เสน่ห์ญี่ปุ่น : 04-วัดคินคะคูจิ
สวัสดีครับ หลังอาหารกลางวันเราเดินทางไปชมวัดที่สวยงามของเมืองเกียวโตอีกวัดหนึ่ง นั่นก็คือวัดคินคะคูจิ เป็นวัดที่มีสิ่งก่อสร้างและทิวทัศน์สวยงามมาก จนกล่าวกันว่าถ้าไปเกียวโตแล้วไม่ไปชมวัดนี้ก็ยังไม่ถึงเกียวโตทีเดียว ไปชมพร้อม ๆ กันครับ
วัดคินคะคูจิ มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น วัดพลับพลาทอง วัดศาลาทอง หรือวัดทอง รวมทั้งวัดอิคคิวซังด้วย แรกเริ่มเดิมทีวัดคินคะคูจินี้ไม่ได้เป็นวัดอย่างที่เห็น แต่เป็นบ้านพักตากอากาศ ของรัฐบุรุษนาม ไซออนจิ คิซึเนะ เดิมมีชื่อเรียกว่า คิตายาม่าได จนกระทั่งในปี ค.ศ.1397 โชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ได้ซื้อบ้านพักตากอากาศต่อจาก ไซออนจิ และเปลี่ยนเป็นที่พำนักของโชกุนโดยตั้งชื่อว่า คินคะคูจิ ต่อมาเมื่อโชกุนโยชิมิซึ เสียชีวิต ที่พำนักของโชกุนก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็นวัดแบบเซน โดยลูกชายของเขา
ปี ค.ศ.1950 วัดคินคะคูจิถูกเผา ระหว่างสงครามโอนิน โดยพระฝึกหัดที่อยู่ในวัดชื่อฮายาชิ โยเคน ต่อมาในปี ค.ศ.1955 วัดคินคะคูจิ ได้ค่อย ๆ ถูกบูรณะขึ้นทีละส่วน รวมไปถึงรูปปั้นโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ และการตกแต่งภายใน บูรณะแล้วเสร็จทั้งวัดในปี ค.ศ. 2003 นี่เอง
บรรยากาศภายในวัดจะเป็นการจัดสวนแบบเซน มีพลับพลาทองคำอยู่ตรงกลางสระน้ำ ภาพสะท้อนของพลับพลาทองคำที่อยู่ในสระน้ำ ทำให้พลับพลาดูสวยงามและมีความขลังมากขึ้น รวมกับการจัดสวนที่สวยงามแล้วก็ยิ่งทำให้วัดคินคะคูจิแห่งนี้มีทิวทัศน์สวยงามมากขึ้นไปอีก
เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 300 เมตรก็จะถึงวัดคินคะคูจิแล้ว
จากสถานที่จอดรถ เราจะเดินอีกประมาณ 100 เมตรเพื่อเข้ามาในบริเวณวัด
มีแผนผังบริเวณวัดติดตั้งไว้ทางขวามือ การเดินชมวัดทำได้ง่ายเพราะจัดทางเดินแบบวันเวย์ เดินไปตามทางที่จัดไว้ให้เท่านั้น
ผ่านประตูด้านนอกเข้าไป
พบอาคารสวยงามหลังนี้ทางด้านขวามือ ต้นสนที่เห็นถูกตัดแต่งในลักษณะสวนญี่ปุ่น
มาถึงบริเวณจำหน่ายตั๋วเข้าไปชมภายใน
ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) คนละ 400 เยน (ประมาณ 120 บาท) เด็กอายุ 7-15 ปี คนละ 300 เยน
ได้ตั๋วมาแล้วเป็นกระดาษสีขาว และโบชัวร์อีก 1 แผ่น
ถือตั๋วคนละใบผ่านเข้ามาถึงบริเวณจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์ของวัดแล้ว นักท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ
เดินต่อไปทางซ้ายมือก็พบแล้ว พลับพลาทองคำตั้งอยู่ในสระน้ำ เมื่อยามต้องแสงแดดจะปรากฏเงาของพลับพลาสีทองในน้ำอีกหลังหนึ่ง ทำให้ตัวศาลาดูสวยงามโดดเด่น เมื่อมองจากสวนหน้าสระน้ำ มุมนี้ถือเป็นมุมมหาชน ใครมาถึงก็ต้องถ่ายภาพไปทุกคน สระน้ำที่ตั้งของพลับพลาทองคำนี้มีชื่อว่าสระเรียวโกะ (แปลว่าสระสะท้อนหรือสระกระจก)
