เสน่ห์ญี่ปุ่น : 02-วัดคิโยมิสึ (วัดน้ำใส)
สวัสดีครับ ออกจากสนามบินคันไซที่เมืองโอซาก้า คณะของเราเดินทางท่องเที่ยวไปตามรายการที่กำหนดไว้ทันที และสถานที่แรกที่เราจะไปชมกันในเช้าวันนี้ก็คือวัดคิโยมิสึ เมืองเกียวโต เชิญไปชมพร้อม ๆ กันครับ
วัดคิโยะมิสึ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของนครเกียวโต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัด เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่บนเนินเขาฮิงายามา สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1341 แต่อาคารต่าง ๆ ที่เห็นในปัจจุบันได้รับการปรับปรุงและสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2176 ชื่อของวัดมีความหมายว่าน้ำบริสุทธิ์ หรือน้ำใส มีที่มาจากน้ำตกที่ไหลผ่านเนินเขาลงมายังบริเวณวัด
วัดคิโยะมิสึได้รับการเสนอชื่อเข้าร่วมพิจารณาคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2549 วัดคิโยมิสึ ได้รับการดูแลทำนุบำรุงอย่างดีทำให้สภาพวัดและโบราณสถานทางพุทธศาสนายังคงความเก่าแก่และสมบูรณ์มาก จนได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และถือเป็นสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองของเมืองเกียวโต
รถโค้ชของเรามาจอดในบริเวณที่จอดแล้วเพราะมาถึงแต่เช้า เนื่องจากสถานที่จำกัดดังนั้นถ้าที่จอดรถเต็ม คันที่มาทีหลังจะต้องจอดรอในถนนทางเข้าด้านนอก นักท่องเที่ยวก็จะลงจากรถไม่ได้
ทางเดินขึ้นสู่วัดเรียกกันว่า ถนนสายกาน้ำชา เนื่องจากในอดีตจะมีร้านขายถ้วยชาเครื่องปั้นดินเผาเรียงรายตลอดสองข้างทาง แม้ในปัจจุบันจะมีร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ และร้านขนมมากมาย แต่ก็ยังคงหลงเหลือร้านเหล่านี้อยู่บ้างให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศเก่าแก่ที่หาชมได้ยาก
ต้องเดินไปตามทางเดินขึ้นเขาประมาณ 500 เมตร จึงจะถึงบริเวณวัด แต่ไม่น่าเบื่อเพราะตลอดสองข้างทางมีอะไรให้ดูมากมาย
โดยเฉพาะร้านขายของฝากของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่น มีให้เลือกซื้อทุกอย่างที่อยากได้ อาทิ ชุดกิโมโน ตุ๊กตาเกอิชาในชุดกิโมโน พัดสารพัดแบบ ร่ม เข็มกลัด พวงกุญแจ แม่เหล็กที่ติดตู้เย็น รวมทั้งขนมโมจิหลากหลายรสที่มีตัวอย่างให้ชิมก่อนตัดสินใจซื้อ
สักครู่เดียวก็เดินมาถึงบริเวณประตูทางเข้าวัดแล้ว
เป็นประตูใหญ่สวยงาม
มองเห็นเจดีย์ใหญ่สวยงามอยู่ข้างบน
มองย้อนกลับไปทางถนนที่เดินผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
การเข้าชมในบริเวณวัดต้องเสียค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่คนละ 300 เยน (ประมาณ 100 บาท) ต้องซื้อตั๋วที่อาคารนี้
ได้ตั๋วแล้วก็พร้อมเข้าไปชมด้านในครับ
ซุ้มประตูสวยงามหลังนี้อยู่ทางซ้ายมือ ระหว่างทางเดินไปยังวิหารใหญ่
อาคารสวยงามภายในวัดอีกหลังหนึ่ง
หอระฆัง
อยู่บนเนินเขาจึงมองเห็นตัวเมืองเกียวโตอยู่ด้านล่างแล้ว
เจดีย์ 3 ชั้นสวยงาม ที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของวัดคิโยมิสึ ชื่อว่าเจดีย์ซันจุโนโตะ เข้าไปภายในศาลามีห้องที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิม 11 หน้า
