มงคล ๓๘
มงคล 38 (สิ่งที่ทำให้มีโชคดี, ธรรมอันนำมาซึ่งความสุขความเจริญ — blessings; เรียกเต็มว่า อุดมมงคล คือมงคลอันสูงสุด — highest blessings) คาถาที่ 1 1. อเสวนา จ พาลานํ (ไม่คบคนพาล — not to associate with fools; to dissociate from the wicked) 2. ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา (คบบัณฑิต — to associate with the wise) 3. ปูชา จ ปูชนียานํ (บูชาคนที่ควรบูชา — to honor those who are worthy of honor)
คาถาที่ 2 4. ปฏิรูปเทสวาโส จ (อยู่ในปฏิรูปเทศ, อยู่ในถิ่นมีสิ่งแวดล้อมดี — living in a suitable region; good environment) 5. ปุพฺเพ จ กตปุญฺญตา (ได้ทำความดีให้พร้อมไว้ก่อน, ทำความดีเตรียมพร้อมไว้แต่ต้น — having formerly done meritorious deeds) 6. อตฺตสมฺมาปณิธิ จ (ตั้งตนไว้ชอบ — setting oneself in the right course; right direction in self-guidance; perfect self-adjustment)
คาถาที่ 3 7. พาหุสจฺจญฺจ (เล่าเรียนศึกษามาก, ทรงความรู้กว้างขวาง, ใส่ใจสดับตรับฟัง ค้นคว้าหาความรู้อยู่เสมอ — great learning; extensive learning) 8. สิปฺปญฺจ (มีศิลปวิทยา, ชำนาญในวิชาชีพของตน — skill; knowledge of the arts and sciences) 9. วินโย จ สุสิกฺขิโต (มีระเบียบวินัย, ได้ฝึกอบรมตนไว้ดี — highly trained discipline) 10. สุภาสิตา จ ยา วาจา (วาจาสุภาษิต, รู้จักใช้วาจาพูดให้เป็นผลดี — well-spoken speech)
คาถาที่ 4 11. มาตาปิตุอุปฏฺฐานํ (บำรุงมารดาบิดา — support of mother and father) 12/13. ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห = ปุตฺตสงฺคห (สงเคราะห์บุตร — cherishing of children) และ ทารสงฺคห (สงเคราะห์ภรรยา — cherishing of wife) 14. อนากุลา จ กมฺมนฺตา (การงานไม่อากูล — a livelihood which is free from complications) ท่านอธิบายว่า ได้แก่ อาชีพการงาน ที่ทำด้วยความขยันหมั่นเพียร เอาธุระ รู้จักกาล ไม่คั่งค้าง ย่อหย่อน -- spheres of work which are free from such unprofitableness as dilatoriness and tardiness. (ขุทฺทก.อ. 153; KhA.139).
คาถาที่ 5 15. ทานญฺจ (รู้จักให้, เผื่อแผ่แบ่งปัน, บริจาคสงเคราะห์และบำเพ็ญประโยชน์ — charity; liberality; generosity) 16. ธมฺมจริยา จ (ประพฤติธรรม, ดำรงอยู่ในศีลธรรม — righteous conduct) 17. ญาตกานญฺจ สงฺคโห (สงเคราะห์ญาติ — rendering aid to relations) 18. อนวชฺชานิ กมฺมานิ (การงานที่ไม่มีโทษ, กิจกรรมที่ดีงาม เป็นประโยชน์ ซึ่งไม่เป็นทางเสียหาย — blameless actions; unexceptionable or beneficial activities) ท่านยกตัวอย่างไว้ เช่น การสมาทานอุโบสถ การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ สร้างสวน ปลูกป่า สร้างสะพาน เป็นต้น (ขุทฺทก.อ. 156; KhA.141)
คาถาที่ 6 19. อารตี วิรตี ปาปา (เว้นจากความชั่ว — abstaining from evils and avoiding them) 20. มชฺชปานา จ สญฺญโม (เว้นจากการดื่มน้ำเมา — abstinence from intoxicants) 21. อปฺปมาโท จ ธมฺเมสุ (ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย — diligence in virtue; perseverance in virtuous acts)
คาถาที่ 7 22. คารโว จ (ความเคารพ, การแสดงออกที่แสดงถึงความเป็นผู้รู้จักคุณค่าของบุคคล สิ่งของ หรือกิจการนั้นๆ และรู้จักให้ความสำคัญและความใส่ใจเอื้อเฟื้อโดยเหมาะสม — reverence; respect; appreciative action) 23. นิวาโต จ (ความสุภาพอ่อนน้อม, ถ่อมตน — humility; courtesy; politeness) 24. สนฺตุฏฺฐี จ (ความสันโดษ, ความเอิบอิ่มพึงพอใจในผลสำเร็จที่ได้สร้างขึ้น หรือในปัจจัยลาภที่แสวงหามาได้ ด้วยเรี่ยวแรงความเพียรพยายามของตนเองโดยทางชอบธรรม — contentment) 25. กตญฺญุตา (มีความกตัญญู — gratitude) 26. กาเลน ธมฺมสฺสวนํ (ฟังธรรมตามกาล, หาโอกาสแสวงหาความรู้เกี่ยวกับหลักความจริง ความดีงาม และเรื่องที่เป็นประโยชน์ — the opportune hearing of the Doctrine; listening to good advice and the teaching of Truth on due occasions)