พลับพลาทองคำที่เราเห็นนี้เป็นพลับพลาทองคำที่สร้างขึ้นมาใหม่ทดแทนของเดิม ด้านในพลับพลาไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม จึงได้แต่ชมด้านนอกเท่านั้น พลับพลามีทั้งหมด 3 ชั้น สูง 12.8 เมตร กว้าง 10 เมตรและยาว 15.2 เมตร ปิดทับด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์น้ำหนักราว 20 กิโลกรัม แต่ละชั้นใช้ศิลปะการก่อสร้างและตกแต่งแตกต่างกัน นั่นคือ ชั้นที่สาม บนสุด สร้างตามแบบพระราชวัง เป็นที่อยู่ของโชกุน ชั้นที่สอง สร้างตามแบบบ้านซามูไร เป็นที่พักของซามูไรผู้อารักขาโชกุน และชั้นล่าง สร้างตามแบบวัดพุทธในนิกายเซน ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและโบราณวัตถุที่ทรงคุณค่ามากมายหลายชิ้น
บนยอดหลังคาประดับด้วยรูปหล่อนกโฮโอทองคำ หรือนกฟีนิกซ์ ซึ่งมีความหมายถึงความเป็นอมตะ
รอบ ๆ บริเวณพลับพลา ยังมีการจัดสวนแบบเซน ที่สวยงามอีกด้วย เนื่องจากสวนในวัดนี้ เป็นสวนที่มีธรรมชาติสวยงาม ทางวัดจึงไม่อนุญาตให้นักถ่ายภาพนำขาตั้งกล้องเข้าไปใช้ในบริเวณวัด อาจเป็นเพราะกีดขวางนักท่องเที่ยวอื่นและอาจทำให้ต้นไม้เสียหาย
ภาพพลับพลาทองในมุมมองต่าง ๆ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยงามเหลือเกิน
ชื่นชมทิวทัศน์บริเวณนี้กันพอสมควรแก่เวลาแล้ว เราจะเดินกันต่อผ่านเข้าไปในสวนแบบเซนที่ตั้งอยู่ด้านหลังพลับพลาทอง
ผ่านศาลาหลังอื่น ๆ ที่อยู่ด้านขวามือ
สวนญี่ปุ่นสวยงามที่อยู่ในสระ
ด้านหลังของพลับพลาทอง
สวนสวยในสระอีกมุมหนึ่ง
ที่ริมตลิ่งสังเกตเห็นฝูงปลาแหวกว่ายอยู่ด้วย น่าจะมารออาหารจากนักท่องเที่ยว
เดินอ้อมมาจนถึงด้านข้างพลับพลาทองแล้ว
ทางเดินจะผ่านสวนแบบเซน
มีต้นไม้มากมาย
รวมทั้งน้ำตกเล็ก ๆ
พระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยหิน มีบาตรทองเหลืองเล็ก ๆ ให้ผู้คนโยนเหรียญลงไปทำบุญ
ถ้าโยนเหรียญลงบาตรนี้ได้ จะถือว่าโชคดี คิดหวังสิ่งใดจะสำเร็จ
ยังมีเจดีย์เล็ก ๆ อยู่กลางสระ
เดินมาถึงบริเวณนี้อยู่บนเนินเขา จึงมองเห็นพลับพลาทองในส่วนของชั้นที่สามเท่านั้น สีทองอร่ามท่ามกลางแมกไม้ที่อยู่รายรอบ
มาถึงบริเวณทำบุญของทางวัด
ตามแบบวัดพุทธในนิกายเซน
ยังมีเครื่องรางของขลังและของที่ระลึกจำหน่ายบริเวณใกล้ประตูทางออก
นักท่องเที่ยวเดินออกจากวัดด้วยความสุขและความปิติ ที่มีโอกาสได้มาทำบุญและมาเห็นทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม แล้วพบกันใหม่ครั้งต่อไปครับ.
Create Date : 26 เมษายน 2559 |
|
12 comments |
Last Update : 26 เมษายน 2559 10:12:48 น. |
Counter : 2880 Pageviews. |
|
|
|
ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์เลยนะคะ
แต่ก็สวยคุ้มค่าค่ะ
เห็นภาพคนสวมเสื้อหนา ๆ แล้วอิจฉาจริง
วันนี้ร้อนสุด ๆ เลยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Music Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
เจ้าการะเกด Parenting Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
The Kop Civil Diarist ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog