|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เสน่ห์อิตาลี : 9-เมืองลุคค่า (Lucca)
วันที่สองที่อยู่เมืองฟลอเรนซ์ วันนี้ผมและคณะมีรายการไปชมสิ่งที่น่าสนใจ 2 แห่ง คือภาคเช้าไปชมเมืองลุคค่า ส่วนภาคบ่ายไปชมหอเอนแห่งเมืองปิซ่า ทั้งสองแห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองฟลอเรนซ์ไม่ไกลนัก สำหรับตอนนี้ขอเล่าเรื่องในภาคเช้าก่อนนะครับ
เมืองลุคค่า (Lucca) เป็นหนึ่งในเมืองคลาสสิคยุคกลางของแคว้นทัสคานี ซึ่งรักษาความดั้งเดิมมาเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว จนได้รับการโหวตให้เป็น Best Small Town in Italy เสน่ห์ของเมืองนี้คือมีกำแพงเมืองโบราณโอบล้อมทั่วทั้งเมือง ที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจาก Google Map และยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีชื่อก้องคือ ปุชชินี่ (Giacomo Puccini) ผู้เขียนบทละครโอเปร่า เรื่อง Madame Butterfly, Tosca เป็นต้น ทั้งเมืองเต็มไปด้วยโบสถ์รูปทรงสวยงาม เช่น โบสถ์ซาน มิเคเล่ เป็นโบสถ์อายุเก่าแก่กว่าร้อยปี มีจุดเด่นตรงหน้าบัน 4 ชั้น ที่สร้างด้วยเสาหินอ่อนสีเขียว สีเทา และสีชมพู ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เราจะไปชมกันครับ
รถโค้ชมาจอดส่งบริเวณศูนย์ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว เราจะใช้บริการห้องน้ำได้ที่นี่
เป็นห้องน้ำชนิดหยอดเหรียญที่อยู่ชั้นใต้ดิน มีค่าบริการครั้งละ 60 เซ็นต์ (ซึ่งถือว่าถูกแล้วนะครับ เพราะตามสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะคิดค่าบริการคนละ 1 ยูโร) โดยสามารถแลกเหรียญได้จากเคาน์เตอร์ด้านบน
ทุกคนพร้อมแล้วเราจะเดินผ่านประตูกำแพงเมืองเข้าไปด้านในเมืองครับ
เป็นถนนสำหรับคนเดิน จึงไม่อนุญาตให้รถยนต์ทุกชนิดสัญจร ยกเว้นจักรยานเท่านั้น
บริเวณนี้เป็นร้านกาแฟที่มีที่นั่งอยู่หน้าร้าน ดูสบาย ๆ
ร้านขายสินค้าแฟชั่นที่ผลิตในประเทศอิตาลี
ประตูทางเข้าร้านแม้ค่อนข้างเก่า แต่ก็ดูสวยงามคลาสสิค
อาคารนี้เป็นธนาคาร มีประตูตาข่ายอีกชั้นหนึ่งเพื่อความปลอดภัย สังเกตว่ามีที่จอดรถจักรยานอย่างเป็นระเบียบ ด้านหน้า
ศิลปะด้านหน้าอาคารหลังหนึ่งที่สวยงาม
อาคารนี้เป็นโรงละคร แทบทุกเมืองในอิตาลีจะพบเห็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่น 2 อย่างเสมอ คือ โบสถ์ และ โรงละคร นั่นเอง
รูปปั้นในผนัง บริเวณหน้าโรงละคร ดูอ่อนช้อยงดงาม
ร้านนี้ขายขนมปังรูปร่างน่ารัก ตัวอักษรด้านล่างเป็นชื่อร้าน
มาถึงจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้ว มีนักท่องเที่ยวยืนชมอยู่จำนวนหนึ่ง
เป็นบ้านของคีตกวีชาวลุคค่าที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
คือ จาโกโม ปุชชินี่ (Giacomo Puccini) นั่นเอง
ศิลปินท่านนี้มีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ.1858-1924 เป็นที่รู้จักในนามของ ปุชชินี่ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในคีตกวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 อุปรากรที่โด่งดังของเขาได้แก่เรื่อง มาดามบัตเตอร์ฟลาย (Madame Butterfly) และ ทอสก้า (Tosca)
เดินต่อไปอีกไม่ไกลก็ถึงโบสถ์ใหญ่ของเมืองลุคค่า คือ โบสถ์ ซาน มิเคเล่ (San Michele in Foro) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสมิเคเล่ (Piazza San Michele)
ที่หน้าบัน 4 ชั้นของโบสถ์ สร้างด้วยเสาหินอ่อน สีเขียว สีเทา และสีชมพู ที่แกะสลักอย่างงดงาม ด้านบน มีรูปปั้นหัวหน้าฑูตสวรรค์ (Archangel) และนางฟ้า ประดับอยู่
รูปปั้นหัวหน้าฑูตสวรรค์ มีปีกติดบานพับที่สามารถกระพือได้เมื่อมีลมพัด
หอระฆังของโบสถ์
ตั้งอยู่ทางด้านขวามือของตัวโบสถ์
เข้าไปชมความสวยงามของแท่นบูชาภายในโบสถ์กันครับ
แท่นบูชาอีกด้านหนึ่ง ทำด้วยหินอ่อน สีและลายสวยงามมาก
