|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ล่องแยงซีเกียง : 05-ซื้อของฝากที่เมืองโบราณฉือชีโข่ว (Ciqikou Ancient Town)
สวัสดีครับ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว กิจกรรมที่จะทำในวันนี้คือตอนสายไปซื้อของฝากที่เมืองโบราณฉือชีโข่ว ตอนกลางวันรับประทานอาหารยอดนิยมของเมืองนี้คือสุกี้หม้อไฟฉงชิ่ง เสร็จแล้วก็เดินทางไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องกลับประเทศไทย เชิญติดตามไปด้วยกันครับ
เมื่อคืนนี้กว่าจะเข้านอนที่โรงแรม Le Meridien ก็เป็นเวลาค่อนข้างดึกมากแล้ว ทัวร์จึงนัด 7-8-9 ในวันรุ่งขึ้น หมายถึงจะปลุกเวลา 7.00 น. ลงไปรับประทานอาหารเช้าเวลา 8.00 น. และเช็คเอาท์ขึ้นรถเวลา 9.00 น. นั่นเอง
รถบัสรับคณะของเราเพื่อเดินทางไปซื้อของฝากที่เมืองโบราณฉือชีโข่ว ไปตามถนนที่เลียบแม่น้ำ ได้ชมทิวทัศน์งดงามไปตลอดทาง
นั่งรถมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ รถจอดส่งริมถนน เราจะเดินเข้าไปตามถนนทางด้านนี้
เดินเลี้ยวขวาผ่านร้านค้าแผงลอยริมถนนเข้ามา เนื่องจากค่อนข้างเช้าจึงยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก
เดินผ่านงานปติมากรรมสวยงามตามแบบจีนสมัยใหม่
เพื่อไปยังประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าขวามือ
ถึงประตูทางเข้าเมืองโบราณฉือชีโข่วแล้ว
แต่เดิมเมืองนี้ขึ้นชื่อมากในเรื่องเครื่องปั้นดินเผา ชาวบ้านทุกคนจะมีอาชีพนี้ บ้านแต่ละหลังจะสร้างด้วยไม้ไผ่ ประตูหน้าบ้านจะตกแต่งด้วยเครื่องปั้นดินเผา มีท่าเรือขนถ่ายสินค้าเพื่อลงเรือล่องแม่น้ำแยงซีเกียงกระจายไปทั่วประเทศ คึกคักมากในราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ซิง แต่ปัจจุบันผู้คนที่นี่ได้เปลี่ยนอาชีพไปค้าขายสินค้าที่เป็นของฝากมากขึ้น แต่ก็ยังคงรูปแบบบ้านเรือนในแบบสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมไว้ โดยอาคารที่อยู่ริมถนนได้เปิดเป็นร้านค้าจำหน่ายทั้งของกินของใช้และของฝาก ไปตลอดทางที่จัดให้เป็นถนนคนเดิน ตลาดเมืองโบราณแห่งนี้เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะทัวร์ เรียกว่าใครไปเที่ยวฉงชิ่งก็จะต้องมาชมตลาดนี้กันทุกคณะเลยทีเดียว
การมาเมืองนี้จึงไม่ใช่มาชมความเป็นเมืองโบราณอย่างที่จังหวัดสมุทรปราการหรือที่พัทยา แต่กลายเป็นว่ามาเดินชมตลาดของเมืองนี้มากกว่า คล้ายตลาด 100 ปี ที่อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก เรามาชมไปพร้อม ๆ กัน ว่ามีขายอะไรบ้าง
ช่างร้านนี้กำลังทำเครื่องเงินอยู่หน้าร้านที่ขายเครื่องประดับทำด้วยเงิน
ร้านนี้เตรียมแป้งทำขนม
ร้านนี้ขายหวีที่ทำด้วยไม้ ที่มีสรรพคุณหวีแล้วผมไม่ร่วงและยังมันแวววาว จากน้ำมันที่อยู่ในเนื้อไม้
เดินเลี้ยวขวาออกมาถึงถนนสายหลักของเมือง นักท่องเที่ยวเริ่มมากขึ้น
ร้านนี้จำหน่ายเครื่องประดับบ้านที่ทำด้วยไม้เป็นรูปน้ำเต้า
ไม่แน่ใจว่าเป็นหอยมุกหรือเปล่า แต่วางอยู่บริเวณหน้าร้านที่ขายเครื่องประดับที่ทำด้วยไข่มุก
ร้านนี้ขายพริกแห้งและเครื่องเทศ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของการทำอาหารแบบเสฉวน
ร้านนี้จำหน่ายขนมและเนื้อแห้ง ทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัว ประเภทเนื้อแดดเดียว
ร้านค้าบริเวณนี้จำหน่ายขนมที่ทำกันสด ๆ หน้าร้านเลย
โดยเฉพาะร้านนี้จำหน่ายขนมเกลียว เป็นร้านดังของเมืองนี้จนรายการทีวีของไทยมาถ่ายทำและเผยแพร่ออกอากาศไปแล้ว มีคนยืนรอคิวค่อนข้างยาว
คนที่ซื้อได้แล้วถือกล่องใส่ขนมเกลียวออกมาจากร้านด้วยความภาคภูมิใจ ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตทีเดียว
ร้านนี้จำหน่ายไม้แกะสลัก โดยมีช่างสาธิตการแกะสลักอยู่ที่หน้าร้านด้วย
เดินมาเกือบสุดถนนแล้ว ยังมีถนนที่อยู่ซ้ายมือข้างหน้าอีก แต่ผมไม่ได้เดินไปครับ
ถ้าตรงไปจะพบบันไดทางลงไปยังท่าเรือที่อยู่ข้างหน้า เป็นท่าเรือในแม่น้ำเจียหลิงซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำแยงซีเกียง สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมเมืองนี้โดยทางเรือก็จะขึ้นเรือที่ท่าเรือนี้เอง เราจะเดินย้อนกลับแล้วนะครับ
ผ่านร้านนี้ จำหน่ายของประดับสวยงาม
ผ้าไหมและพัดจีนหลาย ๆ แบบ ราคาไม่แพง เหมาะเป็นของฝาก
ถนนคนเดินช่วงเวลานี้มีนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด เดินสวนกันค่อนข้างลำบาก
ร้านนี้จำหน่ายเครื่องประดับเป็นกระดิ่งทองเหลือง
ภาพวาดบนกระเบื้องเป็นรูปสัญลักษณ์ตามปีนักษัตร (ชวด ฉลู ขาล เถาะ ... กุน)
ร้านนี้เป็นศิลปินรับจ้างวาดรูปเหมือน
ส่วนร้านนี้จำหน่ายเครื่องเคลือบดินเผา มีทั้งกาน้ำร้อน กระดิ่ง แก้วน้ำ ฯลฯ ขายคละกันในราคาเดียว
ใช้เวลาเดินชมบรรยากาศและซื้อของฝากที่ตลาดฉือชีโข่วอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็ออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านสุกี้หม้อไฟที่ขึ้นชื่อของเมืองฉงชิ่ง ซึ่งทัวร์ทุกคณะต้องพาไปกันทั้งนั้น เพราะเป็นอาหารยอดนิยมของชาวเมืองฉงชิ่ง นั่งรถสักครู่หนึ่งก็มาถึงหน้าร้านแล้ว
เข้าไปในร้านจะพบบริเวณที่จัดไว้ให้ลูกค้าเดินมาปรุงน้ำจิ้มเอง มีเครื่องปรุงเต็มไปหมด (ไม่ได้มีแค่พริก กระเทียม และน้ำมะนาว เหมือนบ้านเรา)
สุกี้หม้อไฟที่นี่จะมีลักษณะเป็นแบบบุฟเฟต์ คือสามารถสั่งอาหารเพิ่มได้ตลอดเวลาทั้งเนื้อสัตว์และผัก รสชาติขึ้นอยู่กับน้ำจิ้มที่ปรุงเอง ซึ่งสำหรับผมแล้วยังชอบน้ำจิ้มสุกี้ของร้านที่เมืองไทยมากกว่าครับ
ได้เวลาอันสมควรเราเดินทางไปยังสนามบินฉงชิ่ง เพื่อขึ้นเครื่องบินของสายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบินที่ WE 685 มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 18.15 น. โดยสวัสดิภาพ
เป็นอันจบทริปนั่งเรือสำราญล่องแม่น้ำแยงซีเกียงแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในทริปต่อไปครับ.
Create Date : 30 สิงหาคม 2559 |
Last Update : 30 สิงหาคม 2559 11:00:43 น. |
|
16 comments
|
Counter : 5710 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 30 สิงหาคม 2559 เวลา:10:51:23 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 30 สิงหาคม 2559 เวลา:11:12:38 น. |
|
|
|
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 30 สิงหาคม 2559 เวลา:21:35:44 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 31 สิงหาคม 2559 เวลา:4:37:25 น. |
|
|
|
โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 31 สิงหาคม 2559 เวลา:7:51:52 น. |
|
|
|
โดย: Maeboon วันที่: 31 สิงหาคม 2559 เวลา:20:54:30 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 1 กันยายน 2559 เวลา:3:45:36 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊กจ้ะ วันที่: 1 กันยายน 2559 เวลา:9:56:47 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 1 กันยายน 2559 เวลา:21:45:31 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 กันยายน 2559 เวลา:6:51:23 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:0:37:41 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 6 กันยายน 2559 เวลา:5:06:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ของที่ระลึกสวยงามตามแบบจีน มีข้อท้วงติง
เรื่องเดียว ประติมากรรมที่นำมาฝากกัน จขบ. ว่ามันสวยจริงเหรอ