Cooking For Fun
Group Blog
 
All blogs
 
Chicken Farm Baker's Project # 33่ Thai delicious desserts : หม้อแกงเผือกหอมหวนยวนใจ

สวัสดีปีใหม่ไทยกันอีกรอบค่ะ เพื่อนๆทุกคน ตอนนี้ทุกคนคงมีแต่ความสุขสดชื่น สดใส
หลังจากที่ได้หยุดยาวในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บางคนก็ไปเที่ยวไกลๆ
บางคนก็อาจจะกลับบ้านไปรดน้ำดำหัว ขอพรผู้ใหญ่ บางคนก็อาจจะไม่ได้ไปไหนเลย
อยู่กับบ้านเฉยๆ แต่ที่ทุกคนน่าจะได้รับเหมือนกันก็คือได้พักผ่อนเติมพลังกายและใจ
ให้พร้อมสู้กับงานและชีวิตกันต่อไปนะคะ

โจทย์การบ้านฟาร์มไก่เดือนนี้ พี่ กัส aromahappy ตั้งโจทย์สนุกๆ
เข้ากับเทศกาลสงกรานตให้ทำขนมไทยๆ โดยมีข้อแม้ว่า

1. เรามาทำขนมไทยอะไรก็ได้ ที่แสดงออกว่าเป็นขนมไทย จะน้ำจะแห้ง ได้หมดเลยนะคะ

2. เลือกเอานะคะว่าจะใช้ส่วนผสมของไข่ ไม่ว่าจะไข่ไก่ ไข่เป็ด หรือส่วน ผสมของถั่ว ไม่ว่าจะ ดำ เขียว แดง หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในตระกูลถั่วได้หมดค่ะ

3. ใส่ในภาชนะ อะไรก็ได้ ที่แสดงออกถึงความเป็น ไทย ไม่ว่าจะเป็น ทองเหลือง ใบตอง โถเบญจรงค์ ได้หมดเลยค่ะ

ดีเลย เพราะไม่ค่อยได้ทำขนมไทยเท่าไหร่ นานๆได้ทำทีก็ติดใจซะแล้วล่ะค่ะ
สงสัยต้องมีรายการอื่นติดตามมาอีกแน่ๆ

ความจริงเมนูนี้อยากทำมาตั้งนานแล้วล่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำซักที
มันก็คือขนมหม้อแกงเผือก นั่นเอง เพราะก้อยชอบกินขนมที่มี
เผือกกับกะทิอยู่ด้วยกันมากๆเลยค่ะไม่ว่าจะเป็น เผือกแกงบวด ตะโก้เผือก ลอดช่องไทยน้ำกะทิ ถ้ากินก็ต้องมีเผือกนึ่งด้วยถึงจะครบสูตร(ก้อย)
แม้แต่เผือกเชื่อมให้เค้าตักแต่เผือกแห้งไม่เอาน้ำเชื่อม แล้วก็ราดกะทิจนเจิ่งนอง
ฮ่า เผือกหอมๆร่วนๆกับน้ำกะทิเค็มๆมันๆ ช่างเข้ากันเสียนี่กระไร
หม้อแกงเผือก ต้องโรยหอมแดงเจียวเยอะๆ
เป็นกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆเลยล่ะค่ะ




ชักจะเริ่มหิวแล้วสิเอาเป็นว่ามาดูสูตรกันเลยดีกว่านะคะ
ก้อยได้สูตรและวิธีทำจากบล็อคพี่ฉวี Tristy และพี่ฉวีก็ทำตาม
จากบล็อคพี่จุ๋ม แม่สลิมอีกทีค่ะ ขอบคุณพี่ๆทั้งสองท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

พี่ฉวีทำไว้หลายรูปแบบเลยค่ะ ดูที่นี่ได้เลย


ส่วนประกอบมีแค่ไม่กี่อย่างเองค่ะ

หัวกะทิ 400 กรัม
(ก้อยใช้กะทิกล่องค่ะ ถ้าได้กะทิคั้นสดจะดีมากๆเลยค่ะ)

