เลี้ยงลูกแบบประชาธิปไตย
เลี้ยงลูกแบบประชาธิปไตย
คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา
นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต
การ เลี้ยงลูกของพ่อแม่อาจมีได้หลายรูปแบบ การเลี้ยงลูกแบบประชาธิปไตยเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยสร้างบรรยากาศการเรียน รู้ ช่วยให้ลูกสามารถคิดและตัดสินใจได้ด้วยตนเองโดย
- กำหนดกฎกติกาในการอยู่ร่วมกัน เช่น การตรงต่อเวลา การเก็บของให้เป็นที่ การใช้เวลาทำการบ้าน อ่านหนังสือ ซึ่งจะช่วยให้ลูกเรียนรู้เรื่องการมีวินัย และการเคารพกติกา
- สอนให้ลูกรู้จักช่วยเหลือแสดงความมีน้ำใจ รู้จักเห็นใจและช่วยเหลือผู้อื่น มีมารยาทในการอยู่ร่วมกัน รู้จักสวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ
- รับฟังความคิดเห็นของลูก ฝึกให้ลูกรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักรอคอย ร่วมกันคิดจัดการกับปัญหาต่างๆ รับฟังซึ่งกันและกัน
สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางในการเลี้ยงลูกที่จะช่วยให้ลูกเข้าใจในสิทธิทั้งของตนเองและผู้อื่น อีกทั้งช่วยให้ลูกรู้จักตัดสินใจด้วยตนเอง
//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dPVEE0TVRBMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHhNQzB3T0E9PQ==
ลูกติดขนม
ลูกติดขนม
สดจากจิตวิทยา
นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต
เด็กกับขนมขบเคี้ยวดูเหมือนเป็นของคู่กัน จนบางครั้งพ่อแม่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ที่เห็นลูกเอาแต่กินขนมกรุบกรอบ จนไม่ยอมกินข้าวกินปลา
อีก ทั้งขนมทั้งหลายยังมีเครื่องปรุงรส น้ำตาล และเกลือที่มากจนเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคอ้วน ฟันผุ เป็นต้น ดังนั้น การป้องกันมิให้ลูกติดขนมมากเกินไปพ่อแม่ควรที่จะฝึกวินัยการกินให้ลูก ไม่ควรซื้อขนมกรุบกรอบให้ลูกกินตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อโตอาจให้กินได้บ้างนานๆ ครั้ง โดยควรซื้อถุงเล็ก และให้ลูกกินขนมหลังมื้ออาหาร เพราะเมื่อกินอาหารอิ่ม ก็จะกินขนมได้น้อยลง ที่สำคัญพ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีไม่ติดขนมกรุบกรอบและไม่ควรมีไว้ที่บ้าน
สำหรับอาหารว่างลองเปลี่ยนเป็นผลไม้ไว้ประจำบ้าน ก็จะช่วยฝึกให้ลูกหันมากินผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของลูกรัก
//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dOekExTVRBMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHhNQzB3TlE9PQ==
ป้องกันการติดทีวี
ป้องกันการติดทีวี
คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา
นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต
การดูแลลูกไม่ให้ติดทีวีนั้นเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ที่ต้องคอยดูแล และหาแนวทางป้องกันมิให้ลูกติดทีวี เช่น
- ไม่ควรตั้งทีวีในห้องนอนของลูก เพื่อมิให้ลูกดูทีวีลำพังคนเดียว หรือให้ทีวีเป็นพี่เลี้ยงของลูก ควรตั้งทีวีไว้ห้องที่เป็นส่วนกลาง หรือมุมพักผ่อนของครอบครัว พ่อแม่จะได้สามารถดูแลคัดเลือกรายการ ที่สร้างสรรค์ เหมาะกับช่วงวัยของลูก เช่น รายการสารคดี รายการที่ส่งเสริมคุณธรรม
