เสน่ห์ญี่ปุ่น : 05-ล่องเรือโจรสลัดไปศาลเจ้าฮาโกเน่
สวัสดีครับ กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นประเภทเบสิค ก็คือการไปล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ เพื่อชมทิวทัศน์สองฟากฝั่งที่สวยงาม บนเรือที่ถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงามตระการตา และไปนมัสการศาลเจ้าฮาโกเน่ ศาลเจ้าที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าใหญ่เชิงเขา ครั้งนี้จะพาไปชม เชิญติดตามไปด้วยกันครับ
ทะเลสาบอาชิ หรือ ทะเลสาบฮาโกเน่ เป็นทะเลสาบที่มีภูมิทัศน์สวยงาม ตั้งอยู่บริเวณเมืองฮาโกเนะ จังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ทอดตัวในแนวตะวันตกเฉียงใต้ของแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดฮาโกเน่
ทะเลสาบอาชิเป็นทะเลสาบที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม(ถ้าอากาศแจ่มใส) อีกทั้งโดยรอบทะเลสาบยังเรียงรายไปด้วยรีสอร์ท บ่อน้ำพุร้อน เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาตินิยมไปเยือน มีบริการเรือข้ามฝาก เรือชมวิว จุดเด่นที่สำคัญของเรือในทะเลสาบอาชิ คือสร้างเลียนแบบลักษณะเรือมาจากเรือโจรสลัดของทางตะวันตก (แต่ตามประวัติแล้วต้นแบบกลับเป็นเรือรบของฝรั่งเศส อังกฤษ และสวีเดน ตามลำดับ)
เรือโจรสลัดมีอยู่ 3 ลำ คือเรือรอยัล II , เรือวิคตอรี และ เรือวะสะ แต่ละลำก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป เรือรอยัล II ได้ถูกออกแบบตามเรือรอยัลหลุยส์ ซึ่งเป็นเรือรบระดับเฟิร์สคลาสที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 18 ซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นเรือธงให้กับกองเรือรบฝรั่งเศส เรือวิคตอรีได้ถูกทำให้เป็นเรือตามแบบเรือ HMS วิคตอรี เรือรบอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 18 ส่วนเรือวะสะ เป็นเรือที่จำลองมาจากเรือรบที่สร้างขึ้นโดยกษัตริย์สวีเดนในสมัยช่วงต้นศตวรรษที่ 17
ท่าเรือที่เรือนี้จะจอดเทียบท่ามีอยู่ 3 ท่า คือท่าเรือฮาโกเน่ ท่าเรือโมโตะ-ฮาโกเน่ และ ท่าเรือโทเง็นได ตามแผนที่นี้ครับ
เรือจะแล่นไปในทะเลสาบอาชิ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวทิวทัศน์บรรยากาศที่สวยงามของธรรมชาติในทะเลสาบนี้ที่ล้อมรอบไปด้วยหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ บางช่วงเวลาและอากาศเป็นใจจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ ก่อนที่เรือจะเข้าเทียบท่าเรือโมโคตะ-ฮาโกเน่ จะเห็นเสาโทริอิสีแดงของศาลเจ้าฮาโกเน่ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ
แหล่งข้อมูล : //www.hakonenavi.jp/thai/basics/transportation/sightseeing-cruise.html
มาถึงท่าเรือฮาโกเน่แล้ว
ในสำนักงานของท่าเรือ มีป้ายแสดงเรือที่ให้บริการทั้ง 3 ลำ คือเรือวิคตอรี่ เรือรอยัล II และเรือวะสะ ค่าบริการแตกต่างกันแล้วแต่ว่าจะเลือกนั่งส่วนไหนของเคบิน
ตารางเวลาที่เรือจะออกแต่ละเที่ยว และเวลาที่ถึงท่าเรือต่อไป เรือของเราออกเวลา 12.30 น. จากท่าเรือฮาโกเน่ เพื่อล่องเรือไปยังท่าเรือโมโคตะ-ฮาโกเน่ ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้นครับ
ระหว่างรอเรือเรามาชมวิวบริเวณท่าเรือกันก่อน
วันนั้นอากาศไม่ค่อยดีและดูเหมือนฝนจะตกด้วย มีภาพพาโนรามามาฝาก (คลิกที่ภาพจะขยายใหญ่ขึ้น)
ใกล้เวลาเรือมาถึง ผู้โดยสารเข้ามารอกันบริเวณทางไปขึ้นเรือ
เรือของเราแล่นเข้ามาใกล้แล้ว
มุมนี้เห็นแต่หัวเรือ เรือวิคตอรีนั่นเอง
ภาพที่เห็นทั้งลำ
ผู้โดยสารที่จะขึ้นเรือเดินออกไปที่สะพานท่าเรือ ต่างบันทึกภาพเรือที่กำลังจะเทียบท่า
รอให้ผู้โดยสารในเรือลงมาให้หมดก่อน
เราจะเดินขึ้นเรือแล้ว เข้าไปใกล้ ๆ มองเห็นหัวเรือที่สวยงามโดดเด่น
และชื่อเรือลำนี้เป็นภาษาญี่ปุ่น
ขึ้นเรือได้แล้วนักท่องเที่ยวก็ถ่ายรูปทันที พื้นเรือด้านนอกเคบิน ทาสีเขียวน้ำทะเล
บางคนขึ้นไปชั้นบนสุด เพื่อหามุมถ่ายรูปสวย ๆ
ด้านท้ายเรือมีปืนใหญ่โบราณ 1 กระบอก
เรือออกเดินทางแล้ว ภาพท่าเรือที่เราเพิ่งออกเรือมา
และวิวแบบพาโนรามาขณะที่เรือกำลังเลี้ยว (คลิกที่ภาพจะขยายใหญ่ขึ้น)
อาคารสวยงามหลังนี้น่าจะเป็นโรงแรม
เสาโทริอิของศาลเจ้าฮาโกเน่ที่เราจะไปชมต่อไป แต่เรือไม่จอดเพราะไม่ใช่ท่าเรือ
บางช่วงเวลาและอากาศดีจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิอยู่ไกล ๆ (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)
ใช้เวลาเพียง 10 นาที เราก็มาถึงท่าเรือโมโตะ-ฮาโกเน่ แล้ว
เราเดินลงจากเรือ สวนกับผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ที่กำลังจะขึ้นเรือ
ชมให้เต็มตาอีกครั้งกับเรือโจรสลัดสุดสวย วิคตอรี
รถโค้ชของเรามาจอดรอที่บริเวณที่จอดรถแล้ว เราจะเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันกันก่อน แล้วจะเดินทางไปชมศาลเจ้าฮาโกเน่ที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้
ร้านอาหารกลางวันอยู่ใกล้ ๆ กับเสาโทริอิต้นนี้ครับ เสร็จจากอาหารกลางวันเราจะเดินทางไปยังศาลเจ้าฮาโกเน่
ศาลเจ้าฮาโกเน่ ซ่อนตัวอยู่กลางป่าทึบ เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโตที่เป็นศาลเจ้าสำคัญของเมือง จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดีคือ เสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบอาชิ ที่แสดงให้เห็นเขตแดนของศาลเจ้า จากท่าเรือจะมีทางให้เดินมายังศาลเจ้า ตลอดเส้นทางเป็นต้นไม้เชียวชอุ่มดูสบายตาทั้งต้นเล็กต้นใหญ่ (แต่สำหรับคณะของเราขึ้นรถโค้ชมา)
มาถึงบริเวณทางขึ้นศาลเจ้าแล้ว
แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านเสาโทริอิต้นนี้
ศาลเจ้าตั้งอยู่บนเนินเขาในป่าใหญ่ที่ร่มรื่น ต้องเดินขึ้นบันไดไประยะทางประมาณ 200 เมตร
เดินผ่านต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี
สองข้างทางมีโคมไฟติดตั้งให้แสงสว่างยามค่ำคืนไว้เป็นระยะ ๆ แต่เดิมเป็นตะเกียง
เมื่อมองย้อนกลับไป
ระหว่างทางจะมีศาลเจ้าหลังเล็กสวยงาม
ขึ้นมาถึงบริเวณศาลเจ้าด้านบนแล้ว ศาลเจ้าตั้งอยู่บนพื้นที่ราบค่อนข้างกว้าง (คลิกที่ภาพจะขยายใหญ่ขึ้น)
กลุ่มอาคารสวยงามตามสไตล์ศาลเจ้า
และอาคารหลังนี้คือศาลเจ้าฮาโกเน่
เราจะเข้าไปนมัสการเพื่อความเป็นสิริมงคล เสร็จแล้วดึงเชือกตีระฆังให้เทพเจ้าได้รับรู้
ศาลาที่อยู่ติดกับศาลเจ้าทางด้านขวามือ นักท่องเที่ยวคนนี้กำลังถ่ายภาพรูปปั้นสิงโตหิน
และเหมือนกับศาลเจ้าทุกแห่ง จะมีแผ่นป้ายจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้เขียนคำอธิษฐานแขวนเอาไว้
สังเกตว่าแผ่นที่สองมุมบนซ้ายน่าจะเป็นของนักท่องเที่ยวชาวไทย
กล่องนี้ใส่เซียมซีราคา 100 เยน (ประมาณ 33 บาท) จับขึ้นมา 1 แผ่น
ได้หมายเลขแล้วไปหยิบกระดาษคำทำนายที่แผงนี้
อ่านเรียบร้อยแล้วก็นำไปติดไว้ที่บริเวณนี้เพื่อให้เทพเจ้ามาอวยพรให้คำทำนายเป็นจริง ต่อจากนั้นก็จะเดินไปทางด้านขวามือซึ่งเป็นทางลงจากศาลเจ้า (คนละทางกับทางขึ้น)
ลงมาถึงด้านล่างแล้ว ปากทางมีรูปปั้นปี๋เซี๊ยะตัวใหญ่ให้ถ่ายรูปคู่ด้วย หวังว่าจะเก็บเงินทองได้ไม่รั่วไหล มีความร่ำรวยสมปรารถนานั่นเอง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมแล้วพบกันใหม่ครั้งต่อไปครับ.
Create Date : 03 พฤษภาคม 2559 |
|
11 comments |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2559 19:17:38 น. |
Counter : 3733 Pageviews. |
|
|
|
ชอบต้นไม้ใหญ่อายุเป็นร้อยปี
ไม่เหมือนบางที่นะคะมีแต่ตัดโค่นทำลาย
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog