เคล็ดลับทำให้ลูกติดหนังสือ
เคล็ดลับทำให้ลูกติดหนังสือ

เก็บเรื่องมาเล่า

ชนา ชลาศัย




คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจลูกติดเกมงอมแงม ไม่ชอบอ่านหนังสือ

อยากให้ลูกรักการอ่านต้องทำอย่างไร?

คอลัมน์ "Bookstart" โดย "ปองกมล" นิตยสาร "Mother & Care" ฉบับเดือนก.พ. มีคำแนะนำน่าสนใจดังนี้

จากการดำเนินการของโครงการ "Bookstart" ประเทศไทย ในการรณรงค์รักการอ่านในบ้าน ด้วยการลงพื้นที่และสำรวจพบว่า หลังการแจกหนังสือไปแล้ว หลายครอบครัวใช้หนังสือไม่ต่ำกว่าวันละ 3 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติน่าสนใจ และแสดงให้เห็นว่าหนังสือดึงดูดความสนใจเด็กได้ไม่แพ้การเล่นเกม

เพียงแต่เด็กที่เล่นเกมไม่ได้ถูกดึงให้เข้าสู่โลกของหนังสือเท่านั้นเอง

นอกจากสถิติแล้ว ยังมีเคล็ดลับดีๆ จากโครงการมาฝาก เพื่อทำให้ลูกติดหนังสือมากกว่าติดเกม

1.เริ่มจากหาหนังสือมาไว้ติดบ้าน แล้วสร้างบรรยากาศแห่งการอ่านภายในบ้าน ลองเริ่มต้นจากหนังสือเล่มที่เป็นคำคล้องจอง ด้วยการอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน (เริ่มได้ตั้งแต่ลูกอายุ 4-6 เดือน) แล้วจะเห็นพัฒนาการ ว่าเมื่อมีการอ่านซ้ำเวลาเดิมเป็นประจำเด็กจะเริ่มเรียกหาหนังสือเอง

2. ถ้าเป็นเด็กเล็กกว่า 1 ขวบ ให้เริ่มจากอ่านทีละบทแล้วค่อยๆ เพิ่มเป็น 2 บท 3 บท ไปเรื่อยๆ โดยสังเกตสมาธิของเด็กเป็นหลัก ซึ่งการใช้วิธีนี้จะเป็นการเตรียมสมาธิของเด็ก แล้วจะเห็นผลภายในไม่เกิน 1 เดือนครึ่ง

3.อย่าเลือกหนังสือที่จ้องจะสอนเด็กอย่างเป็นจริงเป็นจัง ให้เป็นการแฝงการสอนไปในเนื้อเรื่องและพฤติกรรมของตัวละครแทน

4.เปลี่ยนหนังสือให้เนื้อเรื่องมีความซับซ้อน เติบโตตามวัยของเด็กไปเรื่อยๆ

5.หาสื่อ มาทำกิจกรรมควบคู่ไปกับการอ่านหนังสือหรือเล่านิทาน เช่น หุ่นนิ้วจากเศษกระดาษ หรือเศษไม้ชิ้นเล็กๆ ก็ใช้เป็นตัวละครได้

6.พ่อแม่ใช้ร่างกายเป็นสื่อในการเล่นกับลูกตามเนื้อเรื่อง

7.เด็กชอบหนังสือคำกลอนมากกว่าร้อยแก้ว และชอบเนื้อหาเกี่ยวกับความอบอุ่น ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว

8.กำหนดเวลาแน่นอนในการเล่านิทาน แล้วเล่านิทานให้เด็กฟังตามเวลานั้นเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เด็กเฝ้ารอให้ถึงเวลานั้นอย่างใจจดใจจ่อ แล้วช่วงเวลาดังกล่าวจะกลายเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่มีคุณค่าทบทวี

ลองทำตามดูทีละขั้นตอนอย่างใจเย็นๆ

เพราะหนังสือไม่ใช่ขนมหรือลูกกวาดที่เด็กๆ ชอบ

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hOekE1TURJMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdNaTB3T1E9PQ==



Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:42:31 น.
Counter : 435 Pageviews.

