บริหาร การจัดการ การตลาด พัฒนาตนเอง พัฒนาความคิด กลยุทธ์ ธรรมะ จักรราศี ฯลฯ
จัดตั้งธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ | ไขความลับสมองเงินล้าน | การเขียนแผนธุรกิจ | บริหารคน บริหารงาน | พัฒนาความคิด
พระไตรปิฎกฉบับหลวง | แด่องค์กรที่แสนรัก | สุขใจกับเด็กสมาธิสั้น
Group Blog
 
All Blogs
 
อุบาสิกา ถวิล - บทที่สาม - มงคลชีวิตข้อสอง คบบัณฑิต

ป้าได้พบคุณยายอาจารย์เป็นคนแรก ท่านนั่งอยู่ตรงประตูบ้าน ผิวเนื้อท่านไม่ขาวนัก รูปร่างผอม มีที่ป้าสะดุดใจมากคือดวงตาของคุณยาย เวลานั้นคุณยายอายุ ๖๐ ปี ดวงตาของท่านใสแต่คมกริบ เวลามองดูเรา ทุกคนจะคิดเหมือนกันว่า ไม่มีสิ่งใดเป็นความลับสำหรับท่านเลย ป้าเองเห็นแล้ว รู้สึกเคารพและไว้วางใจขึ้นมาทันที มีความรู้สึกว่า ผู้ใหญ่ท่านนี้ เป็นคนมีความจริงใจให้ทุกคน

ต่อจากนั้นป้ากับลูกคนโตและคนรองก็ได้ไปที่บ้านธรรมประสิทธิ์แทบทุกอาทิตย์ ที่นั่นมีหมู่คณะไปปฏิบัติธรรมร่วมกันอยู่หลายสิบคน บางคนไปทุกเย็น บางคนไปเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์

เมื่อไปหลายเดือนเข้า ความคุ้นเคยในหมู่คณะก็มีมากขึ้น จึงเห็นได้ว่า บุคคลที่มาเป็นลูกศิษย์คุณยาย เป็นหมู่คณะที่น่าชื่นชมมาก เพราะแม้จะมาจากที่ต่างกัน อาชีพต่างกัน ก็มีความสามัคคี รักใคร่สนิทสนมกัน เหมือนญาติพี่น้อง ใครมีเรื่องเดือดร้อนสิ่งใดก็จะนำมาบอกเล่า หมู่คณะก็ช่วยกันหาทางแก้ไข คุณยายจะเป็นประธาน ในการแก้ปัญหาทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องทางธรรม เรื่องครอบครัว เรื่องหน้าที่การงาน

กลุ่มที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือกลุ่มนักศึกษาที่มาปฏิบัติธรรม มากันจากหลายสถาบัน ที่มีจำนวนมากหน่อยคือ มาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ผู้เป็นหัวหน้านำเพื่อนๆ มาได้แก่ คุณเผด็จ ผ่องสวัสดิ์ ส่วนคุณเผด็จเอง นิสิตรุ่นน้องชื่อไชยบูลย์ สุทธิผล เป็นคนชักชวนให้มาเรียนปฏิบัติธรรม

ป้าต้องขอเล่าความเกี่ยวข้องของบุคคลทั้งสองไว้โดยย่อๆ เพราะขณะนี้ ปี ๒๕๓๖ คุณไชยบูลย์ สิทธิผล คือพระเดชพระคุณเจ้าคุณพระสุธรรมยานเถระ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และคุณเผด็จ ผ่องสวัสดิ์ คือพระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

หลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านสนใจการปฏิบัติธรรม มาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง ๒๐ ปี คงจะเป็นเพราะ ท่านมีบารมีติดตัวจากชาติในอดีตมามาก เมื่อต้องมาเกิดในครอบครัว ที่พ่อแม่แตกแยกกัน แทนที่จะเป็นเด็กมีปัญหาเหมือนเด็กทั่วไป ท่านกลับมีปัญญาพิจารณาความทุกข์ยากของชีวิตครองเรือน ใคร่ทำชีวิตตนเองให้มีประโยชน์ที่สุด จึงอ่านประวัติของบุคคลสำคัญต่างๆ ทั้งของประเทศและของโลก เพื่อจะได้ทำตาม ในที่สุดได้อ่านพบ ประวัติชีวิตของหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ (พระมงคลเทพมุนี) ถูกใจมากที่สุด ได้ลงมือปฏิบัติธรรมตามอย่าง ทั้งที่กระทำด้วยตนเอง และแสวงหาผู้รู้ ให้การอบรมสั่งสอน กระทั่งได้พบและเป็นศิษย์ ของคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ศิษย์เอกของหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ

ผลการปฏิบัติธรรมก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นผู้มีพลังจิตเข้มแข็งกว่าคนทั่วไป ในขณะเดียวกันก็ยังศึกษาเล่าเรียน อยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน)

