วัยคะนอง

วัยคะนอง

คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



วัยคะนองเมื่อพูดถึงวัยนี้ ส่วนใหญ่จะนึกถึงวัยรุ่น เนื่องจากวัยนี้เป็นวัยที่มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ใจร้อน กล้าได้กล้าเสีย และกล้าที่จะเสี่ยง

จึงส่งผลให้วัยรุ่นมักทำสิ่งใดโดยขาดการคิดไตร่ตรองถึงผลที่จะตามมา นอกจากนี้บางครั้งสิ่งที่วัยรุ่นทำเนื่องจากต้องการเรียกร้องความสนใจจากพ่อ แม่ผู้ปกครอง ดังนั้นการดูแลลูกในวัยนี้พ่อแม่ควรที่จะ

- ส่งเสริม พ่อแม่ควรที่จะส่งเสริมลูกตามความสามารถของลูก โดยพ่อแม่ต้องเริ่มต้นจากการใส่ใจสังเกตว่าลูกชอบหรือถนัดในด้านใด ให้โอกาสลูกได้เลือกได้ทำในสิ่งที่ลูกสนใจ

- สนับสนุน หากลูกต้องการทำในสิ่งที่ดีที่เหมาะสมกับวัยของลูกไม่บังคับลูกว่าต้องทำ อย่างนั้นอย่างนี้ตามใจพ่อแม่ แต่หากลูกอยากทำสิ่งใดที่ดีไม่เป็นอันตรายทั้งต่อตนเองและผู้อื่นขอให้สนับ สนุนและเป็นกำลังใจให้กับลูก

- ชื่นชม หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกมีพฤติกรรมที่ดี พ่อแม่ก็ควรที่จะชื่นชมลูกหากลูกแสดงพฤติกรรมที่ดี หรือเมื่อลูกทำสิ่งใดสำเร็จทำสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม อย่ากลัวที่จะชื่นชมลูก เพราะคำชมของพ่อแม่จะส่งผลให้พฤติกรรมที่ดีของลูกคงอยู่ต่อไป

ส่งเสริม สนับสนุน ชื่นชม เป็นแนวทางง่ายๆ ที่สำคัญที่จะช่วยให้ลูกในวัยรุ่นรู้สึกว่าพ่อแม่สนใจใส่ใจในตัวลูก ซึ่งจะส่งผลให้ลูกรู้สึกถึงคุณค่าในตนเองทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม โดยไม่ต้องเรียกร้องความสนใจด้วยพฤติกรรมทางลบ

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNREl5TURjMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOeTB5TWc9PQ==

Create Date : 22 กรกฎาคม 2551 Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:34:21 น. Counter : 526 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

นมแม่สายใยแห่งความรัก

นมแม่สายใยแห่งความรัก

คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



ปัจจุบันมีการรณรงค์ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ดีเพราะนมแม่มีคุณค่ามากมายต่อลูก

เพราะนมแม่มีประโยชน์ต่อลูกมากมายไม่ใช่เพียงเพื่อให้ลูกอิ่มท้องเท่านั้นแต่นมแม่ยังช่วยให้

- ลูกได้สารอาหารครบถ้วน ย่อยและดูดซึมได้ง่าย ทำให้ลูกเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่ดีทั้งต่อร่างกาย สมอง ระบบประสาท มีภูมิต้านทานโรค ทำให้ลูกไม่ค่อยเจ็บป่วย

- ลูกได้รับความอบอุ่นทางจิตใจ การที่แม่ให้นมลูก แม่ต้องโอบกอดลูกไว้ในอ้อมแขน ช่วยให้ลูกรู้สึกถึงความอบอุ่นจากแม่ สายตาที่มองประสานกันช่วยสื่อถึงความรักและสายใยแห่งชีวิตที่ได้จากแม่ ซึ่งเหล่านี้จะเป็นรากฐานสำคัญต่อจิตใจ อารมณ์ และการปรับตัวของลูก