- ในการดูทีวี ควรมีของเล่น หรือชั้นวางหนังสือ สมุดวาดภาพ ระบายสี หรือเครื่องดนตรี เพื่อให้ลูกมีทางเลือก มีเครื่องเล่นที่เบน ความสนใจจากจอทีวี
- พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการดูทีวี ไม่ว่าเป็นการเลือกรายการทีวี การจำกัดเวลาในการดู เพราะหากพ่อแม่เอาแต่ดูทีวีตลอดเวลา ก็จะเป็นตัวอย่างให้กับลูก
ที่สำคัญพ่อแม่ควรหากิจกรรมที่น่าสนใจอื่นทำร่วมกับลูก เพราะบางครั้งการที่ลูกติดทีวีอาจเนื่องจากไม่รู้จะใช้เวลาว่างทำสิ่งใด
//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dPVEkwTURrMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdPUzB5TkE9PQ==
วินัยวัยซน
วินัยวัยซน
คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา
นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต
ต้องสร้างวินัยตั้งแต่ลูกยังเล็ก ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่ขวบปีแรกของลูก โดยการฝึกให้ลูกกินนอนให้เป็นเวลา และเมื่อลูกทำอะไรได้มากขึ้น ควรฝึกให้ลูกเล่นให้เป็นที่ และเพื่อให้เขาเรียนรู้ว่าบางอย่างก็ไม่สามารถเล่นหรือทำได้ ยิ่งลูกในวัย 3 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่ลูกเริ่มเข้าสู่สังคม รู้จักการเล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน เริ่มพูดจาสื่อสารรู้เรื่องมากขึ้น พ่อแม่จึงควรสอดแทรกวินัยเข้าไปในชีวิตประจำวันของลูก เพื่อให้ลูกเรียนรู้กติกาของบ้าน กติกาของสังคม
การสอนระเบียบวินัยให้แก่ลูก ไม่ใช่การบังคับขู่เข็ญ อย่างเอาเป็นเอาตาย หากแต่เป็นการทำให้ลูกรู้สึกเคยชินและคุ้นเคยกับการดำเนินชีวิตของเขา เพื่อให้ลูกมีระเบียบวินัย และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dPVEl6TURrMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdPUzB5TXc9PQ==
เรียนในสิ่งที่ชอบ
เรียนในสิ่งที่ชอบ
คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา
นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต
พ่อแม่ย่อมมุ่งหวังให้ลูกเป็นเด็กเก่ง มีความสามารถ และรู้สึกยกย่องเด็กที่เก่งว่าเป็นเด็กดีน่าชื่นชม และอยากให้ลูกถือเป็นแบบอย่าง
เด็ก จะประสบความสำเร็จในการเรียนได้ดีนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการที่เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ได้ทำเพราะถูกบังคับ พ่อแม่จึงควรเปิดโอกาสและสนับสนุนให้ลูกได้เลือกทำในสิ่งที่เขาชอบ เมื่อชอบก็จะรู้สึกสนุก มีความตั้งใจในการเรียนรู้ จึงทำให้เกิดความตั้งใจ และเรียนได้ดี ดังนั้นพ่อแม่จึงไม่ควรบังคับความคิดลูกว่า ต้องทำอย่างนั้น ห้ามทำอย่างนี้ ไม่ปิดกั้นความคิดและโอกาสของลูกๆ เพราะจะทำให้ลูกเบื่อหน่ายการเรียน แล้วยังส่งผลต่อเป้าหมายในอนาคต
หาก พ่อแม่ปิดกั้น ไม่ให้โอกาสลูกได้เลือก ได้ค้นหาตนเอง ลูกอาจขาดความมั่นใจ ไม่รู้ว่าตนเองชอบหรือถนัดอะไร ย่อมทำให้ลูกเบื่อหน่าย ไม่ตั้งใจเรียน และขาดความสุขในการดำเนินชีวิต
//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dPVEUzTURrMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdPUzB4Tnc9PQ==