นท์ไว้เลยก็บ่อยเหมือนกัน


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:38:14 น.  

 
น่าสนใจมากๆ ค่ะ
เดี๋ยวคงได้อ่านค่ะ ขวัญเรือน
ส่วนชบาฉาย จะติดตามไปอ่านแน่นอนค่ะ


โดย: การ์เกด IP: 61.91.32.205 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:07:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ อาโดม

มีแต่คนเรียกว่านางมารร้ายสิค่ะ ไม่เคยเป็นนางฟ้ากับเขาเลย แต่ก็เหมาะแล้วค่ะ เพราะหนูคงเป็นนางฟ้าผู้แสนดีไม่ไหว ปากว่ามือถึงออก (อิอิอิ)

ถึงจะเป็นนางมารร้ายแต่ก้เป็นคนดีแค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหมค่ะคุณอา


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:58:19 น.  

 
สวัสดีบ่ายวันอาทิตย์ค่ะ

เจ้าชายโรแมนติก...รีบเอารูปมาลงเร็ว ๆ เถอะค่ะ แฟน ๆ รอจะแย่แล้ว

ตอนนี้ กำลังทำงานอยู่ค่ะ ก็พักยก มาพูดคุย และอีกทางหนึ่งก็กำลังฟังรายการ "ฉันรักวันอาทิตย์" ของคุณจิตรกร บุษบา ชอบรายการนี้มากเลยค่ะ

วันนี้กำลังเล่าเรื่องการจะจัดทัวร์ไปเที่ยวพม่า ทำให้คิดถึงเรื่อง "รอนแรมนอนหนาว เดือนดาวต่างไต้" ของพ่อพเยียค่ะ แต่ทัวร์หนนี้ของกลุ่มคุณจิตรกร (กำลังจะไป) ไม่ได้แวะที่พระธาตุอินทร์แขวน เพราะมันไกลค่ะ แต่บอกว่า ไม่ต้องห่วง ทางพม่าเขาจะแจกภาพพระธาตุอินทร์แขวนให้ลูกทัวร์ทุกคน (30 คน) เอาไว้บูชา ก็เท่ากับได้ไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวนและมีกลับไปบูชาที่บ้านด้วย
อีกทั้งยังพูดถึงการสวมรองเท้าไปเที่ยวว่าต้องเป็นรองเท้าคู่ที่สะดวกถอด อะไรทำนองนี้ (นี่ก็นึกถึงตอนที่พ่อพเยียเคยพูดถึงในงานขียน)

ขำตรงที่เขาพูดคุยมาถึงตอนที่ว่าไปพระธาตุอะไรสักแห่งนี่ล่ะ แล้วก็ห้ามผู้หญิงขึ้นไป บอกว่า คุณสุภาพสตรีไหว้อธิษฐานแล้วก็ฝากผมกะคุณ...(ผู้จัดทัวร์ที่มาพูดคุยในรายการ) ขึ้นไปก็แล้วกัน แล้วคุณจิตรกร บูษบา ก็พูดด้วยอารมณ์ขันว่า เอ๊ะ แล้วนี่เขาจะอนุญาตให้เราทั้งสองขึ้นไปได้หรือเปล่านะ เพราะไอ้เรามันกึ่ง ๆ อยู่ ว่าแล้วก็หัวหัวเราะกันอย่างเปิดเผย

บ่ายวันอาทิตย์ หนอนฯ มักทำงานไปพร้อมกับเสียงของคุณจิตรกรที่มีอะไร ๆ ดี ๆ มาเล่าสู่กันฟังในรายการเยอะค่ะ (ไม่น่าเชื่อเลยนะ) กระทั่งการแนะนำหนังสือดี ๆ น่าอ่าน ในบางสัปดาห์เรียกว่าน่าสนใจมาก

ใคร ๆ ก็ว่า ได้ฟังเสียง อ่านงานเขียนของเขาก็พอ อย่าเห็นตัวจริงเลย เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกอ่ะค่ะ

อ้อ...รูปเจ้าชายน้อยหาไม่ยากหรอกค่ะ เพราะแม้เจ้าชายน้อยจะไม่มีชีวิตอยู่ในโลกความจริง แต่ก็มีแฟนคลับเยอะมาก ๆ เลย


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:04:58 น.  

 
ขอโทษค่ะ
ชื่อรายการที่คุณจิตรกร บุษบา จัด
ชื่อ "ฉันรักวันหยุด" ค่ะ (ขอแก้ไข)
สถานีวิทยุชุมชน เอฟเอ็ม 92.25 13.00-17.00 น.


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:08:34 น.  

 
แหม..อยากฝันว่างูรัดอะ ทำไงดี พ่อพเยีย..

หากถูกหวยด้วยกัน ถือว่าฝันดีหละกัน
แม้จะดีไม่เท่าฝันเห็นงู..อะ

ในภาพพ่อพเยียดูเท่ห์ ดูไม่แก่เท่าอายุ อิอิ
ตอนแรกนึกว่าขึ้นปกนะนี่


โดย: วีดวาด IP: 58.147.119.155 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:22:53 น.  

 
สวัสดีค่ะ ทุกๆๆๆๆๆๆๆ ท่าน

พี่โดม คะ เห็นแล้วนะขวัญเรือนเล่มนี้ เมื่อวานไปร้านหนังสือมาแล้วค่ะ

คุณหนอนฯ คะ
เรื่องประเทศพม่า จริงค่ะ ควรสวมรองเท้าที่ถอดง่าย ฮอลล์เคยไปมาแล้วค่ะ ทุกวัดของเขา ต้องถอดรองเท้า ถุงเท้า แม้กระทั่งถุงน่อง ยังใส่ไม่ได้เลย เขาเอาผ้าถุงมาให้สวม ถอดกางเกง เพื่อถอดถุงน่อง แล้วใส่กางเกง คืนผ้าถุง (คือตอนนั้นมันหนาวมากเลยใส่ถุงน่องแบบกางเกงไว้ข้างใน)
และที่สำคัญ วัดไทยเราถอดแค่เข้าโบสถ์ แต่วัดพม่า ต้องถอดตั้งแต่เหยียบที่ดินวัดเลย แหยงมาก เพราะมีน้ำหมากเปรอะๆ เลอะเทอะให้คอยระวัง --- ย้ำว่าจริงเลยค่ะ

คิดถึงทุกท่านนะคะ คุณยานา คุณแม่น้องนิก และทุกๆ ท่าน แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยค่ะ เลยไม่ได้มาหา


โดย: ฮอลล์ IP: 58.8.141.244 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:33:52 น.  

 
แวะมาขอเพลงนางฟ้าไปเก็บไปในบลอกค่ะ


โดย: filmgus วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:47:22 น.  

 
คุณโดมคะ อ่านไทยค่ะ คุณโดมท่าจะลืม
จอห์นเรียนเมืองไทยตั้งแต่เป็นนักเรียนAFS(เธอพูดใต้ได้นะคะ)
เรียนอนุปริญญาภาคภาษาไทยที่ธรรมศาสตร์
จบโท..เธอก็ทำงานที่เมืองไทยอีกตั้งหลายปี
ภาษาไทยเธอแตกฉานก่อนเจอแม่น้องนิกซะอีก
อ่านได้ ด่าได้ และไม่เคยลืมมาจนทุกวันนี้แหละค่ะ

แม่น้องนิกไม่เคยนึกกลัวเลยว่า นิกจะพูดไทยไม่ได้
แม้วันนี้จะเข้าใจบ้างไม่ได้บ้างก้ตาม ถ้าจอห์นสามารถ
เรียนรู้ได้ขนาดนี้ อิลูกนิกครึ่งไทยครึ่งฝรั่งต้องทำได้
เหมือนพ่อเขาแหละค่ะ ไม่งั้นจะมีเลือดไทยไปทำไม
รอให้เดินทางเองได้ซะก่อน จะแพ๊คขึ้นเครื่องบิน
ไปอยู่เมืองไทยตอนปิดเทอม ถ้าพูดไทยไม่ได้ก็อดกินไป

+++++++++++++++
คุณฮอลล์ค้า...คิดถึงเหมือนกันค่ะ
ทำงานมากๆ เดี๋ยวรวยนะคะ พักผ่อนบ้างก็ได้
แต่ความสวย น่ารัก คงไว้ให้ดีค่ะ
คุณฮอลล์ สวยนำไปก่อนแม่น้องนิกก็แล้วกัน


โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.170 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:25:10 น.  

 
( แก้คำผิดคะ)ดิฉันเขียนคำว่าภาพขอแก้เป็นภาษา ภาษานักเขียนมันงดงาม สละสลวย แปลกดี นะคะไม่เหงา ดิฉันถามคุณหมอคนไทยที่ดิฉันเลี้ยงลูกให้เธอเวลาเหงาทำอย่างไรแก บอกเหงาก็นอน ไปห้องสมุดมาคะ เขาก็ขายหนังสือเก่า คือหนังสือเบสเชลเรอร์เขาถูกมากคะอันละดอล สองดอลเก่ามาประมาณสี่ห้าปี อ่านเข้าใจแค่สามสิบเปอร์เชนต์เท่านั้นแหละ


โดย: บุญสิตา IP: 67.9.4.204 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:56:10 น.  

