Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ท่องเที่ยวทั่วไทย
ผจญภัยในต่างแดน
บันทึกการเดินทางไปต่างประเทศ
แบ่งปันประสบการณ์
อุทยานหลวงราชพฤกษ์
ไม้ดอกไม้ประดับ
ความรู้รอบคอมพ์
การตกแต่งบล็อกเบื้องต้น
วิธีป้องกันน้ำท่วมบ้าน
กรกฏาคม 2562
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
6 กรกฏาคม 2562
เสน่ห์โครเอเชีย
All Blogs
เสน่ห์สวิตเซอร์แลนด์
เสน่ห์สเปน-โปรตุเกส
เสน่ห์โครเอเชีย
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 11-มนต์เสน่ห์แห่งกรุงปารีส
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 10-พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 09-พระราชวังแวร์ซาย (Chateau de Versailles)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 08-มหาวิหารมงแซงมิเชล (Mont Saint-Michel)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 07-ปราสาทเชอนงโซ (Chateau de Chenonceau)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 06-ปราสาทอองบัวส์ (Royal Chateau of Amboise)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 05-เมืองการ์กาซอน (Carcassonne)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 04-สะพานส่งน้ำโรมัน (Pont du Gard)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 03-เมืองกาซิส (Cassis)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 02-โมนาโก (Monaco)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 01-อารัมภบท
ล่องแยงซีเกียง : 05-ซื้อของฝากที่เมืองโบราณฉือชีโข่ว (Ciqikou Ancient Town)
ล่องแยงซีเกียง : 04-เขื่อนซานเสียต้าป้า (Three Gorges Dam)
ล่องแยงซีเกียง : 03-ธารน้ำนางฟ้า (Goddess Stream)
ล่องแยงซีเกียง : 02-เจดีย์สือเป่าใจ้ (Shibaozhai Pagoda)
ล่องแยงซีเกียง : 01-เรือเซ็นจูรี พารากอน (Century Paragon)
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 10-ไปชอปปิ้งกันเถอะ
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 09-ชมซากุระที่สวนอุเอะโนะ
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 08-ศาลเจ้าเมจิ
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 07-วัดอาซากุสะ
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 06-ภูเขาไฟฟูจิ
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 05-ล่องเรือโจรสลัดไปศาลเจ้าฮาโกเน่
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 04-วัดคินคะคูจิ
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 03-ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 02-วัดคิโยมิสึ (วัดน้ำใส)
เสน่ห์ญี่ปุ่น : 01-อารัมภบท
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 11-เวียนนา (Vienna) เมืองแห่งศิลปะและดนตรีของโลก
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 10-ซาลส์บูร์ก (Salzburg) นครหลวงแห่งศิลปะบาโรก
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 9-ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 8-เชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) ไข่มุกเม็ดงามแห่งโบฮีเมีย
