ชฎิรสามพี่น้อง
พระพุทธองค์เสด็จไปถึงตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชฎิล ๓ พี่น้อง กับหมู่ศิษย์ ๑,๐๐๐ คน พี่ชายชื่ออุรุเวลกัสสปะ น้องชายคนกลางชื่อ นทีกัสสปะ น้องชายน้อยชื่อ คยากัสสปะ ทั้ง ๓ แยกกันสร้างอาศรมอยู่กับบริวารของตนใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชา พระองค์ทรงทรมานอุรุเวลกัสสปะด้วยวิธีต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าลัทธินั้นไม่มีแก่นสาร จนอุรุเวลกัสสปะสลดใจ พร้อมทั้งบริวารลอยผมที่เกล้าเป็นชฎา และเครื่องบริขารบำเพ็ญพรตและบูชาไฟเสียในแม่น้ำ ทูลขออุปสมบท พระองค์ทรงประทานให้ ส่วนน้องชายคนที่ ๒ ตั้งอาศรมอยู่ทางใต้กระแสน้ำ ได้เห็นชฎาและบริขารเครื่องบำเพ็ญพรตบูชาไฟ ของพี่ชายลอยไปตามกระแสน้ำเช่นนั้น คิดว่าเกิดอันตรายแก่พี่ชายจึงพาบริวาร ๓๐๐ คนมาสู่สำนักพี่ชาย ก็ได้เห็นพี่ชายถือเพศเป็นภิกษุเสียแล้ว ถามได้ความว่าเป็นพรหมจรรย์อันประเสริฐ จึงพร้อมทั้งบริวารลอยบริขารทิ้งเสีย แล้วทูลขออุปสมบท พระศาสดาก็ทรงอนุญาตเหมือนหนหลัง ฯ ฝ่ายคยากัสสปะเห็นบริขารของพี่ชายลอยไปตามกระแสน้ำจึงคิดเช่นนั้นอีก แล้วพาบริวาร ๒๐๐ คน ไปสู่สำนักของพี่ชาย ก็เห็นพี่ชายทั้ง ๒ ถือเพศเป็นภิกษุเสียแล้ว ถามก็ได้ความเหมือนนัยหนหลัง ได้ขออุปสมบทอีก พระองค์ก็ประทานให้เหมือนหนหลัง ฯ ทรงแสดงอาทิตตปริยายสูตร พระพุทธองค์เมื่อทรงเห็นอินทรีย์ของภิกษุเหล่านั้นแก่กล้าแล้ว จึงทรงไปยังตำบลคยาสีสะใกล้แม่น้ำคยา ประทับอยู่ ณ ที่นั้น ตรัสเรียกภิกษุเหล่านั้นมาพร้อมกันแล้วทรงแสดง "อาทิตตปริยายสูตร" พระสูตรว่าด้วยความร้อน ใจความแห่งพระสูตรนั้นว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน คือ ๑. อายตนะภายใน ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นต้น ๒. อายตนะภายนอก ๖ คือ รูป กลิ่น เสียง รส โผฏฐัพพะ และธัมมารมณ์ เป็นของร้อน ๓. วิญญาณ ผัสสะ และเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะอายตนะภายใน กับอายตนะภายนอกกระทบกันเป็นของร้อน ร้อนเพราะอะไร ร้อนเพราะไฟ ๓ กอง คือ ไฟคือราคะ ๑ ไฟคือโทสะ ๑ ไฟคือโมหะ ๑ และร้อนเพราะการเกิด แก่ ตาย ความเศร้าโศกคร่ำครวญ ความทุกข์ ความเสียใจ และความขัดเคืองใจ เมื่อจบพระธรรมเทศนาภิกษุทั้ง ๑,๐๐๓ รูป ได้สำเร็จพระอรหัตเป็นพระอรหันต์
Create Date : 26 สิงหาคม 2560 |
Last Update : 26 สิงหาคม 2560 21:52:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 608 Pageviews. |
|
|