คาถาที่ 8 27. ขนฺตี จ (มีความอดทน — patience; forbearance; tolerance) 28. โสวจสฺสตา (เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย, พูดกันง่าย ฟังเหตุผล — amenability to correction; obedience) 29. สมณานญฺจ ทสฺสนํ (พบเห็นสมณะ, เยี่ยมเยียนเข้าหาท่านผู้สงบกิเลส — seeing the holy men) 30. กาเลน ธมฺมสากจฺฉา (สนทนาธรรมตามกาล, หาโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันเกี่ยวกับหลักความจริงความดีงามและเรื่องที่เป็นประโยชน์ — religious discussion at due seasons; regular or opportune discussion of Truth)
คาถาที่ 9 31. ตโป จ (มีความเพียรเผากิเลส, รู้จักบังคับควบคุมตน ไม่ปรนเปรอตามใจอยาก — self-control; simple life) 32. พฺรหฺมจริยญฺจ (ประพฤติพรหมจรรย์, ดำเนินตามอริยมรรค, การรู้จักควบคุมตนในทางเพศ หรือถือเมถุนวิรัตตามควร — a holy life) พรหมจรรย์ในที่นี้ มุ่งเอาอัฏฐังคิกมรรคเป็นหลัก แต่จะตีความแคบหมายถึงเมถุนวิรัติก็ได้ ความหมายอย่างหย่อนสำหรับคฤหัสถ์ คือ ถือพรหมจรรย์ในบุคคลที่มิใช่คู่ครอง หรือถือเด็ดขาดในวันอุโบสถ เป็นต้น
33. อริยสจฺจาน ทสฺสนํ (เห็นอริยสัจ, เข้าใจความจริงของชีวิต — discernment of the Noble Truths) 34. นิพฺพานสจฺฉิกิริยา จ (ทำพระนิพพานให้แจ้ง, บรรลุนิพพาน — realization of Nibbana)
คาถาที่ 10 35. ผุฏฺฐสฺส โลกธมฺเมหิ จิตฺตํ ยสฺส น กมฺปติ (ถูกโลกธรรม จิตไม่หวั่นไหว — to have a mind which is not shaken when touched by worldly vicissitudes) 36. อโสกํ (จิตไร้เศร้า — to have the mind which is free from sorrow) 37. วิรชํ (จิตปราศจากธุลี — to have the mind which is undefiled) 38. เขมํ (จิตเกษม — to have the mind which is secure)
แต่ละคาถามีบทสรุปว่า “เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ” (นี้เป็นมงคลอันอุดม — this is the highest blessing) มีคาถาสรุปท้ายมงคลทั้ง 38 นี้ว่า “เอตาทิสานิ กตฺวาน | สพฺพตฺถมปราชิตา | สพฺพตฺถ โสตฺถี คจฺฉนฺติ | ตนฺเตสํ มงฺคลมุตฺตมนฺติ.” | แปลว่า “เทวะมนุษย์ทั้งหลายกระทำมงคลเช่นนี้แล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่ปราชัยในที่ทุกสถาน ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง นี้คืออุดมมงคลของเทวะมนุษย์เหล่านั้น.” (Those who have done these things see no defeat and go in safety everywhere. To them these are the highest blessings.)ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ; My blogs link 👆 https://sites.google.com/site/dhammatharn/ https://abhinop.blogspot.com https://abhinop.bloggang.com .......................................................... ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always beloved.
Create Date : 28 สิงหาคม 2560 |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2564 12:29:57 น. |
|
1 comments
|
Counter : 651 Pageviews. |
|
|
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
//abhinop.blogspot.com
//abhinop.bloggang.com
..........................................................
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.