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 7-คาร์โลวี วารี (Karlovy Vary) เมืองสปาโรแมนติก
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 6-กรุงปราก (Prague) อัญมณีเม็ดงามแห่งยุโรป
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 5-ปราสาทแห่งกรุงปราก (Prague Castle)
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 4-บราติสลาวา (Bratislava) เมืองหลวงที่มีอาณาเขตติดกับสองประเทศ
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 3-บูดาเปสต์ (Budapest) ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 2-เซนต์เทนเดอร์ (Szentendre) เมืองศิลปินริมฝั่งแม่น้ำดานูบ
เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 1-อารัมภบท
เสน่ห์นิวซีแลนด์ : 9-ทะเลสาบปูคากิ (Lake Pukaki)
เสน่ห์นิวซีแลนด์ : 8-เมืองเล็กที่สงบเงียบ เต อานาว (Te Anau)
เสน่ห์นิวซีแลนด์ : 7-ไปชมฟยอร์ดที่มิลฟอร์ดซาวด์ (Milford Sound)
เสน่ห์นิวซีแลนด์ : 6-อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ (Fiordland National Park)
เสน่ห์นิวซีแลนด์ : 5-ไปชมบันจี้จัมพ์ที่สะพานคาวารัว (Kawarau Bungy Jump)
เสน่ห์นิวซีแลนด์ : 4-ธรรมชาติงดงามที่เมืองควีนส์ทาวน์ (Queenstown)
เสน่ห์นิวซีแลนด์ : 3-ผลไม้อร่อยดอกไม้สวยที่ร้านป้าโจนส์ (Joness Fruit Stall)
เสน่ห์นิวซีแลนด์ : 2-ทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo)
เสน่ห์นิวซีแลนด์ : 1-อารัมภบท
เสน่ห์เยอรมนี : 14-เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt)
เสน่ห์เยอรมนี : 13-เมืองเกิร์ทธิงเก้น (Gottingen)
เสน่ห์เยอรมนี : 12-เมืองเควดลินบวร์ก (Quedlinburg)
เสน่ห์เยอรมนี : 11-พระราชวังซ็องซูซี (Sanssouci Palace)
เสน่ห์เยอรมนี : 10-มหานครเบอร์ลิน (Berlin)
เสน่ห์เยอรมนี : 9-เมืองเดรสเดน (Dresden)
เสน่ห์เยอรมนี : 8-เมืองโรเธนบวร์ก (Rothenburg)
เสน่ห์เยอรมนี : 7-เยือนเมืองมิวนิค (Munich)
เสน่ห์เยอรมนี : 6-ขึ้นยอดเขาซุกสปิทเซ่ (Zugspitze)
เสน่ห์เยอรมนี : 5-ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle)
เสน่ห์เยอรมนี : 4-เกาะพฤกษชาติไมเนา (Mainau)
เสน่ห์เยอรมนี : 2-เมืองไฮเดลแบร์ก (Heidelberg)
เสน่ห์เยอรมนี : 1-อารัมภบท
หนีร้อนจากเมืองไทย ไปพึ่งเย็นที่เยอรมนี
ซูโจว 2 : ชมวัดฉงหยวน
ซูโจว 1 : ชมพระโพธิสัตว์กวนอิมที่วัดฉงหยวน
อู๋ซี 2 : หลิงซานฝานกง ที่ยิ่งใหญ่สวยงาม
อู๋ซี 1 : ชมพระใหญ่หลิงซานต้าฝอ
ตงหยาง 2 : ชมโรงถ่ายภาพยนตร์ที่เมืองเหิงเตี้ยน
ตงหยาง 1 : ไปชมศูนย์ค้าส่งสินค้าและพิพิธภัณฑ์ไม้แกะสลัก
หังโจว 2 : ชมสวนชาที่หมู่บ้านชาเหมยเจียอู่
หังโจว 1 : เที่ยวทะเลสาบซีหู
เซี่ยงไฮ้ 4 : ชมทิวทัศน์งดงามที่หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
เซี่ยงไฮ้ 3 : นั่งรถรางลอดอุโมงค์เลเซอร์
เซี่ยงไฮ้ 2 : ชมทิวทัศน์ 360 องศาบนหอไข่มุก
เซี่ยงไฮ้ 1 : สาธารณรัฐประชาชนจีนตะวันออก ที่ยิ่งใหญ่อลังการ
มนต์เสน่ห์แห่งราตรีที่เซี่ยงไฮ้
มนต์เสน่ห์แห่งยุโรปตะวันออก
เสน่ห์อิตาลี : 13-เมืองมิลาน (Milan)
เสน่ห์อิตาลี : 12-เมืองซีร์มิโอเน่ (Sirmione)
เสน่ห์อิตาลี : 11-เมืองเวนิส (Venice)
เสน่ห์อิตาลี : 10-หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Pisa)
เสน่ห์อิตาลี : 9-เมืองลุคค่า (Lucca)
เสน่ห์อิตาลี : 8-เมืองฟลอเรนซ์ (Florence)
เสน่ห์อิตาลี : 7-เมืองเซียน่า (Siena)
เสน่ห์อิตาลี : 6-โคลอสเซียม (Coliseum) น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) และบันไดสเปน (Spanish Steps)
เสน่ห์อิตาลี : 5-มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Saint Peter's Basilica)
เสน่ห์อิตาลี : 4-พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Musium)
เสน่ห์อิตาลี : 3-ปอมเปอี (Pompeii)
เสน่ห์อิตาลี : 2-เกาะคาปรี (Capri)
เสน่ห์อิตาลี : 1-อารัมภบท
เก็บตกตุรกี : โรงแรมไททานิคที่เมืองอิสตันบูล
เสน่ห์ตุรกี : 11-ซื้อของฝากที่ตลาดแกรนด์บาซาร์และสไปซ์มาเก็ต
เสน่ห์ตุรกี : 10-พระราชวังโดลมาบาชเช่
เสน่ห์ตุรกี : 9-ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส
เสน่ห์ตุรกี : 8-ฮิปโปโดรม สุเหร่าสีน้ำเงิน วิหารเซนต์โซเฟีย และอ่างเก็บน้ำใต้ดิน
เสน่ห์ตุรกี : 7-พระราชวังทอปกาปิ
เสน่ห์ตุรกี : 6-คัปปาโดเกียและเกอเรเม
เสน่ห์ตุรกี : 5-โชว์เมฟลาน่าและระบำหน้าท้อง
เสน่ห์ตุรกี : 4-พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า
เสน่ห์ตุรกี : 3-นครโบราณฮีเยราโพลิสและภูเขาน้ำพุเกลือแร่
เสน่ห์ตุรกี : 2-เมืองโรมันโบราณเอฟฟิซุส
เสน่ห์ตุรกี : 1-เยี่ยมชมบ้านพระแม่มารี
คำแนะนำการป้องกันและแก้ปัญหาพาสปอร์ตหายในต่างประเทศ
เมืองงาม ลำน้ำใส ดอกไม้สวย : ลักเซมเบิร์ก
บรัสเซลส์แสนสวย - บรูจจ์สุดประทับใจ
เมืองจำลองมาดูโรดัม (Madurodam)
ทิวลิปหลากสีที่สวน Keukenhof
ไปนมัสการพระธาตุอินทร์แขวน
มอสโคว์ที่โอฬารตระการตา
ไปเยือนนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
สนามบินที่เมืองมอสโคว์
เล่าเรื่องโรงแรมที่รัสเซีย
ตะวันขึ้นที่ฮาลองเบย์
ครั้งหนึ่งในเกาหลี
สัมผัสสโตนเฮนจ์ (Stonehenge)
ไปเยือนเมืองบาธ (Bath)
18 วันในญี่ปุ่น
ลอนดอนอาย (London Eye)
เสน่ห์โครเอเชีย
สวัสดีครับ ผมมีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศโครเอเชียกับทัวร์ ในรายการแกรนด์โครเอเชีย เป็นเวลา 8 วัน เมื่อวันที่ 10-17 เมษายน 2562 เดินทางโดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ OS 026 ถึงสนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อเปลี่ยนเครื่องต่อไปลงที่เมืองชาเกร็บประเทศโครเอเชีย แล้วเดินทางท่องเที่ยวผ่านเมืองต่าง ๆ ลงมาทางตอนใต้ของประเทศ ตามแผนที่ด้านล่าง
ผมมีเวลาท่องเที่ยวจริง ๆ 6 วัน ในช่วงนั้นอากาศยังค่อนข้างหนาวเย็นอยู่ อุณหภูมิ 8-9 องศาเซลเซียส มีฝนตกเล็กน้อย ขอนำสิ่งที่ประทับใจได้พบเห็นมาบันทึกไว้ครับ
วันแรกผมอยู่ที่เมืองชาเกร็บ เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ภาพสวยงามที่เห็นอยู่นี้ อยู่ในบริเวณเมืองเก่า คือบริเวณมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ซึ่งเป็นมหาวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโครเอเชีย สามารถมองเห็นได้จากทุกที่ในเมืองซาเกร็บ
