Lust , Caution : วิปริตรัก



เป็นเรื่องน่าตื่นตะลึงสำหรับผู้กำกับ Ang Lee ที่บุคลิกภายนอกดูสุภาพเรียบร้อย ใบหน้าอิ่มบุญและแววตาที่เป็นมิตร ประกอบรวมเป็นภาพลักษณ์ของคนซึ่งเปี่ยมไปด้วยความสุขุมคัมภีรภาพ แต่ฉากอันเป็นที่มาของเรต NC-17 ในอเมริกากับหนังเรื่องล่าสุดของเขา Lust , Caution อาจทำให้ผู้ชมต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่อีกครั้งถึงนิยามความเป็นใครสักคนที่ไม่อาจสรุปออกมาได้เพียงแค่การชายตามอง

ไม่ได้จะบอกว่า Ang Lee เป็นคนเพี้ยนหรือผิดปกติแต่อย่างใด ผู้เขียนเพียงแค่ทึ่งในจินตนาการของเขา ที่เข้าถึงพฤติกรรมซาดิสม์ของคนอย่างถึงแก่น เหมือนครั้งนึงเคยนั่งอยู่ในใจของคนที่รู้สึกเช่นนั้น ? และ ณ จุดอันแสนลึกลับซับซ้อนของความวิปริต Ang Lee ยังมองเห็นว่าคงมีความรู้สึกที่เรียกว่า “รัก” หลงเหลืออยู่



ฉากร่วมรักที่กินเวลานานและออกมาในลีลาที่หลุดโลก คล้ายกายกรรมจีนผสมกามสูตรภาคพิสดาร (US. Version หาดูได้ที่โรงหนังเฮ้าส์อาร์ซีเอ) สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ชมแน่นอนว่ามันไม่ใช่การเร้าอารมณ์เพศเหมือนหนังอีโรติกทั่วไป หากแต่กลับรู้สึกไปในทางที่แปลกประหลาดเสียมากกว่า มองในอีกมุมหนึ่ง ฉากร่วมรักนี้ของ Ang Lee ไม่ได้ถูกสร้างออกมาให้มีความงดงามแห่งรักตามแบบแผนที่ผู้ชมเคยคุ้นชิน (เพื่อจะสื่อถึงความรักตามขนบทั่วไป) แต่ Ang Lee กำลังสะท้อนให้เห็นถึงภาวะๆ หนึ่งที่สีในหลอดถูกบีบจนปะทุและพุ่งกระฉูดไปเปื้อนอยู่บนผืนผ้าใบ ผลงานที่ออกมา แม้ไม่ตั้งใจและปราศจากการควบคุม แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธถึงความงามที่แอบซ่อนอยู่ของมัน (ผู้เขียนมองว่าฉากร่วมรักที่ดิบเถื่อนนี้เป็นเหมือนภาพ Abstract ที่ผู้กำกับอยากสื่อถึงอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ความรู้สึกที่ประณีตขึ้นและเข้าใจได้ในตอนหลัง)

Lust , Caution (การปล่อยใจตามสัญชาตญาณและการระมัดระวังตัวของมนุษย์) ชื่อเรื่องของ Ang Lee เป็นขั้วตรงข้ามตามสูตรแห่งหยินหยางเหมือนเคย ก่อนนี้คือ Brokeback Mountain ที่สะท้อนถึงความเปราะบางและความกร้านแกร่ง Crouching Tiger Hidden Dragon สะท้อนถึงความผยองและความถ่อมตน , Sense and Sensibility กล่าวถึงอารมณ์และเหตุผลของความรัก หรือหนังเก่าอย่าง Eat Drink men women ก็ล้วนแต่เป็นไปในแนวทางนี้เช่นกัน



Lust , Caution กล่าวถึงจีนใน ค.ศ.1942 ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นบุกเข้ามายึดครองแผ่นดิน กลุ่มนักศึกษาจีนหัวรุนแรงกลุ่มหนึ่งริเริ่มแผนการกู้ชาติด้วยการสังหารมิสเตอร์ยี้ (เหลียงเฉาเหว่ย) ชาวจีนผู้แปรพักตร์ไปเป็นสุนัขรับใช้ญี่ปุ่น

กวงยูมิน (หวังลีฮอม) นักศึกษาชายผู้คลั่งลัทธิชาตินิยมได้ก่อตั้งกลุ่มละครขึ้นมาคณะหนึ่ง จัดแสดงเพื่อหาทุนสนับสนุนโครงการและประสงค์ปลุกใจให้ประชาชนหันมารักชาติ (หลังจากที่เจย์โชวในผลงานกำกับของจางอี้โหมวแห่ง Curse of the golden flower ได้ทำหน้าที่เพื่อสื่อนัยยะทางการเมืองระหว่างจีนและไต้หวันไปแล้ว กรณีของหวังลีฮอมก็น่าเชื่อว่าจะเป็นไปตามวัตถุประสงค์นี้เช่นกัน)

หวังเจียจือ (ทังเหว่ย) เด็กสาวผู้โดดเดี่ยวซึ่งพ่อบังเกิดเกล้าลี้ภัยสงครามหนีไปอยู่ที่อังกฤษ เธอตกลงเข้าร่วมในคณะละครนี้ด้วยเพียงเพราะความรู้สึกพึงใจในตัวกวงยูมิน (ทังเหว่ยคือดาราหน้าใหม่ที่วาดลวดลายการแสดงได้อย่างน่าทึ่ง)



หลังจากประสบความสำเร็จกับละครเวที เพื่อนๆในคณะคิดการใหญ่ที่จะเล่นละครครั้งสำคัญเพื่อหลอกล่อมิสเตอร์ยี้ให้เข้ามาติดกับและสังหารเสียให้สาแก่ใจ หวังเจียจือดาราหญิง เจ้าบทบาท ปลงใจรับภารกิจนี้ต่อเพื่อให้ความปรารถนาของคนที่เธอรักบรรลุผล

เธอเข้าตีสนิทกับครอบครัวตระกูลยี้ ผ่านทางคุณนายยี้ (โจเชง) ด้วยการร่วมวงเล่นไพ่นกกระจอก และแล้วแผนการที่ทำท่าว่าจะเป็นไปด้วยดีก็สลายลง แต่ถึงกระนั้นความสัมพันธ์ลับระหว่างหวังเจียจือกับมิสเตอร์ยี้ก็ได้ถูกกรุยทางเอาไว้แล้ว
ความรู้สึกของหวังเจียจือที่มีต่อกวงยูมินเริ่มจืดจาง ความรักที่เธอมีต่อเขาไม่อาจดึงความสนใจของเขาได้ นั่นเพราะทั้งชีวิตของกวงยูมินอุทิศหัวใจให้กับความรักชาติไปหมดแล้ว

ผ่านมา 3 ปีแผ่นดินจีนท่ามกลางสงครามยังคงดำเนินไปอย่างทุกข์ยาก มิสเตอร์ยี้รับตำแหน่งใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้มีอำนาจของบ้านเมืองภายใต้การเชิดของทหารญี่ปุ่น และเมื่อสมาคมผู้คิดการปฏิวัติเริ่มแผนการสังหารมิสเตอร์ยี้ หวังเจียจือจึงมีโอกาสได้เข้าร่วมภารกิจนี้อีกครั้ง ความสัมพันธ์ของเธอกับมิสเตอร์ยี้ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสุดท้ายที่ต้องเลือกระหว่างคำสั่งจากองค์กรลับกับเสียงสั่งที่ดังมาจากหัวใจของเธอเอง



Lust , Caution ในความรับผิดชอบของ Ang Lee เป็นงานที่ออกมาในทางดราม่าเพื่อมุ่ง ทำความเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ มากกว่าที่จะเป็นหนังแนวทริลเลอร์สายลับทั่วๆไป (แม้โครงสร้างของบทภาพยนตร์จะเป็นไปในแนวทางนั้นก็ตาม) ความรักคือวัตถุแห่งการวิเคราะห์เช่นเคยตามถนัด แต่ครั้งนี้ดูจะลึกลับซับซ้อนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาของเขา ว่าด้วยปัจจัยที่สร้างความเปลี่ยนแปลงจากขั้วหนึ่งของศัตรูไปสู่อีกขั้วหนึ่งของคนรัก และ ณ ขั้วหนึ่งของความรักที่กลับกลายเป็นอีกขั้วหนึ่งของความเกลียดชัง ( ประเด็นเรื่องการทำความเข้าใจศัตรู Hero ของจางอี้โหมวได้วิเคราะห์เอาไว้แล้วอย่างงดงาม ส่วนประเด็นเรื่องการหลงรักศัตรูนั้นถูกสานต่ออีกหนึ่งคำรบใน House of flying dagger แต่ Lust , Caution ของ Ang Lee มองประเด็นนี้อย่างรอบด้านว่าด้วยความรักที่กลายเป็นความเกลียดและความเกลียดที่สามารถกลายเป็นความรักได้เช่นกัน)



กวงยูมินเกลียดทหารญี่ปุ่นเพราะพี่ชายสุดที่รักของเขาตายในสนามรบ หัวหน้ากลุ่มปฏิวัติจงเกลียดจงชังมิสเตอร์ยี้ก็เพราะครอบครัวสุดรักของตนถูกสังหารด้วยน้ำมือของเขาผู้นี้ ความรักชาติรักสังคมที่ตัวละครเหล่านี้แอบอ้าง แท้จริงมันคือความรู้สึกโกรธเกลียดส่วนตัวของปุถุชนเพียงผู้หนึ่ง

แม้หวังเจียจือจะน้อยใจที่พ่อทิ้งตนไปอยู่อังกฤษ แต่แทนที่จะเกลียดหรือโกรธเขา เธอกลับยังคงห่วงใยในตัวพ่อบังเกิดเกล้าไม่เปลี่ยนแปลง ในอีกด้านหนึ่ง เธอมอบความรักให้กวงยูมิน จนหมดใจ แต่เมื่อไม่ได้รับความรักจากเขาตอบแทน ( แม้ว่าเธอต้องสูญเสียอะไรในชีวิตไปมากมาย ) หวังเจียจือก็ไม่ได้คิดโกรธหรือเกลียดชังเขาแต่อย่างใด พฤติกรรมเช่นนี้คืออุดมคติของความรักที่หาได้ยากยิ่งในสังคมปัจจุบัน ความรักที่จะไม่มีวันกลายไปเป็นความเกลียดชังในตอนหลัง

รักบริสุทธิ์ของหวังเจียจือ ไม่ถูกเคลือบแฝงหรือแปดเปื้อนด้วยเจตนารมย์จอมปลอมเช่นที่กลุ่มผู้คลั่งลัทธิชาตินิยมกำลังใช้แอบอ้าง ความรักที่มีรากฐานมาจากความโกรธเกลียดนั้น ไม่อาจถูกเรียกว่าเป็นความรักเสียด้วยซ้ำ พฤติกรรมรักชาติเพราะเกลียดศัตรูนี้แท้จริงแล้วจึงเป็นเพียงความวิปริตอะไรบางอย่างของอารมณ์มนุษย์ และแม้หนังทั้งเรื่องจะไม่สื่อภาพให้เห็นถึงสงครามที่กำลังดำเนินอยู่เลยแต่ประเด็นเหล่านี้ก็วิพากษ์สงครามอยู่ในทีได้อย่างคมคาย



ในอีกด้านหนึ่ง มิสเตอร์ยี้ผู้เย็นชาต่อความรู้สึกรัก ครั้งแรกที่ได้ระบายความปรารถนาที่เขามีต่อหวังเจียจือเป็นไปอย่างรุนแรงโหดร้ายจนเรียกได้ว่าเข้าขั้นซาดิสม์ (ฉีกเสื้อผ้า ถอดเข็มขัดมาฟาดใส่ จับมือมัดไพล่หลังในขณะประกอบกามกิจ) พฤติกรรมต่อมากลับค่อยๆ เข้ารูปเข้ารอย (แม้จะยังคงกลิ่นแห่งความวิปริตอยู่บ้าง ) จนท้ายที่สุดก็นำไปสู่ความรู้สึกแห่งรักอย่างแท้จริง ผ่านแหวนเพชร 6 กะรัตที่เขาซื้อให้หวังเจียจือ ความสุกใสของเพชรน้ำงามอันเป็น

สัญลักษณ์แห่งความโรแมนติกซื้อใจของเธอได้จนหมดสิ้น และ ณ นาทีนั้นเองที่ศัตรูได้กลับกลายมาเป็นคนรัก



ความงามของบทภาพยนตร์ในส่วนนี้ว่าด้วยการเจียระไนพฤติกรรมของคน ที่ไม่ว่าก่อนหน้านั้นจะเคยเป็นกรวดทรายที่หยาบกระด้างสักเพียงใด ก็ยังสามารถสำเร็จเป็นอัญมณีเม็ดงามได้ในภายหลัง หากได้รับการขัดเกลาด้วยสิ่งที่เรียกว่า “ความรัก”

