>
60. แกงปลาสับนก


พอดีไปเห็นสูตรแกงปลาสับนก ของน้องแคท ที่เวปครัวไกลบ้าน ทำให้นึกถึงสูตรบ้าน ๆ ของแม่คะ ที่บ้านแม่จะทำทานกันบ่อยมาก จะเป็นเนื้อปลานำมาสับ เหมือนของน้องแคท แต่ไม่ได้ผสมแป้ง สับแล้วเอาไปรวนให้สุก เวลาแกงเนื้อปลาสับจะร่วน ๆ หน่อย ไม่เป็นก้อน

ในสูตรเมื่อสับปลาแล้ว เอามารวนโดยใส่น้ำปลาเพิ่มรสชาติเล็กน้อย แล้วใส่ตะไคร้ใบมะกรูดฉีก เพิ่มความหอมและดับกลิ่นคาวปลาคะ

ก็ขอขอบคุณน้องแคทมากนะคะ ที่นำสูตรอร่อยมาลง ทำให้พี่ได้ทานแกงที่เมื่อเด็ก ๆ ได้ทานบ่อย เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ได้ไปบ้านก็ไม่ได้ทาน แต่ถ้าไปบ้านทีไร แม่ทำให้ทานทุกที คิดแล้วนึกอย่างทานฝีมือแม่มาก ๆ คะ

ทำไมเค้าถึงเรียกปลาสับนก ....พี่ไปเจอบทกลอน ของคุณ แก้ว กรุงเก่า เค้าเขียนไว้ เห็นแล้วถูกใจ เลยขอยกบทกลอนเอามาให้อ่านกันเล่น ๆ คะ

ชวนน้องเข้าครัว : แกงสับนก
โดย แก้ว กรุงเก่า
(กาพย์ฉบัง 16)

๑. มีแกงเผ็ดชนิดหนึ่ง เป็นที่กล่าวถึง
ตั้งชื่อไว้อย่างน่ากิน
๒. เรียก แกงสับนก เคยยิน ชาวบ้านร้านถิ่น
ได้กินเป็นที่แปลกใจ
๓. ปลาเล็กปลาน้อยสับไว้ เหยาะน้ำปลาใส่
หมักให้ปลารสชาติดี
๔. ปั้นเป็นลูกชิ้นก็มี บ้างกลมบ้างรี
ตามแต่แม่ครัวต้องการ
๕. แล้วนึ่งหรือต้มไม่นาน สุกพอประมาณ
อย่าให้เละไม่เข้าที
๖. จัดเตรียมเครื่องปรุงต้องมี พริกแกงอย่างดี
กะทิ กะปิ น้ำปลา
๗. กระชายใบโหระพา ผักสดนำมา
มะเขือหรือถั่วฝักยาว
๘. ตอนแกงไม่มากเรื่องราว กะทิคั้นขาว
ลงเคี่ยวกระทั่งแตกมัน
๙. พริกแกงลงผัดทันควัน กลิ่นหอมไหมนั่น
น้ำปลาน้ำตาลใส่ไป
๑๐. ชิมรสดูเป็นอย่างไร ปรุงจนพอใจ
ไม่เค็มไม่หวานพอดี
๑๑. ใส่ผักลงผัดอีกที กะทิที่มี
จงใส่ลงไปอีกครา
๑๒. พอเดือดใส่โหระพา แล้วยกลงมา
ตักแจกกินกันทันใด
๑๓. ชื่อ แกงสับนก ทำไม? ใช้เนื้อปลาใส่
แสร้งให้ว่าเป็นเนื้อนก
๑๔. โบราณท่านเล่นตลก แกล้งพูดโกหก
หลอกให้เด็กเชื่อหลงชิม
๑๕. แต่ครั้นพอได้ลองลิ้ม รสเนื้อนุ่มนิ่ม
กรุบกรุบกระดูกถูกใจ
๑๖. เหมือนเนื้อนกสับยังไง จึงตั้งชื่อให้
ว่า แกงสับนก นั่นแล

เขียนมายาวแล้ว มาทานแกงเขียวหวานปลาสับนก กับข้าวสวยร้อน ๆ กันดีกว่านะคะ






ส่วนผสม

1. เนื้อปลาสับ (ปลาอะไรก็ได้ เช่น ปลานิล ปลาอินทรีย์ ปลากราย หรือปลาน้ำดอกไม้)