มีรูปปั้นพระเยซูถูกตรึงกางเขนอยู่ตรงกลาง
ภาพพระแม่มาเรีย อีกมุมหนึ่ง
อนุสาวรีย์ของ Francesco Burlamacchi พ่อค้าและนักการเมืองคนสำคัญของเมืองลุคค่า ตั้งอยู่ในจัตุรัสมิเคเล่ ด้านข้างโบสถ์
อาคารสวยงามหลังนี้อยู่บริเวณตรงข้ามกับโบสถ์ มีนาฬิกาเรือนใหญ่ติดอยู่ที่ผนังอาคารด้านหน้า
ยังใช้บอกเวลาได้
ด้านล่างมีรูปปั้นของ Matteo Civitali (14361502) ประติมากร สถาปนิก ช่างทาสี และวิศวกร ชาวลุคค่า มีผลงานมากมาย บางส่วนอยู่ในโบสถ์ ซาน มิเคเล่ นั่นเอง
จากจุดนี้เราเดินกันต่อครับ จะพบเห็นหอระฆังหรือหอนาฬิกา เป็นระยะ ๆ
แล้วก็มาถึงอีกจัตุรัสหนึ่ง ชื่อ Piazza del Mercato เป็นลานกว้างรูปวงกลม มีอาคารบ้านเรือนสร้างเป็นกำแพงอยู่รายรอบ
เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านไอศครีม
ร้านนี้ขายกระเป๋าหนังทำในอิตาลี 100 เปอร์เซ็นต์
ร้านนี้ขายรองเท้าน่ารัก
ร้านขายตุ๊กตาแฮนด์เมด ฝีมือชาวลุคค่า
ของที่ระลึกที่เป็นงานฝีมือบนเซรามิค
ร้านขายของที่ระลึกจากเมืองลุคค่า
ร้านนี้จำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นเตรียมรับหน้าร้อน
เครื่องประดับที่ทำด้วยอำพัน (Amber) งานฝีมือเจียรนัยของชาวลุคค่าเช่นเดียวกัน
ปิดท้ายด้วยความรู้เกี่ยวกับคุณค่าแห่งอำพันที่ค้นมาฝากครับ อำพันเป็นอัญมณีสีเหลืองใสที่เกิดมาจากยางของต้นสนที่ไหลออกมานอกลำต้น ผ่านกาลเวลามาหลายสิบล้านปี จนแปรสภาพแข็งตัวเป็นผลึกใสที่มีซากฟอสซิลติดอยู่ภายใน ด้วยเหตุนี้ อำพันจึงถูกยกย่องเป็นอัญมณีเลอค่าและราคาสูงลิบลิ่ว แหล่งอำพันที่สำคัญก็คือ แถบทะเลบอลติกที่นับเป็นแหล่งกำเนิดอำพันคุณภาพดี สีสันแห่งอำพันมักเป็นสีในโทนร้อน เช่น แดง น้ำตาล เหลืองและส้ม โดยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของยางสนที่แตกต่างกันออกไป
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ.
Create Date : 20 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2556 11:28:20 น. |
|
22 comments
|
Counter : 7772 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ouanoy วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:40:23 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:21:15 น. |
|
|
|
โดย: Maeboon วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:00:17 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:06:09 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:29:01 น. |
|
|
|
โดย: ฝากเธอ วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:59:26 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 21 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:59:57 น. |
|
|
|
โดย: NENE77 วันที่: 21 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:19:01 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 21 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:26:34 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 22 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:07:18 น. |
|
|
|
โดย: Maeboon วันที่: 23 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:08:53 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 23 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:55:34 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 25 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:00:25 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 27 พฤษภาคม 2556 เวลา:3:15:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
โหวตก่อนอ่านทีหลัง แหะ
คือต้องใช้เวลาและสมาธิในการอ่านมาก
แต่ตอนนี้ต้องไปเติมพลังก่อน อิอิ
ดีใจที่ชอบสีฟ้าค่ะ
ฟ้าใสว่าผู้ชายเวลาใส่เสื้อสีฟ้าหล่อ เท่ ทุกคนเลย