Lust , Caution ยังกล่าวถึงความพร่าเลือนทางพรมแดนของความจริงและความลวง ความรักและความใคร่ รวมไปถึงมิตรและศัตรู (ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น) ประเด็นใกล้เคียงกับ Farewell My Concubine หนังเก่าเรื่องดังของผู้กำกับเฉินข่ายเก๋อ



ฉากร่วมเพศที่เป็นปัญหาถกเถียงและถูกหั่นออกตอนฉายของบางโรง ล้วนแต่คือฉากที่จำเป็นและสร้างสมดุลให้หนังทั้งเรื่อง เห็นได้ชัดเจนว่าผู้กำกับมีเจตนาที่จะขับเน้นฉากเหล่านี้อย่างจงใจ เพราะนอกจากจะสื่อถึงพัฒนาการอะไรบางของมนุษย์แล้ว มันยังทำหน้าที่สื่อถึงพัฒนาการทางสังคมอีกด้วย นั่นคือภาวะความรุนแรงของสงครามที่จะกลายไปสู่ภาวะแห่งสันติภาพ ปัจจัยแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้คือความรักที่ถูกต้อง ไม่ใช่รักวิปริตที่กระเดียดไปทางชาตินิยมซึ่งประเทศต่างๆในสังคมโลกกำลังเผชิญอยู่ (แม้แต่ระหว่างจีนกับไต้หวันเองก็ตาม) ตราบใดที่ยังรักไม่เป็น สงครามย่อมไม่มีวันยุติ

Lust , Caution เดินเรื่องด้วยความอ้อยอิ่งในสไตล์ของ Ang Lee เนื้อเรื่องที่ลึกและปรากฏรายละเอียดยิบย่อย ล้วนเรียกร้องการทำความเข้าใจจากผู้ชมค่อนข้างสูง มองผิวเผิน Lust , Caution เป็นหนังที่มีรสชาติจืดชืด (แม้จะมีฉากอย่างว่าอยู่พอสมควร) แต่หากปรับทัศนคติให้เป็นกลางและค่อยๆ ย่อยสารที่ได้รับมาอย่างเป็นระบบ ก็จะพบว่าหนังเรื่องนี้คือประสบการณ์การเสพศิลปะที่เปี่ยมอรรถรส

ฉากที่เรียกอารมณ์ได้มากที่สุดในเรื่อง คือตอนใกล้จบ ที่หวังเจียจือนั่งสามล้อของเด็กหนุ่มกลับบ้าน ความสดใสของหนุ่มวัยรุ่นคนนั้น ทำให้เธอรู้สึกถึงตัวเองในอดีตเมื่อครั้งที่ยังเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ ก่อนที่จะถูกอุดมการณ์จอมปลอมพรากความเยาว์วัยในชีวิตของเธอไป สายลมเย็นที่ปะทะใบหน้าในวันนั้น ทำให้เธอตระหนักว่าชีวิตนี้ยังคงมีความรู้สึกแห่งเสรีหลงเหลืออยู่



ความรัก ไม่ได้ใช้เพียงแค่หัวใจหากแต่ต้องใช้หัวสมองควบคู่กัน อารมณ์และเหตุผลที่ จำเป็นต้องสมดุลกันนี้คือข้อเรียกร้องที่รักแท้ต้องการ รักแท้ไม่เคยทำให้ใครฆ่าตัวตาย ไม่เคยอาฆาตเมื่อเขาเลิกรัก และไม่เคยเข่นฆ่าใครด้วยข้ออ้างว่าทำไปเพราะความรัก สิ่งที่เกิดขึ้นจากความเขลาเหล่านี้ล้วนแต่คือความวิปริตแห่งอารมณ์

ในระดับสังคมโลก Ang Lee กำลังเรียกร้องสันติภาพสากล ในระดับเอเชีย Ang Lee เรียกร้องการสมานฉันท์ระหว่างจีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น ในระดับของมนุษย์ปุถุชน Ang Lee เรียกร้องความเข้าใจในรักแท้ ความรักที่มอบความหวังให้ทุกคนว่าสิ่งต่างๆ ที่เคยเลวร้ายจะพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น รักที่เป็นทางสายกลางแห่งอารมณ์ที่เราต้องรู้จักปลดปล่อยและควบคุมให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมและพอดี

ดังที่ Lust , Caution ถ้อยคำสองขั้วนี้กำลังดำรงอยู่ร่วมกันเพื่อคอยคะคานกันและกันให้เกิดความสมดุล






Create Date : 03 ธันวาคม 2550
Last Update : 21 มีนาคม 2552 9:33:17 น. 7 comments
Counter : 8442 Pageviews.

 
หนังเก่า ที่นำมาให้เราชื่นชมในความเหงา ได้อย่างยอดเยี่ยม


โดย: haro_haro วันที่: 4 ธันวาคม 2550 เวลา:13:36:11 น.  

 
ตามความสัตย์จริง...ผมอ่านบล็อกในส่วนนี้ไปเพียงครึ่งเดียวเองครับ
ไม่ใช่ว่าแถวตอนของตัวหนังสือนี้อ่านไม่สนุก เพียงแต่พอลองอ่านไปเรื่อยๆ เนื้อเรื่องมันเริ่มปรากฏ

นิตยสารภาพยนตร์นั้นให้ข้อมูลหนังนำหน้าก่อนหนังจะเข้าฉายเป็นจุดขาย
ทำให้เดี๋ยวนี้ผมค่อนข้างเลี่ยงๆ ข้อมูลเกี่ยวกับหนังที่ผมอยากจะดูทั้งในหน้าหนังสือ เว็บ และบล็อก
และหากกผมไปซื้อแผ่นมา...ผมจะไม่ยอมอ่านเรื่องย่อบนหลังกล่องเด็ดขาด

แล้วตกลงผมเลือกหนังที่จะดูจากอะไร?
คำตอบคงจะเป็นชื่อเรื่อง นักแสดง ผู้กำกับ และบรรยากาศของตัวหนัง

จำได้ไหมครับว่าครั้งสุดท้ายที่คุณดูหนังที่ไม่มีข้อมูลของหนังนั้นอยู่ในหัวเลย เกิดขึ้นเมื่อไหร่?

ไอ้ผมละอยากที่จะจำได้เหลือเกิน...

แม้จะจำวันเวลาและชื่อเรื่องไม่ได้ แต่พอจะจดจำความสนุกของความไม่รู้ก่อน หลัง และในขณะดูได้

ไม่เหมือนกันที่หนังตัวอย่างสมัยนี้ทำกับเรา ส่วนใหญ่พวกมันเล่าเนื้อเรื่องจนหมดและไปจบที่ปัญหาที่เกิดขึ้น
แล้วค่อยปล่อยให้พวกเราไปดูทางแก้ของตัวละครกันในโรง
และในโรงที่ว่าเราต้องนั่งทนกว่า 20 นาทีหรือมากกว่านั้น เพื่อที่จะปล่อยให้หนังเดินทางไปยังจุดที่เรายังไม่รู้

บางทีความเพลิดเพลินของการอ่านบทความภาพยนตร์สำหรับผม
อาจจะอยู่ที่การได้ดูหนังมาก่อนแล้วค่อยมาอ่าน...ขอเวลาอีกนิดนะครับ
เมื่อไหร่ที่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะรีบกลับมาขุดคุ้ยพูดคุยกัน ^^


โดย: ขอรบกวนทั้งชุดนอน วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:16:56:01 น.  

 
มีแว่นตาหรือยังครับ ^^

ส่วน Lust, Caution ผมอึ้งฉาก NC-17 มาก
ไม่มีอารมณ์อีโรติกเลย แต่เป็นความรุนแรงที่เปี่ยมอารมณ์ล้วนๆ


โดย: nanoguy วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:4:05:44 น.  

 
แวะมาส่งยิ้มให้ค่ะ..ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ..ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ..


โดย: ณ กมล วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:13:13:03 น.  

 
แค่แวะเวียนมาให้กำลังจัยเด็กขนดกคนหนึ่งที่พยายามทำความฝันของตัวเอง ในขณะที่ต้องทำตามสายงานหลักด้วย อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: น้องสอน IP: 203.154.187.178 วันที่: 12 ธันวาคม 2550 เวลา:15:20:47 น.  

 
ลึกซึ้งค่ะ ลึกซึ้ง


โดย: renka IP: 58.64.78.22 วันที่: 30 ธันวาคม 2550 เวลา:1:03:51 น.  

 
คุณมองแง่มุมที่ต่างออกไป
ซึ่งทำให้ผมไดเห็นในความลึก
ของตัวัหนังมากขึ้น


โดย: Bestkop IP: 203.146.116.24 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:37:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

beerled
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add beerled's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.