0 comment
ความรู้สึกของการจับสลากเข้าเรียน
ความรู้สึกของการจับสลากเข้าเรียน

สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์ /กรมสุขภาพจิต



ถึง เวลาที่ลูกชายผู้เขียนจะเข้าโรงเรียนอนุบาลในปีการศึกษานี้ วันหยุดที่ผ่านมาได้มีการจับสลากเพื่อคัดเลือกเด็กในการเข้าเรียน ซึ่งให้ผู้ปกครองเป็นผู้ไปจับสลาก ในครั้งนี้พ่อของลูกชายเป็นคนไปทำหน้าที่ครั้งสำคัญ เมื่อกลับมาก็ได้เล่าสถานการณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นให้ฟัง

การจับสลากในรอบนั้น ผู้ปกครองขึ้นเวทีไปจับสลากทีละคน คนที่จับไม่ได้ก็อึ้งและเดินออกด้วยสีหน้าผิดหวัง ส่วนคนที่รอลุ้นอยู่ด้านล่างก็ไม่รู้จะลุ้นให้คนจับได้หรือไม่ได้ดี และเมื่อถึงคิวต้องขึ้นไปจับก็รู้สึกค่อนข้างกดดันเพราะเหลือลูกปิงปองใน ส่วนที่ได้ 30 ลูก ไม่ได้ 40 ลูก ในขณะนั้นเข้าใจความรู้สึกของเด็กๆ ที่ต้องจับสลากเข้าเรียนด้วยตนเองว่ากดดันขนาดไหน และทำไมเด็กบางคนจึงร้องไห้ออกมาหากจับไม่ได้ เพราะวินาทีนั้น ทั้งความกดดัน ความคาดหวังจากคนรอบข้าง เหมือนการจับสลากเพื่อชี้ชะตาชีวิตมากกว่าการจับสลากเพื่อเข้าเรียน ความรู้สึกเหล่านี้คงไม่ต่างจากบรรดาเด็กๆ ที่ต้องขึ้นไปจับสลากด้วยตนเอง ความกดดันต่างๆ ย่อมมารุมเร้า ความกังวลว่าจะทำให้พ่อแม่ผิดหวัง รวมถึงความจดจ่ออยู่กับลูกบอลหรือกระดาษที่จะชี้ชะตาตนเอง ล้วนส่งผลถึงสภาพจิตใจทั้งสิ้น

จึงอยากฝากให้โรงเรียนต่างๆ ที่ให้เด็กขึ้นไปจับสลากด้วยตนเองควรคำนึงถึงสภาพจิตใจและความกดดันที่เด็ก จะได้รับว่าคงมีมากมายเกินกว่าที่ตัวเด็กจะบรรยายได้

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNVEE1TURJMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdNaTB3T1E9PQ==



Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:42:22 น.
Counter : 447 Pageviews.

2 comment
เมื่อลูกเบี่ยงเบนทางเพศ
เมื่อลูกเบี่ยงเบนทางเพศ

คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์



การเบี่ยงเบนทางเพศหรือรักร่วมเพศ คือความพอใจเพศในเพศเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันพ่อแม่อาจกังวลใจว่าลูกของตนเบี่ยงเบนทางเพศหรือไม่

ยิ่ง ในวัยรุ่นเป็นวัยที่เริ่มรู้ตัวเองว่าเขามีความชอบเช่นไร สิ่งที่พ่อแม่จะสังเกตได้ว่าลูกเบี่ยงเบนทางเพศหรือไม่ จากการคบเพื่อน กิริยา ท่าทาง คำพูด เรื่องทางเพศที่สนใจ แต่ท้ายที่สุดการที่จะรู้ได้อย่างแน่ชัด ก็คงอยู่ที่การบอกกล่าวจากลูก สำหรับพ่อแม่ที่สงสัยว่าลูกของตนมีความเบี่ยงเบนทางเพศ พ่อแม่สามารถช่วยให้ลูกเปิดเผยเรื่องนี้ได้ ด้วยการวางตัวให้หนักแน่น ไม่ตีโพยตีพาย พูดคุยกับลูกด้วยท่าทีปกติ ที่สำคัญพ่อแม่ก็ต้องยอมรับความจริงหากลูกยอมรับว่าเขาเบี่ยงเบนทางเพศจริง

พ่อ แม่ต้องยอมรับให้ได้ว่าลูกไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรสนิยมหรือความพึงพอใจทางเพศ ของเขาได้ แต่สิ่งที่สามารถทำได้คือ ช่วยให้ลูกรู้จักการปรับตัวในสังคมสิ่งแวดล้อมให้ได้ รู้วิธีควบคุมตัวเอง ไม่ให้แสดงออกมากจนน่าเกลียด การปรับกิริยาท่าทาง คำพูด ให้อยู่ในระดับที่สังคมยอมรับได้ เพื่อมิให้มีปัญหาในการปรับตัวและถูกล้อเลียน

อย่างไรก็ตามขอให้พ่อ แม่คิดเสมอว่าถึงลูกจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังเป็นลูกของเรา ขอเพียงลูกเติบโตเป็นคนดี ที่มีคุณค่าของสังคม ไม่ว่าจะเพศใดมีรสนิยมส่วนตัวเช่นไรก็เป็นคนดีของสังคมได้เช่นกัน

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNREExTURJMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdNaTB3TlE9PQ==



Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:42:10 น.
Counter : 488 Pageviews.

0 comment
ใส่ใจในชีวิตคู่
ใส่ใจในชีวิตคู่

คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



การ ใช้ชีวิตคู่เปรียบดังการเริ่มต้นเรียนรู้และทำความรู้จักระหว่างคนสองคน เพราะแม้ก่อนตัดสินใจมาใช้ชีวิตร่วมกันจะคบหาหรือเป็นแฟนกันมานานแค่ไหน แต่ก็เป็นการรู้จักกันในระดับหนึ่งที่แตกต่างจากการมาใช้ชีวิตร่วมกัน

ที่ สำคัญการที่เราตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกับใครสักคนไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มต้น หรือใช้ชีวิตคู่มานานเพียงใดก็ตาม เชื่อว่าแต่ละคนคงมุ่งหวังอยากที่จะมีเวลาส่วนตัว มีชีวิตคู่ที่มีความสุขและยั่งยืนนานตลอดไป แต่บางครั้งด้วยสภาวะเศรษฐกิจ สภาพสังคมในปัจจุบัน ทำให้สามีภรรยาต้องทำงานนอกบ้าน ต้องใช้เวลาไปกับสังคมภายนอกในแต่ละวัน จึงทำให้เวลาที่มีอยู่มักหมดไปกับการทำงาน การมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ จนบางครั้งอาจลืมคนข้างกาย คนใกล้ชิดที่สำคัญของตนเองไป ด้วยเหตุผลยอดฮิตคือ "ไม่มีเวลา" ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาในชีวิตคู่ได้โดยง่าย

หนทางที่ดี ที่สุดในการรักษาชีวิตคู่ให้ยืนนานนั้นคือ การเอาใจใส่กันและกัน การทำให้เวลาที่มีอยู่น้อยนิดเป็นเวลาแห่งความสุข การให้กำลังใจ พูดคุยปรึกษาหารือกัน จะเป็นการเพิ่มพูนความรักความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น อันจะช่วยให้ชีวิตคู่ของคนสองคนมีความสุขและยั่งยืนนาน

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNREl6TURFMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdNUzB5TXc9PQ==



Create Date : 23 มกราคม 2552
Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:41:59 น.
Counter : 441 Pageviews.

1 comment
ความรักจากพ่อแม่สำคัญเสมอ
ความรักจากพ่อแม่สำคัญเสมอ

สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



พ่อ แม่ที่มีลูกในวัยรุ่นอาจรู้สึกกังวล ในความเปลี่ยนแปลงของลูก ทั้งเรื่องการแต่งตัวการพูดคุยโทรศัพท์ การเล่นเน็ตเล่นแช็ต รวมถึงการไม่ชอบให้พ่อแม่มาคอยสอนคอยบอกว่าตนควรทำอย่างไร

อย่าง ไรก็ตามแม้วัยรุ่นจะต้องการความเป็นอิสระ แต่วัยรุ่นก็ยังต้องการความรักความอบอุ่นและความเข้าใจจากพ่อแม่ ซึ่งจะช่วยให้พ่อแม่ลูกไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ห่างไกลกันเกินไป ซึ่งการดูแลเอาใจใส่ของพ่อแม่สามารถทำได้โดย

- พูดคุยกับลูกสื่อสารให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่รักและเป็นห่วง พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกอย่างสม่ำเสมอ บอกลูกว่ารักลูก โอบกอดลูกด้วยความรู้สึกจากใจจริง อย่าคิดว่าลูกโตแล้ว หรือไม่ต้องบอกลูกก็คงรู้

- ให้เวลาแก่ลูก ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เช่นกินข้าวร่วมกัน ออกกำลังกาย ไปเที่ยวด้วยกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้เกิดความใกล้ชิดสนิทสนม ที่สำคัญความใกล้ชิดช่วยให้พ่อแม่ได้เรียนรู้และรู้จักลูกของตนดียิ่งขึ้น

ความ รักของพ่อแม่เป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้ลูกมีความมั่นคงทางอารมณ์ เชื่อมั่นและภาคภูมิใจในตนเอง ส่งความรู้สึกดีๆ ให้กับลูก เพราะลูกยังต้องการความใส่ใจ คำชมเชย กำลังใจและคำปลอบใจ จากพ่อแม่เสมอไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dOREU1TURFMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdNUzB4T1E9PQ==



Create Date : 19 มกราคม 2552
Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 13:41:50 น.
Counter : 527 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend