ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always be loved.
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2560
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
26 สิงหาคม 2560
 
All Blogs
 
อาฬาวกยักษ์



สมัยหนึ่ง พระบรมศาสดาเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร  ในพระนครสาวัตถี  ครั้งนั้น พระเจ้าอาฬวี กษัตริย์แห่งอาฬวีนคร ทรงเป็นนักนิยมไพร  ถือการล่าสัตว์ป่าเป็นกิจวัตร

วันหนึ่ง เป็นยามเคราะห์ของพระเจ้าอาฬวี  พระองค์จับม้าพระที่นั่งไล่ตามกวาง พลัดจากกองทหาร  ติดตามกวางไปพระองค์เดียว แม้ม้าพระที่นั่งจะวิ่งจนหมดกำลังแล้ว ก็เสด็จลงจากหลังม้าวิ่งขับกวางต่อไปอีก แต่ไม่ทัน  ทรงอ่อนพระทัย จึงเสด็จเข้าไปพักภายใต้ร่มไทรใหญ่แห่งหนึ่ง  แต่บังเอิญไม้ไทรนั้นอยู่ในเขตหวงห้ามของอาฬวกยักษ์  ซึ่งได้ประทานพรจากท้าวเวสสวัณให้จับคนและสัตว์ที่พลัดเข้ามาในร่มไทรนี้กินได้

ดังนั้น  พระเจ้าอาฬวีก็ตกอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องตกเป็นอาหารของอาฬวกยักษ์ด้วย

แต่พระเจ้าอาฬวีมีความประสงค์จะรักษาพระชนมชีพไว้ก่อน  จึงทรงขอผ่อนผันว่าถ้าปล่อยให้พระองค์กลับพระนคร  พระองค์ก็จะส่งคนมาเป็นอาหารอาฬวกยักษ์วันละ ๑ คนทุกวัน อาฬวกยักษ์ก็ยินดียอมปล่อยพระเจ้าอาฬวีตามประสงค์  และเตือนให้รักษาสัญญาที่ทรงประทานไว้

เมื่อพระเจ้าอาฬวีเสด็จกลับถึงพระนครแล้ว  ก็ทรงประชุมอำมาตย์ราชบริพาร  ตรัสเล่าเรื่องของพระองค์ที่ถูกยักษ์จับ และจะต้องส่งคนไปให้อาฬวกยักษ์กินแทนวันละ ๑ คน  ดังนั้น อำมาตย์ก็จัดการส่งนักโทษในเรือนจำ ไปให้อาฬวกยักษ์วันละ ๑ คน จนนักโทษในเรือนจำหมด สุดท้ายตกลงให้ส่งเด็กไปให้วัน ละ ๑ คนอีก  ในที่สุดหาเด็กไปไม่ได้  เพราะชาวเมืองพากันอพยพพาลูกหลานไปอยู่ต่างเมือง อำมาตย์ก็ต้องจับพระโอรสของพระเจ้าอาฬวีส่งไป

บังเอิญในราตรีก่อนวันที่เจ้าพนักงานจะจัดส่งพระโอรสของพระเจ้าอาฬวีนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบด้วยพระญาณ ยังทรงพระกรุณาเสด็จไปยังที่อยู่ของอาฬวกยักษ์  โดยมุ่งพระทัยจะทรงทรมานอาฬวกยักษ์ให้สิ้นความดุร้าย

ครั้นอาฬวกยักษ์กลับมาถึงวิมานในราตรีนั้นเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าก็โกรธ ด้วยมานะทิฏฐิแรงกล้า  เห็นไปว่าพระสมณโคดมมาลบหลู่หมิ่นเกียรติของตน แทนที่จะค่อยพูดค่อยถามไถ่ถึงเหตุที่มาถึงที่อยู่  ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของ กลับอหังตึงตังเข้าใส่พระบรมศาสดา ถึงกับใช้อาวุธร้ายแรง ตามสันดานของพวกอสูรที่ไม่ใช้คุณธรรม หากแต่ด้วยพุทธานุภาพ อาวุธทุกชนิดที่อาฬวกยักษ์ใช้ไม่เป็นผล  กลายเป็นเครื่องสักการบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าเสียอีก

ในที่สุดยักษ์ผู้ดุร้ายก็หมดฤทธิ์ หยุดราวี  เพียงแต่ใช้วาจาเรียกพระบรมศาสดาให้ออกจากวิมานของตนเสีย ครั้งนั้นแล อาฬวกยักษ์เข้าไปใกล้พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ  ครั้นแล้ว ได้กล่าวว่า ท่านจงออกมา สมณะ ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดีแล้วผู้มีอายุ แล้วก็เสด็จออกมา ฯ ยักษ์กล่าวว่า ท่านจงเข้าไป สมณะ ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดีแล้วผู้มีอายุ แล้วก็เสด็จเข้าไป ฯ แม้ครั้งที่ ๒ ยักษ์กล่าวว่า ท่านจงเข้าไป สมณะ ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดีแล้วผู้มีอายุ แล้วก็เสด็จเข้าไป ฯ แม้ครั้งที่ ๓ อาฬวกยักษ์ได้กล่าวว่า ท่านจงเข้าไป สมณะ ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดีแล้วผู้มีอายุ แล้วก็เสด็จเข้าไป ฯ

ครั้นครั้งที่ ๔ อาฬวกยักษ์ได้กล่าวว่า ท่านจงออกมา สมณะ ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ผู้มีอายุ  เราจักไม่ออกไปละท่านจะทำอะไรก็จง ทำเถิด ฯ

สมณะ เราจักถามปัญหากะท่าน ถ้าท่านพยากรณ์แก่เราไม่ได้ เราจักทำ จิตของท่านให้ฟุ้งซ่าน หรือฉีกหัวใจของท่าน หรือจักจับที่เท้าแล้วเหวี่ยงไปยังแม่น้ำ คงคาฝั่งโน้น ฯ

อาวุโส เราไม่เห็นใครเลยในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์  เทวดาและมนุษย์ที่จะพึงทำจิตของเราให้ฟุ้งซ่านได้  หรือขยี้หัวใจของเรา  หรือจับเราที่เท้าแล้วเหวี่ยงไปยังแม่น้ำคงคาฝั่งโน้น เอาเถิด อาวุโส เชิญถามปัญหาตามที่ท่านจำนงเถิด ฯ

อาฬวกยักษ์ทูลถามว่า - อะไรหนอ เป็นทรัพย์เครื่องปลื้มใจอันประเสริฐของคนในโลกนี้  - อะไรหนอที่บุคคลประพฤติดีแล้วนำความสุขมาให้ - อะไรหนอเป็นรสอันล้ำเลิศกว่ารสทั้งหลาย  - นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิตของผู้ที่เป็นอยู่อย่างไร  ว่าประเสริฐสุด ฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า - ศรัทธาเป็นทรัพย์ อันประเสริฐของคนในโลกนี้  - ธรรมอันบุคคลประพฤติดีแล้ว นำความสุขมาให้  - ความสัตย์แลเป็นรสอันล้ำเลิศกว่ารสทั้งหลาย -  นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิตของผู้ที่เป็นอยู่ด้วยปัญญาว่าประเสริฐสุด  ฯ

อาฬวกยักษ์ทูลถามว่า -คนข้ามโอฆะได้อย่างไรหนอ  - ข้ามอรรณพได้อย่างไร  - ล่วงทุกข์ได้อย่างไร บริสุทธิ์ได้อย่างไร

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า - คนข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา  - ข้ามอรรณพได้ด้วยความไม่ประมาท  - ล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร - บริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา ฯ

อาฬวกยักษ์ทูลถามว่า - คนได้ปัญญาอย่างไรหนอ  - ทำอย่างไรจึงจะหาทรัพย์ได้  - คนด้ชื่อเสียงอย่างไรหนอ  - ทำอย่างไรจึงจะผูกมิตรไว้ได้  - คนละโลกนี้ไปสู่โลกหน้า ทำอย่างไรจึงจะไม่เศร้าโศก ฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า - บุคคลเชื่อธรรมของพระอรหันต์ เพื่อบรรลุนิพพาน  ฟังอยู่ด้วยดีย่อมได้ปัญญา  - เป็นผู้ไม่ประมาท มีวิจาร คนทำเหมาะเจาะ ไม่ทอดธุระ  เป็นผู้หมั่น ย่อมหาทรัพย์ได้  - คนย่อมได้ชื่อเสียงเพราะความสัตย์ ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้  - บุคคลใดผู้อยู่ครองเรือนประกอบด้วยศรัทธา มีธรรม ๔ ประการนี้ คือ สัจจะ ธรรมะ ธิติ จาคะ บุคคลนั้นแล  ละโลกนี้ไปแล้วย่อมไม่เศร้าโศก  เชิญท่านถามสมณพราหมณ์เป็นอันมากเหล่าอื่นดูซิว่า ในโลกนี้มีอะไรยิ่งไปกว่าสัจจะ ทมะ จาคะและขันติ ฯ

