มนุษย์ปากร้าย
ปกติบลูเป็นคนเก็บตัวมากๆ มิตจังยังแปลกใจว่ายังไม่เปลี่ยนนิสัยอีกหรือ มิตจังคิดว่าพอบลูคบกับรินไปนานๆแล้ว บลูจะมีความเป็นมิตรมากขึ้นกับคนอื่น แต่จริงๆแล้วบลูดีขึ้นมาน้อยมากๆ นอกนั้นยังคงเหมือนเดิม ถ้าเปรียบเทียบ บลูอยู่บ้านมาเป็นปี เพิ่งจะมีเพื่อนบ้านที่รู้จักบลูแค่สองหลัง คือหลังซ้ายกับหลังขวา ส่วนรินแค่สองเดือนก็รู้จักไปครึ่งหมู่บ้านแล้ว
แถมปากบลูก็ยังคงเสียเช่นเดิม และไม่เคยกลัวที่จะพูดออกไป รินอ่านกระทู้หนึ่งในเวปพันทิป ที่รินเข้าบ่อยเพราะบลูบอกช่วยฝึกภาษา ทำให้นึกขึ้นได้ว่า บลูกับรินเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน
ในตอนนั้นรินไปกินอาหารบุปเฟ่ญี่ปุ่นกับบลู แล้วคงจะเป็นช่วงปิดการเรียน เลยมีนักเรียนมาทำงานพิเศษ ท่าทางขยันดี โต๊ะข้างๆรินเป็นนักศึกษา รินว่าสวยนะ ใส่ของแพงด้วย มากัน 5 คน พนักงานที่เป็นนักเรียนมักจะโดนต่อว่าจากกลุ่มนี้เสมอ ทำงานช้าบ้าง จะกินวันนี้นะน้อง ทำได้แค่นี้ระวังทั้งชีวิตจะเป็นได้แค่นี้นะ หรือไม่ก็มีสมองแค่นี้อย่าเรียนเลย หรือไม่ก็คำว่า "โง่"
รินรู้สึกว่าเขาใจร้ายจัง แต่บลูก็นิ่งๆไม่พูดอะไร ซักพักน้องที่โดนต่อว่าเรื่อยๆมาที่โต๊ะบลู เพราะบลูเรียกสั่งอาหารเพิ่ม ท่าทางเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ยังฝืนยิ้ม บลูสั่งอาหารที่ต้องการ แล้วพูดว่า " ไม่เป็นไรค่ะน้อง ทำดีแล้ว... คนบางคนเขาคิดว่าถ่อยแล้วเท่ห์ ทำตัวไฮโซแล้วนึกว่าจะข่มใครได้ ไม่ต้องไปสนใจพวกนี้หรอกค่ะ" จากนั้นบลูก็ถามชื่อน้องคนนั้น แล้วเขียนชมลงในใบคอมเพลน แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะเอาไปใส่กล่องให้
รินรู้สึกว่าน้องคนนั้นยิ้มเหมือนกับดีใจมาก ยกมือไหว้มือ ในขณะที่โต๊ะนั้นซึ่งอยู่ข้างๆเหมือนจะได้ยิน ซึ่งรินคิดว่าคงจะได้ยิน หันมาถามเลยว่า "ว่าใคร" บลูตอบกลับไป โดยที่รินไม่รู้ว่าด้วยอารมณ์ไหน เพราะน้ำเสียงเรียบมาก บลูตอบไปว่า "คิดว่าทั้งร้านเนี่ย นอกจากพวกคุณแล้ว จะมีใครทำกิริยาได้ถ่อยแบบนั้นอีกเหรอคะ... นี่ไม่รู้ตัวเลยเหรอคะว่าทำตัวต่ำแค่ไหน เรียนมหาวิทยาลัยเสียเปล่า มารยาทต่ำกว่ากรรมกรก่อสร้างบางคนอีก"
รินจำไม่ได้แล้วว่า พวกนั้นพูดอะไรกลับมาบ้าง แต่บลูพูดกลับไปว่า "ถ้าอยากจะมีเรื่องก็ได้เลยนะน้อง.. ไอ้เรื่องใช้กำลังชกต่อยเนี่ย...... ถนัด !!! ต่อให้ทั้งโต๊ะมารุม พี่ก็กระทืบได้ครบนะคะ"
สรุปคือ....ทุกอย่างอยู่ในความสงบ พวกนั้นก็ลุกไปจ่ายเงิน ส่วนบลูก็นังกินต่อ รินรู้สึกสงสารน้องที่ถูกว่า และพนักงานในร้านนั้นทุกคนมาก เพราะบลูสั่งบ่อย มาก กินจุมาก พนักงานต้องเดินมาเสริ์ฟอาหารหลายครั้งมาก
จริงๆแล้วรินไม่เห็นด้วยกับการกระทำของบลู แต่รินรู้ว่าบลูมีนิสัยที่จะไม่เคยดูถูกคนที่ตั้งใจจริง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม บลูจะไม่ดูถูกงานที่เขาทำ หรือสิ่งที่เขาทำ บลูบอกเสมอว่า.... "คุณค่าของพวกเขา..อยู่ที่พวกเขาไม่เคยท้อต่อการใช้ชีวิตของเขา" แต่ความใจดีของบลูก็จะเป็นแบบในกรณีนี้แหละ คือปลอบอะไรมากไม่เป็น แต่ก็พร้อมจะปกป้องเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้บุคลิคภายนอกของบลูจะดูไม่สนใจใครเท่าไร (แต่ก็เป็นแบบนั้นจริๆ)
บลูอาจจะอุดหนุนสินค้าจากคนแก่ คนพิการ แต่บลูไม่เคยให้เงินขอทาน แม้แต่ขอทานที่เล่นดนตรีเป็นวงบลูก็ไม่ให้ รินเคยเห็นบลูให้เงินคนมาขอเงิน ตอนพารินกินอาหารร้านค้าริมถนน บลูบอกว่า อยากกินอะไรให้สั่ง แต่เขาไม่เอา เขาบอกขอเป็นเงิน บลูเลยส่งให้ 25 สตางค์ (พกไว้ด้วย)
เขาคงมองบลูแบบเคืองๆ แต่คงไม่กล้าว่าอะไร เพราะบลูหน้าดุ ยิ่งใส่แว่นกันแดดด้วยยิ่งดูดุมาก ความจริงๆแล้วลึกๆบลูเป็นคนใจดี เพียงแต่ไม่กับทุกคน และบลูเป็นแบบ ถ้ายื่นมาช่วยแล้วไม่เอา บลูก็จะหดมือกลับเลย รินยังเคยคิดเลยวา ถ้าคนที่เขาอยากได้ แต่ปฏิเสธไว้ก่อนเพราะเกรงใจ คงจะอดแน่ๆ เพราะสำหรับบลู ถ้าให้แล้วไม่เอา บลูก็ไม่สน บลูถือว่าแสดงว่ายังพึ่งพาตัวเองได้
แต่ทั่วไปบลูไม่ค่อยช่วยเหลือใครหรอก เพราะบลูเก็บตัวมาก ทำงานเสร็จ บลูจะตรงดิ่งกลับบ้านทันที ไม่สนใจใคร ไม่มองอะไรมากนัก บางทีเดินเล่นกับรินในหมู่บ้าน รินบอกคนนี้อยู่แถวบ้านเรา บลูยังแปลกใจแล้วหันมาถามว่า "ใช่เหรอ" จะไม่ใช่ได้อย่างไร เขาผ่านหน้าบ้านทุกวัน รินยังรู้จัก
รินยังเคยคิดเลยว่า เกิดวันไหนบลูเข้าบ้านไม่ได้ ต้องปีนรั้วเข้ามา ข้างบ้านต้องแจ้งตำรวจแน่ นึกว่าขโมยเข้าบ้าน ........เพราะเขาไม่รู้จักบลู.........
จบแค่นี้ รินนึกไม่ออกแล้วว่าจะเขียนอะไรดี นอนฝันดีนะคะทุกคน おやすみなさい
Create Date : 18 กันยายน 2554 |
|
20 comments |
Last Update : 18 กันยายน 2554 23:21:41 น. |
Counter : 1227 Pageviews. |
|
|
|
ถึงอาจดูมีช่องว่างไว้สำหรับคนอื่น แต่ไม่มีกับคุณรินอยู่แล้วใช่ป่ะคะ
ความน่ารักของคุณรินคงจะ osmosis คุนบลูไปเรื่อยๆค่ะ
คุนสองคนน่ารักมากค่ะ