- สะอาด สะดวก และประหยัด การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั้งสะอาดและปลอดภัย ช่วยป้องกันมิให้ลูกท้องเสีย จากเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนในภาชนะบรรจุนมผสม สะดวกไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมนมผสม การล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ในการให้นม ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียเงินซื้อนมผงรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ขวดนม น้ำยาล้างขวดนม ที่นึ่งขวดนม นับว่าเหมาะกับยุคประหยัดเช่นในปัจจุบัน

สร้างสายใย แห่งความรัก พัฒนาลูกน้อยอย่างเหมาะสมด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนมแม่เป็นสิ่งที่มากด้วยคุณค่า ที่แม่ทุกคนสามารถให้กับลูกได้

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNREU1TURjMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOeTB4T1E9PQ==

Create Date : 19 กรกฎาคม 2551 Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:34:14 น. Counter : 448 Pageviews.		1 comment
Share Tweet

ให้ลูกได้เรียนรู้ในสิ่งที่ชอบ

ให้ลูกได้เรียนรู้ในสิ่งที่ชอบ

คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



พ่อ แม่ส่วนใหญ่มักมีความคาดหวังในตัวลูกอยากให้ลูกเรียนดี เป็นคนเก่ง มีความสามารถ เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จในชีวิต จึงทำให้บางครั้งอาจทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจหรือรู้สึกว่าตนถูก บังคับจึงทำให้เกิดการต่อต้านขึ้น

ที่สำคัญการที่ลูกเรียนได้ดี หรือประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น นอก จากปัจจัยด้านสติปัญญาแล้ว ปัจจัยที่สำคัญอีกสิ่งก็คือ การที่ลูกได้เรียนได้ทำในสิ่งที่ชอบอย่างมีความสุข ไม่ใช่ทำเพราะถูกบังคับ ดังนั้นพ่อแม่จึงควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เลือก ได้ทำในสิ่งที่ชอบ เพราะเมื่อลูกรู้สึก ชอบ เขาก็พร้อมที่จะเรียน รู้สึกสนุก มีความตั้งใจในการเรียนรู้ ทำ ให้สามารถทำความเข้าใจในสิ่งที่เรียน ความรักในสิ่งที่เรียนจึงเป็นปัจจัย สำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้พวกลูกประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี

ดัง นั้น พ่อแม่จึงควรสนับสนุนให้ลูกค้นหาตนเอง ค้นหาสิ่งที่เขา ชอบ ไม่ควรบังคับลูกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ควรปิดกั้นความ คิดและโอกาสในการเรียนรู้ของลูก เพราะจะทำให้ลูกเบื่อหน่ายในการ เรียน และยังส่งผลต่ออนาคตของลูก เพราะจะทำให้ลูกเป็นคนที่ขาด ความมั่นใจ ไม่กล้าคิดไม่กล้าตัดสินใจ เพราะมักถูกพ่อแม่บังคับตลอดเวลา จนขาดโอกาสให้ค้นหาและค้นพบตนเอง

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNREUzTURjMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOeTB4Tnc9PQ==

Create Date : 17 กรกฎาคม 2551 Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:34:05 น. Counter : 486 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

ป้องกันลูกจากภัยทางเน็ต

ป้องกันลูกจากภัยทางเน็ต

คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



ใน ปัจจุบันนี้ คอมพิวเตอร์เรียกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ประจำบ้าน พ่แม่หลายคนอาจกำลังกังวลว่าลูกมักใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์มากเกินไป แรกๆพ่อแม่ก็สบายใจว่าถึงอย่างไรลูกก็ยังอยู่ที่บ้าน

แต่นานเข้าก็ ชักกังวลว่าลูกติดคอมพิวเตอร์จนเกินไป ยิ่งมีข่าวเด็กถูกล่อลวงผ่านการแช็ตทางอินเตอร์เน็ตด้วยแล้วยิ่งกังวลกลัว ว่าลูกจะตกเป็นเหยื่อของภัยร้ายที่แฝงมา

ถึงเวลาที่พ่อแม่ควรหาแนวทางป้องกันให้ลูกมีทักษะในการป้องกันตัวเอง จากเล่ห์เหลี่ยมเหล่านี้ ดังนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ

- พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูก สอนให้ลูกรู้ถึงข้อดีข้อเสียของการติดต่อผ่านอินเตอร์เน็ต สอนให้ลูกเล่นอินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัย ที่สำคัญเวลาลูกเล่นอินเตอร์เน็ตพ่อแม่ควรอยู่กับลูกเสมอ

- ร่วมกันตั้งกฎในการเล่นติดต่อผู้คนผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น ไม่ส่งรูปหรือรายละเอียดส่วนตัวให้ใคร เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือชื่อโรงเรียน ไม่นัดกับใครโดยไม่บอกหรือขออนุญาตจากพ่อแม่ ออกจากห้องแช็ตทันทีหากคนที่เราพูดคุยด้วยเริ่มพูดจาไม่ดี รุกเร้า ขอข้อมูล หรือทำให้รู้สึกไม่สบายใจ และควรบอกให้พ่อแม่รับรู้

สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางที่พ่อแม่ควรพูดคุยให้คำแนะนำแก่ลูกเพื่อให้ลูกมีทักษะในการป้องกันตนเองจากภัยที่อาจแฝงมาทางอินเตอร์เน็ต

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNREUxTURjMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOeTB4TlE9PQ==

Create Date : 15 กรกฎาคม 2551 Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:33:56 น. Counter : 547 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

สร้างสัมพันธ์ด้วยพูดคุย

สร้างสัมพันธ์ด้วยพูดคุย

คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



ปัจจุบัน นี้บางครั้งครอบครัวดูห่างเหินกัน ทั้งที่อยู่ร่วมบ้านกัน แต่กลับไม่ค่อยได้พูดคุยกัน เวลาที่พ่อแม่ลูกจะได้อยู่ด้วยกันก็ดูจะหายไป อาจเนื่องจากลูกใช้เวลาส่วนหนึ่งอยู่ที่โรงเรียน เมื่อกลับถึงบ้านก็มีการบ้าน หรือมีงานอื่น รวมถึงการเล่นที่ลูกให้ความสนใจ

ส่วน พ่อแม่ก็มักยุ่งอยู่กับงานบ้าน การติดตามข่าวสารบ้านเมือง จนบางครั้งอาจลืมที่จะพูดคุยกัน หรือมีเพียงทักทายกันธรรมดา ซึ่งการไม่ได้พูดคุยกันในครอบครัว เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อลูกอย่างมาก ดังนั้น พ่อแม่จึงควรจัดสรรเวลาในการพูดคุยกับลูกอย่างสม่ำเสมอเพราะการพูดคุยกับลูก ช่วยให้

- สร้างความเข้าใจในครอบครัว การพูดกับลูกจะช่วยสร้างความเข้าใจร่วมกัน เพราะความเข้าใจจะเกิดขึ้นจากการพูดจาสื่อสารกัน อย่าคิดเอาเองว่าอยู่ด้วยกันทุกวันจะเข้าใจกัน โดยไม่มีการพูดจากัน ประเภทมองตาแล้วรู้ใจ ดังนั้น หันมาพูดคุยกับลูกให้มากขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน

- สร้างความสัมพันธ์อันดี การพูดคุยระหว่างพ่อแม่ลูก เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ครอบครัวมีความสนิทสนมใกล้ชิดกัน อันเป็นหนทางในการสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกันซึ่งจะช่วยให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ใจและเกิดความไว้วางใจเชื่อมั่นในตัวพ่อแม่

- สร้างความรู้ การพูดคุยกับลูกนอกจากเป็นการเพิ่มเติมความรู้สึกอันดีแล้ว ยังช่วยให้ลูกได้เพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการสอนหรือแนะนำลูกซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ จากในตำรา เพราะเป็นการปลูกฝังความคิดอ่านให้แก่ลูก

การพูดคุยกับลูกเป็นสิ่งที่ไม่ต้องลงทุนมากมายแต่ให้ผลตอบแทนมากมายทั้งต่อตัวลูกและต่อครอบครัว

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNREV4TURjMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOeTB4TVE9PQ==

Create Date : 11 กรกฎาคม 2551 Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:33:09 น. Counter : 401 Pageviews.		0 comment
Share Tweet