ตอนบ่ายไปเที่ยวที่เมืองโอพาเทีย เมืองชายทะเลที่มีทิวทัศน์งดงาม และมีรูปปั้นนางแห่งนกนางนวล อยู่บริเวณชายหาดด้วย รูปปั้นนี้แกะสลักโดย Zvonko Car เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองโอพาเทีย
วันที่สองในโครเอเชีย ผมมีโอกาสไปชมสนามพูล่า อารีน่า ที่เมืองพูล่า เป็นสนามกีฬากลางแจ้งที่มีอายุรุ่นเดียวกับโคลอสเซียมที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี อารีน่าแห่งนี้ถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ที่สร้างขึ้นในยุคโรมันเรืองอำนาจ จึงถูกสร้างขึ้นตามแบบฉบับโคลอสเซียมทุกประการ สามารถจุผู้ชมได้มากถึง 22,000 คน โดยมีทางผ่านเข้าออก 20 ช่องทาง ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมกลางแจ้ง และงานเทศกาลภาพยนตร์ประจำปี
วันที่สามในโครเอเชีย เช้าวันนี้ทัวร์พาไปเข้าชมอุทยานแห่งชาติพลิทวิตเซ่ (Plitvice) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1979 เป็นรายการทัวร์ไฮไลท์ของโครเอเซีย คือใครไปเที่ยวประเทศนี้ก็ต้องไปชมกันทุกคณะครับ
อุทยานประกอบด้วยทะเลสาบใหญ่ที่เกิดจากน้ำบนภูเขาไหลลงมารวมกันผ่านหินปูน เวลาผ่านไปหลายพันปี หินปูนถูกกัดเซาะไหลไปรวมกันเกิดเป็นเขื่อนธรรมชาติ และสายน้ำไหลตกลงมา กลายเป็นน้ำตก 16 แห่ง ไหลลงไปรวมกันเป็นทะเลสาบใหญ่ด้านล่าง น้ำตกสูงที่สุดสูงถึง 639 เมตร และต่ำสุด 503 เมตร มีทางเดินเท้าให้เดินชมน้ำตกทุกแห่งอย่างใกล้ชิด
แต่เรื่องที่น่าเซอร์ไพรส์ที่สุดสำหรับคณะก็คือ ความแปรปรวนของอากาศ คือมีหิมะตกหนักเมื่อคืนวาน ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงที่เราเดินทางเข้าไปชม โดยอุณหภูมิลดต่ำลงเหลือเพียง 1 องศาเซลเซียส หนาวเย็นมาก ๆ มีหิมะตกขาวโพลนไปทั้งอุทยาน จึงไม่สามารถเดินชมน้ำตกตามทางเดินเท้าได้ ได้แต่เดินชมด้านบนครับ
วันที่สี่ในการท่องเที่ยวโครเอเชีย วันนี้ภาคเช้าผมไปชมเมืองซีบีนิค (Sibenik) เมืองสวยงามที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเอเดรียติก เป็นท่าเรือยอร์ชที่ได้รับความนิยมจากนักเดินเรือชาวยุโรปอย่างมาก ภายในตัวเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์เจมส์ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2000
นอกจากนี้ยังได้ไปชม ซีออร์แกน (Sea Organ) นวัตกรรมใหม่ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดที่เมืองบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2005 เป็นการใช้ท่อฝังลงไปริมฝั่งทะเล แล้วอาศัยคลื่นน้ำทะเลดันอากาศเข้าไปในท่อที่มีลิ้นแตกต่างกัน ทำให้เกิดโทนเสียงสูง ต่ำ ออกจากท่อจำนวนมาก อย่างน่าอัศจรรย์
ช่วงบ่ายไปชมเมืองโทรเกอร์ (Trogir) ที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ รถยนต์สามารถข้ามไปได้ด้วยสะพาน เป็นเมืองที่มีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน คือสดชื่นเย็นสบายตลอดทั้งปี จนได้ฉายาว่า "แคลิฟอร์เนียแห่งโครเอเชีย" ตัวเมืองยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบกรีกและโรมันในสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ จึงได้รับการคัดเลือกจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1997 ครับ
