ปราบไล่ศัตรูแบบสายฟ้าแลบ
ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เสวยราชสมบัติในเมืองตักกสิลาในแคว้นคันธาระ พระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในกรุงพาราณสี พระเจ้าพรหมทัตนั้นทรงดำริว่า จักตีเมืองตักกสิลาจึงยกพลนิกายใหญ่ไปตั้งมั่นอยู่ไม่ไกลจากเมืองตักกสิลา ทรงซักซ้อมเสนาว่า จงส่งกองช้างเข้าไปด้านนี้ ส่งกองม้าเข้าไปด้านนี้ ส่งกองรถเข้าไปด้านนี้ ส่งพลราบเข้าไปด้านนี้ เมื่อบุกเข้าไปอย่างนี้แล้ว จงใช้อาวุธทั้งหลาย จงให้ห่าฝนลูกศรให้ตกดังหมู่วลาหกโปรยฝนลูกเห็บฉะนั้น ด้วยประการฉะนี้ ได้ตรัสสองคาถานี้ว่า : เมืองตักกสิลาถูกเขาล้อมไว้ทุกด้านแล้ว ด้วยกองพลช้างตัวประเสริฐ ซึ่งร้องคำรนอยู่ด้านหนึ่ง ด้วยกองพลม้าตัวประเสริฐ ซึ่งคลุมมาลาเครื่องครบอยู่ด้านเหนือ ด้วยกองพลรถดุจคลื่นในมหาสมุทร อันยังฝน คือลูกศรให้ตกลงด้านหนึ่ง ด้วยกอพลเดินเท้าถือธนูมั่น มีฝีมือยิงแม่นอยู่ด้านหนึ่ง ท่านทั้งหลายจงรีบรุกเข้าไป และจงรีบบุกเข้าไป จงไสช้างให้หนุนเนื่องกันเข้าไปเลย จงโห่ร้องให้สนั่นหวั่นไหว ในวันนี้ ดุจสายฟ้าอันซ่านออกจากกลีบเมฆ คำรน อยู่ฉะนั้น พระเจ้าพรหมทัตนั้นทรงตรวจพลปลุกใจเสนาให้คึกคักฉะนี้แล้วเคลื่อนทัพไปถึงที่ใกล้ประตูนคร เห็นซุ้มประตูแล้วตรัสถามว่า นี้คือพระราชมณเฑียรหรือ เมื่อเหล่าเสนากราบทูลว่า นี้คือซุ้มประตูนคร ยังเป็นถึงปานนี้ พระราชมณเฑียรจะเป็นเช่นไร ได้สดับว่าเช่นกับเวชยันตปราสาท ตรัสว่า เราไม่อาจสู้รบกับพระราชาผู้ถึงพร้อมด้วยยศอย่างนี้ ได้ทอดพระเนตรซุ้มประตูแล้ว เสด็จหนีกลับสู่เมืองพาราณสี พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มา แล้วทรงประชุมชาดกว่า พระเจ้าพาราณสีในครั้งนั้น ได้เป็นปลายิปริพาชกในครั้งนี้ ส่วนพระราชาเมืองตักกสิลา คือเราตถาคตนี้แล จบ ปลายิชาดก
Create Date : 18 มิถุนายน 2560 |
Last Update : 18 มิถุนายน 2560 11:47:36 น. |
|
0 comments
|
Counter : 585 Pageviews. |
|
|