The Warlords เรื่องนี้ก็เช่นกัน ที่แม้จะมาในอารมณ์ของหนังสงครามฟอร์มยักษ์ แต่ประเด็นเรื่องความรักความผูกพันระหว่างเพื่อนพ้องชนชาติจีน ก็ยังถูกเน้นย้ำอีกครั้งเหมือนเช่นเคย ( สื่อผ่านตัวละครของเจ็ทลีจากจีนแผ่นดินใหญ่ หลิวเต๋อหัวจากฮ่องกงและทาเคชิ คาเนชิโร่จากไต้หวัน ) แต่แทนที่จะพูดถึงความรักแบบตรงๆ ปีเตอร์ ชาน เลือกที่จะกล่าวถึงความหายนะหากมิตรร่วมเชื้อชาติต้องมาแตกคอและประหัตประหารกันเอง เดินประเด็นตามหลังผู้กำกับรุ่นพี่ซึ่งได้อวดฝีมือไปแล้วก่อนหน้า ทั้งจางอี้โหมวจาก Curse of the golden flower เฉินข่ายเก๋อจาก The Promise และล่าสุด หลี่อันในหนังอื้อฉาวอย่าง Lust , Caution ก็ล้วนได้ย้ำเตือนให้เห็นถึงข้อความคิดอันสลักสำคัญนี้
The Warlords กล่าวถึงความเป็นไปของพี่น้องร่วมสาบานสามคนซึ่งแตกต่างที่มาและอุปนิสัย แต่มารวมตัวรวมใจกันได้ด้วยจุดประสงค์ที่จะนำพาชีวิตของชนเผ่าท้องถิ่นแห่งหนึ่งให้รอดพ้นจากภัยแห่งความอดอยาก ภัยร้ายที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าสงครามที่กำลังปะทุอยู่ในยุคสมัยนั้น
บอกตรงๆหนังเครียดมาก (รบกันทั้งเรื่องเลย) แต่ก็มีปรัชญา ให้ข้อคิดหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าไม่ว่าผู้ชายชาติไหน เก่งมาจากไหน สุดท้ายก็เหมือนกันหมดแพ้ใจตัวเอง แพ้เพราะผู้หญิงทุกที