ไข่เป็ด 5 ฟอง

น้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำตาลตโนด 280 กรัม

เผือกนึ่งสุก 200 กรัม

แป้งข้าวจ้าว 10 กรัม

หอมแดงเจียวตามชอบ

น้ำมันพืชสำหรับเจียวหอม

ใบเตย5-6 ใบ

ก้อยเติมเกลือป่นลงไปนิดนึงค่ะ

พอดีมีไข่เป็ดอยู่ 6 ฟอง ก็เลยทำหมดเลย ก็เพิ่มไปตามอัตราส่วนนะคะ




ทำหอมแดงเจียวกันก่อนนะคะ พยายามซอยให้หนาเท่าๆกันจะได้สุกกรอบเสมอกันค่ะ



เจียวไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ถ้าไฟแรงหอมอาจไหม้ก่อนจะกรอบได้ค่ะ




พอเหลืองแล้วใช้กระชอนโปร่งตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
ต้องกะให้เหลืองน้องกว่าที่ต้องการนิดหน่อยนะคะ เพราะขึ้นมาแล้วจะสุกต่ออกนิดหน่อย
ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นหอมนิโกรแล้วอาจจะมีรสขมด้วยค่ะ



พักไว้พนกระดาษซับน้ำมัน เกลี่ยให้แผ่ออกมา จะได้กรอบๆ
ส่วนน้ำมันที่เจียวหอมเก็บไว้นิดนึงค่ะ เอาไว้ใส่ตอนกวนขนมจะช่วยให้ขนมหอมยิ่งขึ้น



ทีนี้มาเริ่มทำตัวหม้อแกงกันเล้ย นึ่งเผือกให้สุกแล้วยีให้ละเอียด
ก้อยยียังเป็นชิ้นๆอยู่เลย แหะๆ ถ้าใครอยากให้เนื้อเนียนๆอาจเอาไปผ่านตะแกรงหยาบๆนะคะ



ใส่แป้งข้าวจ้าวลงไปคลุกกับเผือก อันนี้พี่จุ๋มบอกไว้ว่าช่วยให้เผือกไม่แยกตัวน่ะค่ะ



ขยำไข่กับใบเตย ที่ขยำกับใบเตยนี่นอกจากจะทำให้ไข่ฟูขึ้นแล้ว
ยังช่วยให้มีกลิ่นหอมและดับคาวไข่ด้วยค่ะ
ไข่เป็ดสีจะสวยแบบนี้แหล่ะค่ะ แด๊งแดง



ขยำๆจนฟูแล้วค่อยใส่น้ำตาลปี๊บลงไปขยำต่อ ฮุยเลฮุย



ใส่เผือกที่เตรียมไว้ลงไปแล้วขยำให้เข้ากัน ฮ่าๆๆๆ วันน้ได้ขยำจนสะใจ




เอาส่วนผสมไปกวนในกระทะ จริงๆต้องกวนในกระทะทองเหลืองค่ะ
แต่ถ้าใครไม่มีก็ใช้กระทะเทฟลอนแทนแบบก้อยก็ได้ค่ะ
แหะๆ ไม่ได้ทำขนมไทยบ่อยๆ ก็คงจะไม่มีกันนะคะ
ที่กวนนี่ เพื่อให้ขนมไม่แยกตัวเป็นชั้นสังขยากับเผือก
เหมือนที่เดี๋ยวนี้เค้าขายกันจะเห็นเป็นชั้นแยกกันไปเลย
ถ้าชอบแบบแยกๆก็ข้ามขั้นนี้ไปได้ค่ะ กวนพอให้ข้นๆเป็นเนื้อเดียวกัน
แล้วใส่น้ำมันที่เจียวหอมลงไปนิดหน่อย เพิ่มความหอม
ถ้ากวนนานจะทำให้แตกมันและเลี่ยนด้วยค่ะ จะกินไม่อร่อย
(อันนี้พี่จุ๋มบอกไว้หมดเลยค่ะ อิอิ )



ตักใส่ภาชนะที่เข้าเตาอบได้ สมัยก่อนเค้าต้องใช้ผิงไฟด้านบนจนสุก
แต่เดี๋ยวนี้เราก็ใช้อบในเตาอบแทนนะคะ
พอดีวันก่อนไปเที่ยวอัมพวา เห็นเค้าทำใส่เรือดินเผาใบน้อยๆน่ารัก
เลยซื้อมากิน 1 อัน (จริงๆอยากได้เจ้าเรือนี่แหล่ะ 555 แต่ว่ากินแล้ว
เสียดายที่ซื้อมาอันเดียว เพราะว่าอร่อยจริงๆ)



