หนังสร้างกำแพงกันผู้ชมอย่างเรา ๆให้ถอยห่างออกจากคำอธิบาย หลายส่วนกลายเป็นเพียงปริศนาลึกลับให้ผู้ชมต้องตกที่นั่งเดียวกับลูกชายของครอบครัวที่พ่อแม่ไม่ยอมเปิดเผยความจริงให้รับทราบ ในความเห็นของผม ผู้กุมอำนาจในการทดสอบมนุษย์อาจเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือพระเจ้าในน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน ที่ว่าอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวก็เพราะแนวหนังที่ลึกลับคล้าย The X-File แง่มุมทางจิตวิทยาแบบ The Invasion เจตนาแบบเดียวกับผู้ทรงปัญญาต่างดาวจาก The Day the Earth Stood Still ประกอบกับเนื้อหาในเรื่องที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อวกาศ การสำรวจดาวอังคารของนาซ่า ส่วนอีกซีกหนึ่งของสมองที่เห็นว่าเป็นพระเจ้าก็เพราะเนื้อหาในเรื่องที่เกิดขึ้นในวันคริสต์มาส การตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา เรื่องนรก-สวรรค์ ชีวิตหลังความตาย และสาระหลักที่เน้นย้ำคุณค่าทางจิตวิญญาณและศีลธรรมของมนุษย์
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคำถามว่าใครเป็นผู้ทดสอบและมีวิธีดำเนินการอย่างไรนั้น The Box โฟกัสมาที่ปฏิกิริยาของมนุษย์ วิเคราะห์วิธีคิดและการใช้เหตุผลผสมอารมณ์แบบมนุษย์ ๆ โดยผู้ทดสอบเป็นเพียงกระจกเงาหรือแผ่นน้ำ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามก็ล้วนแต่ทำหน้าที่สะท้อนและเสียดสีให้เราเห็นพฤติกรรมของตนเอง
อย่างที่ The Box นำเสนอในฉากจบ ผู้ที่จะตัดสินว่ามนุษย์ควรมีชีวิตอยู่หรือไม่ ไม่ใช่ผู้ทรงอำนาจที่ไหนหากแต่เป็นเราที่จะพิพากษาคุณค่าของชีวิตตัวเอง เหมือนที่นางเอกเลือกไถ่บาปด้วยความตายเพื่อช่วยเหลือลูกชายผู้บริสุทธิ์ วงจรของการทำร้ายผู้บริสุทธิ์และการช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์จะยังคงหมุนเวียนไปไม่จบสิ้น (มีฉากหนึ่งในโทรทัศน์ที่หนังแสดงให้เห็นภาพของตึกแฝด World trade Center ) หากมนุษย์ยังไม่หยุดการให้ค่าแก่เปลือกภายนอกเหนือกว่าคุณค่าในจิดใจ ภาพแห่งการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติก็คงไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย
หนังแนววิทย์ งี้ ผมชอบนักแหละ