 
สวัสดีจ้ะการ์เกดคนเก่ง


จากจาริก รอมแรน มาเป็น การ์เกต์ ศรีปริญญาศิลป์

จาก "วัยหวาน" สู่ "มติชน สุดสัปดาห์"

นับว่าเป็นการเดินทางไกลและการเติบโตที่น่าชื่นชม

ทุกครั้งที่เปิดอ่าน คอลัมน์ "อาณาจักรใจ" (ปริมณฑลแห่งรัก) นึกย้อนหลังถึงเด็กสาวผมซอยสั้นที่รักการเขียนบทกวีและเรื่องสั้นเป็นชีวิตจิตใจ

นี่เวลาผ่านไปนานมากแล้ว - ขอแสดงความยินดีด้วยที่ได้เดินทางในเส้นทางที่รักและเลือก โดยเฉพาะได้เลือก อาณาจักรแห่งรักด้วยหัวใจตัวเองอย่างอิสระ


สวัสดีจ้ะหลานมัยดีนาห์

เรื่อง "นางฟ้า" "หรือ "มารร้าย" เนี่ยะนะ

เป็นภาวะที่ใครๆก็ต้องเคยเป็นกันมาหมดแหละ

ถ้าเป็นปุถชุนคนธรรมดา ก็อาจจะเคยเป็น "นางฟ้าชั่วคราว" มาบ้าง เวลาจิตใจดีๆหรือทำอะไรดีๆให้คนอื่นนั่นแหละ แต่ "ภาวะนางฟ้า" อาจไม่สถิตย์อยู่นานนัก


และก็บางทีอีกเช่นกันคนที่เคยเป็นนางฟ้าคนเดียวกันนี่แหละก็อาจเป็น "นางมารร้าย"ได้ ถ้าถึงยามร้ายๆขึ้นมา ลองนึกดูเถอะ แต่ละวันๆรากลายเป็นนางฟ้าและมารร้ายวันละกี่ครั้ง


สวัสดีจ้ะหนอน


พูดถึงคุณจิตรกร บุษบา ผมเคยได้ยินชื่อเธอมานานแล้ว แต่เพิ่งได้พบตัวจริงวันแรกที่งานศพของกนกพงศ์ สงสมพันธ์ ที่วัดในจังหวัดพัทลุง เธอก็เข้ามาทักทายด้วยความอ่อนน้อมและนุ่มนวล

และเมื่อไม่นานนี้ก็ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเธอในไทยโพสต์วันเสาร์ เธอเป็นคนเขียนหนังสือดี เขียนได้น่าอ่าน มีมุมมองที่แหลมคมกับชีวิต


ผมรู้สึกว่าเธอเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและนุ่มนวลคนหนึ่ง (ไม่ได้เคยสัมผัสตัวจริงของเธอนะครับ) เคยอ่านและฟังเธอให้สัมภาษณ์ ก็คาดเดาเอาว่าน่าจะประมาณนั้น จึงขอพาดพิงถึงเธอด้วยความชื่นชมในฐานะที่เป็นคนรักการอ่านและการเขียนเหมือนกันประการหนึ่ง

ส่วนรูปเจ้าชายโรแมนติค คนถ่ายรูปออกมาไม่พอใจเท่าไร เพราะถ่ายออกมาหล่อสู้ตัวจริงไม่ได้ ก็เลยลังเลที่จะเอาลงบล็อก

สวัสดีจ้ะวีดวาด

พ่อพเยียว่า ถ้าเป็นโสดมานานแล้วนี่ อยู่เป็นโสดตลอดไปดีกว่านะ

เพราะว่าเคยชินกับชีวิตที่อยู่คนเดียวมานาน อยู่กับพี่ อยู่กับแม่ ก็สนุกดี ไม่ปวดหัวดี เดี๋ยวแก่ๆจะย้ายบ้านไปอยู่เป็นเพื่อน

แต่ถ้าฝันว่างูรัดแล้วเป็นเรื่องขึ้นมา
ก็อาจจะแก่เร็วขึ้นนะจะบอกให้

และบางทีเป็นการ "แก่ขึ้นตามลำพัง" ด้วย
อยู่เป็นสาวโสดไปงั้นแหละ ดีแล้วจ้ะ

สวัสดีจ้ะฮอลล์

แล้วเปิดดูบทสัมภาษณ์คุณโสภาค สุวรรณหรือเปล่าล่ะ ?
เธอคือนักเขียนที่สุดยอดและยิ่งใหญ่จริงๆเลยนะ

รู้สึกจะมีรูปหนูฮอลล์อยู่ในรูปหมู่ด้วยนะ (น่าจะใช่นะที่ถ่ายในสมาคมนักเขียนแห่งใหม่น่ะ)

เป็นรูปที่ดูสวยกว่าตัวจริงเชียวแหละ

ช่างภาพมืออาชีพนี่เขาถ่ายรูปเก่งจริงๆนะ

เมื่อนึกถึงเมืองพม่าก็ยังประทับใจไม่หาย

คิดถึงลุงทิพย์ไกด์ชาวไทยใหญ่และ คิดถึง...ฯลฯ


สวัสดีครับคุณ filmgus

ด้วยความยินดีครับ
ได้ยินใครก็ไม่รู้บอกว่า..เพลงนี้เป็นเพลงรักที่ดีในรอบทศวรรษ

ตามปกติผมไม่ใช่นักฟังเพลงหรอกครับ แต่ก็ชอบเพลงนี้มาก


สวัสดีครับแม่น้องนิก

ลืมไปจริงๆครับว่าจอห์นพูดไทยได้
แต่จำหน้าตาของจอห์นได้ว่าเป็นคนรูปหล่อ


ใครอยากอ่านเรื่องโรม้านซ์ฝรั่งรูปหล่อกับสาวผมม้า
ต้องคลิกเข้าไปอ่านในคอลัมน์ "จันทร์ฉายในใจฉัน" เรื่อง"ต่างภาษารัก" ของแม่น้องนิก

เสียดายเหมือนกันนะอุตส่าห์รวบรวมเรื่องประทับใจจากคนโน้นคนนี้มาไว้ได้หลายเรื่อง แต่ทำไม่สำเร็จที่จะให้ปรากฏออกมาเป็นรูปเล่มได้ ก็เลยปล่อยทิ้งค้างไว้อย่างนั้น แต่ก็ยังดีที่ถือว่าได้ทำในสิ่งที่ต้องการทำไปแล้ว เดี๋ยวถ้านึกขยันขึ้นมาอาจจะลุกขึ้นมาทำเรื่องชุดนี้อีกก็ได้นะแม่น้องนิก



สวัสดีครับคุณบุญสิตา

โถ...คุณบุญสิตาน่ารักจังอุตส่าห์กลับเข้ามาแก้คำผิด เวลาพิมพ์ในบล็อกนี่ผมก็พิมพ์ผิดเป็นว่าเล่นเลยเหมือนกัน ถ้าไม่เสียความหมายจริงบางทีผมก็ปล่อยไป แต่ถ้าทำให้เสียความหมายแล้วละก็ผมก็อดเข้ามาแก้ไม่ได้

ว่าแต่คุณบุญสิตาเข้ามาแก้คำผิดงวดนี้ คุณต้องกลับมาแก้คำผิดอีก คุณรู้ไหมว่าคุณเขียนอะไรผิด (555)


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:40:59 น.  

 
เดินทางไกลจังพี่โดม
ไปถึงโอเคเนชั่น แล้วเจอเฮาได้ไงเนี่ย
คิดถึงนะคะ



โดย: ศิลป์ IP: 203.146.63.185 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:52:43 น.  

 
เพลงเพราะมากค่ะ แต่ทำไมไม่สามารถฟังได้ต่อเนื่อง

ตลอดเวลาที่อ่าน blog เหมือนเพลงมาลัยหญ้า เสียดายจัง

ขอบคุณ คุณหนอนฯกับพ่อพเยีย ที่ทำให้อยากกลับไปอ่าน

เจ้าชายน้อยซ้ำอีก


โดย: ยายเพิ้ง IP: 222.123.84.48 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:14:13 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่พ่อเพยีย..

ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง รวมทั้งกำลังใจให้ค่ะ
บล็อกชบาฉาย ชื่อน่าฟังค่ะ สักครู่จะตามไป

และขอบอก.. พี่โดมเท่ห์มาก
สงสัยต้องหาขวัญเรือนไปอ่านต่อบนรถซะแล้ว

คืนนี้แจมกลับรถไฟค่ะ.. กว่าจะถึงกระบี่ก็คงโน่น..เย็นวันจันทร์ หรือไม่ก็เช้าวันอังคาร

แล้วจะแวะมาอีกค่ะ


โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:45:53 น.  

 
Oho พี่โดม เดี๋ยวนี้ หล่อวัน หล่อคืน นะครับ


โดย: J IP: 203.154.114.253 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:04:49 น.  

 
สวัสดีจ้ะเงาศิลป์


แหมเอารูปตอนสาวๆสวยๆไปไว้ในบล็อกแทบจำไม่ได้แน่ะ
ซ้ำยังเปลี่ยนชื่ออีก ถ้าไม่เก่งตามไม่ถูกนะเนี่ยะ

โชคดีนะที่รู้ทัน ไม่งั้น !!!


สวัสดีครับคุณยายเพิ้ง

เพลงนี้ฟังแล้วก็ให้รู้สึกเคลิ้มไปตามๆกัน
ไม่ว่าคนเอามาให้ฟังหรือคนฟัง
ถ้าอยากฟังซ้ำก็กดตรง Repeat นั่นแหละครับ
ลองกดไปกดมาเดี๋ยวก็ได้ฟังครับ

ใครๆก็รักเจ้าชายน้อยกันทั้งนั้น


สวัสดีจ้ะสีน้ำฟ้า

ส่งหนังสือพี่เรืองรองไปให้เป็นคนสุดท้ายพร้อมกับคุณสเลเต

ทั้งหมดแจกไป 7 เล่ม (เพราะได้มาเพิ่มอีก)

ใครที่มีสิทธิ์ได้แล้วไม่ได้แจ้งมาได้นะครับ



สวัสดีครับคุณ J

คุณ ก้อ...พูด เกิ้น ไป้ !!

ผมไม่เชื่อคุณหรอก อื้อม์


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:05:06 น.  

 

ขอแสดงความยินดีกับอีกก้าวหนึ่งที่มั่นคงและศรัทธาของคุณโดมด้วยนะคะ
เสียดายที่ไม่ได้อยู่เมืองไทย ไม่งั้นคงได้อ่านเรื่องราวดีดีที่อบอุ่นของคุณโดมในหนังสือเล่มนี้อีก...

ปล. เพลงไพเราะมากๆ ชอบค่ะ


โดย: Htervo วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:57:30 น.  

 
สวัสดีจ๊ะคุณโดมและเพื่อนร่วมแก๊งทุกท่าน

วันนี้มีเรื่องมาเล่า

อย่างที่รู้ๆกันว่าอลันอยากพูดภาษาไทย แต่สอนเท่าไหร่ก็ไม่จำ สองอาทิตย์ก่อนขณะที่คุยกับยานา เขาเห็นยานาในจอ เขาอยากจะพูดด้วยแต่จำไม่ได้เลยถาม
ฉันว่าพูดไทยยังไง This lady is very beautiful พอฉันบอกไปเขาก็พูดผ่านไมโครโฟนว่า พูยิงคนนี้ ซวยมั๊กๆคับ
คำว่า ซวยมั๊กๆ พูดซ้ำแล้วซ้ำอีก จน ยานาหัวเราะ
ยังดีนะที่ยานาเขาเข้าใจ
ยานาตอบว่าเออใช่ กำลังซวยจริงๆ ก็เป็นมะเร็ง ไม่ซวยได้ไง


โดย: ป้าชุ IP: 172.209.138.49 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:00:39 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณโดม..