2. พริกแกงเผ็ด หรือแกงเขียวหวาน

3. กะทิ

4. มะเขือเปราะ หรือมะเขือพวง

5. ใบโหระพา

6. พริกชี้ฟ้าเขียว แดง

7.กระชายซอย

8. ตะไคร้

9. ใบมะกรูด

10. น้ำปลา, เกลือ


วิธีทำ

1.ปลาล้างให้สะอาดนำมาสับพอหยาบ ๆ ใส่หม้อ ตามด้วยใบมะกรูดและตะไคร้ น้ำปลา น้ำเปล่านิดหน่อย ตั้งไฟปานกลางค่อนมาทางอ่อน รวนให้สุก พักไว้
2.กระทะตั้งไฟใส่หัวกะทิ ใส่น้ำพริกแกง ลงไปผัดให้หอม ให้พริกแกงสุก กระทิแตกมัน
3.ใส่เนื้อปลารวนลงผัดให้เข้ากับพริกแกง ใส่กระชายซอย แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือให้เข้มข้น
4.ใส่หางกะทิลงไป รอให้เดือด ตามด้วยมะเขื่อเปราะ รอให้เดือดชิมรสอีกครั้ง
5. ได้รสชาติที่ต้องการแล้ว ใส่ พริกชี้ฟ้าเขียวแดง ใบโหระพาชิมรสตามชอบ ตักใส่หม้อ ตั้งไฟพอเดือดอีกครั้ง ก็ปิดไฟได้เลยคะ

.................................................................................................

เริ่มทำกันเลยคะ วันนี้ใช้ปลานิล ซื้อจากรถขายกับข้าวหน้าบ้าน ตัวละ 45 บาท นำมาควักไส้ออก ล้างให้สะอาด แล่เนื้อปลาออกมา สับพอหยาบ ๆ ค่อนไปทางละเอียด

สูตรของน้องแคทเค้านำเนื้อปลามาสับให้ละเอียด แล้วผสมกับแป้ง ปั้นเป็นก้อนเหมือนลูกชิ้นปลากรายคะ

แต่เราชอบแบบเนื้อปลาล้วน ๆ แบบร่วน ๆ







ใส่หม้อ ตามด้วยใบมะกรูดและตะไคร้ น้ำปลา น้ำเปล่านิดหน่อย ตั้งไฟปานกลางค่อนมาทางอ่อน รวนให้สุก พักไว้





ระหว่างนี้เราก็เตรียมเครื่องปรุงกันคะ

เด็ดใบโหระพา ซอยกระชาย ซอยพริกชี้ฟ้า ล้างให้สะอาดรอไว้



มะเขือเปราะผ่าซีก แช่น้ำเกลือไว้

เมื่อวันก่อนดูรายการบ้านกลมกิ๊ก เห็นแม่คุณกิ๊กเค้าเอามะเขือแช่น้ำเกลือ เค้าบอกว่าจะทำได้ไม่ดำ เราเลยลองทำบ้าง ผลออกมาไม่ดำจริง ๆ คะ ขนาดมะเขือที่เห็นเนี่ยหั่นไว้ตั้งแต่เย็น แต่ไปทำแกงตอน 10 โมงของอีกวันนึง (นำเข้าตู้เย็นทั้งที่แช่น้ำไว้)



วันนี้ใช้กะทิกล่อง 3 กล่อง ผสมน้ำนิดหน่อย



กระทะตั้งไฟใส่หัวกะทิ ใส่น้ำพริกแกง ลงไปผัดให้หอม ให้พริกแกงสุก กะทิแตกมัน





ผัดไปเรื่อยๆใช้ตะหลิวยีๆให้น้ำพริกแกงแตกออกมาผสมกับน้ำกะทิ







ใส่เนื้อปลารวนลงผัดให้เข้ากับพริกแกง



แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือให้เข้มข้น



ใส่กระชายซอย



ใส่หางกะทิลงไป รอให้เดือด



ตามด้วยมะเขื่อเปราะ รอให้เดือดชิมรสอีกครั้ง



ได้รสชาติที่ต้องการแล้ว ใส่ พริกชี้ฟ้าเขียวแดง



ใส่ใบโหระพา



ตักใส่หม้อ ตั้งไฟพอเดือดอีกครั้ง ก็ปิดไฟได้เลยคะ



พร้อมรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ คะ




เมนูปิดท้ายปลายปี 2552 หวังว่าจะถูกใจ ถูกคอ เพื่อนที่ชอบแกงรสเผ็ด รสจัด ๆ กันนะคะ