ก้อยอบ 180 องศาเซลเซียส 20 นาที ตามด้วย 250 องศาอีก 10 นาทีเพื่อให้หน้าเหลืองสวยค่ะ

ปิ๊งป่อง เสร็จแล้วค่า โรยหอมเจียวเพิ่มความหอมยั่วยวนซะหน่อย



อ้ามมมม เห็นมั้ยคะบดเผือกไม่ละเอียด เลยเห็นเป็นก้อนๆเลย



พอดีตรงกับวันเกิดอาอี๊ เกิด 13 เมษา วันมหาสงกรานต์พอดีเลย
ไม่ได้ทำเค้กไว้ ก็เลยเอาหม้อแกงมาเป่าแทนซะเลย อิอิ



อันนี้พยยามทำเป็น Crème brûléeหม้อแกง แต่ไม่มี Torch
เอาไปอบแทน น้ำตาลยังเป็นเม็ดๆอยู่เลย 555



ขอให้ทุกคนมีความสุขสดชื่นไปตลอดปีนี้และตลอดไปนะคะ
มีความสุขกับสิ่งที่ทำในแนวทางของตัวเองค่ะ





Create Date : 16 เมษายน 2554
Last Update : 16 เมษายน 2554 16:38:50 น. 20 comments
Counter : 2485 Pageviews.

 
ว้าย.. การบ้านชนกัน พี่ำตาทำเหมือนกันคะ น่ากินมากหมอก้อย.. เห็นแล้วอยากชิมจังเลยคะ


โดย: ผ้าไหมไทย วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:9:33:46 น.  

 

.....แหมน่ากินจัง....อุปนิสัยคล้ายๆ กันเลย จะเข้ามาดูและอ่านบ่อยๆ ขอสนับสนุนค่ะ คนที่ชอบทำอาหารหรือทำอาหารเก่งนี่ มันยอดเยี่ยม และยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะใครบ้างไม่ต้องกิน หรือไม่อยากินอาหารอร่อย และชีวิตทุกคนจะอยู่ได้ก็จะต้องกิน...ภาพก็สวยค่ะ...ขอบคุณมากที่ให้ความรู้แก่เพื่อนร่วมโลก


โดย: ทองหยอด IP: 124.185.139.3 วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:11:21:20 น.  

 
โอ๊โอ หม้อแกงเผือก..ของโปรดเลยค่ะ
ชอบไอเดียเอาใบเตยมาทำเป็นดอกไม้
สวยค่ะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:11:31:11 น.  

 
น่าทานมากเลยค่ะ ชอบข้าวเหนียวหน้าหม้อแกง อิอิ


โดย: vekalover วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:14:07:00 น.  

 
ขนมไทยๆ เห็นเมื่อไหร่ก็น่าอร่อยทกรอบค่ะ
เห็นทำดอกไม้จากใบเตยด้วย สวยงาม ละเมียดละมัยเชียวค่ะ


โดย: แม่นิทาน วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:14:09:46 น.  

 
ขนมไทยของชอบ อะไรก็กินหมด เห็นหมอก้อยทำน่ากินทั้งนั้นเลย


โดย: allenalina วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:14:15:14 น.  

 
ชอบขนมทุกอย่างที่มีเผือก ขนมหม้อแกงเผือกหวานมันยิ่งชอบ น่าอร่อยจริง ๆ ค่ะ


โดย: Baked by PonG วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:15:24:02 น.  

 
บังเอิญจริงๆค่ะพี่ตา รอชมนะคะ ก้อยแอบไปเยี่ยมบล็อคพี่ตาชมการบ้านเดือนที่แล้วไปลางๆ

ขอบคุณค่ะคุณทองหยอด เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะว่าคนเราต้องกินทุกวัน การกินเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันนี้ที่อะไรๆก็เร่งด่วนไปหมด การดื่มด่ำกับการทำอาหารและชื่นชมกับอาหารที่เราจะกินเข้าไปมันก็เหมือนกับการเสพศิลปะ มอบความละเมียดละไมให้ชีวิตที่เร่งรีบได้เนิบช้าลงนะคะ