วันที่ห้าในทริปท่องเที่ยวประเทศโครเอเชีย วันนี้ทัวร์พาไปชมเมืองสปลิท (Split) เมืองในแคว้นดัลเมเชีย เมืองท่าตากอากาศ แหล่งกำเนิดสุนัขพันธุ์ดัลเมเชียน เป็นเมืองศูนย์กลางการพาณิชย์และการคมนาคม และเมืองท่าที่มีเรือสำราญขนาดใหญ่จากฝั่งอิตาลีมาจอดแวะอย่างต่อเนื่อง
มีตัวเมืองโบราณสร้างรายล้อมพระราชวังดิโอคลีเธียน และศาลาว่าการเมือง ที่สร้างสไตล์เรอเนสซองซ์ในศตวรรษที่ 15 ทางการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1979 พระราชวังดิโอคลีเธียน เป็นที่ประทับของจักรพรรดิดิโอคลีเธียนแห่งเมืองเวนิส จักรพรรดิโรมันที่ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ.243-316 เป็นพระราชวังโบราณที่ยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์สวยงาม มีนักท่องเที่ยวเข้าไปชมเป็นจำนวนมากครับ
วันที่หกและเป็นวันสุดท้ายที่จะท่องเที่ยวในโครเอเชีย ผมมาถึงเมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) เมืองทางตอนใต้ของประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า ดูบรอฟนิก ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในยุโรป และเป็นฉากหลังซีรี่ย์ดัง Game of Thrones อายุเก่าแก่กว่าพันปี เป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป จนได้รับฉายาว่า ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก
ดูบรอฟนิคเป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเล ควบคุมการเดินเรือในทะเลเอเดรียติคและเมดิเตอร์เรเนียน จึงเป็นเมืองร่ำรวย สามารถใช้เงินตกแต่งพระราชวัง โบสถ์ วิหาร จัตุรัส น้ำพุ และอาคารบ้านเรือน ได้อย่างเต็มที่ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ กอธิค เรเนสซองค์ และบาโรค ต่อมาเกิดสงครามกลางเมืองในศตวรรษที่ 19 บ้านเมืองเสียหายหนัก จนองค์การยูเนสโกต้องเข้ามาช่วยบูรณะ และรับเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979
ผมเดินทางออกจากเมืองดูบรอฟนิค กลับประเทศไทย โดยเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย เที่ยวบินที่ OS 025 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันพุธที่ 17 เมษายน 2562 ในช่วงบ่าย โดยสวัสดิภาพ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ.
Create Date : 06 กรกฎาคม 2562
Last Update : 7 กรกฎาคม 2562 20:01:18 น.
0 comments
Counter : 1894 Pageviews.
Share
Tweet
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่
,
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ
,
คุณhaiku
,
คุณKavanich96
,
คุณไวน์กับสายน้ำ
,
คุณอุ้มสี
ทองกาญจนา
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
?
]
Friends' blogs
ฟ้าใสวันใหม่
Maeboon
tuk-tuk@korat
AdrenalineRush
ฝากเธอ
สายหมอกและก้อนเมฆ
NENE77
อุ้มสี
schnuggy
ข้ามขอบฟ้า
Close To Heaven
เนินน้ำ
Sweet_pills
เรียวรุ้ง
mambymam
ตุ๊กจ้ะ
newyorknurse
ไวน์กับสายน้ำ
Webmaster - BlogGang
[Add ทองกาญจนา's blog to your web]
Links
www.ampols.com
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.