ธรรมจักร ๔
ทรงแสดงจักร ๔ ( ธรรมเปรียบเหมือนล้อรถ ) คือ ๑. การอยู่ในสถานที่อันสมควร ๒. การพึ่ง ( คบ ) สัตบุรุษ ( คนดี) ๓. การตั้งตนไว้ชอบ ๔. ความเป็นผู้มีบุญอันทำไว้ในกาลก่อน.
ทรงแสดงสังคหวัตถุ ๔ ( เรื่องของการสงเคราะห์ ) คือ๑. การให้ ๒. การเจรจาอ่อนหวาน ๓. การบำเพ็ญประโยชน์ ๔. การวางตนสม่ำเสมอหรือเหมาะสม.
ทรงแสดงว่า พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมให้รู้จักกายของตน (สักกายะ ), ความเกิดแห่งกายของตน, ความดับแห่งกายของตน, ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับกายของตนเหมือนราชสีห์บรรลือสีหนาท.
ทรงแสดงความเลื่อมใส ๔ ประการ คือ ๑. พระ ตถาคตเป็นเลิศสัตว์ทั้งหลาย ๒. อริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นเลิศแห่งธรรมที่ปัจจัยปรุงแต่ง ๓. วิราคธรรม ( ความ คลายกำหนัดยินดี ) อันได้แก่นิพพานเป็นเลิศแห่งธรรมที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง ๔. พระอริยสงฆ์ ๔ คู่ ๘ บุคคล เป็นเลิศแห่งหมู่ทั้งหลาย. ผู้ใดเลื่อมใสใน ๔ อย่างนี้ ชื่อว่าเลื่อมใสในสิ่งที่เลิศอันจะมีผลเลิศ.
วัสสการพราหมณ์ กราบทูลแสดงความคิดเห็นเรื่อง มหาบุรุษผู้มีปัญญามากกว่า ได้แก่ผู้สดับตรับฟังมาก, ผู้รู้เนื้อความของภาษิต, ผู้มีสติทรงจำดี, ผู้ขยันในการ งาน. พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า มหาบุรุษผู้มีปัญญามาก คือผู้ที่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขแก่คนเป็นอันมาก ทำชนหมู่ใหญ่ให้ตั้งอยู่ในธรรมที่ถูกอันเป็นกุศล, เป็นผู้มีความชำนาญในเรื่องของการตรึกคือคิดหรือไม่คิดเรื่อง ใด ๆ ได้ตามปรารถนา, ได้ฌาน ๔ ตามต้องการ, ทำให้แจ้งเจโตวิมุติอันไม่มีอาสวะ ( เป็นพระอรหันต์ ).
โทณพราหมณ์เห็นพระผู้มีพระภาค ประทับ ณ โคนไม้ ต้นหนึ่งน่าเลื่อมใส จึงเข้าไปเฝ้าทูลถามว่า พระองค์เป็นเทพ, คนธรรพ์, ยักษ์, มนุษย์หรือ ทีละข้อ พระองค์ ปฏิเสธทุกข้อ แล้วทรงอธิบายว่าถ้ายังอาสวะไม่ได้ ก็จะเป็นตามที่ถามนั้น พระองค์ละอาสวะได้เด็จขาดแล้ว จึงเป็นพุทธะ เปรียบเหมือนดอกบัวเกิดในน้ำ โผล่พ้นน้ำ ไม่เปียกน้ำ.
ทรงแสดงว่า ภิกษุ ผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ อย่าง ไม่ควรจะเสื่อมชื่อว่าอยู่ใกล้พระนิพพาน คือ ๑. มีศิล ๒. สำรวมอินทรีย์ ( มีตา หู เป็นต้น ) ๓. รู้ประมาณ ในอาหาร ๔. ประกอบความเพียรเป็นเครื่องตื่น ( ไม่เห็นแก่นอน ).
ทรงแสดงว่า ภิกษุผู้ละความยึดถือว่าเป็นจริงในเรื่อง เฉพาะเรื่อง ( เช่น ไม่เห็นว่าโลกเที่ยง ) ชื่อว่าเป็นผู้มีการแสวงหาอันประเสริฐ ไม่บกพร่อง, มีกายสังขารอันสงบระงับ (ได้ฌานที่ ๔ ลมหายใจซึ่งมีกายสังขารเครื่องปรุงกายดับ ), เป็นผู้หลีกเร้นแล้ว (ละอัสมิมานะ ความ ถือตัวได้ ).
ตรัสตอบอุชชยพราหมณ์ ผู้กล่าวว่า พระสมณโคดม ไม่ทรงสรรเสริญยัญ โดยทรงชี้แจงว่า พระองค์มิได้สรรเสริญยัญทุกชนิด แต่ก็มิได้ติยัญทุกชนิด คือไม่สรรเสริญ ยัญที่มีการฆ่าสัตว์ เพราะพระอรหันต์หรือผู้บรรลุอรหัตตมรรค ย่อมไม่เข้าไปสู่ยัญเช่นนั้น แต่สรรเสริญยัญที่ ไม่มีการฆ่าสัตว์ เช่น นิจจทาน ( ทานที่ให้เป็นประจำ ) อนุกุลยัญ (ยัญที่เป็นไปตามลำดับสกุล คือการให้ทาน ตามจารีตของสกุลสืบ ๆมา ) เพราะพระอรหันต์ หรือผู้บรรลุอรหัตตมรรคย่อมเข้าไปสู่ยัญเช่นนั้น .
ตรัสตอบอุทายิพราหมณ์ ในทำนองเดียวกับอุชชย พราหมณ์ ( เป็นแต่นิคมคาถาคือบทกวีสรูปข้อธรรมท้านสูตรต่างกัน ).ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ; My blogs link 👆 https://sites.google.com/site/dhammatharn/ https://abhinop.blogspot.com https://abhinop.bloggang.com
Create Date : 07 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 3 มกราคม 2564 19:03:35 น. |
|
2 comments
|
Counter : 882 Pageviews. |
|
|