นางไม้และชายหลงป่า



บ่อยครั้งที่ภาพชีวิตของคนอื่นสะท้อนความเป็นตัวเราได้คมชัดกว่ากระจกบานไหน ๆ “นางไม้” ของเป็นเอก ฯ ก็มีโอกาสได้ทำหน้าที่ในการสะท้อนพฤติกรรมมนุษย์ให้ผู้ชมได้เห็นภาพตัวเองผ่านผืนผ้าใบสีขาวในโรงภาพยนตร์เช่นกัน

แม้ว่าพล็อตเรื่องจะขาดจุดเร้าอย่างรุนแรงและพลังของหนังก็สร้างแรงผลักให้ผู้ชมเดินออกจากโรงอย่างได้ผล ? แต่ท่ามกลางความบางเบา ล่องเลย และเหมือนว่าจะไร้ทิศทางนั้น นางไม้กลับปรากฏกลวิธีในการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและไม่อาจมองผ่านเลยได้โดยไม่เอ่ยถึงมัน

ผมชอบจังหวะและชั้นเชิงในการวางตัวละครของเรื่อง ทำให้หนังได้ดุล เป็นเอกภาพ และดูแปลกตาน่าสนใจ

หนังวางคู่สัมพันธ์อย่างไม่ซับซ้อนระหว่างหนุ่มอารมณ์ศิลป์ (ทีน่าจะเข้าใจยากอยู่พอสมควร) กับสาวออฟฟิศ สาวออฟฟิศคนเดิมที่ดูปราดเปรียวแต่เหมือนขาดอะไรบางอย่างในชีวิตกับเจ้านายซึ่งมีภรรยาแล้ว ความสัมพันธ์ที่แห้งแล้งของเจ้านายและภรรยาซึ่งหนังเพียงแค่เปรยถึงผ่านๆ และแฟนตาซีของเรื่องซึ่งถือเป็นจุดขาย นั่นคือความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มคนแรกกับอำนาจเหนือธรรมชาติของ “นางไม้”

แต่ละตัวละครสะท้อนพฤติกรรมเหมือนๆ กันทว่าแตกต่างกันไปตามกาลเทศะ เช่น ภรรยาของเจ้านายซึ่งตกอยู่ในความรู้สึกของคนที่ถูกทิ้ง (ผู้ชมต้องจินตนาการเอาเองเพราะหนังไม่ได้กล่าวถึงเลย) โดยหนังสะท้อนออกมาผ่านพฤติกรรมของนางเอกที่เต็มไปด้วยแรงโกรธและความหึงหวงหลังจากต้องเสียสามีของตนให้กับอำนาจครอบงำของนางไม้ กับอีกพฤติกรรมหนึ่งที่เป็นตัวแทนของความรู้สึกหลงใหลในอำนาจอะไรบางสิ่ง เช่น การที่เจ้านายหลงติดอยู่ในห้วงอารมณ์ถวิลหานางเอกจนไม่ยอมกลับบ้านไปหาภรรยา (ไม่ต่างอะไรกับการต้องมนต์) หรือการที่หนุ่มอารมณ์ศิลป์หลงใหลไปตามอำนาจแห่งนางไม้อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

การที่นางไม้ในตำนานยังคงปรากฏอยู่จริงในโลกปัจจุบัน ถือเป็นการหยิบยกความเชื่อโบราณมาอธิบายปรากฏการณ์ของคนสมัยนี้ได้อย่างคมคาย

และเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วระหว่างหนังเรื่องนางไม้กับพลอย แม้ว่าจะมีจุดเหมือนอยู่หลายประการโดยเฉพาะเรื่องวิกฤติความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ หากแต่วิธีการเล่าเรื่องและการจัดวางตัวละครของนางไม้กลับทำได้โดดเด่นและน่าสนใจกว่า ถือเป็นผลงานหนังที่เรียบง่ายแต่ได้ใจผมไปไม่ยากนัก

หรืออาจจะเพราะระหว่างการนั่งชม นางไม้ปรากฏหลายพฤติกรรมที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังนั่งมองดูตัวเอง




(ตัวอย่างภาพยนตร์)





Create Date : 05 สิงหาคม 2552
Last Update : 30 ตุลาคม 2552 9:26:28 น. 8 comments
Counter : 2206 Pageviews.

 
when you are alone
sometime, when your heart break
who is the curer for you...
you always, in some moment of your
life.. stay alone and feeling lonely even
peoples are around you; friend, family even lover
but deep in your heart you still felt like something in your life
is gone, you scream for help, for love and for many thing that you want
but...saden that their is no one there for you, why don't you go to "GOD"
ask he for help believe me you will find the ways out and be ready for miracal
to happen into your life as it does happen to me


โดย: fd IP: 124.122.121.128 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:22:22:03 น.  

