>> Inglorious Basterds ..... หนังที่ผมนึกว่าจะมีแต่พวก Guru หนังเท่านั้นซะอีกชอบ ? <<
Inglorious Basterds ( สองดาวกว่าๆ )
......................เช่าหนังเรื่องนี้มาดูก่อนสิ้นปี เพื่อความยุติธรรมในการจัดอันดับ 10 หนังยอดเยี่ยมแห่งปี 2009 ในฐานะที่หนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังที่หลายๆคนยกย่องกันอย่างออกหน้า ผมก็เลยสงสัยว่าหนังมันดีจริงหรือเปล่า ? และถ้าเป็นหนังดี มันคือหนังดีในแนวทางใหน ? หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ ผมก็ให้คำตอบตัวเองได้ว่า หนังเรื่องนี้สมควรจะอยู่ในลิสท์ของผมหรือเปล่า !! จะว่าไปแล้ว เควนติน ทารานทิโน่ เป็นคนที่น่าอิจฉาและน่าชื่นชมในเวลาเดียวกันนะครับ คนๆนี้ถ้าเป็นคนไทยนะครับ รับประกันซ่อมฟรีได้เลยว่า คนไทยจะไม่มีวันชอบ มีแต่จะคอยด่า และคอยอิจฉาซะมากกว่า ?? และแน่นอนว่าถ้าเค้าเกิดเป็นคนไทย คงไม่มีวันได้ขึ้นเป็นผู้กำกับมีชื่อเสียงระดับโลกได้แน่นอน เพราะผมไม่เชื่อว่าเมืองไทยจะเป็นดินแดนแห่งความฝัน ผู้ที่มีความตั้งใจจะทำความฝันของตัวเองได้สำเร็จ ? ไม่งั้นคุณ บัณฑิต จะต้องถ่อไปถึง คาร์เนกี้ ฮอลล์เหรอ ( เกี่ยวมั้ย )
......................ทารานทิโน่ ผู้ก้าวมาจากชีวิตพนักงานร้านเช่าวีดีโอเล็กๆ พลิกชีวิตตัวเองด้วยการทำหนัง โดยใช้สไตล์ผสมผสาน ก๊อปคนโน้นบ้าง ก๊อปคนนั้นบ้าง เอามายำๆๆจำฉ่าย ผสมผสานหลายๆสไตล์เข้าด้วยกัน จนเป็นที่ยอมรับของทั้งฝั่งคนดู และฝ่ายนักวิจารณ์ รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิในศาสตร์ภาพยนตร์แทบทั้งโลก ? ลองคิดดูสิครับ ถ้าเปลี่ยนสถานภาพทารานทิโน่ จากฝรั่งเป็นคนไทย โอ้โฮยย เพื่อนร่วมชาติคงด่ากันจมธรณีไปแล้ว ด้วยข้อหาลอกเลียนของนอก แต่ถ้าเป็นฝรั่งทำ เราชาบู บูชา ถ้าเป็นคนไทยลอกฝรั่ง เราด่าไปเจ็ดชั่วโคตร ? ทำไม ? ฝรั่งเป็นพ่อ ? ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยอมรับว่า การได้รับแรงบันดาลใจ หรือพูดง่ายๆว่าการลอกนั่นแหละที่ ทารานทิโน่ ทำนั้น ถือว่าผสมผสานจนเล่าเรื่องออกมาได้สนุก และมีสไตล์เฉพาะตัวจริงๆ !! งานกำกับของทารานทิโน่ ถ้าจำไม่ผิด ผมได้ดูในโรงทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องล่าสุดนี่เองแหละครับ ~ ซึ่งถือว่าผมคาดการณ์ถูกต้อง
......................Inglorious Basterds ไม่ใช่หนังที่ต้องรสนิยมผมครับ ผมไม่ได้บอกว่าหนังมันไม่ดีนะครับ โดยภาพรวมหนังก็พอดูได้เพลินๆ แต่ไม่มีจุดใหนที่ทำให้ผมรู้สึกชื่นชม หนังใช้บทสนทนาเป็นตัวขับเคลื่อนล้วนๆ เป็นลายเซ็นของผู้กำกับคนนี้ไปแล้ว !! หนังเล่าเรื่องในแบบหนังตลกร้าย เสียดสี เต็มตัว ~ แถมยังเล่าเรื่องในสไตล์เหนือจริงอีกต่างหาก .. เพราะฉะนั้นในด้านการแสดง นักแสดงก็เลยต้องเล่นกับแบบโอเว่อร์ บ้าบอคอแตกกันถ้วนหน้า ผมไม่ได้มองว่าหนังมันจะต้องสมจริง หรือยืนบนพื้นฐานของเรียลลิสติกนะครับ แต่ถ้าจะบ้าบอแบบนี้ ก็ต้องทำให้เราเชื่อให้ได้ว่ามันบ้าสุดขีดจริงๆ เรารู้สึกบางจังหวะผู้กำกับพยายามเอาความสมจริงมาล้อเล่นให้เป็นเรื่องตลก แต่ผมดูแล้วมันไม่ตลกเท่าไหร่ เลยรู้สึกว่ามันขัดๆในหลายๆตอน การแบ่งหนังเป็น Chapter ก็ไม่ได้สร้างผลลัพธ์ทางความรู้สึกอะไรเท่าไหร่ เพราะมันก็คือเนื้อๆเดียวกันนั่นแหละ
......................หลายๆฉากในหนัง ผมเชื่อเลยว่า ทารานทิโน่ ต้องการให้คนดูขำ ไม่ว่าจะเป็นฉากฮิตเล่อร์บ้าจี้ , ฉากหนังซ้อนหนัง , ฉากเสียดสีบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ในพรรคนาซี , ความเพี้ยนของหน่วยล่านาซี , ตัวละครฮีโร่ที่ไม่ใช่ฮีโร่ , ฉากจับผิดกันในบาร์ใต้ดิน ฯลฯ ผมอยากรู้จริงๆว่าหลายๆคนที่ดูแล้วชื่นชมหนังเรื่องนี้ " ขำ " กับบรรดาสารพัดฉากเหล่านี้หรือไม่ ? หรือคุณๆชื่นชมหนังเรื่องนี้กันในแบบใหน ? ทารานทิโน่ ไกด์ไลน์ตั้งแต่ฉากแรกๆแล้วว่าหนังเรื่องนี้กูเล่าเรื่องแบบไม่เอาจริงว่ะ จะเอามืงฮาๆกันแบบนี้แหละ ซึ่งคนที่จะฮาได้ทั้งเรื่องจริงๆ น่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหนังจริงๆ หรือมีภูมิความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ช่วงนั้นอย่างละเอียดพอจริงๆ ไม่อย่างนั้นผมคิดว่าไม่ขำแน่นอนครับ ~ และถ้าคุณๆไม่ขำกับเรื่องราวแล้วไซร้ แปลว่าคุณไม่เข้าใจสาร รวมถึงหลงประเด็นที่ผู้กำกับกำลังนำเสนออย่างสุดกู่แล้ว อาจเป็นเพราะ ผู้กำกับสื่อสารไม่ดีพอ หรือไม่ก็คนดูฉลาดน้อยไปหน่อย ก็แค่นั้น
//www.pandagroup.pantown.com/

Create Date : 02 มกราคม 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 2 มกราคม 2553 14:12:40 น. |
Counter : 1710 Pageviews. |
|
 |
|