เพิ่งซื้อขวัญเรือนมา แต่ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ..เดี๋ยวคืนนี้
จะนอนอ่าน..แต่เห็นรูปคุณโดมแว๊บๆแล้ว ได้โชว์ให้ป้าชุดูด้วย..

ป้าชุ แกเนื้อเต้นเลย อยากอ่านมาก..กว่าจะได้อ่านสงสัย
ว่าต้องรอกลับมาโน่นแหละค่ะ..

ยานา ไม่เคยรู้จักคุณโดมเป็นการส่วนตัวมาก่อน..เพิ่งรูจักก็จากบล็อกนี่แหละ..

แล้วตอนนี้ก็รู้มาอีกข้อหนึ่งว่า คุณโดม เป็นนักเขียนที่มี
ชื่อเสียงมากคนหนึ่งเมืองไทย..

นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ..


โดย: ยานา IP: 61.7.173.195 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:15:35 น.  

 
คึกคักจังเลยค่ะ

คุณยานาพูดอย่างงี้ เดี๋ยวพ่อพเยียก็อิ่มแย่เลย "คุณโดมเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งของเมืองไทย"

ใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้ล่ะ แต่หนอนฯ ว่าพี่ท่านมีเพื่อนแยะอ่ะจ้ะ แม้ในช่วงที่พ่อพเยียเคยบอกว่าเป็นช่วงที่เขียนหนังสือไม่ออก ห่างหายจากงานเขียน แต่หนอนฯ ก็เห็นพี่เขายังอยู่ในแวดวงมีข่าวคราวปรากฏออกบ่อยค่ะ (แอบนินทาให้คุณยานาฟังน่ะ...อิ อิ)

ทั้งยานาและป้าชุมีอารมณ์ขันไม่แพ้กัน หนอนฯ คิดว่าอารมณ์ขันทำให้เราผ่อนคลายได้เยอะค่ะ

เป็นอันว่าหนอนฯ คงทักทายแฟนคลับพ่อพเยียไม่หมดครบทุกคนอ่ะค่ะ แต่ก็มาแวะอ่านเมนต์ของทุกคนเสมอแม้จะไม่ใช่เจ้าของบล็อกก็ตาม


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.177.98 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:33:31 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณโดม และทุกๆ คนจ้ะ

สบายดีนะจ้ะ ก็ทำหน้าหล่อ คิดว่าสบายดีนะจ้ะ ฮา เอิ๊ก ชมพี่เขาชะหน่อยเผื่อจะได้
รางวัลกับเขามั้ง เพิ่งอ่าน คอลัมน์ มานี-ชูใจ จบ คนบ้านนอกกว่าจะได้อ่าน โอ้โห้ เขาไปไหนกันหมดแล้ว

เพลงเพราะจังเลย ขออีกนิดหนึ่ง เนื้อนะ แถมหน่อยชิ (จะเอาไปหัดร้อง นะ นะ)


โดย: p tim IP: 222.123.87.251 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:02:39 น.  

 
สวัสดี พ่อพเยีย

ไม่ได้แวะมาหลายวัน คึกคักอักโขเลยเนาะ

ผมเพิ่งกลับมาจากนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 ก.ค. และกำลังจะลงไปอีก ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.)

ไปก่อนละครับ ต้องรีบนอนซะหน่อย เดี๋ยวตื่นไม่ทันเครื่องครับ


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:26:52 น.  

 
ขอบคุณค่ะ สำหรับคำตอบ ชื่อชบาฉาย เคยเจอตัวเป็นๆ ของคุณชบาฉาย และคุณแม่ของเธอ น่ารักมากๆทั้งคู่เลย
แอบเข้ามาอ่านคุณโดมเพราะ ปลื้ม ที่คุณโดมทำให้ชีวิตของคนๆหนึ่งมี ชีวิตที่มีความสุขขึ้นมา เท่มาก มากเลย อ่านความสุขของคุณปะการังแล้วรับรู้เลยว่า คุณโดมต้องยิ้มกว้างกว่า และมีความสุขมากกว่าแน่ๆ เลยเมื่ออ่านจดหมาย ฉบับแรกของบ้านชบาฉาย เพราะตัวเองไม่รู้จักเลย ทั้งคุณโดม และคุณปะการัง ยังยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวได้เลย จนต้องอยากรู้จัก เห็นหน้าเลย ไม่เคยคิดเขียน-คุยกับคนไม่รู้จัก เลย แต่คุณโดมเป็นคนที่.2 ค่ะ ที่อยากเขียนบอกว่า คุณน่ารักมากๆ คุณปะการังโชคดีจัง
...... ยินดีที่ได้บังเอิญพบนะค่ะ.......


โดย: ทะเล IP: 58.9.143.79 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:48:39 น.  

 
มีงอนค่ะ มีงอน หาว่าหนูไม่สวยล่ะเสะ
ถึงชมผู้ชายด้วยกันเองน่ะ


โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.226 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:33:00 น.  

 
สวัสดีครับคุณบุ๋ม

แวะไปดูทุ่งดอกไม้ของคุณมาแล้ว สวยมาก
ดีจังเลยที่คุณได้เดินทางไปในที่สวยๆงามๆ
ถ่ายรูปแล้วยังมีน้ำใจเอามาฝากคนอื่นอีก

ขอให้ความสุขจงสะท้อนกลับไปสู่ตัวคุณนะครับ


สวัสดีครับป้าชุ


อีกหน่อยป้าชุทำหนังสือรวมเล่มชื่อ "เรื่องตลกจากลุงอลัน"สักเล่มนะครับ

เรื่องตลกในชีวิตประจำวันระหว่างสาวไทยกับหนุ่มอังกฤษ

ขนาดคุณยานาเป็นมะเร็ง ลุงอลันยังชมว่าสวยเลย
สงสัยก่อนเป็นคุณยานาคงจะเป็นคนสวยมากไช่ไหมครับ ป้าชุ ?



สวัสดีครับคุณยานา

ต้องบอกคุณยานาก่อน เดี๋ยวจะเข้าใจผิด ผมไม่ใช่เป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยหรอกครับ (พูดจริงๆไม่ได้แกล้งถ่อมตัว)

นานทีปีหนจะมีหนังสือสัมภาษณ์สักครั้ง
และผลงานก็ไม่ได้ดีเด่นหรือมีมากมายอะไร
เรียกว่าได้จังหวะที่จะถูกสัมภาษณ์มาถึงแล้วนั่นแหละ

ถ้าจะพูดให้ถูกว่าผมคือนักเขียนคนหนึ่งในเมืองไทย นี่ไม่ผิดแน่

แต่ถ้าบอกว่ามีชื่อเสียงแล้วละก็ไม่หรอกครับ
ที่อธิบายนี่ไม่อยากให้คุณยานาเข้าใจผิด

นักเขียนดังๆเขาคงไม่มีเวลามาอัพบล็อกบ่อยๆหรือมาเม้นท์ตอบเพื่อนๆที่เข้ามาคุยอย่างผมหรอก (เขาเอาเวลาไปทำงานเขียนดีกว่า) นี่พูดเรื่องจริงนะครับไม่ได้ไปพูดจาประชดใครเข้า

เพียงแต่ตอนนี้ผมยังรู้สึกสนุกกับเรื่องเขียนบล็อกตอบบล็อกอยู่ผมก็เขียนไปตอบไป ผมเรียกว่าเป็น "ความสุขสายตรง" ไม่ซับซ้อนและไม่อ้อมค้อม

การได้เขียน ได้พูดคุยสื่อสารกับคนอื่นทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ได้รับรู้เรื่องราวของคนอื่นก็นับว่าเป็นความสุขเล็กๆอย่างหนึ่งของผม แต่ต้องไม่ถึงกับเสียงานเสียการที่ทำอยู่

อ่านบทสัมภาษณ์ของผมแล้วมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามีความเห็นก็เขียนมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ ถ้านึกสนุกอยากจะเล่า ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรครับ



สวัสดีจ้ะหนอน

มีชื่อ คือ โดม
มีเสียง คือ พูดได้ (แถมดังเสียด้วย)

ที่อธิบายให้คุณยานาฟังเยอะก็เพราะกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิดว่าพ่อพเยียเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยจริงๆ
ที่ผ่านมา โดม วุฒิชัย จะมีชื่อเสีย (ไม่มีง.งู)มากกว่า

แต่สำหรับวันนี้ อยากบอกว่าทำให้พ่อพเยียเชื่อเรื่อง "กรรม" (ที่แปลว่าการกระทำ)ชัดเจนขึ้น
และที่ยังมีความจริงอีกประการหนึ่งที่ติดตามเสมือนเงาก็คือ "วิบากกรรม" (แปลว่าผลของการกระทำ)
ทั้ง"กรรมและผลของกรรม" เป็นของคู่กัน

อธิบายให้เห็นภาพอย่างง่ายๆ(และอย่างหยาบๆไม่ลึกซึ้ง)ก็คือ ที่เขียนหนังสือได้และมีผลงานเล็กๆน้อยออกมา
ก็เพราะว่าเป็นผลจากการลงมือเขียนหนังสือนั่นแหละ
และเปลี่ยนแนวไปจากที่เคยเขียนแต่ก่อนตอนเป็นหนุ่ม ก็เพราะพฤติกรรมหรือการกระทำของเราเปลี่ยนไปจากเดิมๆที่เคยกระทำมา

สรุปว่า "พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ชีวิตจึงเปลี่ยนไป"นั่นแหละครับ

ถ้าชีวิตยังเวียนว่ายอยู่ในวงเหล้าอยู่เป็นประจำ อย่าว่าแต่เขียนหนังสือเลย แค่ตื่นขึ้นมาแล้วหาความสดชื่นแจ่มใสในชีวิตยังไม่ค่อยได้เลย เพราะเรามันดื่มไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมือง ก็คือต้องเมาเต็มที่นั่นแหละจึงจะหยุด