 
+ ผมยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ กับ "สาร" ที่คุณเป็นเอกใส่สอดแทรกเข้ามาในเนื้อความของหนังอ่ะครับ

+ ฉาก "สนทนา" ตอนท้ายเรื่องนี่วายป่วงเอามากๆ เป็นพาร์ตที่ไม่ชอบที่สุดของหนัง ... แต่สิ่งที่ชอบก็คือบรรยากาศ อ่ะครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:21:01:35 น.  

 
ชอบหนังเรื่องนี้นะ ดูง่าย ดูเพลิน แต่ไม่ใช่งานที่ชอบที่สุดของเป็นเอก



โดย: joblovenuk วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:13:09:04 น.  

 
นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ผมแวะมาที่นี่แล้วไม่อ่าน...แต่กลับตอบคอมเมนต์
แต่วันนี้ผมคงต้องอธิบายว่าใน “วันนั้น” มันเกิดอะไรขึ้น มันจึงกลายเป็นวันนี้

คุณเบียร์ครับ คนเรานั้นมีแนวคิดแนวทางการเขียนหนังสือแตกต่างกันด้วยหลากหลายเหตุผล แต่ 1 ในแนวคิดและแนวทางที่ตัวหนังสือของผมรับใช้นั้นคือการเขียนเพื่อมอบอะไรบางอย่างให้แก่คนอ่าน นั่นหมายถึงคนอ่านสามารถอ่านตัวหนังสือของผมแล้วมีอิสระเต็มที่ที่จะเลือกหยิบประโยคหรือถ้อยคำใดๆ ไปใช้ประกอบการตัดสินใจรวมถึงใช้เป็นทิศทางในการดำเนินชีวิต

แต่ในเรื่องนี้เรา 2 คนคงจะมองกันคนละมุม มุมของผมไม่ใช่มุมที่ถูกหรอกครับ แต่มันเป็นมุมของผม...

กับเรื่องการลอกเลียนนั้นก็อย่างนึง มันไม่ผิดที่คุณจะโวยวายว่ามีคนลอกงาน แต่การไปตามจองล้างจองผลาญเขามันก็อีกเรื่องนึง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าคนเขียนหนังสือไม่น่าจะกระทำ ไม่ว่าจะมันจะเป็นการปกป้องตัวหนังสือของตัวเองก็ตาม เพราะตัวหนังสือเมื่อเราส่งมองให้คนอ่านแล้ว เราก็ควรจะใจกว้างพอที่จะยอมรับการถูกหยิบยืมถ้อยคำเหล่านั้นไปใช้ ใจกว้าง...เหมือนๆกับที่คนอ่านเขาใจกว้างพอที่จะสละเวลามาอ่านความคิดของคนแปลกหน้าอย่างพวกเราคนเขียน

แต่การที่คุณจะไปดำเนินการเล่นงานตามกฎหมายนั่นบอกกับผมว่า คุณยังไม่คิดจะแชร์ตัวหนังสือเหล่านั้นอย่างจริงจังและจริงใจ ยังมีความยึดติดว่านี่คือตัวหนังสือของข้าแอบซ่อนอยู่แทบทุกบรรทัด ในทีแรกผมแค่รู้สึกผิดหวังในตัวคุณเฉยๆที่คุณเอ่ยปากจะไปดำเนินการทางกฎหมาย แถมยังเป็นการที่ทำไปเพื่อตัวหนังสือที่คุณปล่อยออกมาในพื้นที่สาธารณะเองแท้ๆ

แต่ผมมาสิ้นหวังในตัวคุณก็ตอนที่กระทู้ของคุณมีภาค 2

...ภาค 2...นี่มันอะไรเนี่ย มันเป็นหนังเกรดบีหรือไง มีภาค 2 ด้วยผมไม่ได้อ่านอะไรในกระทู้นั้นแต่มองผ่านๆแล้วก็คิดว่าคงไม่ค่อยจะมีคนอ่านนักหรอก เพราะพอมีคนไปโพสต์โต้แย้งให้คนที่ลอกงานไปเท่านั้นแหละ ทุกความเห็นที่ไล่ลงมาก็มุ่งไปยำคนๆนั้นกันหมด ไม่มีใครได้สนใจอ่านกระทู้ภาค 2 ยาวๆของคุณหรอก มีแต่พกพาความมันมือคึกคะนองไประบายใส่ไอ้คนในความเห็นนั้นกันอย่างสนุกสนาน และอารมณ์การด่าห่าประจานนี้เองที่มักจะถีบให้กระทู้ขึ้นสู่กระทู้แนะนำในพันทิป

ในความรู้สึกของผมนั้น ในตอนแรกผมจำได้แม่นยำว่า กระทู้แรกคุณเขียนขึ้นต้นไว้ว่า ที่นำเรื่องการถูกลอกนี้มาโพสต์ก็เพื่อหวังจะเป็นการบอกเล่าให้กันฟัง ไว้เพื่อเป็นตัวอย่างอะไรแบบนั้นเท่านั้นเอง แต่ไปๆมาๆ มันเหมือนคุณอ่านความเห็นของคนในกระทู้มากเกินไปจนเกิดคึกคะนองเหมือนรู้สึกตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสียเต็มประดา มีอำนาจเล่นงานใครก็ได้ แล้วลงเอ่ยด้วยการออกมาประกาศว่าจะดำเนินการทางก.ม. … …บ้ายุไปซะแล้ว...