สุดท้ายนี้ ก็ขอให้เพื่อน ๆ ทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียน จงมีแต่ความสุข คิดสิ่งใดสมปรารถนาทุกประการ โชคดีปีใหม่กันทุก ๆ ท่านคะ






Create Date : 29 ธันวาคม 2552
Last Update : 29 ธันวาคม 2552 8:21:33 น. 7 comments
Counter : 12091 Pageviews.

 


โดย: สายของพิณ วันที่: 29 ธันวาคม 2552 เวลา:13:02:22 น.  

 
อร่อยแน่นอนเลย ดูก็รู้เลยค่ะ

เอาจานข้าวสวยร้อนๆมาตั้งรอเลยนะคะเนี่ย กินไปดูไป อิๆ


โดย: ClayAnn วันที่: 30 ธันวาคม 2552 เวลา:9:08:07 น.  

 
ตกใจหมดเลยคะ คิดว่าเป็นเนื้อนก แต่พออ่านไปก็ อ๋อ
น่าทานดีคะ ได้ทานเนื้อปลามีประโยชน์ที่สุดแล้วคะ
Happy New year Ka


โดย: แม่อ้วนใจดีที่สุด วันที่: 30 ธันวาคม 2552 เวลา:10:06:20 น.  

 
ชอบมากๆหาสูตรมานานแล้ว ขอบคุณค่ะ


โดย: พิม IP: 150.101.113.18 วันที่: 11 ตุลาคม 2553 เวลา:16:44:11 น.  

 
ตอนเด็กๆ แม่ทำให้ทานบ่อยค่ะ แต่จำขั้นตอนไม่ได้ นั่งนึกอยู่ว่าจะทำยังไง
พอเห็นสูตรนี้ต้องรีบทำเลย ขอบคุณนะคะ


โดย: ตุ้ยนุ้ย IP: 180.183.161.155 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:25:21 น.  

 
เพิ่งเจอสูตรเห็นล้วน่าอร่อยแถมมีป
ระโยนช์จะลองทำ


โดย: หน่อย IP: 27.55.132.52 วันที่: 22 เมษายน 2558 เวลา:18:49:51 น.  

 
เพิ่งเจอสูตรเห็นล้วน่าอร่อยแถมมีป
ระโยนช์จะลองทำ


โดย: หน่อย IP: 27.55.132.52 วันที่: 22 เมษายน 2558 เวลา:18:50:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kuky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 446 คน [?]








...บ้านใบตอง ยินดีต้อนรับ...

เปิดบล็อกเมื่อ 29 กันยายน 2551...

บ้านหลังนี้มีน้ำใจให้เสมอ สร้างไว้สำหรับเก็บข้อมูลการทำอาหารและเรื่องราวต่าง ๆ บล็อกอาจไม่สวย ไม่งาม เจ้าของบล็อก ต้องทำทั้งงานราษฏร์ งานหลวง งานบ้าน เลยตบแต่งเท่าที่เวลาจะอำนวย คะ



บล็อกนี้เน้นทำอาหารง่าย ๆ ดัดแปลงวัตถุดิบ และใช้อุปกรณ์ทำครัว แบบง่าย ๆ ของเก่าของใหม่ผสมกัน เป็นอีกหนึ่งเมนู



เจ้าของบล็อก...อายุอานามก็..เดินขึ้นเกือบกลางสะพานพระราม 4 แล้ว จะเรียกพี่..เรียกน้อง..เรียกน้า..เรียกป้า..หรือเรียกแม่ใบตอง...ก็ยินดีต้อนรับคะ




.





บ้านใบตอง | บ้านหลังเล็ก ๆ ที่อยากให้แวะมาคะ


Kook Lukkana | ความสุขเล็ก ๆ ที่ได้แบ่งปัน



.









New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
29 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kuky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.