ชอบหม้อแกงเผือกที่สุดเลยค่ะพี่หนึ่ง หอมทั้งเผือกทั้งกะทิ เข้ากันสุดๆแล้ว

คุณวาพูดเหมือนตาเห็นเลยค่ะ วันนั้นมีข้าวเหนียวมะม่วงด้วย แต่ข้าวเหนียวหมดไปตั้งครึ่งก่อนมะม่วงจะมา เพราะโดนจกมากินกะหม้อแกงนี่เอง


ยินดีด้วยนะคะคุณโอ๋ สำหรับร้านคัพเค้ก ขอให้กิจการรุ่งเรืองนะคะ โลโก้ร้านน่ารักมากๆเลย ขอบคุณค่ะ ดอกไม้ใบเตยนี้ ก้อยได้วิชามาจากพี่ผู้ช่วยตอนไปทำงานที่ต่างจังหวัดค่ะ พี่เค้าพับเก่งมาก ไม่ต้องตัดออกมาเป็นใบๆพับติดับกอเลยล่ะค่ะ


คุณallenalina ขอบคุณค่ะ พยายามจะเรียนรู้อยู่ค่ะ ยกให้เจ๊หลีเป็นคุณครูขนมไทยเลย เก่งมากๆ

คุณปองชอบเหมือนก้อยเลยค่ะ อะไรที่มีเผือกหอมๆชอบหมดเลย ขนาดข้าวอบเผือกยังชอบเลยค่ะ 555


โดย: ฟันคุดน้อยซี่ที่7 วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:16:04:23 น.  

 
แวะมาดูหลายรอบแล้วค่ะ น้องก้อย

ทำได้น่าทานมากเลยค่ะ


โดย: ตาโตสุดสวย วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:19:34:34 น.  

 
ใบก็เหมือนใบของต้นชงโคค่ะน้องก้อย
พี่นั่งพินจพิจารณาอยู่นานเลย สรุปได้ว่า เค้าคงเป็นพี่น้องกัน

มาอีกครั้งก็นึกอยากกินหม้อแกงเผือก
พี่เคยช่วยคุณแม่ทำขายด้วยนะน้องก้อย
ตอนพี่เด็กๆ มีหม้อแกงไข่ขาว หม้อแกงถั่ว หม้อแกงเผือก แต่คุณแม่พี่ใช้วิธีอบแบบคนโบราณจ้ะ
หอมไปทั้งบ้านเลย(ร้อนด้วย)
แต่พี่ชอบกลิ่น ยิ่งเวลาใส่หออมเจียวนะยิ่งหอม
คุณแม่พี่จะราดหัวกะทิข้นๆที่หน้าด้วยค่ะ เวลาตักกินจะมันๆ เค็มปะแล่มๆ หอมหอมเจียว หวานตัวหม้อแกง
ยิ่งพูดยิ่งอยากกิน สงสัยต้องกระเสือกกระสนทำกินเอง...อีกแล้ว


โดย: AdrenalineRush วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:1:05:49 น.  

 
ขอบคุณค่ะพี่เมษ์ ฝอยทองของพี่เมษ์ก็สุดยอดเลยค่ะ ดูแล้วคงยากเกินความสามรถก้อยเยอะเลย พี่เมษ์ทำได้น่ากินมากๆเลยค่ะ

อาจจะเป็นญาติกันเนอะคะพี่หนึ่ง ก้อยชอบต้นชงโคมากเลยค่ะ สวยทั้งใบและดอก ชอบสีม่วงของดอกมันมากเลย ^^ พี่หนึ่งพูดซะก้อยน้ำลายหยดเลย ชอบกลิ่นหอมเจียวรู้สึกว่าถ้าไม่โยหอมเจียวก็ไม่ใช่ขนมหม้อแกงเลยล่ะค่ะ อบแบบโบราณคงจะหอมมากๆเลยนะคะ


โดย: ฟันคุดน้อยซี่ที่7 วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:11:44:23 น.  

 
น่ากินจังเลยค่ะ ขอลองคำนึง อิอิ


โดย: ~*Sing Praise*~ วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:18:45:33 น.  

 
มาๆ ป้อนให้หลายๆคำเลยจ้า น้องกิฟท์ ขอแลกกะคุกกี้ไวท์ช็อคแครนเบอรี่ซักชิ้นสองชิ้นสิ อิอิ


โดย: ก้อย ฟันคุดฯ IP: 180.180.96.49 วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:20:01:30 น.  

 
ไอเดียร์เก๋กู๊ดมากเลยค่ะ จะว่าไป พี่กัสเองยังไม่ได้ทำเลยค่ะ มัวแต่วุ่นวายเรื่องอื่ นอิอิ น่าทานมากเลยค่ะ


โดย: aromahappy วันที่: 18 เมษายน 2554 เวลา:11:23:21 น.  

 
น่าอร่อยจังค่ะ...ได้กลิ่นหอมๆลอยมาเลยค่ะ


โดย: little_angel_com วันที่: 18 เมษายน 2554 เวลา:18:21:00 น.  

 
เอาเค็กมาฝากค่ะ




โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:1:13:49 น.  

 
เอื๊อก เผลอแป๊บเดียว ส่งการบ้านกันแล้วเนาะ พี่ยังไม่ได้ทำเลยค่ะ ยังไม่ได้คิดด้วย ยิ่งเล่นบล็อกนาน ความขยันยิ่งเสื่อมน่ะ :)) ...

ชอบพรีเซนเตชั่นของก้อยจังค่ะ สวยหวานดีกับภาชนะไทย และ กุหลาบใบตองกล้วย อ่อนช้อยมาก ๆ ขอบอก

หม้อแกงเผือก พี่ชอบให้เผือก เป็นเม็ด ๆ แบบของก้อยนี่แหละ เคี้ยวอร่อยดี .. อาอี๊ของก้อย ท่าทางภูมิใจสุด ๆ กับผลงานของคุณหลานเนาะ :))


โดย: Tristy วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:10:45:22 น.  

 
เอ่อ ... กุหลาบ มาจากใบเตยเนาะ เพิ่งเห็นในคอมเมนท์ของหนึ่ง


โดย: Tristy วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:10:47:05 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่กัส ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่ตั้งโจทย์ให้ได้นึกถึงขนมไทยๆเรา ความจริงคิดจะทำอยู่นานแล้วค่ะแต่ไม่ได้ทำซักที คราวนี้เลยได้โอกาส รอชมการบ้านนะคะ (ไม่ได้กดดันน๊า แค่รอชมเฉยๆ)

ขอคุณค่าคุณลิตเติ้ลแองเจิล คุณไก่

ก้อยก็ชอบเวลาเคี้ยวโดนเผือกเป็นชิ้นๆเหมือนกันค่ะพี่ฉวี แต่บางคนชอบให้เนียนๆ ก็เอาไปปั่นรวมกับกะทิเลยก็ได้ค่ะ ส่วนดอกกุหลาบใบเตยนี่ก้อยชอบพับใส่ไว้ในห้องน้ำ หรือให้พี่ชายเอาใส่ในรถทังสวยทั้งหอมเลยค่ะ ดอกชมนาดก็น่ารักค่ะ หอมเหมือนลอดช่องเลย ฮ่าๆๆๆ


โดย: ฟันคุดน้อยซี่ที่7 วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:11:52:37 น.  

 
น่าทานค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 3445422 วันที่: 11 มีนาคม 2563 เวลา:13:20:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฟันคุดน้อยซี่ที่7
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบใช้ชีวิตธรรมดา ว่างก็ทำขนม ทำอาหาร ถ่ายภาพ ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ฟังเพลง ก็มีความสุขแล้วค่ะ เรียกว่ามีโลกส่วนตัวสูงก็ได้ค่ะไม่ชอบที่คนเยอะๆ รู้สึกว่ามันวุ่นวายจัง วันไหนได้อยู่บ้านนี่ทำขนมได้ทั้งวันเลยจนพี่ๆแซวว่าก้อยเปิดโรงงานทำขนมทุกอาทิตย์ ทำไงได้ล่ะคะ ก็คนมันรัก(การทำอาหาร) นี่นา แค่ได้ทำอาหารให้คนรอบข้างได้กินของ(ที่เราดิดว่า)ดีๆ ก็มีความสุขแล้วค่ะ เพื่อนๆเป็นกันมั้ยคะ ^__^
หลังไมค์ถึงฟันคุดน้อยฯกดที่นี่ เฟซบุคเชิญทางนี้ค่ะ cooking for fun
Friends' blogs
[Add ฟันคุดน้อยซี่ที่7's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.