ดอกซากุระที่วัดนี้เริ่มบานประปรายแล้ว เป็นพันธุ์ที่มีดอกเป็นสีชมพูอ่อน
ต้นค่อนข้างใหญ่ ถ้าออกดอกเต็มต้นคงจะงดงามมาก
แล้วก็มาถึงอาคารหลักของวัดอีกแห่งหนึ่ง คือวิหารที่มีระเบียงไม้ยื่นออกมานอกตัวอาคาร
เป็นอาคารที่ใช้เสาเป็นไม้ซุงขนาดใหญ่ค้ำยันถึง 139 ต้น และใช้สลักยึดอาคารแทนการใช้ตะปูยึดอีกด้วย ช่างน่าทึ่งจริง ๆ
ภาพของวิหารทั้งหลังที่มองเห็นระเบียงชัดเจน ต้องไปถ่ายภาพมาจากอีกบริเวณหนึ่ง
คือต้องขึ้นไปอยู่บริเวณทางเดินบนไหล่เขาด้านหน้า
เนื่องจากเป็นวิหารที่อยู่บนเนินเขา บริเวณระเบียงจึงเป็นจุดชมวิวเมืองเกียวโตที่สวยงาม
ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปให้อธิษฐานและขอพร จำหน่ายเครื่องราง เครื่องหอม ธูป เทียน และกระดาษเสี่ยงทายโชคชะตา
ภายในบริเวณวัดเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าจำนวนมาก ที่รู้จักกันดีคือ ศาลเจ้าจิชู ตั้งอยู่ด้านหลังวิหาร สร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพโอะคุนินุชิโนะ มิโกะโตะ เทพแห่งความรักและเนื้อคู่ ภายในศาลเจ้ามี "ก้อนหินแห่งความรัก" 2 ก้อน ตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร เชื่อกันว่า หากสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่งได้ จะสมปรารถนาในความรัก มีนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปทดสอบกันเป็นจำนวนมาก แต่ผมไม่ได้เข้าไปครับ
ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเป็นบันไดลงไปยังด้านล่าง
เพื่อไปยังที่ตั้งของน้ำตกโอตะวะ ซึ่งเป็นสายน้ำ 3 สายไหลลงสู่บ่อน้ำ ผู้มาเยี่ยมชมวัดมักจะมาดื่มน้ำจากน้ำตกนี้ด้วยถ้วย(หรือกระบวย)โลหะ ด้วยความเชื่อว่าสามารถบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ และยังเชื่อกันว่าการดื่มน้ำจากสายน้ำตกทั้ง 3 นี้ มีความหมายถึง 1.สุขภาพดี 2.อายุยืนยาว และ 3.ความสำเร็จในการศึกษา
กระบวยที่ใช้รองน้ำมีวิธีการฆ่าเชื้อที่รวดเร็วหลังจากรองน้ำดื่มแล้ว คือให้นำกระบวยเข้าช่องฆ่าเชื้อด้วยแสงอุลตราไวโอเล็ต ที่จัดทำไว้ให้ด้านหลังนั่นเอง
ตามทางเดินพบนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปกับต้นซากุระด้านหลังที่กำลังผลิดอก
เป็นทางเดินลาดลงเขาเพื่อออกจากบริเวณวัด
ปิดท้ายด้วยขนมโมจิร้านนี้ที่ผมซื้อกลับมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคน เป็นขนมที่ทำสดภายในร้าน ห่อด้วยแป้งและบรรจุใส้ถั่วผสมกับชาเขียว หอมและอร่อยมาก
ขอขอบคุณที่ติดตามชม แล้วพบกันใหม่ในครั้งต่อไปครับ.
Create Date : 12 เมษายน 2559 |
|
9 comments |
Last Update : 12 เมษายน 2559 11:52:50 น. |
Counter : 4241 Pageviews. |
|
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
-------------------------
วัดน้ำใส เรียกสั้น ๆ จำง่ายดี ...
ชอบทรงหลังคา 3 ชั้น สีแดง (หรือสีส้มคะ) สวยเด่นเป็นสง่ามากค่ะ
สมแล้วที่เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และเป็นมรดกโลกด้วย
"กระบวยที่ใช้รองน้ำมีวิธีการฆ่าเชื้อที่รวดเร็วหลังจากรองน้ำดื่มแล้ว"
โล่งอกไปที เคยอ่านมาหลายที่แล้ว แต่ไม่ได้บอกเรื่องการฆ่าเชื้อไว้ด้วย
อ่านแล้วก็นึกสงสัยตลอดมา แหะ ๆ
สุขสันต์วันสงกรานต์ และขอบคุณ
สำหรับขนมและโหวตด้วยค่ะ