แต่ก็ดีแล้ว เพราะเมาอย่างสุดฤทธิ์มาแล้วนั่นแหละ จึงได้หยุดดื่มเสียได้

ชื่อเสียง ลาภยศ สรรเสริญ ก็อยู่ในหมวดโลกธรรม เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้หากจะมีก็มีได้ แต่ต้องมีให้เป็น มีแค่ไหนก็พอใจในแค่นั้น (อย่าไปตะกุยตะกายอยากมีมากขึ้น หรือพยายามทำให้มี) เมื่อถึงคราวจะไม่มีหรือหมดก็มองให้เป็นให้รู้เท่าทัน เพราะมันเป็นสัจธรรม ความจริงอันสูงสุด

ตราบใดที่เป็นปุถุชนอยู่ก็ย่อมที่จะรู้สึกยินดียินร้ายในเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของตัวเองไม่ได้ แต่ทำอย่างไรล่ะถึงจะให้เท่าทันที่สุด


สวัสดีครับคุณ p tim

ถ้าประมาณเมื่อวานซืน หรือเมื่อวานนี้ไม่ถือว่าช้าหรอก เพราะเป็นเล่มปักษ์หลัง เพราะวันที่ 15 เป็นเกณฑ์
แต่บางทีกทม.อาจจะวางแผงก่อนวันที่ 15

เพราะฉะนั้นอย่างนี้ต้องพูดว่า "ที่เชียงใหม่ไม่ได้ช้า แต่ที่กรุงเทพวางก่อนเท่านั้นเอง"

เรื่องเพลงนางฟ้า ใจไม่อยากให้เนื้อเลย
ต้องฟังตัวอย่างเสียงร้องก่อนว่าร้องเพลงผิดคีย์หรือเปล่า (5 5 5 ) เดี๋ยวจะทำเพลงเขาเพี้ยน



สวัสดีครับรักษ์

ถ้าผมไม่ติดวันที่ 25-29 เดือนนี้ผมอยากไปร่วมงานนักเขียนที่สมาคมนักเขียนจัดที่นครศรีธรรมราชด้วยจังเลย
จังหวะผมมีงานรออยู่ นานๆจะไม่ว่างกับเขาเสียที

แต่รักษ์คงไปทำงานกับแก้ว ลายทอง ใช่ไหมล่ะครับ ?


ขอให้สนุกและมีความสุขกับทุกอย่างที่ทำก็แล้วกันนะครับ

สวัสดีครับคุณทะเล


แหม...ช่างเป็นเรื่องบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆที่คุณรู้จัก คุณยุพา ลำเพา และเคยเห็น คุณ ชบาฉาย ลูกสาวของเธอ

นี่แสดงว่าความจำของผมยังใช้ได้ เพราะผ่านมานานมากแล้ว

คุณยุพา ลำเพา ไม่ทราบว่าเธอจะจำผมได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมว่าเธอจำผมไม่ได้หรอก เพราะพบกับเธอตั้งแต่ผมยังหนุ่มๆอยู่เลย เธอเป็นนักเขียนสาวเปรี้ยวในตอนนั้น แต่เธอรุ่นพี่ผมนะครับ

ผมเคยปลื้มเรื่องสั้นโรแมนติคของเธอ เธอเคยมาออฟฟิศที่ผมทำงานตอนที่ผมทำงานพิสูจน์อักษรอยู่ที่นิตยสาร "หนุ่มสาว"

ผมจำชื่อหนังสือของเธอได้เล่มหนึ่ง "ลมไหวใบไม้ครึ้ม"
(ผมปลื้มทนักเขียนผู้หญิงอีกคนสมัยที่ผมเริ่มหนุ่มก็คือ รยงค์ เวนุรักษ์ แต่คนนี้ผมไม่เคยเจอตัวจริงของเธอ เคยแต่อ่านงานแล้วก็แอบปลื้มในสมัยวัยรุ่นหนุ่ม)

คุณยุพา ลำเพา ปัจจุบันเธอทำงานเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข คุณคงรู้ชื่อจริงของเธอใช่ไหมล่ะ ผมจำได้ว่าชื่อจริงของเธอคืออะไร แต่เกรงว่าจะเสียมารยาทถ้าจะบอกชื่อจริงของเธอตรงนี้

ผมยังคิดถึงเรื่องสั้นของเธออยู่เลย

ที่คุณบอกว่า อ่านความสุขของคุณปะการังแล้วรับรู้เลยว่า คุณโดมต้องยิ้มกว้างกว่า และมีความสุขมากกว่าแน่ๆ เลยเมื่ออ่านจดหมาย ฉบับแรกของบ้านชบาฉาย เพราะตัวเองไม่รู้จักเลย ทั้งคุณโดม และคุณปะการัง ยังยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวได้เลย

ผมอยากสรุปแค่ประโยคของคุณที่ผมยกมานี้ ..ผมว่าคุณต้องเป็นคนเข้าใจชีวิตไม่น้อยทีเดียว
ว่างๆแวะเข้ามาคุยอีกนะครับ..ขอเชิญ


สวัสดีครับแม่น้องนิก


ที่ชมจอห์นว่าหล่อน่ะ เรื่องจริง
แต่ที่ไม่ได้ชมแม่น้องนิกว่าสวยก็เพราะละไว้ในฐานที่เข้าใจโดยทั่วกัน ว่าผู้หญิงผมม้านั้น ไม่ใช่ทุกคนจะไว้ทรงนี้ได้นะจะบอกให้ (ทรงอมตะนิรันดร์กาล)


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:57:58 น.  

 
สวัสดีค่ะ พ่อเพยีย

เพลงนางฟ้าของคุณศักดิ์ศิริ มีสมสืบ ไม่เคยได้ฟังค่ะ
เคยฟังแต่นางฟ้า ของคุณฤทธิพร อินสว่าง ซึ่งนัชจะชอบเป็นชีวิตจิตใจค่ะ เหตุเพราะว่าใครคนหนึ่งชอบเล่นกีตาร์และร้องให้ฟัง....บวกกับถ้อยคำหวานที่ยังก้องอยู่ในความทรงจำ เขาบอกว่านัชเป็นสายลมแห่งรักให้กับเขาค่ะ..อิอิ

เรื่องการเขียนจดหมายหากันผ่านบล็อค นับว่าน่าสนใจดีทีเดียวค่ะ...แต่นัชอยากเขียนจดหมายด้วยลายมือตัวเองมากว่าค่ะ...ทุกวันนี้ไม่รู้จะเขียนหาใครก็เขียนหาสามีในวันที่...หมางเมินค่ะ....เชื่อไหมคะว่าจดหมายช่วยประสานความหมางเมินให้กลายมาเป็นความอบอุ่นกลับคืนได้เสมอเลยค่ะ....

สำหรับ ห่างไกล ไม่ห่างกัน คิดว่าไปหาซื้อมาอ่านเองดีกว่าค่ะ...ไม่อยากอ่านฟรีน่ะค่ะ....

ขอบคุณนะคะ ที่แวะไปเยี่ยมเยียนบล็อคโน้นเรื่อยๆ....

ปล.เพลงฟังขาดๆหายๆนะคะ น่าจะเป็นที่บล็อคฝากเพลงนะคะ

นัช - นางฟ้าผู้มาเยือนค่ะ


โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:53:40 น.  

 
พูดจริงหรือปล่าวคะพ่อพเยีย
ไม่รู้จริงๆนะว่า..ไม่ใช่ทุกคนจะไว้ผมม้าได้
เพิ่งรู้จากพ่อพเยียนี่แหละค่ะ

อยากสวยเซะซี่อย่างคุณฮอลล์บ้าง หน้าก็ไม่ให้
ทรงอมตะนิรันดร์กาลนี่ เขาจำกัดไว้เฉพาะคนบางรุ่น
หรือปล่าวคะ

สวยไม่สวยก็ช่างมันเถอะค่ะ สามีบอกน่ารักทุกวัน
ก็ยังพอให้ชื่นใจ ว่าเรายังมีเสน่ห์อยู่นะคะ หรือเขาหลอกเราให้ตายใจก็ไม่รู้นิ กลัวไม่มีใครทำอาหารให้เธอกินไงคะ


โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.190 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:17:08 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณโดม..

อ่านหนังสือแล้วค่ะ..ทำให้รู้ว่าคุณโดมเป็นคนมีธรรมะใน
ใจคนหนึ่ง..

อาจจะเป็นเพราะชีวิตผ่านเรื่องต่างๆมากมาย คุณโดมเลยค้นพบสัจจะธรรม และเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมันได้
อย่างรวดเร็ว..

แต่ส่วนใหญ่วัยขนาดคุณโดม เท่าที่ยานาได้สัมผัสจาก
ชีวิตจริง ผู้ชายวัยนี้หลายคนมากที่มักจะกลับไปสู่โลก
กว้างอีกครั้งหนึ่ง..

นั่นก็คือ กลับไปกิน..ไปเที่ยวและเกี้ยวผู้หญิง เพราะใช้
ชีวิตแบบเรียบง่ายและเรียบร้อยมานาน.. ที่สำคัญทุกอย่างมีพร้อมหมดแล้ว..

ความรักลูกและภรรยา อาจจะมากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ
ไป แต่ความรักนั้นก็มีบางส่วนที่กลายเปลี่ยนเป็น ความห่วงใย..เป็นเพื่อน..เป็นผู้ที่เราไว้ใจและเข้าใจเรามากที่สุด
คนหนึ่งในชีวิตเรา..จะขาดคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้..เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว..

ยานาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผู้ชาย แต่ประสบการณ์ที่เคย
เป็นนักร้องมาก่อน ทำให้พบเจอผู้ชายที่มากิน มาเที่ยว
วัยประมาณเท่าคุณโดมเยอะมาก..

ทุกคนมีลูกที่น่ารัก..มีภรรยาที่แสนดี..มีครอบครัวที่อบอุ่น
แต่..อยู่ที่บ้าน..

และยานาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ในเมื่อเขามีพร้อมทุกอย่างแล้วเขายังต้องการอะไรเพิ่มอีก คำตอบก็คือ
เขาต้องการความแตกต่างอีกอย่างหนึ่ง..ที่ไม่ใช่บ้าน..
และภรรยาคนเดิม !!

แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ความต้องการที่อยากลิ้มลองของใหม่นั้น ในวันหนึ่งข้างหน้าครอบครัวที่ว่าอบอุ่น มีลูกที่น่ารั
มีภรรยาที่แสนดีนั้น จะยังคงดำเนินเหมือนเดิมหรือไม่

สัจจะธรรมที่ค้นพบเท่านั้น จะเป็นเครื่องเตือนสติเราได้
ดีที่สุด..

เหมือนสัจจะธรรมของคุณโดม ที่ว่า ภรรยาเห็นด้วยให้ทำงาน ลูกยินดี มีความภาคภูมิใจในตัวพ่อ...
เท่านี้ คุณโดม ก็อยู่อย่างมีความสุขแล้วล่ะค่ะ...


โดย: ยานา IP: 61.7.173.77 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:25:00 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม และมิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
------------------------------------------------------
"ปลูกความฝัน หว่านความหวัง
....................................
ได้เข้าใจความรัก ประจักษ์ความหมาย
....................................
รักษาใจ ดวงนี้ให้ดีงาม แล้วเธอจะกลับมา"

กับเนื้อเพลง เสียงร้อง ทำนองขับขาน
นั่งนิ่งฟังด้วยใจจดจ่อ ซึ้งตรึงใจเกินบรรยายจริง ๆ ค่ะ



โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:42:09 น.  

 
สวัสดีทุกๆคน

ขอบคุณพี่หนอนที่อยู่ในเมือง สำหรับหนังสือดีๆ อีกเล่ม ที่จะได้มาครอบครอง การเลือกหาหนังสืออ่าน ก็อาศัยจากการอ่านที่คนอื่นเขาแนะนำ เขาคุยกันนี่แหละ

เจ้าชายน้อย คงเป็นหนังสืออีกเล่มที่ลูกชาย ( น้องปัน) คงชอบ ตอนนี้อ่านเรื่อง ความสุขของกะทิอยู่

ขวัญเรือนฉบับล่าสุด ก็ซื้อมาแล้ว เอ๊ะ..กลายเป็นหนังสือที่ต้องซื้อทุกปักษ์เลยหรือ ...อ่านแล้ว รูปใหญ่กว่าตัวหนังสือซะอีก


โดย: แม่ปัน-ปอง IP: 125.25.170.207 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:04:27 น.  

 
สวัสดีครับคุณนัช

ขออนุญาตเรียกคุณว่า "นัช" อย่างที่คุณใช้แทนตัวเองก็แล้วกันนะครับ
เพลง นางฟ้า ของคุณฤทธิพร อินสว่าง ผมก็พอจำได้ แต่จำเนื้อหาไม่ได้ แต่จำได้ท่อนที่ร้องว่า "นางฟ้า"

ตอนนี้ได้ข่าวว่าคุณฤทธิพรก็สนใจเรื่องธรรมะ ไม่ได้รู้จักกันส่วนตัวหรอก แต่อ่านพบในบทกวี และในบทกวีของเขามีธรรมะอยู่ในนั้นเสมอๆ นานๆจะได้เห็นบทกวีเขาตีพิมพ์ใน "มติชน สุดสัปดาห์ "สักครั้ง แต่ก็สัมผัสได้ว่าเป็นบทกวีที่มีพลัง

คุณนัชนี่ต้องเป็นคนโรแมนติคแน่ๆเลย ดูจากบล็อกของคุณและสิ่งที่คุณเขียน

ผมก็เป็นคนที่ชอบเขียนจดหมาย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ใช้ลายมือเขียนจดหมายมานานแล้ว ส่วนใหญ่แค่จ่าหน้าซอง
ใช้อีเมล์บ้าง เขียนผ่านบล็อกบ้าง ผมมองว่าอีเมล์หรือบล็อก ก็คือเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ย่อมให้ความรู้สึกแตกต่างจากกระดาษเขียนจดหมายและซองกระดาษที่เดินทางมาที่ตู้ไปรษณีย์หน้าบ้าน

แต่ถึงที่สุดแล้วผมว่า สิ่งสำคัญคือสิ่งที่เราสื่อสารออกไปถึงผู้รับนั่นแหละ คือหัวใจของจดหมายอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเขียนด้วยวิธีใดก็ตาม


ครับ ! นัช - นางฟ้าผู้มาเยือน (คุณมีสิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้)


สวีสดีครับแม่น้องนิก


คือผมว่าคนไว้ผมม้าแล้วเหมาะแล้วมีน้อย
โดยเฉพาะที่เลยวัยนักเรียนเลยวัยรุ่นไปแล้ว
แต่คุณแมวไว้แล้วรับกับใบหน้าน่ะ
ผมม้ามีอยู่ทุกยุคทุกสมัยไม่เคยตกเทรนด์

ที่ประเทศไทยในวงการบันเทิงมีผูกขาดอยู่สองคน คือป้าจิ๊ กับคุณม้า อรนภา สองคนนี่เธอก็ไว้ผมม้าแล้วเข้ากับใบหน้า

สวัสดีครับคุณยานา

เรื่องเที่ยวเตร่ดื่มกิน ผมประพฤติปฏิบัติมาตามกำลังและด้วยใจรักและหลงในกิเลสประเภทนี้มานานนับตั้งแต่วัยหนุ่ม เพิ่งเลิกรามาสี่ห้าปี ถือว่าน้อยนัก

และไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกันว่าจะเลิกได้
เพราะไม่เคยคิดจะเลิกนั่นเอง
เพราะคิดว่ามันสนุกสนานยิ่งกว่าสิ่งใด

ที่เลิกเหล้าเมายานี่ไม่ใช่เพราะว่าอยากเป็นคนดีหรือมีใครบังคับขอร้องให้เลิกนะครับ

ไม่ได้อยากเป็นคนดีหรืออยากให้ใครชม
แต่ที่เลิกเพราะทุกวันนี้ "เห็นโทษของมันแล้ว"
และสิ่งที่เคยชอบและหลงใหลในชีวิตที่ผ่านมามันนำความทุกข์มาให้

แต่ก่อนเรามีแต่ "เป็นทุกข์" แต่ไม่เคย "เห็นทุกข์"
ทั้งชีวิตก็ดำเนินไปตามยถากรรมแล้วแต่สิ่งที่เข้ามากระทบ กระเด็นกระดอน วิ่งไปทางโน้นทางนี้ที

ทุกวันนี้ก็พยายามตั้งอยู่ในความไม่ประมาท แต่ก็ใช่จะเก่งกาจรู้เท่าทันไมปหมดทุกเรื่อง

แต่ถ้าเรื่องเหล้าเรื่องเมาพอกันที หย่าขาดจากกันแน่นอน



สวัสดีจ้ะสาวบ้านนอก

อยากฝากเพลงกล่อมเด็กทางภาคอีสานน่ะ
ร้องได้หรือเปล่า ?
เพราะมาก เชียวนะ เคยฟังแล้วประทับใจมาก


สวัสดีแม่ปัน-ปอง

หนังสือขวัญเรือนน่ะเหมาะกับครอบครัวอยู่แล้ว
รีบเป็นสมาชิกประจำเสียทีเถอะน่า !!


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:49:29 น.  

 
เฮ้อ...ฝนตกหนัก
กลับบ้านไม่ได้เลย
(ตอนมีคนมาชวนกลับ...ก็ไม่ไปกะเค้า...เลยต้องนั่งหง่าว...อยู่หน้าจอ...รอฝนซา ฟ้าใส แต่มืด...ซึ่งก็ยังไม่มีวี่แววค่ะ)

คุณยานาจ๊ะ
อธิบายเรื่องราวของชายที่เริ่มเข้าสู่วัยทองได้อย่างเข้าใจ ชอบความเห็นนี้ค่ะ

แม่ปันปองจ๊ะ
หนังสือเล่มนี้ อ่านได้ ไม่ต้องเร่งร้อน ค่อย ๆ ไปแล้วจะซึมซับรายละเอียดได้ดีค่ะ
เด็กเล็กอาจจะยังไม่เข้าใจ
ค่อยเป็นค่อยไป (เพราะผู้ใหญ่บางคนก็อ่านแล้วไม่เข้าใจก็มีค่ะ)
แต่หนอนฯ อยากบอกว่า เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่งดงาม ทั้งทางด้านความคิด ภาษา และรูปประกอบค่ะ
อ่านแล้วเป็นอย่างไร ค่อยคุยกันต่อได้ค่ะ

พ่อพเยียจ๊ะ
หนอนฯ ชอบเพลงและเสียงร้องของฤทธิพร อินทร์สว่าง ค่ะ หลาย ๆ เพลง เช่น เพลง "ฉันรู้ควรรักเธออย่างไร... " จำได้ว่าตอนนั้นคลอดลูกคนแรก อยู่บ้านฟังเพลง นอกจากเสียงเพลงของคุณจุ้ยแล้ว ยังมีเสียงเพลงของคุณฤทธิพร เป็นเพื่อน ตลอดระยะเวลาที่ลาคลอดด้วยแหละ พูดแล้วก็คิดถึงงานเพลงของคุณฤทธิพรจัง ไม่ได้ฟังมานานแล้วล่ะ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 202.28.180.201 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:19:50 น.  

 
คุณพ่อพเยียคะ..หนูมีเรื่องขอร้องค่ะ

ถ้าพ่อพเยียได้คุยกับคุณศักดิ์สิริอีก
ช่วยกรุณาถามให้ทีว่า นอกจากเพลงชุดจินตนาการและรู้ว่าความรักมีพลัง 2 ชุดนี้แล้ว
เพลงอื่นๆของคุณศักดิ์สิริโดยเฉพาะเพลงที่แต่งให้รายการทุ่งแสงตะวันหลายสิบเพลง
หรืออาจร่วมร้อยเพลง(ได้ยินมาเช่นนั้น)
หนูจะหาฟังหาซื้อได้ที่ไหน หรือจะมีหนทางครอบครองได้อย่างไร
รบกวนหน่อยนะคะ
นอกจากอยากมีไว้ฟังเองแล้ว อยากให้ลูกสาวฟังด้วย
ที่มีอยู่ 20 เพลงในตอนนี้ เขาก็ชอบค่ะ
ค่อยๆปลูกฝัง อยากให้เขารู้จักฟังเพลงดีๆงดงามค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

สวัสดีทุกท่านนะคะ

คุณยานา ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ รักษาสุขภาพกายใจนะคะ
ขอส่งใจให้กำลังใจคุณยานาเต็มที่เลยค่ะ



โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.63.236 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:30:25 น.  

