ถ้าขจัดความกลัวออกไปได้ ไม่นานความสำเร็จก็จะตามมา
Group ตัวอย่าง
กุมภาพันธ์ 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
8 กุมภาพันธ์ 2554
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ 9
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๘
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๗
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๖
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๕
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๔
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๓
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๒
นวนิยาย จะลองรักอีกสักครั้ง บทที่ ๑
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 32
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 31
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 30
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 29
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 28
นวนิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 27
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 26
อดีตรักเหมืองป่า บทที่ 25
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 24
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 23
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 22
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 21
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 20
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 19
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 18
นิยายอดีตรักเหมืองป่า บทที่ 17
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 16
นิยาย /อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 15
เรื่องสั้น/ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว
นิยาย อดีตรักเหมืองปา ตอนที่ 14
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 13
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 12
เรื่องสั้นตกรอบครับ
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 11
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 10
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 9
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 8
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 7
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 6
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 5
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 4
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 3
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 2
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
เรื่องสั้น/คืนวันล่องไหลชั่วกะพริบตา
เรื่องสั้น-ดักไซแห้ง
นิยาย/อดีตรักเหมืองป่า ตอนที่ 1
บทที่ 1 พญานาคเล่นน้ำ
เรื่องเชย ๆ ที่จะเล่าต่อไปนี้ ส่วนหนึ่งจำลองมาจากเสี้ยวชีวิตจริงของบุคคลผู้หนึ่ง ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็น 'ผม' (ซึ่งอาจไม่ใช่ตัวละครผู้นั้น) เป็นผู้เสริมแต่ง เพื่อประสงค์จะให้เป็นนิยายตามแต่โอกาสและความพร้อม อันหมายถึงช่วงปลอดภารกิจพอที่จะนั่งทบทวนความหลังอันรื่นรมย์ออกมาได้ แม้บั้นปลายของความหลังดังกล่าว ที่เริ่มต้นด้วยความรื่นรมย์นั้นจะต้องกลายเป็นเศร้ารัดทด แต่มันก็คืออดีตที่ฝังแน่นในความทรงจำที่ผมมิอาจจะลืมได้เลย
ผมจำได้ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นขณะผมเป็นนักศึกษาวิชาครูปีแรกอยู่ที่วิทยาลัยครูเก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของภาคใต้ และเป็นช่วงที่วิทยาลัยประกาศปิดภาคเรียนภาคสุดท้ายของปี-ผมเดินทางกลับบ้าน ซึ่งขณะนั้นยังมีสภาพเป็นป่าดงพงไพร พอตกกลางค่ำกลางคืนก็มีโขลงช้างป่าออกหากินอยู่ริมชายคาของชาวบ้าน และวันดีคืนดีมันก็ดีดลูกแปใส่ชายโครงของชายแก่คนหนึ่ง กระดูกซี่โครงหักไปสามซี่ แต่เคราะห์ดีที่เผอิญรถกรมทางแล่นผ่านมา ช้างป่าตกใจเตลิดเข้าดงลึก พวกพนักงานกรมทางที่ติดมากับรถจึงช่วยกันหามร่างที่โชคเลือดไม่ได้สติของชายแก่ใส่รถพาไปส่งโรงพยาบาล
ทว่าเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นคราวนั้น แทนที่จะมีใครหวาดกลัว และคิดสงสารชายแก่ผู้นั้นสักคนก็หาไม่ กลับเห็นเป็นเรื่องตลก และพากันหัวเราะชอบใจ เพราะว่ากันว่า เหตุที่แกโดนช้างป่าถีบเอานั้น ก็เพราะตัวแกได้ผิดคำสาบานต่อแม่ศรีเรือน แอบขับมอเตอร์ไซค์บุโรทั่งออกจากบ้าน หวังจะไปหาภริยาน้อยที่พำนักอยู่ซีกเขาฝั่งโน้นในเวลาดึกดื่น ซึ่งเป็นช่วงจังหวะที่ช้างป่ายกโขลงออกมาหากินกันพอดี ชะรอยคงจะมีช้างตัวหนึ่งตัวใดภายในโขลงนึกรำคาญเสียงมอเตอร์ไซค์ของแกที่ดังหวีดแหลมแสบแก้วหู ความหวังที่แกจะได้ไปเล่นจ้ำจี้จำไชกับแม่หวานใจ ซึ่งผัดหน้าทาแป้งรออยู่ก็พังพินาศ เพราะแกต้องไปนอนในห้องผ่าตัดให้หมอที่โรงพยาบาลผ่าชายโครงเพื่อที่จะดามกระดูกซี่โครงที่หักไปสามซี่นั้นแทน
และนับตั้งแต่นั้น บริเวณที่ตาเฒ่าจอมเจ้าชู้โดนช้างถีบ ใคร ๆ ก็พากันขนานนามว่า"ควนช้างถีบ"
"ควน" แปลว่า เนินเขา "ควนช้างถีบ" จึงพอที่จะแปลเป็นภาษากรุงเทพฯได้อย่างไม่ยากเย็นว่า บริเวณเนินเขาที่ชายแก่ผู้หนึ่งโดนช้างป่าถีบเอานั่นเอง
ผู้ที่จะเข้าป่าไปล่าสัตว์ ตัดหวาย ไปเจาะน้ำมันยาง เสาะหาสมุนไพร หรือเลยลึกไปขุดแร่ในดงเขายา อันเป็นป่าดงดิบตรงรอยตะเข็บติดต่อระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทุกคนก็จะต้องสัญจรผ่านช่องประตูป่าตรงบริเวณริมถนนฝั่งทิศตะวันออกของควนช้างถีบแห่งนี้ด้วยกันทั้งนั้น
เมื่อตอนปิดภาคเรียนคราวนั้น ผมก็สะพายเป้ยังชีพท่องป่าเข้าไปขุดแร่ในดงเขายาร่วมกับเพื่อนๆ ของผมสองสามคน ผ่านเข้าป่าดงดิบทางช่องประตูป่าแห่งนี้เช่นกัน พวกเราเดินทอดน่องไปตามสันเขาที่คดเคี้ยวและยักขึ้นยักลงครึ่งค่อนวันก็บรรลุจุดหมายปลายทาง
ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก!
สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยม ผมก็เคยดั้นด้นเข้าป่า ไปเสี่ยงโชคขุดหาทรัพย์ในดิน เสริมรายได้ระหว่างปิดภาคเรียน ที่ป่าดงเขายาแห่งนี้มาแล้วเหมือนกัน หากแต่คราวนั้นผมเดินทางเข้าไปอย่างเด็ก ๆ ติดสอยห้อยตามญาติผู้ใหญ่ ท่ามกลางภยันตรายในป่าพงไพร ผมก็ต้องอยู่ในความคุ้มครองดูแลของพวกเขา ไม่อิสระเสรีเหมือนเที่ยวนี้ ซึ่งประมาณตนว่าโตเป็นหนุ่มแล้ว และได้จัดกระบวนทัพแบกขนโสหุ้ยมากันเอง พวกผู้ใหญ่และคนเฒ่าคนแก่ ก็หอบสังขารแยกไปอยู่ในส่วนของเขา จะไปมาหาสู่กันบ้างก็เฉพาะเวลาว่างหลังเลิกงาน หรือวันหยุดพักผ่อนเป็นครั้งคราวเท่านั้น
แม้งานขุดหาเม็ดแร่ที่ฝังอยู่ในกระสะซึ่งก็คือ หิน ดิน ทราย ตามริมคลอง หรือตามหุบเหวโดยทั่วไปจะเป็นงานหนัก สะกดเด็กหนุ่มอย่างพวกผมให้หลับผล็อยลงไปด้วยความอ่อนเพลียขณะเอนกายลงนอนในตอนหัวค่ำก็ตาม แต่ทว่าพอถึงคราวไก่ป่าขานขันตอนหัวรุ่ง พวกเราทุกคนก็กลับมีเรี่ยวแรงกระชุ่มกระชวย พลังวังชาทั่วทุกส่วนสัดของร่างกายกลับพากันเข้ม,และแข็งไปหมด
"ทำผีอะไร?"
ท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเย็นที่ต้องซุกตัวกันอยู่ภายใต้ผ้าห่มนอน ผมผงกหัวขึ้นถามเพื่อนคนหนึ่งซึ่งนอนคลุมผ้าห่มอยู่ใกล้ ๆ
มันหัวเราะแหะ ๆ
"เขกหน้าแข้ง"
"อุบาทว์" คนที่นอนถัดไปพลิกตัวมาด่า พร้อมกับดึงผ้าห่มของเพื่อนคนนั้นให้เปิดขึ้น "อันเดียวเท่าแขน ไอ้บองหลาเอ๋ย ฮ่า ๆ -ไอ้นุ้ย-มึงไปเรียนหนังสืออยู่ในเมือง เคยแวะไปเที่ยวหญิงโรงแรมบ้างไหม?"
"สองสามหน" ผมตอแหล
"เห็นสวรรค์รำไรเหมือนอย่างเขาว่าจริงไหม?" ไอ้คนที่เขกหน้าแข้งตัวเองเมื่อครู่เลิกผ้าห่มหันมาถาม
"อ้าว! เวลาพวกมึงออกไปขายแร่ที่ตะกั่วป่า ทำไมไม่คิดจะลองดูบ้าง แถวนั้นก็มีหญิงโรงแรมนี่หว่า" ผมย้อน
มันหัวเราะ
"กลัวเป็นหนอง"
"ไอ้เปรต-มันขี้เท็จ-ไอ้นุ้ยมึงอย่าเชื่อมัน" เพื่อนอีกคนซึ่งตื่นมาได้ยินแล้วทนไม่ได้ จึงพูดสวนขึ้น "ไอ้ผีตัวนี้เวลาไปขายแร่แล้วหายหัวไปเป็นชั่วโมง พวกเรานั่งคอยที่คิวรถหลับเป็นตื่นมันก็ยังไม่โผล่หัวมา"
"กูเดินเที่ยว"
"เที่ยวเปรตอะไรของมึงเป็นชั่วโมง ๆ ?"