อาฬวกยักษ์กราบทูลว่า ทำไมหนอ ข้าพเจ้าจึงจะต้องถามสมณพราหมณ์เป็นอันมากในบัดนี้  วันนี้ข้าพเจ้ารู้ชัดถึงสัมปรายิกประโยชน์  พระพุทธเจ้าเสด็จมาอยู่เมืองอาฬวี  เพื่อประโยชน์แก่ข้าพเจ้าโดยแท้

วันนี้ข้าพเจ้ารู้ชัดถึงทานที่บุคคลให้ในที่ใดมีผลมาก  ข้าพเจ้าจักเที่ยวจากบ้านไปสู่บ้าน จากบุรีไปสู่บุรี  พลางนมัสการพระสัมพุทธเจ้าและพระธรรมซึ่งเป็นธรรมที่ดี ฯ

พระพุทธองค์ทรงทรมานอาฬวกยักษ์ตั้งแต่ย่ำค่ำจนรุ่งราตรี จึงสามารถยังจิตใจอาฬวกยักษ์ให้ยินดีในอริยธรรมตามพุทธประสงค์ได้ในเช้าวันนั้น

ก็พอดีกับราชบุรุษพระนครอาฬวีอุ้มเอาพระราชกุมาร โอรสของพระเจ้าอาฬวีมาให้อาฬวกยักษ์กินเป็นอาหาร  อาฬาวกยักษ์รับเอาพระกุมารแล้วก็น้อมเข้าถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า  พร้อมกับกราบทูลว่า ข้าพระองค์ขอน้อมถวายพระราชกุมารน้อยนี้  ซึ่งพระเจ้าอาฬวีส่งมาเป็นอาหารของข้าพระองค์  ด้วยข้าพระองค์เว้นขาดจากเบญจเวรสิ้นเชิงแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับพระราชกุมารแล้วตรัสอนุโมทนาแก่อาฬวกยักษ์ และทรงอวยพรแก่พระราชกุมาร พร้อมกับประทานคืนให้แก่อำมาตย์ นำพระราชกุมารกลับคืนไปยังเมืองอาฬวี เพื่อถวายแก่พระเจ้าอาฬวี  ครั้นความข้อนั้นทราบถึงเจ้าเมืองอาฬวีแล้ว  ชาวเมืองทั้งสิ้นต่างก็พากันมีความยินดี พากันจัดเครื่องสักการะต่างๆนำไปบูชา

ขณะเดียวกันพระพุทธองค์ก็ทรงพระกรุณาพาอาฬวกยักษ์มายังพระนครอาฬวี พอถึงสถานที่ครึ่งทางสัญจรก็ได้พบชาวพระนครมีพระเจ้าอาฬวีเป็นประมุข

น้อมนำสักการะมาเฝ้าถวายอภิวาท  สมเด็จพระบรมโลกนาถก็ทรงหยุดประทับรับสักการบูชา พร้อมกับทรงประทานพระธรรมเทศนาโปรด ให้ชาวเมืองอาฬวีเห็นทุกข์เห็นโทษในเบญจธรรม และให้ชาวพระนครตั้งอยู่ในกัลยาณธรรมตามสมควรแก่วิสัย และปลุกให้ชาวเมืองเกิดความเมตตาปรานีกันทั่วหน้า และให้ถืออาฬวกยักษ์ประหนึ่งว่าเป็นเทพรักษ์หลักพระนคร

ครั้นประทานธรรมคุณากรสิ้นสุดลง  พระพุทธองค์ก็เสด็จกลับพระเชตวันมหาวิหาร




Create Date : 26 สิงหาคม 2560
Last Update : 26 สิงหาคม 2560 21:43:00 น. 0 comments
Counter : 572 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.
New Comments
Friends' blogs
[Add ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.