 
สวัสดีจ้ะคุณหนอนเมืองกรุง


ตอนแรกนึกว่าเพลง "ฉันรู้ควรรักเธออย่างไร" เป็นเพลงของคุณจุ้ยเสียอีก
แต่เป็นคุณหนอนเขียนข้อความนี้ก็เลยไม่กล้าแย้ง

เพราะว่ารู้ว่าคุรหนอนเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคุณจุ้ย

แต่จำเพลงของฤทธิพร ได้อีกเพลงคือ "ศิลปิน-ศิลปลอม"

ที่ร้องได้อย่างถึงอารมณ์


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.23.10 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:32:04 น.  

 
ตะเบบูญ่าจ๊ะ
ได้รับนิทานไว้เรียบร้อยแล้ว
แต่ช่วงนี้พี่หนอนฯ จะยังยุ่ง ๆ อยู่จ้ะ
ประกอบกับช่วงนี้หนูแป้งมีพันธกิจที่บ้านลาดพร้าว
เลยยังไม่มีโอกาสได้อ่านนิทานของน้าตะเบบูญ่า
และยังไม่ได้เห็นรูปของลุงพ่อพเยีย
ถ้าได้อ่านแล้วไม่ลืมคุยให้ฟัง

ส่วนเรื่องเพลงนั้น
พี่หนอนฯ ได้ถามคุณจุ้ยไปแล้ว
แต่ว่าแกยังไม่ได้ตอบเรื่องนี้มา
เอ้อ...ผ่านพ่อพเยียนั่น
สายด่วน...ดีลิฟเวอรี่ออเดอร์เลยแหละ
น่าจะได้รับคำตอบรวดเร็วทันใจ
ต้องขอโทษที่ทำให้ต้องรอคอยคำตอบนานจ้า


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 202.28.180.201 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:34:59 น.  

 
พ่อพเยีย

นกตามๆ มาอ่าน Blog นี้หลายครั้ง แต่ไม่เคยได้ลงชื่อไว้เลย พอมาอ่าน Comment ของคุณยานา ถูกใจมากเลยนะคะ ขอมาแจมด้วยแล้วกัน

ด้วยหน้าที่การงานที่ทำให้พบปะกับผู้คน ทำให้นกเจอะเจอชายที่เมื่อเริ่มจะสูงวัยขึ้นหลายต่อหลายคน ไม่ได้แค่ กิน เที่ยว นะคะ แต่เริ่มที่จะหาบ้านหลังเล็ก ๆ บ้านหลังน้อย ๆ ไว้อิงใจ เฮ้อ (ขอถอนหายใจแทนแล้วกันค่ะ)

ขอบคุณพ่อพเยียค่ะ เข้ามาที่นี่ได้อ่านอะไรต่อมิอะไร นอกจากความเพลิดเพลินแล้ว ยังมีความรู้สึกดี ๆ เพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:45:47 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณโดม....แวะมาทักทายในวันยุ่งๆของบุ๋มค่ะ พอดีกำลังจะเดินทางไปต่างเมืองอีก 3 สัปดาห์ค่ะ เลยแวะมาบอกคุณโดมไว้ก่อนว่า อาจจะไม่ได้เข้าเน็ตและไม่ได้แวะมาพูดคุยกับคุณโดมนานหน่อยนะคะ ...

บุ๋มออกเดินทางวันเสาร์นี้แล้วค่ะ อาจจะยุ่งๆกับการจัดข้าวของด้วย ...แต่ยังระลึกถึงเสมอเลยค่ะ ...กลับมาแล้วจะมาเคาะประตูบ้านทันทีเลย ...

ขอให้คุณโดมและครอบครัวมีความสุขทุกวันเลยนะคะ .....


โดย: Htervo วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:04:03 น.  

 
ม า เ รี ย น เ ชิ ญ พี่ โ ด ม
ไ ป กิ น ข น ม กี่ จ้ า ง จ้ะ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:43:03 น.  

 
สวัสดีค่ะ...นักเขียนคนดัง
ได้อ่านบทสัมภาษณ์ในขวัญเรือนแล้วได้ข้อคิดและสัจจธรรมในชีวิตอีกมาก วันนี้แวะมาเยี่ยมเยือนและชวนไปเที่ยวใต้ด้วยกัน (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส )ออกจากสายใต้วันที่ 19 กค. 50 เวลา 17.00 น.กลับวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ค. 50 สนใจแจ้งด้วยนะคะ ถ้าไม่ไปก็จะพยายามเอารูปมาฝาก ไม่รู้จะถ่ายได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเค้าไม่ค่อยยอมให้ถ่ายรูปซักเท่าไร เวลาถ่ายรูป ก็จะมีแต่คนยืนจ้องดู ทำให้กลัว ไม่ค่อยกล้าถ่ายมากนัก แต่ก็จะพยายามค่ะ


โดย: สนต้องลม IP: 222.123.152.93 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:49:48 น.  

 
เวลามาอ่านบล็อกคุณพ่อพเยีย กับคุณชบาฉาย ทำให้รู้สึกว่า ไม่ว่ากี่สิบปี ความเป็นเพื่อนไม่ห่างกันเลย ตัวหนังสือนี่มีพลังนะคะ จู่ๆ ก็ทำให้มาพบกันด้วยตัวหนังสือ


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:32:49 น.  

 
ความบังเอิญหลายอย่างที่เกิดขึ้น จากคำว่า "ชบาฉาย" มีมากมายเหลือเกิน แต่ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ เรายิ้มออกทั้งนั้นเลย ตั้งแต่ความบังเอิญอย่างเหลือเชื่อระหว่างคุณโดมกับคุณปะการังที่ได้คุยกัน และมีบ้านชบาฉายขึ้นมา และการที่ ทะเล บังเอิญ มาเจอคุณโดมก็เพราะคำว่า "ชบาฉาย" เหมือนกัน แต่อย่างไรยังเขินและเรื่องค่อนข้างยาวยุ่งอยู่ แต่รับประกันว่าคุณโดมต้องบอกอีกหนว่า บังเอิญอย่างเหลือเชื่ออีกครั้งแนๆ ขอไว้ค่อยเล่านะค่ะ

เคยเจอคุณ ยุพา ลำเพา (เธอยังเป็นสาวเปี้ยว สวยงาม อยู่) กับ คุณชบาฉาย เพราะความบังเอิญ จากคำว่า "ชบาฉาย" อีกนั้นแหละ ไม่ได้รู้จักเลยสักนิด แต่เธอเข้ามาทักทายเพราะ คำว่า "ชบาฉาย" อีกแล้ว....ได้คุยกันเล็กน้อย ในวันนั้น ครั้งเดียว จึงไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว..แต่เธอและคุณชบาฉายน่ารักค่ะ อยากพบอีกเช่นกันหากมีโอกาส เพราะรู้สึกดูเธอพิเศษดี

แล้วจะแวะเข้ามาแอบ งับๆความคิดดีๆ จากการโต้ตอบจดหมายคุณโดมนะค่ะ ขอบคุณค่ะ



โดย: ทะเล IP: 58.9.139.140 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:37:59 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่โดม แม่น้องนิก ป้าชุ ยานา ฯลฯ (แบบว่าเมื่อยลูกตาแล้วค่ะ)

เข้ามาอ่านค่ะ และชอบที่พี่โดมบอกมากเลยค่ะ...


.....'รู้สึกจะมีรูปหนูฮอลล์อยู่ในรูปหมู่ด้วยนะ (น่าจะใช่นะที่ถ่ายในสมาคมนักเขียนแห่งใหม่น่ะ)
เป็นรูปที่ดูสวยกว่าตัวจริงเชียวแหละ
ช่างภาพมืออาชีพนี่เขาถ่ายรูปเก่งจริงๆนะ'....


ช่ายย....เรื่องความสวยนี่ต้องโทษช่างภาพค่ะ
โทษตัวเองไม่ได้เลย จริงๆ

อืมมม...คนที่จะเชิญไปงานเครือข่ายนักเขียน เค้าชื่ออะไรนะคะ เบอร์โทร ด้วย สมุดที่จดไว้หายยกเล่มเลยค่ะ
หามาหลายวันแล้ว...
(พรุ่งนี้จะเข้ามาหาคำตอบ หรือโทรหาค่ะ)


โดย: ฮอลล์ IP: 58.8.133.53 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:05:21 น.  

 
แอบยิ้มกับคำว่า เลยวัยเรียนกับวัยรุ่นไปแล้ว ค่ะ

ขำคุณฮอลล์ค่ะพ่อพเยีย ที่ว่าบอกว่าความสวยนี่
ต้องโทษช่างถ่ายรูปที่ถ่ายออกมาได้สวย
นึกถึงตอนที่พ่อพเยียถ่ายรูปแม่น้องนิกแล้วอัดให้
ทั้งอัลบั้ม ที่แม่น้องนิกชมว่า ถ่ายรูปได้สวยกว่าตัวจริง
ทุกวันนี้ยังดูไม่รู้เบื่อเลยค่ะ กะว่าถ้าได้ไปจะให้พ่อพเยีย
ถ่ายรูปแบบไร้แก้วน้ำบังหน้าซะหน่อยนึง



โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.210 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:30:01 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่านที่อ่านตรงนี้...

ตอนนี้กลายเป็นงานประจำไปแล้ว ตื่นมาก็มาเปิดบล็อกดูก่อน...ก่อนที่จะทำงานอย่างอื่นต่อไป

เช้านี้ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เสียงกบเขียดระงม
เพราะเมื่อคืนฝนตกตั้งแต่ตอนเย็น

(แหม...ได้เขียนหนังสือ สมใจจริงๆนะคุณโดม)

เพียงแต่เขียนบล็อกไม่มีค่าเรื่องเท่านั้นเอง (5 5 5)



สวัสดีจ้ะหนูตะเบบูญ่า

เดี๋ยวจะลองถามคุณศักดิ์สิริดูให้นะครับ

แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าแกจะไม่รู้หรอกว่า เพลงแกมีขายที่ไหนบ้าง

เพราะแกแต่งเพลง ร้องเพลง อย่างเดียวเลย

พอถามจะหาซื้อที่ไหนได้บ้าง

"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"

แต่ก็ไม่แน่หรอก จะลองถามให้เพื่อตะเบบูญ่า


สวัสดครับคุณหทัยชนก

อันที่จริงผมแอบอ่านกลอนที่คุณเขียนที่บ้านกวีสีชมพูอยู่บ่อยๆ แตทว่าผมไม่ถนัดเรื่องกลอน ก็เลยไม่ได้ร่วมแจม

ถ้าพ่อผมยังมีชีวิตอยู่ผมจะต้องทำบล็อกให้พ่อผมมาต่อกลอนกับพี่บูลย์ กวีบ้านสีชมพูแน่เลย

เพราะพ่อผมชอบเรื่องโคลงกลอนมากขนาดแต่งเป็นนิราศสั้นๆไว้หลายเรื่องเหมือนกัน ผมยังเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก

เรื่องที่คุณบอกว่า...


