ผู้ควรนุ่งห่มผ้ากาสาวะ
ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์อุบัติในตระกูลช้างที่ป่าหิมพานต์ ครั้นเติบโตแล้วได้เป็นหัวหน้าโขลง มีช้าง ๘๔,๐๐๐ เชือกเป็นบริวาร อาศัยอยู่ในราวป่า ครั้นนั้นมีมนุษย์เข็ญใจผู้หนึ่งอาศัยอยู่ในกรุงพาราณสี เห็นช่างกลึงงาที่ถนนช่างทำเครื่องงากำลังทำเครื่องงาต่าง ๆ มีกำไลงาเป็นต้น จึงถามว่า ท่านได้งาช้างแล้วจักรับซื้อไหม พวกช่างงาตอบว่า เรารับซื้อซิ มนุษย์เข็ญใจนั้นรับว่า ตกลง จึงถืออาวุธนุ่งห่มผ้าย้อมฝาดคลุมศีรษะยืนคอยอยู่ที่ทางช้างผ่าน ใช้อาวุธฆ่าช้างแล้วเอางามาขายที่เมืองพาราณสีเลี้ยงชีพ ต่อมาคนเข็ญใจนั้นได้เริ่มฆ่าช้างบริวารของพระโพธิสัตว์ที่เดินล้าหลังช้างทั้งหมด เมื่อช้างขาดหายไปทุกวัน ๆ พวกช้างจึงแจ้งแก่พระโพธิสัตว์ว่า ช้างขาดหายไปด้วยเหตุอะไรหนอ พระโพธิสัตว์คอยสังเกตดู ก็รู้ว่า บุรุษคนหนึ่งถือเพศอย่างพระปัจเจกพุทธเจ้ายืนอยู่ที่ริมทางช้างผ่าน เจ้าคนนี้กระมังฆ่าช้าง เราจักคอยจับมัน วันหนึ่งจึงให้พวกช้างเดินไปข้างหน้าตน ตนเองเดินไปข้างหลัง มนุษย์เข็ญใจ เห็นพระโพธิสัตว์ถืออาวุธตรงเข้าไป พระโพธิสัตว์ถอยหลังกลับมายืนอยู่ คิดว่า จักจับฟาดดินให้ตาย จึงยื่นงวงออกเห็นผ้ากาสายะที่มนุษย์นุ่งห่มอยู่ คิดว่า ผ้ากาสายะอันเป็นธงชัยของพระอรหันต์นี้เราควรทำความเคารพ จึงม้วนงวงหดกลับแล้วกล่าวว่า นี่แน่ะเจ้าบุรุษ ผ้ากาสายะอันเป็นธงชัยของพระอรหันต์นี้ไม่สมควรแก่เจ้ามิใช่หรือ ไฉนเจ้าจึงห่มผ้าผืนนั้นเล่า ได้กล่าวคาถานี้ว่า : ผู้ใดมีกิเลสดุจน้ำฝาด ปราศจากทมะและสัจจะ จักนุ่งผ้าย้อมน้ำฝาด ผู้นั้นย่อมไม่สมควรจะนุ่งผ้าย้อมน้ำฝาดเลย ส่วนผู้ใดคายกิเลสดุจน้ำฝาดแล้ว ตั้งมั่นอยู่ในศีลทั้งหลาย ประกอบด้วยทมะและสัจจะ ผู้นั้นแลย่อมสมควรจะนุ่งห่มผ้าย้อมน้ำฝาดได้ พระโพธิสัตว์กล่าวเหตุนี้แก่บุรุษนั้นอย่างนี้แล้ว ขู่ว่าตั้งแต่นี้ไป เจ้าอย่ามาที่นี่อีกเป็นอันขาด หากเจ้ามา เจ้าจะต้องตายแล้วปล่อยให้หนีไป พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า บุรุษผู้ฆ่าช้างในครั้งนั้น ได้เป็นเทวทัตในครั้งนี้ ส่วนช้างผู้เป็นหัวหน้าโขลง คือเราตถาคตนี้แล จบ กาสาวชาดก
Create Date : 18 มิถุนายน 2560 |
Last Update : 18 มิถุนายน 2560 12:05:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 574 Pageviews. |
|
|