เหตุที่ได้พบกับหลวงพ่อรองเจ้าอาวาส เนื่องจากหลวงพ่อรองเจ้าอาวาส เป็นนิสิตรุ่นพี่ยังเรียนไม่จบได้ทุนไปเรียนต่อ ที่ประเทศออสเตรเลีย ท่านได้กลับมาเรียนต่อใหม่เพื่อให้จบ จึงได้มาพบกัน ขณะนั้นหลวงพ่อรองเจ้าอาวาส เรียนเดรัจฉานวิชาไว้มาก เล่นเรื่องหนังเหนียว อยู่ยงคงกระพัน ชอบแสดงให้เพื่อนฝูงเห็นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนังเหนียว เรื่องทนความร้อน เอามือจุ่มในกระทะน้ำมัน ที่เดือดพล่าน เป็นต้น

หลวงพ่อเจ้าอาวาสเห็นเข้ามีความเมตตา ต้องการให้หันมาสนใจเรื่องการปฏิบัติธรรม ได้ชักชวนให้เป็นศิษย์คุณยายอาจารย์ด้วยกัน แรกๆ มีปัญหามาก ซักถามปัญหาธรรมต่างๆ ทุกคืน เป็นแรมเดือน (ทุกครั้งที่ถามปัญหาธรรมะ หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสจะให้หลวงพ่อเจ้าอาวาสขึ้นไปอยู่บนเตียงของท่าน ส่วนท่านเองลงไปอยู่ที่พื้นห้อง ) คุณยายอาจารย์ได้เคยปรารภกับหลวงพ่อเจ้าอาวาสว่า บุคคลนี้จะเป็นกำลัง ในการสร้างบารมีต่อไปภายหน้า

เมื่อหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสมา เรียนปฏิบัติธรรมกับคุณยายอาจารย์ คุณายาฯ ก็ต้องใช้การอดทนในสอนเป็นพิเศษ เพราะเหตุที่เคยเรียนเดรัจฉานวิชาไว้มาก ทำมิจฉาสมาธิแบบกลั้นลมหายใจ เมื่อมาปฏิบัติธรรมจึงติดนิสัย กลั้นลมหายใจ ทำให้การปฏิบัติธรรมีอุปสรรค ยังมีผลบาปเรื่องปาณาติบาต เพราะเรียนสัตวบาล ฆ่าสัตว์ มีวัว หมู เป็ด ไก่ ฯลฯ ไว้มาก เวลาปฏิบัติธรรม มักเห็นสัตว์เหล่านั้นมีเลือดท่วมตัว เป็นภาพนิมิตในสมาธิ คุณยายอาจารย์ต้องเหน็ดเหนื่อยแก้ไข ในที่สุดก็ปฏิบัติธรรมได้ผล

จากนั้นหลวงพ่อรองเจ้าอาวาส ก็ชักชวนเพื่อนนิสิต ทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นน้องๆ ให้มาเรียนปฏิบัติธรรมกับคุณยายอาจารย์ ที่บัานธรรมประสิทธิ์ได้หลายคน มีทั้งที่เอาจริง และไม่เอาจริง

ป้าเห็นนิสิตนักศึกษามาจากหลายสถาบัน มาร่วมใจกันปฏิบัติธรรมทุกเย็น ที่บ้านพักคุณยายฯ ป้ารู้สึกชื่นชมเป็นพิเศษ เพราะไม่เคยเห็นคนรุ่นหนุ่มรุ่นสาว สนใจเรื่องแบบนี้ เห็นแต่ชอบเที่ยวเตร่สนุกสนาน เมื่อมาพบเด็กหนุ่มสาวที่เลิกเรียนจากตอนกลางวัน ก็มาชุมนุมกันฟังธรรม และปฏิบัติธรรมในตอนเย็นทุกเย็น ทำให้ป้าหวนคิดถึงบรรดานักเรียน นิสิต นักศึกษาในสถาบันต่างๆ เวลานั้น ล้วนแต่สนใจฝักใฝ่ในลัทธิคอมมิวนิสต์ กันเป็นจำนวนมาก มีการชุมนุมเรื่องการเมืองเกิดขึ้นบ่อยครั้ง บ้านเมืองไม่สงบสุข ส่วนประเทศเพื่อนบ้านทั้งเวียดนาม เขมร ลาว และพม่า ล้วนแต่ตกอยู่ในอำนาจลัทธิมิจฉาทิฏฐิ ดังกล่าว มีสงครามภายในประเทศกันอย่างรุนแรง ผู้คนล้มตายกันเป็นล้านๆ คน

ในความคิดเห็นของป้าเห็นว่า บ้านเมืองของเรา ถ้าปล่อยปละละเลยเยาวชนของชาติให้สนใจลัทธิดังกล่าวต่อไป คงจะต้องเกิดสงครามกลางเมือง อย่างประเทศเหล่านั้นแน่นอน วิธีแก้ไขมีอยู่หนทางเดียว คือการให้เยาวชนทุกระดับการศึกษา สนใจและปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา

ทีนี้พระภิกษุของพุทธศาสนา ในประเทศของเราเวลานั้น ที่มีชื่อเสียงส่วนมากเป็นพระเถระมีอายุ เด็กหนุ่มสาวไม่สนใจ บางทียังถือตัวว่ามีความรู้ทางโลกสูงกว่า ไม่เห็นความสำคัญของคำสั่งสอนอบรม ไม่ว่าสอนดีเพียงใด

ป้ามาพบเด็กหนุ่มสาวทั้งที่จบปริญญาแล้ว และกำลังศึกษาอยู่ สนใจเรื่องศาสนาอย่างหมู่คณะที่บ้านธรรมประสิทธิดังนี้ ป้าก็คิดปรารถนาให้หมู่คณะ ทำงานเผยแผ่อบรมสั่งสอนเยาวชน ที่ถือตัวว่าเป็นปัญญาชน เพราะเด็กเหล่านั้นจะยอมรับได้ เมื่อมีความรู้ทางโลก ในระดับมหาวิทยาลัยเหมือนกัน ก็จะสอนกันได้รู้เรื่อง เข้าใจจิตใจกันได้ดี

ป้าคิดกระทั่งว่า " แหม อยากให้หนุ่มๆ เหล่านี้ บวชเป็นพระให้หมดก็ดีนะซี บวชแล้วศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย แล้วอุทิศตัวเผยแผ่ศาสนา คงจะหันกลับใจพวกนิสิตนักศึกษา ที่กำลังบ้าลัทธิคอมมิวนิสต์กัน บ้านเมืองของเราจะได้ไม่ลุกเป็นไฟ อย่างประเทศอื่น " ป้าคิดอย่างนั้นจริงๆ

ยิ่งได้ฟังธรรมปฏิบัติอันลุ่มลึกต่างๆ จากคุณยาย และเห็นผู้ปฏิบัติ ที่มีอภิญญาจิตสามารถมีความรู้พิเศษเป็นอัศจรรย์ ป้าก็ยิ่งหวนนึกเสียใจ และสำนึกผิดในมิจฉาทิฏฐิ ที่ตนเองเคยมี ที่เล่าไว้ข้างต้น และก็ตั้งใจแน่วแน่มั่นคงว่า หากมีหนทางใดสนับสนุน ให้บรรดากลุ่มปัญญาชนผู้ปฏิบัติธรรม ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ของคุณยายฯ บวชอุทิศชีวิตทำงานเผยแผ่พุทธศาสนา ต้านทานลัทธิมหาภัย ที่กำลังคุกคามเยาวชนของชาติอยู่ในขณะนั้นได้ ป้าจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่ ป้าคิดเอาไว้โดยที่ไม่ทราบมาก่อนเลยว่า จะตรงกันกับความคิดคุณยาย

คุณยายท่านคิด เพราะต้องการสืบต่อวิชชาภาวนาขั้นสูง ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ และเพื่อบุญกุศลที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณยายฯ เอง รวมทั้งเพื่อช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข็ให้มากที่สุด ส่วนป้าคิดตื้นๆ แค่ว่า ถ้าทำงานนี้สำเร็จ บาปของป้าที่เคยมีมิจฉาทิฏฐิ คงจะลดน้อยลง และอาจจะเป็นวิธีช่วยชาติบ้านเมือง ที่ดีที่สุด ไม่ให้ร้อนเป็นไฟเหมือนประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายเหล่านั้น แล้ววันหนึ่งฝันนั้น ก็เริ่มก่อเค้าความเป็นจริงให้เห็น

วันนั้นเป็นวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๑๑ ครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ ๖๐ ของคุณยายอาจารย์ มีหลวงพ่อรองเจ้าอาวาส คุณสุวิทย์ สิทธิชัยเกษม (ปัจจุบันคือท่านสุวิชาภิกขุ) และคนอื่นอีก ๒ คนรวม ๔ คน ได้ตั้งสัตยาธิษฐานเป็นของขวัญวันเกิดให้คุณยายฯ ขออยู่เป็นโสด ประพฤติพหรมจรรย์ ตั้งใจปฏิบัติธรรม และช่วยงานพระศาสนาไปจนตลอดชีวิต

สาเหตุที่บุคคลทั้ง ๔ กระทำดังนี้ เพราะมีตัวอย่างให้เห็น คือหลวงพ่อเจ้าอาวาสได้กระทำก่อนเป็นคนแรก ( ในวันคล้ายวันเกิดคุณยายฯ ปีก่อน) เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อคุณยายฯ

เมื่อมีตัวอย่างผู้ตั้งสัจจะ ไม่ครองเรือนเกิดขึ้น ก็มีผู้คิดทำตามอีกนับสิบราย ต่างคิดกันว่า จะกระทำในวันคล้ายวันเกิดของคุณยายฯ ในปีถัดไป

แม้จะมีการปฏิญาณตนถึงขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่มีใครคิดเรื่องการบวช คิดกันแต่ว่าเมื่อเรียนจบมีงานทำ ก็จะช่วยกันเก็บหอมรอมริบ สร้างบ้านพักชายโสด อยู่กันตามลำพัง กลางวันออกไปทำงาน เย็นและกลางคืนมารวมกลุ่มกันปฏิบัติธรรม และสร้างกุศลอื่นๆ กันตามกำลัง เท่าที่จะกระทำได้ คิดกันแค่นี้เอง

สำหรับป้าเมื่อพบเหตุการณ์เหล่านั้ ป้าไม่คิดเพียงแค่นั้น แต่คิดไกลออกไปว่า คนเหล่านี้น่าจะบวชอุทิศชีวิต ปฏิบัติธรรมและทำการเผยแผ่ให้กว้างขวาง และควรมีวัดของตัวเอง เพื่อให้พวกผู้หญิงที่คิดตั้งสัจจะตาม จะได้มีที่พักและทำงานบุญตามอย่างบ้าง การจำกัดแค่สร้างบ้านพักชายโสดอยู่กัน และมีอาชีพทำมาหากินด้วย โอกาสทำงานเผยแผ่พุทธศาสนามีไม่มาก พวกผู้หญิงเองก็พลอยหมดโอกาสไปด้วย

เวลานั้นป้าก็ได้แต่คิดไว้ หวังไว้ ยังไม่ได้กล่าวคำอะไรออกมา คอยดูทีท่าของคนหนุ่มกลุ่มนี้ไปก่อน

สำหรับคนหนุ่มสาวที่ตั้งสัจจะภายหลังนั้น ล้วนแต่ตามอย่างหลวงพ่อเจ้าอาวาสทั้งสิ้น เพราะหลวงพ่อเจ้าอาวาสนั้นตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างมาก คุณยายเล่าให้ฟังว่า " แล้วอยู่ๆ วันเกิดยาย ก็มาบอกยายว่า " ยาย ยาย ผมไม่มีวัตถุสิ่งของอะไรให้เป็นของขวัญยาย ผมขอตั้งสัตย์ปฏิญาณตน ประพฤติพรหมจรรย์ต่อหน้ายาย เอาบุญเรื่องนี้ให้เป็นของขวัญวันเกิดนะครับ " แล้วเค้าก็ตั้งสัจจะต่อหน้ายาย "

ป้ามั่นใจในบุญเก่าของหลวงพ่อฯ ท่านมาก เพราะเมื่อป้าเห็นท่านครั้งแรก มีความรู้สึกเหมือนท่านเป็นผู้ใหญ่คราวปู่คราวตา แล้วตัวป้าเองคล้ายเป็นเด็กอายุแค่สองขวบ ทั้งที่ท่านอ่อนกว่าป้าถึง ๑๐ ปีเต็ม มีความรู้สึกทั้งรักเคารพ ขณะเดียวกันก็กลัวเกรง บอกตนเองว่า " เด็กหนุ่มคนนี้ น่าเกรงใจมาก ถ้าใช้ให้เราทำอะไรแล้ว เราคงต้องช่วยทำเต็มที่ เราทนไม่ได้ที่จะเห็นเค้าเสียใจ หรือผิดหวัง "

เวลาที่ป้าซื้อของกินเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นของค่อนข้างดีและประณีต ไปฝากคุณยายทุกเย็น เช่นขนม ผลไม้ แล้วคุณยายไม่เก็บไว้กิน หรือ ให้เด็กๆ ที่อยู่ด้วยกิน แต่กลับเก็บไว้ในตู้เหล็ก พอหลวงพ่อเจ้าอาวาสเดินทางจากมหาวิทยาลัยมาถึงเหนื่อยๆ คุณยายฯ ก็เปิดลิ้นชัก หยิบของที่ป้าเอามาฝาก ออกมาให้หลวงพ่อฯ รับประทานจนหมด

ป้าเห็นอยู่บ่อยๆ เห็นแล้วก็สงสัยว่า " ทำไม ยายต้องเอามาให้เด็กคนนี้กินหมด เราซื้อมาให้ยายนี่ ไม่ใช่ซื้อมาให้เด็กหนุ่มคนนี้กินซักหน่อย " อดรนทนไม่ได้ จึงไปถามหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสว่า " เด็กคนนี้เป็นใครกัน ทำไมยายต้องสนใจ ดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษยังงี้ "

พอได้รับคำชี้แจงว่า " เป็นคนปฏิบัติธรรมได้ผลดีมาก คุณยายฯ สอนได้อย่างใจ อีกหน่อยจะสืบต่อ งานของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนนี้ยายต้องช่วยดูแลอุปการะอยู่ เพราะพ่อ ต้องการให้ลูกเอาดีทางโลก ลูกก็เลยไม่กล้าไปเบิกค่าใช้จ่ายจากพ่อ เพราะไปทีไรก็ต้องถูกห้าม เรื่องการเรียนธรรมะทุกทีไป " ป้าก็หายขุ่นเคืองใจนับแต่นั้นมา กลับซื้อของเพิ่มจำนวนขึ้น เพราะเกิดศรัทธา ดีใจที่ตนเองจะได้บุญ ให้ของกินแก่ผู้ปฏิบัติธรรมได้ผล แล้วยิ่งดีใจใหญ่เป็นพิเศษทวีคูณ เมื่อต่อมาคุณยายฯ ได้มอบหมายให้หลวงพ่อเจ้าอาวาส เป็นผู้ทำการอบรมสั่งสอนหมู่คณะแทน ในยามที่คุณยายเจ็บป่วยหรืออ่อนเพลีย นับว่าเป็นครูคนที่สองของเรา

บ้านธรรมประสิทธิ์ ที่พักของคุณยายในเวลาครั้งกระโน้น เป็นบ้านในฝันของพวกเราทุกคน มีความจริงใจต่อกัน เป็นกันเอง เห็นอกเห็นใจ ทุกคนเข้าไปแล้วมีความรู้สึกตรงกันคือมีความอบอุ่นใจ รักใคร่ปรองดองกัน ดูจะยิ่งกว่าพี่น้อง มีคุณยายฯ เป็นหัวหน้าครอบครัว ใครมีปัญหาอะไรๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษาเล่าเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องในสถานที่ทำงาน เรื่องสุขภาพร่างกาย และอื่นๆ จิปาถะ เราจะเอามาเล่าสู่กันฟัง แล้วหมู่คณะก็จะช่วยกันหาทางแก้ไข โดยมีคุณยายเป็นผู้ให้คำแนะนำ ป้ายังจำได้ว่า เมื่อลูกของพวกเราบางคนเรียนจบชั้นมัธยม จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ป้ายังต้องช่วยวิ่งเต้นหาที่เรียนให้ บางคนป่วยไข้ ฝ่ายที่เป็นหมอก็ช่วยเป็นธุระพาไปรักษา

คุณยายฯ เอาใจใส่พวกเราทุกคน เหมือนท่านเป็นทั้งพ่อแม่และครู ไปในตัว ท่านแก้ปัญหา หาทางออกให้ได้ทุกเรื่อง ทั้งที่ไม่เคยออกไปไหนนอกวัด ไม่เคยรู้เรื่องทางโลก โดยเฉพาะหนังสือ ก็อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่กลับมีทั้งความฉลาดและเฉลียว พร้อมปฏิภาณไหวพริบ เป็นที่พึ่งได้ทุกเรื่องอย่างนึกไม่ถึง

ทุกเย็นพวกเราทุกคนจะพากันเดินทาง มาที่บ้านธรรมประสิทธิ์ ที่เป็นนักเรียน นักศึกษามักจะมาถึงก่อน เพราะเลิกเรียนเร็ว คนทำงานแล้วมาถึงช้าหน่อย คุณยายฯ จะต้อนรับเราด้วยอัธยาศัยอันดียิ่ง ใครหิวท่านก็ให้เข้าครัวหาอาหารในตู้กิน ใครกินอิ่มมาแล้ว ท่านก็สอบถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป ใครมีปัญหาเดือดร้อนอะไร ก็เล่าให้คุณยายฟังในตอนนี้ คุณยายมักตั้งใจฟัง และสามารถให้คำแนะนำได้อย่างดี

ถ้าเป็นวันอาทิตย์ก็จะมีคนมาแต่เช้า เพิ่มเป็นราว ๒๐ คน คุณยายจะสอนเป็นสองรอบคือเช้าและบ่าย ไม่มีตอนเย็น ถ้าเป็นวันอาทิตย์ต้นเดือน จะมีถวายข้าวพระ มีผู้คนมามากหน่อยราว ๓๐-๔๐ คน นั่งกันทั้งชั้นบนชั้นล่าง

อาหารถวายข้าวพระ ต่างคนต่างนำไป คนที่ไม่ได้นำไป ก็มีอาหารที่ร่วมกันทำที่บ้านพักคุณยายฯ แล้วแต่จะสมทบบริจาค เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ก็จะนำอาหารส่วนหนึ่งไปถวายพระสงฆ์ของวัดปากน้ำที่ศาลาฉัน ส่วนที่เหลือก็ร่วมกันรับประทานอาหาร

ส่วนเรื่องการปล่อยสัตว์ปล่อยปลา เราทำกันตั้งแต่วันเสาร์ต้นเดือน โดยที่การจัดดอกไม้บูชาพระอย่างสวยงาม ทำสมาธิในตอนเช้า แล้วร่วมกันบริจาคเงิน ให้ทานชีวิตสัตว์ นำเงินทั้งหมดออกไปซื้อปลาและสัตว์อื่น ที่ตลาดหน้าวัด คุณยายฯ เป็นผู้ทำพิธีปล่อย

ทำพิธีเสร็จแล้ว เราก็ปล่อยลงในคลองภาษีเจริญ ข้างประตูหลังบ้านพักคุณยายฯ นั่นเอง วันเสาร์และวันอาทิตย์ต้นเดือนติดกันสองวันนี้ หมู่คณะของเราร่วมกันทำบุญด้วนความอิ่มใจเป็นอย่างยิ่ง วิธีการสอนของคุณยาย และหลวงพ่อที่ท่านสอนเด็กๆ ลูกๆ ของสมาชิกที่เป็นลูกศิษย์ เด็กเหล่านั้นสามารถมีตาทิพย์หูทิพย์ มีอภิญญาจิตต่างๆ ไปรู้ไปเห็นว่า การทำบุญมีหลายชนิด ผลบุญที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน ทำทานด้วยเครื่องนุ่งห่ม เวลาไปเกิดที่ไหนก็เป็นผู้มีผิวพรรณสวยงาม มีเครื่องนุ่งห่มบริบูรณ์ ถ้าทำทานด้วยอาหาร ก็ทำให้ไม่อดอยากและไม่ลำบากในการสร้างบารมี พร้อมกันนั้นก็ต้องรักษาศีล เพื่อให้ไปเกิดได้รูปร่างดี สุขภาพแข็งแรง และเจริญภาวนาให้เป็นคนมีปัญญาเฉลียวฉลาดรวมไปด้วย

ย้อนมาเล่าเรื่องความรักความอบอุ่น ในบ้านธรรมประสิทธิ์กันใหม่ ป้าจำได้ว่าเวลาบางคนในหมู่คณะหายหน้าไปไหน ไม่ไปปฏิบัติธรรมร่วมกันตอนเย็นหลายๆ วันไปหน่อย พวกที่สามารถทำอภิญญาจิตได้ จะใช้อำนาจสมาธิจิตไปติดตามดูว่า อยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร ถ้าเห็นไม่ชอบมาพากล จะออกนอกเส้นทางบุญ คุณยายฯ ก็จะใช้อำนาจสมาธิจิตเรียกตัวกลับ และก็เป็นเรื่องอัสจรรย์ ภายในวันสองวันนั้น คนนั้นก็จะรีบกลับมาพร้อมกับพูดว่า " ไม่รู้เป็นยังไง คิดถึงหมู่คณะเหลือเกิน "

ความเป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันในหมู่คณะ มีทั้งที่เป็นห่วงร่วมกัน และทั้งที่เป็นห่วงส่วนตัว บางทีก็ห่วงใยเรื่องความเป็นอยู่ ห่วงเรื่องการเรียน เรื่องสุขภาพ ตลอดจนเรื่องการเงิน โดยเฉพาะที่ยังเป็นนักเรียนนักศึกษา ไม่มีรายได้ อาจขาดแคลนค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน

ที่ยังประทับใจอยู่ไม่รู้ลืม ป้าจะเล่าให้ฟัง มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ทุกคนกำลังนั่งสมาธิกันเงียบกริบ ป้ายังกำหนดใจอะไรไม่ได้ พอหูได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่พื้นกระดาน ใจของป้าก็คิดเป็นห่วงกระเป๋าสตางค์ ของบรรดาฝ่ายชาย เกรงจะมีใครแอบขึ้นบันไดมาหยิบเอาไปหมด เวลานั้นป้าไม่เข้าใจว่า ทำไมเวลานั่งสมาธิผู้ชายทุกคนจะต้องหยิบกระเป๋าสตางค์ ออกมาจากกางเกง วางไว้ข้างตัว ป้าคิดเอาว่า " เค้าคงปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นในสมบัติอะไรกระมัง เลยเอาทรัพย์สินเงินทองออกมาวางทิ้งซะ " ภายหลังจึงทราบว่า เหตุที่พากันทำดังนั้น เพราะถ้ามีกระเป๋าสตางต์อยู่ในกางเกง กระเป๋าจะค้ำตัว ทำให้กางเกงตึง นั่งไม่สบาย แต่การนั่งสบายของฝ่ายชาย ทำให้ป้ารู้สึกไม่สบาย เป็นห่วงเป็นใยกระเป๋าพวกนั้นยิ่งนัก

พอนึกห่วงหนักเข้าก็เลยต้องหรี่ตา ดูว่าอะไรมาทำเสียงเหมือนคนเคลื่อนไหว ป้าเห็นหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสของเรา ท่านกำลังคลานมาทางด้านหลังของคนอื่นๆ ที่นั่งสมาธิล้อมกันเกือบเป็นรูปวงกลม ป้าก็นึกในใจ " เอ คุณเด็ดเนี่ย ทำอะไรกัน ทำไมไม่นั่งสมาธิ มาคลานเล่นซะนี่ เราต้องดูหน่อยเถอะว่า คลานไปไหน "

ในที่สุดป้าก็เห็นคลานไปที่กระเป๋าสตางต์ของหลวงพ่อเจ้าอาวาส หยิบขึ้นมาเปิด ป้าหรี่ตาจ้องมองเป๋งเลย เปิดกระเป๋าคนอื่นทำไม ป้าเห็นเปิดแล้วทำท่าเหมือนนับดูเงิน ขณะเดียวกันก็ดึงกระเป๋าสตางค์ตนเองออกมาจากกางเกง หยิบธนบัตรออกมานับปึกหนึ่ง ใส่ลงในกระเป๋าของอีกฝ่าย ป้าถอนใจอย่างโล่งอก รู้สึกตื้นตันน้ำตาซึม นึกไป " โธ่เอ๋ย ไปสงสัยซะใหญ่โต ที่แท้คุณ เด็ดก็ห่วงน้องจะไม่มีเงินใช้ กำลังเรียนปีสุดท้ายต้องใช้จ่ายมาก ส่วนคุณ เด็ดเรียนจบแล้วมีรายได้ดี จึงเอามาแอบแบ่งให้ใช้ ถ้าให้ซึ่งๆ หน้า ฝ่ายน้องก็คงไม่ยอมรับ คงบอกคอเป็นเอ็นว่ามีแล้ว ทั้งที่บาทเดียวก็บอกได้ว่ามีแล้วนั่นแหละ คุณ เด็ดเลยต้องใช้วิธีแอบให้ยังงี้ ไอ้เราก็คิดมาก สงสัยวุ่นวายไปได้ "

นับแต่วันนั้นมา ป้าจะได้ยินเสียงคนคลานเคลื่อนไหว ขณะนั่งสมาธิอีกกี่ครั้ง ก็ไม่กังวลห่วงใจจนต้องลืมตาดูอยู่อีกเลย

เวลานั้นป้าถือเอาบ้านธรรมประสิทธิ์ เป็นที่พึ่งอันยิ่งใหญ่ ไปครั้งใดจะปฏิบัติได้ผลหรือไม่ได้ผล ก็มีแต่ความสุขความสงบใจ สำหรับคนอื่นอาจจะไม่นึกอย่างป้า ที่ป้านึกเพราะบังเอิญเป็นระยะที่ ต้องรับหน้าที่ราชการค่อนข้างหนัก ต้องไปอยู่เป็นหัวหน้าสถานศึกษาในโรงเรียนขนาดใหญ่ เด็กนักเรียนเกือบทั้งหมด มาจากแหล่งเสื่อมโทรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ คือท่าเรือคลองเตย โรงเรียนเพิ่งตั้งขึ้นใหม่ งบประมาณอัตรากำลังครูไม่มี ทางกรมต้องใช้วิธีขอครูจากโรงเรียนอื่นที่มีครูเกิน ไม่มีโรงเรียนไหนเลย ที่ยกครูชนิดดีมาให้ มีแต่ให้ครูที่เขาต้องการคัดทิ้งทั้งสิ้น

เรื่องเด็กยากจนและมีปัญหาความประพฤติ โดยเฉพาะการลักขโมย กับเรื่องครูที่มีปัญหาแทบทั้งโรงเรียน จึงเป็นความทุกข์หนัก ในหน้าที่การงานของป้า จะปรับทุกข์กับพ่อบ้านเขาก็ไม่เข้าใจเพราะคนละอาชีพกัน ยังดีที่ผู้บังคับบัญชาพอเข้าใจ และเห็นใจอยู่บ้าง แต่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก ก็มีแต่หลักธรรมและคำพูดสอนต่างๆ ที่คุณยายฯ หลวงพ่อเจ้าอาวาส และรองเจ้าอาวาส รวมทั้งเพื่อนสหธรรมิก ที่บ้านธรรมประสิทธิ์เท่านั้น ที่ทำให้ป้ามีที่พึ่ง มีความอบอุ่นใจตลอดมา

เล่ามาถึงตอนนี้ ทำให้ป้าหวนคิดถึงบ้านหลังนั้นอีกครั้ง คิดถึงจับใจทีเดียว บรรยากาศอันแสนอบอุ่นอย่างั้น ไม่มีอีกแล้ว กลายเป็นความทรงจำในอดีต ที่ไม่มีวันย้อนกลับมาเกิดได้ใหม่ เป็นเพียงความฝันชั่วคราว ที่ตื่นขึ้นก็จากไป

อย่างไรก็ดีมาบัดนี้ บ้านหลังนั้นในครั้งกระโน้น ได้ให้ข้อคิดที่ประมาณคุณค่าไม่ได้แก่ป้า นอกจากเป็นบ้านที่เป็นต้นกำเนิด การก่อสร้างวัดพระธรรมกาย ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาแล้ว ยังชี้ให้เห็นว่า คนมีความทุกข์ จะเป็นทุกข์แง่ใดก็ตาม จะขวนขวายสนใจและเอาจริงต่อการศึกษาเล่าเรียน ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา ตรงข้ามกับบุคคลที่มีความสุข มีความสมบูรณ์พรั่งพร้อม ในทางโลกธรรม ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มักเป็นผู้ประมาทมัวเมา มองไม่เห็นของคุณค่าคำสอน ถือดีว่า ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องทำตาม ชีวิตก็สุขสบายดีแล้ว ไม่รู้ความจริงว่า ที่ตนสุขสบายอยู่นั้น เพราะผลของกรรมดี ที่ทำไว้ในอดีตค้ำจุนอยู่ เมื่อใดบุญนั้นหมดลง กรรมชั่งอื่นๆ ที่ค้างอยู่ก็คงตามมาให้ผลแทน เมื่อนั้นก็ต้องพบกัยความวิบัติอย่างแน่นอน

ดังนั้น คนฉลาดย่อมต้องสะสมบุญกุศลต่างๆ ไว้ให้เพิ่มพูนยิ่งๆ ขึ้นไป ไม่พยายามเปิดโอกาสให้กรรมชั่งให้ผล

ทีนี้การจะคิดกระทำได้ดังนี้ มิใช่จะคิดกันเองได้ง่ายๆ จะต้องอาศัยกัลยาณมิตรชี้ทาง อย่างเช่นหมู่คณะที่บ้านธรรมประสิทธิ์ ที่ป้าเล่าให้ฟังอยู่นี้ มีคุณยายฯ เป็นกัลยาณมิตรอันยอดเยี่ยม พวกเราจึงมีสัมมาทิฏฐิเกิดชึ้น เป็นต้นเหตุให้มีโอกาสประกอบกุศลกรรมต่างๆ

เมื่อป้าไปที่บ้านธรรมประสิทธิ์ครั้งนั้น ป้าเห็นคุณยายฯ ต้อนรับให้ความอบอุ่น ทุกคนที่ไปสม่ำเสมอ ป้าก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา มาบัดนี้เมื่อป้ามีอายุย่างเข้าวัยชรา เท่ากับคุณยายฯ สมัยโน้น ป้าจึงซาบซึ้งในการปฏิบัติตัวของคุณยายฯ สมัยที่เล่าไว้ เป็นอย่างยิ่ง คุณยายฯ ต้อนรับผู้คนที่ไปหาท่าน ไม่ว่าจะไปเรียนธรรมปฏิบัติ หรือมีปัญหาอะไรไปให้ช่วยแก้ไข จะไปพบเวลาใด มืดค่ำดึกดื่นแค่ไหน ถ้าท่านยังไม่หลับ เป็นต้องได้รับการต้อนรับอย่างดี จากคุณยายฯ พอถึงคราวป้าบ้าง เมื่อถูกรบกวนขอให้สอนหรือขอพบ ป้าจึงรู้สึกถึงความยากลำบาก ความเหน็ดเหนื่อยที่ตนเองได้รับ ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร ให้ผู้อื่นได้ดีไม่เท่า หนึ่งในร้อยในพันของคุณยายฯ

คนอย่างคุณยายฯ จะนับเป็นหนึ่งในโลก ก็คงไม่ผิด มีความตั้งใจในการทำกุศลใหญ่ และใจใหญ่ในการช่วยเพื่อนมนุษย์ ใครได้พบเห็น และช่วยงานท่าน นับว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเองโดยแท้




Create Date : 23 เมษายน 2551
Last Update : 23 เมษายน 2551 11:10:34 น. 0 comments
Counter : 1695 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wbj
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]




ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard



ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด



<< Main Menu >>



ดวงถาวร


ดวงตามวันเกิด



ดวงตามปีเกิด






;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'

ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และ การวางแผนกลยุทธ์ วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ Executive & Management Coach

ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
Friends' blogs
[Add wbj's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friends


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.