"ด้วยหน้าที่การงานที่ทำให้พบปะกับผู้คน ทำให้นกเจอะเจอชายที่เมื่อเริ่มจะสูงวัยขึ้นหลายต่อหลายคน ไม่ได้แค่ กิน เที่ยว นะคะ แต่เริ่มที่จะหาบ้านหลังเล็ก ๆ บ้านหลังน้อย ๆ ไว้อิงใจ เฮ้อ (ขอถอนหายใจแทนแล้วกันค่ะ)"

เราพูดแบบเป็นกลางๆกันนะครับ โดยไม่ต้องเอาเรื่องเพศหญิงหรือชายเป็นที่ตั้งก็คือ "ผู้ชายสูงวัย" ที่คุณตั้งข้อสังเกตนั้น จะมีบ้านเล็กบ้านน้อยไม่ได้เลย ถ้า "ผู้หญิง" คนนั้นไม่ตกลงใจร่วมมือด้วย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

ไม่ว่าจะเกิดจากความต้องการความสะดวกสบาย เพราะผู้ชายในวัยนี้อาจจะทำงานทำการสร้างฐานะมาได้ระดับหนึ่งแล้ว อาจจะมีเหลือเผื่อแผ่นอกบ้านได้ หรืออาจจะเกิดจากกรณี "รักซ้อน" ที่มาพบกับคนที่ตัวเองคิดว่าใช่ แต่เหลื่อมเวลาไปหลายปี ก็ปล่อยให้เกิดกรณีรักซ้อนขึ้นอีก

ปัจจุบันในสังคมบ้านเรามีแนวโน้มจะมีรักซ้อนกันตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่ว่าจะเรียกชื่อให้ฟังดูเบาๆว่า "กิ๊ก"

ไม่รู้ใครจะแปลความหมายของคำว่า "กิ๊ก" อย่างไรก็แล้วแต่ แต่ผมมองว่า นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของรักซ้อนหรือการนอกใจ หรืออาจจะไม่ใช่ความรักหรอก แต่คือว่ามีอยู่คนหนึ่งแล้วยังไม่พอน่ะครับ เลยอยากมีอีก หรืออาจจะที่มีอยู่แล้วเกิดความเบื่อ หรือมีอยู่แล้วไม่ถูกใจ อะไรประมาณนี้ ก็เลยหาเสริมไว้

ความรักประเภทนี้อยู่ในกิเลสตระกูล "โลภ" ครับ !
ใครโลภมากโลภน้อยก็เลือก "เป็นทุกข์มาก-เป็นทุกข์น้อย" กันได้ตามอัธยาศัย

นี่ก็เป็นเพียงทัศนะหนึ่งจากผมเท่านั้นนะครับ (ไม่ซีเรียส)

ด้วยความยินดีที่คุณหทัยชนกเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่บล็อกนี้

สวัสดีครับคุณบุ๋ม

ขอบคุณครับที่มาส่งข่าว
ขอให้เดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุขนะครับ


สวัสดีครับคุณสนต้องลม

อย่ามาชวนเล่นๆนะครับคนนี้ เดี๋ยวไปจริง
แต่ช่วงนี้ถ้าไปไหน ก็เพราะยังไม่ว่างเท่านั้นเอง
นึกอย่างไรถึงเลือกไปเที่ยวที่นั่นในเวลานี้ครับ ?

สวัสดีครับคุณชินจัง

คุณปะการังยังมีเรื่องน่าสนใจอีกมากมาย
จดหมายฉบับนี้ที่เขาเขียนเรื่องได้แต่เพลงร่วมกับคุณเต๋อ - เรวัติ พุทธินันท์ ก็สนุกและมีความหลังน่าประทับใจ

ผมรู้สึกดีใจจริงๆที่เห็นเรื่องเล่าของเขาผ่านตัวหนังสือมาให้พวกเราได้อ่านกัน


กาน่า กาเนียน สบายดีนะครับ ?


สวัสดีครับคุณทะเล

คุณทะเล นี่....มีขยักเว้นไว้อีก ทำให้ชวนติดตามและอยากรู้ว่าคุณได้พบกับคุณยุพา ลำเพากับคุณชบาฉายได้อย่างไรนะ

คำว่า"บังเอิญ" เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยได้ใช้แล้ว แต่ไม่มีคำอื่นเรียกก็ใช้คำว่าบังเอิญไปพลางๆก่อน เพราะผมเชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า "ทุกสิ่งเกิดขึ้นแต่เหตุ"

เพียงแต่เราอาจจะไม่รู้ที่มาที่ไปของมันเท่านั้นเอง แต่โดยทั่วไปเมื่อใครพูดคำว่าบังเอิญผมก็เข้าใจได้ครับ แต่โดยส่วนตัวนั้นมีความเชื่อว่า "ทุกสิ่งเกิดขึ้นแต่เหตุ" เพราะมีสิ่งนี้จึงเกิดสิ่งนี้

ทำไมเราจึงพบกับบางคนแค่ถามทางว่า "สุขาไปทางไหนครับ ?" จากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกเลย

บางคนได้พบกันตั้งแต่สมัยเป็นเด็กแล้ว เมื่อโตขึ้นมาแล้วก็ไม่ได้พบกันอีกเลย

บางคนพบกันแล้วก็คบหาเป็นเพื่อนกันตลอดไป

บางคนพบกันครั้งแรกก็เป็นคนรักกันเลย

บางคนพบกันแล้วต่อมาก็ได้อยู่ด้วยกัน

บางคนพบกันแรกๆเป็นเพื่อนกันตั้งนาน ต่อๆมาก็กลายเป็นคนรักกันแต่งงานกัน

บางคนพบกันครั้งเดียวก็ฆ่ากันเลยก็มี

ฯลฯ

นี่ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไรหรอกครับ แต่เป็นเรื่องที่เข้าทำนองว่า "ทุกสิ่งเกิดขึ้นแต่เหตุ" ทั้งสิ้น

คุณทะเลครับ คุณทิ้งความฉงนไว้ที่บล็อกนี้ อย่าลืมกลัยมาคลี่คลายนะครับว่า "ความบังเอิญ"ที่เกิดขึ้นจากคำว่าชบาฉายของคุณนั้นเป็นอย่างไร ผมจะรอฟังครับ




สวัสดีจ้ะฮอลล์


ยืนยันคนนี้พูดจริงจ้ะ
เพราะเวลาพ่อพเยียถ่ายรูปฮออลล์ออกมา อย่างมากก็สวยเท่าตัวจริง ไม่เกินกว่านั้น
แต่ลองไปดูรูปที่ขวัญเรือนดูสิ ดูผ่องขาว สวยกว่าตัวจริงๆ

หรืออาจจะเป็นเพราะคุณภาพของกล้องและฝีมือของช่างภาพมืออาชีพสามารถเก็บความสวยมาอย่างละเอียดก็ไม่รู้นะ

แหม..เวลาบอกว่าตัวจริงสวยกว่าในรูปน่ะพอฟังได้
แต่เวลาบอกว่ารูปสวยกว่าตัวจริง ชักยังไง ? (5 5 5)


สวัสดีครับแม่น้องนิก

ตั้งแต่มีระบบดิจตอลและคอมพิวเตอร์ตกแต่งภาพนี่
ไม่มีใครถ่ายรูปไม่สวยอีกแล้วนะ

วันนั้นที่ถ่ายแม่น้องนิก รู้สึกจะเป็นฟิล์มสไลด์ใช่ไหมครับ

แสงไม่ค่อยมี เพราะในร้าน แต่องค์ประกอบของภาพอาจจะเกะกะไปน่อย
ถ้ามาเมืองไทยแล้วได้พบกันจะถ่ายรูปให้ด้วยความยินดีครับ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:20:13 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณโดมและเพื่อนชาวบล็อก
อ่านของแต่ละท่านก็นั่งหัวเราะ ขัวญเรือนเล่มล่าสุดยังไม่มาเลยคะ เห็นคุณหนอนเห็นคุณมาก่อนถ้าดิฉันเคยเห็นคุณมาก่อน( คิดเอาเองนะคะว่าจะทักอย่างไร) มีพี่คนไทยชื่อพี่เด่นเห็นเจ้าลูกชายแพททริกเป็นไม่ได้แกจะพูดว่า มาหาพ่อนะลูกดิฉันจะต้องรีบพูดว่าพี่เด่นนะห้ามพูดนะเดี๋ยวแพรททริกดำเหมือนพี่ แพรททริกอายุห้าขวบพูดไทยได้เวลาพูดกับดิฉัน มามี้พูดภาษาอักกฤษไม่ได้ต้องอธิบายมาเป็นภาษาไทยอันที่แกไม่ได้ แกจะแสดงภาษากายดู


โดย: บุญสิตา IP: 67.9.4.204 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:51:56 น.  

 
พี่โดม พี่หนอมเขานินทาพี่ในประชาไทน่ะ
ลงรูปสุดหล่อด้วย
ตามไปดูเร้ว))))))


โดย: เงาศิลป์ IP: 203.146.63.185 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:35:25 น.  

 


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:04:20 น.  

 
สวัสดีครับคุณบุญสิตา

วันนี้ขณะที่เคาะแป้นคีย์บอร์ดที่ริมหน้าต่างนี่
ฝนตก ฟ้าครึ้มตลอดวัน

นั่งทำงานก็ยังไม่เสร็จเลยแวะมาทักทายคุณก่อนแล้วเดี๋ยวจะไปทำงานต่อน่ะครับ

ว่าแต่คุณมีลูกชายชื่อแพทริก อายุ 5 ขวบใช่ไหม ?

ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยะ นึกว่ามีแต่เฉพาะคนโต


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:15:06 น.  

 
สวัสดีทุกๆคน..เพราะรู้ว่า ทุกวันต้องอ่านทุกเม้นท์

พี่โดม..เชื่อไหม..หลังจากเจอคุณปะการัง และคุณปะการังรีเทิร์นกลับมา why ทำไมเราไม่ย้อนกลับ ไปร่วมรำลึกความหลังบ้าง

ว่าแล้วก็โทรหาพี่ตะวันที่รถไฟดนตรี โทรไปที่บ้าน เบอร์โทรถูกเปลี่ยนมือ ก็เลยไปทิ้งเบอร์ให้โทรกลับมาหา แล้ววันนี้...พี่ตะวันโทรมา พี่เค้ายังจำความหลังได้ทุกเรื่อง จำชื่อคุณณรงค์ฤทธิ์ ได้

และแถมบอกว่า รูปงานแต่งพี่โดม ที่ถ่ายกับพี่เค้า ยังเก็บไว้ในลิ้นชัก พี่ตะวันฝากความคิดถึงมาถึงแฟนพี่โดมด้วยนะ พี่เค้าบอกว่า ยินดีที่จะคุยกันต่อ เบอร์มือถือพี่เค้าเปิด 24 ชม.

ว่าแล้ว...ก็อดโฆษณาต่อไม่ได้...ให้พี่เค้าไปหาอ่านขวัญเรือนเล่มใหม่เอาเอง และจะให้แฟนพี่โดมโทรกลับไปคุยกับเค้าด้วย

ลูกค้ามาแล้ว...ทำงานต่อ



โดย: แม่ปัน-ปอง IP: 125.25.164.131 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:12:54 น.  

 
สวัสดีค่ะ ทุกๆท่าน

มีเวลาได้อ่านทุกคอมเมนท์และที่คุณพ่อพเยียตอบ
สนุกดีค่ะ


โดย: filmgus IP: 203.156.43.219 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:27:23 น.  

 
ประกาศ!!

ผู้ที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้ กรุณาเข้ามารายงานตัวด้วยค่ะ..

1. คุณ ปลายแปรง

2. คุณ ฮอลล์

3.คุณ ตะเบบูญ่า

4. ป้า ชุ

5. คุณ หนอนเมืองกรุงฯ และ ทุกคนที่มีชื่อหนอนนำหน้า

6. คุณ สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น

****ฯ ล ฯ *****

ยานา มานั่งรออ่าน คอมเมนท์ค่ะ...


โดย: ยานา IP: 61.7.173.166 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:55:37 น.  

 
สวัสดีจ๊ะคุณโดมที่กำลังฮ็อทสุดๆ
มาแล้วจ้า....

มาปิดประกาศไว้หน้าบ้านเขา
เจ้าของบ้านเขาอนุญาติแล้วเหรอคุณนาย
วันนี้เป็นอะไร.....ลืมกินยาหรือไง
หรือว่าจะคัดเลือกขวัญใจประจำบล็อก
งานนี้ฉันคงแก่เกินไปแล้วล่ะ เจ๊ ยานาเอ๊ย...




โดย: ป้าชุ IP: 172.206.30.20 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:07:16 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่โดม
เพลงเพราะดีนะคะ เพิ่งฟังเป็นครั้งแรกค่ะ
ได้อ่านที่พี่สัมภาษณ์ในขวัญเรือนแล้วนะคะ


โดย: ภัก IP: 202.44.70.50 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:04:24 น.  

 
พ่อพเยีย
แวะมาอ่าน Comment ที่สนุกสนาน มีชีวิตชีวานะคะ ขอบคุณที่ตอบและทักทายกันค่ะ

"เราพูดแบบเป็นกลางๆกันนะครับ โดยไม่ต้องเอาเรื่องเพศหญิงหรือชายเป็นที่ตั้งก็คือ "ผู้ชายสูงวัย" ที่คุณตั้งข้อสังเกตนั้น จะมีบ้านเล็กบ้านน้อยไม่ได้เลย ถ้า "ผู้หญิง" คนนั้นไม่ตกลงใจร่วมมือด้วย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

ไม่ว่าจะเกิดจากความต้องการความสะดวกสบาย เพราะผู้ชายในวัยนี้อาจจะทำงานทำการสร้างฐานะมาได้ระดับหนึ่งแล้ว อาจจะมีเหลือเผื่อแผ่นอกบ้านได้ หรืออาจจะเกิดจากกรณี "รักซ้อน" ที่มาพบกับคนที่ตัวเองคิดว่าใช่ แต่เหลื่อมเวลาไปหลายปี ก็ปล่อยให้เกิดกรณีรักซ้อนขึ้นอีก"

ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายหญิงหรอกนะคะ แต่เท่าที่นกเคยเห็น(ซึ่งอาจจะเห็นน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับหลายๆ ท่านในห้องนี้) การเริ่มมักจะเป็นฝ่ายชาย แต่ก็ไม่ได้ค้านอะไรกับพ่อพเยียนะคะ สำหรับตัวเองแล้วกำลังคิดว่า ถ้าผู้คนในโลกนี้เพียงแค่ยึดถือศีล 5 ...โลกก็สุข สงบ อย่างที่สุดแล้วค่ะ..

จาก link ที่พ่อพเยียนำมาวาง
"เขาทำให้ผมรู้สึกงุนงงและแปลกใจมาก ๆ ที่เขาได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากผู้ชายที่ชอบดื่ม ชอบเที่ยวกลางคืน ช่างพูดช่างเจรจาและค่อนข้างเจ้าชู้ กลับกลายไปเป็นคนที่สนใจธรรมะธรรมโมไปได้อย่างไร"

ชื่นชมและยินดีด้วยนะคะ ที่พ่อพเยียเป็นสุขกับวิถีชีวิตในปัจจุบันที่ตนดำรงค่ะ

ขอบคุณนะคะที่อ่านกลอน นกสนุกมากที่ได้ต่อกลอนกับอาบูลย์ เป็นความเพลินใจอย่างมากค่ะ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:09:17 น.  

 
อย่างน้อยก็... บังเอิญที่ คุณโดม มีบ้าน"ชบาฉาย" ...
บังเอิญทีคุณปะการัง เข้ามาทักทาย ...บังเอิญที่คุณปะการังมี นางเอกชื่อ "ชบาฉาย" และก็เป็นเรื่องบังเอิญอย่างเหลือเชื่อที่โดม & ปะการังมาเขียนจดหมายคุยกันที่บล็อกชบาฉาย ซึ่งเป็นที่เดียวกัน :)
... บังเอิญที่ ทะเล มี.ความบังเอิญ กับ"ชบาฉาย"
.... บังเอิญ อย่างเหลือเชื่อ ที่รู้จัก คุณชบาฉาย และคุณยุพา เพราะ คำว่า "ชบาฉาย"
... บังเอิญได้รับรู้ สัมผัส ความรู้สึกดีๆ ที่คนๆหนึ่งหยิบยื่นความสุขให้คนอีกคนหนึ่ง แล้วตนเองก็มีความสุขด้วยนั้นมีจริง เพื่อพิสูจน์คำว่า มีความสุขบนความสุขของผู้อื่นนั้นเป็นสุขอันประเสริฐ ...
... บังเอิญ ที่รู้จัก คุณโดม โดย บังเอิญ...ที่ ชบาฉาย เพราะ ชบาฉาย


การที่พบกันตอนเด็กแล้วโตขึ้นไม่พบกันอีก เกิดแต่เหตุใดเล่า? การที่พบกันตอนโต ทั้งที่ไม่เคยเจอกันตอนเด็ก นั้นเกิดแต่เหตุใดเล่า ? ......
หากทุกสิ่งมีที่มา และที่ไป มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นกฎธรรมะธรรมชาติ ...

หากมิใช่เหตุ บังเอิญ ก็คงเหตุเพราะ ธรรมะจัดสรรค์


โดย: ทะเล IP: 58.9.136.69 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:50:21 น.  

 
ขอบคุณค่ะพี่โดม

คิดถึงยุพาลำเพาด้วยคนค่ะ เรามีหนังสือนะ ยังชอบเสมอ

อ่านบล็อกนี้ทีไร เพลิดเพลินกับเรื่องราวและผู้คนมากมายที่ว้อบแว้บไปมา

สวัสดีคุณหนอนเมืองกรุงด้วยค่ะ ไม่รู้จักกันแต่ก็คุ้นเคยกับคุณมากเชียวล่ะค่ะ (จากกระทู้ต่างๆ)


โดย: การ์เกด IP: 61.91.36.120 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:18:19 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม ไม่แน่ใจว่าจะจำผมได้หรือเปล่าน้องที่ให้ความเคารพพี่ยิ่งคนหนึ่ง เข้ามาอ่านโดยบังเอิญเห็นนามปากกาพ่อเพยียก็แน่ใจว่าต้องเป็นพี่ ผมดีใจที่เห็นพี่มีความสุขแม้เวลาจะผ่านไปนานพี่ก็ดูเหมือนเดิม กาลเวลาท่าจะทำอะไรพี่ไม่ได้จริงๆเห็นหนังสือปกใหม่ของพี่แล้วคงต้องติดตามหามาอ่านสักเล่ม ปัจจุบันผมมีหนังสือเล่มใหม่ชื่อเรื่องนิทานพ่อเล่าจะหาทางส่งไปให้พี่ให้ได้เพราะยังติดค้างไม่ได้ส่งนิยายเรื่องแรก(วันที่สูญหาย)ไปให้พี่เลยนี่ก็ผ่านมานับสิบปีแล้ว รบกวนพี่ส่งที่อยู่มาให้ผมทางเมล์ด้วยนะครับ ปัจจุบันผมทำงานเกี่ยวกับแวดวงบันเทิงและอีกหลายอย่าง ผมยังระลึกถึงความกรุณาของพี่ที่มีต่อผมในฐานะนักเขียนใหม่ในตอนนั้นได้เป็นอย่างดี ผมจะไม่มีวันลืมความกรุณาของพี่เลยทั้งในฐานะพี่แสนดีที่ร่วมดื่มกินในครั้งอดีตและในฐานะนักเขียนผู้เป็นเหมือนแรงดลใจทางหนึ่งแก่ผมครับ เมล์marklink@chaiyo.comหวังว่าคงได้รับเมล์จากพี่ครับ ขอให้พี่มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงตลอดไป ด้วยความเคารพยิ่ง มาร์ค


โดย: มาร์ค IP: 58.8.89.171 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:0:15:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.