ในตอนนั้นผมสิ้นหวังก็เพราะคุณไร้จุดยืนในตัวหนังสือของตัวของ ใจแคบในการแบ่งปันความคิดอ่าน รวมถึงอาศัยอยู่ในโลกใบเล็กๆมากเกินไป ถึงคนในกระทู้จะบอกว่าคุณถูก(ทั้งๆที่พวกเขาเองก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรจริงๆหรอก) แต่นั่นก็แค่ในกระทู้ ต่อให้มันขึ้นเป็นกระทู้แนะนำก็เถอะ ผมจำได้ว่าช่วงนั้นกระทู้แนะนำที่อยู่ข้างๆคุณก็คือกระทู้โฆษณาซุปไก่ก้อนคนอร์ (ที่เถียงกันว่านางเอกโฆษณาไปปิดประตูใส่แม่ผัวนี่มันแรงไปไหม)

ใช่...กระทู้ ความภาคภูมิใจ และคุณค่าตัวหนังสือของคุณ มันก็มีค่าประมาณเดียวกับแค่ซุปไก่ก้อนนั่นแหละ

จะเอาความถูกต้องที่เห็นในกระทู้ไปเอาผิดคนที่ลอกลิขสิทธิ์หรอ? มองโลกกว้างๆหน่อย แค่ลิขสิทธิ์งานวิจารณ์หนังในเน็ตเนี่ยนะ โลกภายนอกเค้าลอกหนังกันทั้งเรื่องเลย เออ แบบนั้นค่อยน่าไปจับ แต่ถามว่าจับกันได้ไหมก็ไม่ได้ ถามว่าจับแล้วยัดเงินหนีได้ไหม ก็สบายๆ การออกมาไล่ล่าคนลอกงานของคุณไม่ได้ส่งผลดีอะไรให้กับโลกหนังสืออย่างที่คุณพูดไว้เลย มันก็แค่แมวข้างถนนไล่จับหนูในท่อระบายน้ำ ซึ่งต่อให้หนูตายมันก็แค่หนูในท่อตายไปผู้คนก็ไม่ได้ใส่ใจ ต่อให้แมวพลาดจับไม่ได้ต้องอดตาย...มันก็ไม่ใช่แมวมีเจ้าของที่จะมีใครต้องร้องไห้แต่อย่างใด

เพราะคนในกระทู้เขาแค่นึกสนุกออกมาเชียร์ ด้วยอยากเห็นแมวกระชากเครื่องในหนูให้ดูเฉยๆ
คุณจะเอาผิดคนลอกได้ไหม...มันก็เป็นแค่ความสะใจของคนดูเท่านั้นเอง

บอกตามตรง ถ้าคุณเอาเวลาที่เขียนกระทู้ภาค 2 ไปเขียนงานใหม่(ซึ่งจะเป็นหนังเก่าๆก็ยังได้ เขียนสะสมงานไว้) มาให้คนอ่าน ยังจะมีประโยชน์ซะกว่า ที่ผ่านมาผมพูดเสมอว่าให้ลองส่งงานไปตามนิตยสารดูนะ จะได้มีบ.ก. คอยดูงานให้ เพราะว่าที่จริงแล้วงานของคุณมันยังเต็มไปด้วยช่องโหว่ ทั้งสำนวนภาษาแบบที่ไม่สนหัวคนอ่าน อ่านแล้วให้อารมณ์เหมือนคนเขียนยกตัวข่มอยู่ตลอดว่าข้านั้นฉลาดกว่าคนอ่าน ดังนั้นพวกแกจนอ่านที่ข้าเขียน ทั้งการชอบมองอะไรเกินหนังแบบแถๆ (บางทีหนังมันไม่ได้ใส่อะไรแอบแฝงมาในส่วนประกอบนั้นๆเลย แต่คุณก็เขียนว่ามันแฝง เพียงเพราะคุณคิดว่ามันเอามาแฝงได้ ที่จริงนักเขียนส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ ผมก็เป็น แต่คนอื่นเค้าไม่เอามาแอบแฝงแบบแถๆเหมือนคุณเท่านั้นเอง) และอะไรอีกมากมาย ดังนั้นถ้ามีบ.ก.เขาจะคอยช่วยดูและชี้จุดปรับปรุงให้ได้ ดีกว่ามาพึ่งคอมเมนต์ในกระทู้ แต่คุณกลับบ้าพลัง...แทนที่จะก้าวไปข้างหน้ากลับไปไล่ฆ่าคนอ่านที่ชอบตัวหนังสือของคุณแล้วหยิบไปใช้เป็นแรงบันดาลใจแทน

ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องราวของฝั่งผมครับ ไม่ว่าที่ผมเขียนมาจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องไหมก็ไม่สำคัญ เพราะในท้ายที่สุดแนวทางของเรา 2 คนนั้นก็แตกต่างกัน ด้วยตัวหนังสือของคุณถูกเขียนโดยแปะป้ายห้ามคนอ่านจดจำนำกลับไปอยู่ด้วย และเมื่องานของคุณเป็นตัวหนังสือที่อ่านไปแล้วห้ามเอาสาระที่ได้กลับติดตัวหรือเอาไปเสริมสมอง ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียเวลาเพื่ออ่านมัน

เมื่อต่างแนวคิดก็ไม่พึ่งร่วมแนวทาง โปรดเลิกติดต่อกันเพียงเท่านี้
เพราะพี่น้องร่วมสาบานได้ตายไป ตั้งแต่ตอนที่คุณได้ฆ่าจิตวิญญาณที่พาให้เรามาร่วมสาบานกันแล้ว


โดย: ขอรบกวนทั้งชุดนอน วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:16:28:10 น.  

 
สนใจหมีแพนด้าก็สั่งซื้อมาได้นะครับ

อิอ

www.pandagroup.pantown.com

ขอบคุณที่ทักทายมาครับ

ถ้าผมหายไป ก็ตามมาคุยที่เวปได้นะครับ


โดย: joblovenuk IP: 172.22.18.209, 202.57.132.197 วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:9:16:41 น.  

 
555 ตอนนี้ตีสี่(เวลาสิงคโปร์) นั่งเซิซกูเกิลตามล่าหากระทู้ฮอตฮิตของหนูเบียร์อยู่(เริ่มตั้งกะเที่ยงคืน...ง่วงมาก) ขอโทดด้วยที่ไม่ได้ติดต่อไปเรย ไม่รู้ว่าเพื่อนโดนเอางานเขียนไปย่ำยีจนช้ำใจขนาดนี้ ไม่ได้อ่านไรเรยเกี่ยวกะหนังข้างบน แต่ขอเม้นท์ให้กำลังใจหนูเบียร์นะคับ ที่ทำไปน่ะถูกต้องแล้วไม่ผิดเรยแม้แต่น้อย สำหรับเมนท์ของนายชุดนอนนั่นน่ะ อย่าไปใส่ใจนะ เพื่อนอย่างงั้นน่ะลืมไปซะไม่ต้องเอาไปรกหัว อย่างน้อยก้อยังมีเพื่อนอย่างกะผมล่ะ ไม่ได้ดีเด่อะไร ไม่ได้มีความลึกซึ้งทางภาษาดัดจริตพิมให้วุ่นวาย ไม่ต้องบอกว่าเรารักกันแค่ไหน เป็นพี่น้องกรีดเลือดสาบานรึเปล่า แค่เพื่อนที่รู้สึกดีกะเบียร์เสมอ เพื่อนกันจิงไม่ตัดกันง่ายแค่เรื่องแนวทางอุดมการณ์บ้าบอนั้นหรอก ซ้ำร้ายบอกว่าเป็นน้องพี่กันอีกทำยังกะเด็กไม่มีสมองออกมาตัดสัมพันธ์ คิดถึงเบียร์มากนะหลังจากได้ีอ่านกระทู้อิอิ(ก่อนหน้านี้ลืมไปละ555) เรื่องไปถึงไหนแล้วไว้โืทรไปถามนะ


โดย: หมูโพ้ง IP: 59.189.21.86, 218.186.10.230 วันที่: 19 กันยายน 2552 เวลา:4:02:42 น.  

 
แวะมาทักทายครับ

ปล.อ่าน คห.4 แล้วงง ตกลงใคร "ใจแคบ-ใจกว้าง" - "มองโลกแคบ-มองโลกกว้าง" กันแน่(วะ)


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 13 ตุลาคม 2552 เวลา:2:50:04 น.  

 
ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมนาน เป็นไงบ้างครับ อ่านความเห็นแล้วงงๆแหะ เพราะไม่ได้รู้ที่มาที่ไป ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายไปได้ก็แล้วกันนะครับ


โดย: McMurphy วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:13:38:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

beerled
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add beerled's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.