|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เสน่ห์อิตาลี : 12-เมืองซีร์มิโอเน่ (Sirmione)
เมื่อคืนผมค้างคืนอยู่ที่เวนิส เช้านี้ออกเดินทางต่อไปยังเมืองมิลานซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายของทริปนี้ ระหว่างทางมีโอกาสได้เข้าไปชมเมืองเล็ก ๆ ที่สวยงามอีกเมืองหนึ่งชื่อ ซีร์มิโอเน่ จึงขอนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ครับ
ซีร์มิโอเน่ (Sirmione) เป็นเมืองเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 2,000 ปี เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ด้า (Garda Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืด ที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์ ดังนั้นซีร์มิโอเน่จึงถูกล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้งสองด้าน และถึงแม้ซีร์มิโอเน่จะเป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ก่อนศตวรรษที่ 15 ซีร์มิโอเน่อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองเวนิสหรือจะกล่าวได้ว่าเป็นอาณาบริเวณหนึ่งของเมืองเวนิสนั่นเอง เพราะสมัยนั้นเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลียังไม่ได้รวมตัวกันต่างก็เป็นเอกเทศปกครองกันเอง แถมมีการทำสงครามเพื่อแย่งชิงเมือง ซีร์มิโอเน่ เลยเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน มีหลักฐานและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคสมัยโรมันรวมทั้งกำแพงเมืองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันภัยจากสงคราม
นอกจากซีร์มิโอเน่ จะมีชื่อเสียงเรื่องซากปรักหักพังตั้งแต่สมัยยุคโรมัน สิ่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันคือน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ผุดขึ้นมาจากใต้ทะเลสาบ ถูกค้นพบโดยชาวโรมันตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีที่ผ่านมา เชื่อกันว่าเป็นน้ำพุร้อนที่มีอุณหูมิถึง 69 องศาเซลเซียสและอุดมไปด้วยแร่ธาตุกำมะถัน ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการใช้รักษาโรคของชาวโรมันในสมัยนั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่เมืองนี้จะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวพากันมาอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน แต่ค่าบริการค่อนข้างแพงมาก (คนละ 150 ยูโร)
รถโค้ชของเรามาจอดส่งนักท่องเที่ยวที่บริเวณนี้ และจะเดินเข้าไปประมาณ 800 เมตร
ต้นสนรูปทรงสวยแปลกตา ที่พบเห็นได้ทันทีที่เริ่มเข้าสู่ตัวเมือง
ป้ายแสดงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองซีร์มิโอเน่
เดินผ่านอาคารสวยงามหลังนี้ เป็นโรงแรมชื่อ Fonte Boiola ภายในโรงแรม 4 ดาวแห่งนี้มีบริการอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน สำหรับแขกที่ไปพักด้วย
กำลังจะเดินเข้าไปในตัวเมือง มองเห็นปราสาทเก่าแก่ของเมืองชื่อ Castello Scaligero เดิมเป็นที่อยู่ของพวกขุนนางในอดีต ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้
วิวทะเลสาบสวยงามบริเวณสะพานก่อนที่จะเดินข้ามผ่านประตูกำแพงปราสาท
วิวสวยงามของปราสาท Castello Scaligero เมื่อเข้ามาใกล้ ๆ มุมนี้เป็นมุมมหาชน คือนักท่องเที่ยวต้องถ่ายวิวนี้กันทุกคน
ผ่านประตูเข้ามาด้านในแล้ว จะเห็นประตูทางเข้าปราสาทที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์
เดินเข้ามาอีกจะเห็นอาคารหลังนี้อยู่ตรงหน้า เป็นธนาคารชื่อ Credito Bergamasco
มีร้านขายของที่ระลึกอยู่ใกล้ ๆ กัน
อาคารบ้านเรือนสวยงาม เนื่องจากไปถึงแต่เช้าจึงยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก
ถนนค่อนข้างกว้างกว่าเมืองอื่น ๆ ที่ผ่านมา
ตัวปราสาทจะมีคลองเล็ก ๆ ล้อมรอบ ผมเดินอ้อมไปทางขวา
หันกลับมาจะเห็นวิวลักษณะนี้ ที่ชอบมากคือน้ำในลำคลอง มีสีฟ้าอมเขียว แลดูสะอาด
มีเป็ดเทศหลายตัว ว่ายน้ำเล่นอย่างสบายอารมณ์
และรีบว่ายเข้ามาหาอย่างรวดเร็วเมื่อมีนักท่องเที่ยวโยนเศษขนมปังลงไปให้
สองตัวนี้คงกำลังคุยกัน หน้าตาน่ารัก โดยเฉพาะขนคิ้ว ยาวเป็นพิเศษ
เดินมาสักครู่จะพบหาดเล็ก ๆ ติดกับทะเลสาบอีกด้านหนึ่ง มีเด็ก ๆ กำลังขว้างก้อนหินให้แฉลบลงไปบนผิวน้ำอย่างสนุกสนาน เด็กที่ไหน ๆ ก็เล่นแบบนี้เหมือนกัน
เดินมาจนถึงบริเวณนี้ ด้านหน้าจะเป็นท่าจอดเรือสำหรับบริการนักท่องเที่ยวชมทะเลสาบ
พบรูปปั้นของ Gaius Valerius Catullus เป็นกวีเอกชาวลาตินแห่งอาณาจักรโรมัน (87-54 AC) บทประพันธ์ของท่าน ที่หลงเหลือจากการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน ยังได้รับการอ่านอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน และมีอิทธิพลต่อบทกวีและงานศิลปะแขนงอื่น ๆ ท่านมีบ้านและครอบครัวอยู่ที่เมืองนี้
เมื่อหันกลับไปมองยังด้านที่เดินผ่านมา
เมื่อเดินมาอยู่ที่ท่าจอดเรือแล้ว
ท่าจอดเรือแท็กซี่ ให้บริการนักท่องเที่ยวชมความงามในทะเลสาบ
เรือลำนี้พานักท่องเที่ยวออกเดินทางแล้ว
ส่วนเรือลำนี้จะมาเข้าคิว
ทิวทัศน์ทะเลสาบยามสาย เมื่อมองออกไปทางด้านขวามือ
และเมื่อมองกลับมาทางด้านซ้ายมือ
เป็ดเทศหลายตัวกำลังว่ายน้ำมารออาหารจากนักท่องเที่ยว บริเวณท่าจอดเรือ
ดูสะอาด น่ารัก จริง ๆ
สังเกตว่าผืนน้ำมีสีเขียวฟ้า ถึงแม้จะไม่ใสแต่ก็สะอาด
เดินกลับออกมาจากท่าเรือ เดินผ่านบริเวณร้านไอศครีมอร่อยของเมืองนี้ สำหรับร้านนี้ค่อนข้างเก่าแก่ เพราะเปิดขายมาตั้งแต่ปี 1948 เป็นเวลา 65 ปีแล้ว
ถึงเวลาอาหารกลางวันสำหรับวันนี้แล้ว เป็นร้านหรูที่อยู่ติดกับทะเลสาบ
ค่อนข้างกว้างขวาง ภายในตกแต่งอย่างทันสมัย เป็นมื้อกลางวันที่ประทับใจอีกมื้อหนึ่ง หลังจากอาหารกลางวันเราจะออกเดินทางต่อไปยังเมืองมิลาน
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ.
Create Date : 11 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 11 มิถุนายน 2556 12:08:16 น. |
|
22 comments
|
Counter : 6694 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:14:12:03 น. |
|
|
|
โดย: Dublina วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:16:36:45 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:17:25:10 น. |
|
|
|
โดย: Maeboon วันที่: 11 มิถุนายน 2556 เวลา:18:55:33 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:0:17:27 น. |
|
|
|
โดย: chenyuye วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:13:24:36 น. |
|
|
|
โดย: tayya tatar วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:13:26:25 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 13 มิถุนายน 2556 เวลา:0:34:44 น. |
|
|
|
โดย: ฝากเธอ วันที่: 13 มิถุนายน 2556 เวลา:23:27:37 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 13 มิถุนายน 2556 เวลา:23:41:10 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 มิถุนายน 2556 เวลา:20:56:55 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 15 มิถุนายน 2556 เวลา:3:49:23 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 15 มิถุนายน 2556 เวลา:4:17:07 น. |
|
|
|
โดย: jewelmoda วันที่: 17 มิถุนายน 2556 เวลา:10:57:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
โหวตเอาฤกษ์เอาชัยค่ะ
แหะ ๆ ยกให้เป็นความผิดของการสื่อสารก็แล้วกันค่ะ
เชียงรายไม่เกี่ยว ขอโทษด้วยนะคะ
ยังไม่มีเวลาอ่านตอนนี้ แต่เห็นรูปเป็ดเทศหัวเขียว
เข้ากับสีน้ำเขียว ๆ เหมือนกัน น่ารักดีค่ะ
ไว้ว่าง ๆ มาเก็บอีกทีค่ะ