"กูหลงทาง-เดินกลับคิวรถไม่ถูก"
ไอ้บองหลาเล่นมุขหลบเลี่ยงจนผมอดหัวเราะไม่ได้
พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ครั้งแก้ผ้ากระโดดน้ำคลอง จริตนิสัยเป็นอย่างไร ล้วนรู้ไส้รู้พุงกันดี หากแต่ทั้งหมดที่นอนเรียงเป็นตับอยู่บนเสื่อเก่า ๆ ภายในทับนอนริมลำธารกลางป่าลึกในขณะนั้น ผมค่อนข้างมีภาษีกว่าพวกมันในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะความหล่อเหลาเงางาม เพราะชีวิตส่วนใหญ่ของผมหมกตัวอยู่แต่ในร่ม อย่างน้อยผิวพรรณก็ผุดผ่องดั่งทองทาและต้องตาอิสตรีมากกว่าพวกมันที่แต่ละคนดำเหนี่ยงเหมือนหัวตออยู่หลายขุม
วันนั้นเราตื่นกันแต่เช้า หลังจากช่วยกันล้างถ้วยจานและติดไฟก้อนเส้าหุงข้าวต้มแกงเสร็จแล้ว ก่อนกินข้าวเอาแรงออกไปขุดคุ้ยหินทรายในหน้าเหมือง ผมรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายจับไข้ พวกเพื่อนๆ เห็นอาการก็บอกให้หยุดพักอยู่ที่ทับนอนเสียสักวัน ผมจึงบอกพวกมันว่า
"พวกมึงไม่ต้องคดห่อ ประเดี๋ยวตอนเที่ยงกูจะเอาไปส่งเอง"
"ไหวเหรอ" เพื่อนคนหนึ่งถาม
"คงจะไม่เป็นอะไรมากหรอก ประเดี๋ยวล่อพาราฯเข้าไปสักเม็ดสองเม็ดก็จบ"
พวกมันกินข้าวกินน้ำกันเสร็จก็ชวนกันไปลงงาน ผมหอบถ้วยจานที่ทุกคนกินเสร็จแล้วนำไปซ้อนวางกันไว้บนแคร่ไม้ไผ่ ตรงไปที่ลำธาร
ตรงนั้นมีแท่งศิลาสีดำคล้ำ กว้างใหญ่ ปูลาดเหมือนมีใครมาเทพื้นคอนกรีตไว้ให้ ผมวางถ้วยจานที่นำมาล้างลงบนพื้นศิลาปริ่มน้ำ แล้วทรุดตัวลงนั่งทอดหุ่ยใจลอย... ฟังเสียงชะนีกู่ร้องเรียกผัวดังโหยหวนอยู่บนเนินเขาใกล้ ๆ ในขณะที่พิษยาบรรเทาไข้ซึ่งตอกเข้าไปสองเม็ดเริ่มออกฤทธิ์ มันขับเหงื่อไหลเยิ้มและเหนียวหนืดไปทั้งตัว
ทั้งที่อากาศยามเช้ายังหนาวเย็น ทว่าความร้อนรุ่มจากฤทธิ์ยาก็ทำให้อยากอาบน้ำ หากแต่เกรงความไข้จะจู่โจมเล่นงานเข้าจริง ๆ ผมก็เลยไม่กล้า
"วันนี้ไม่ไปขุดแร่หรือ?"
ผมหันขวับ!
สาวบัวนั่นเอง! มายืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ?
"ฉันเห็นพวกนั้นเดินผ่านหน้าทับ ไม่เห็นนุ้ยไปกับเขาด้วย..." หล่อนพูดเสียงหวาน
"รอให้ยาหมดฤทธิ์แล้วจะตามไป"
"อ้าว เป็นไข้หรือ?"
"ไม่หรอก" ผมพูดพลางหันกลับไปหยิบถ้วยจานทั้งหมดแช่ลงน้ำที่ตื้นแค่ศอก "คงเพราะเพิ่งเดินทางเข้าป่ามาใหม่ ๆ จึงครั่นเนื้อครั่นตัว กับปวดเมื่อยตามข้อนิดหน่อยเท่านั้น"
"ตายจริง" หม้ายสาวหันมาทำเสียงดุ "ยังจะมาถูกน้ำเย็น ๆ เข้าอีก ไม่ได้นะ ประเดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นมาจริง ๆ - ถอยออกมา-พี่ล้างให้เอง-เธอกระเถิบไปนั่งตรงโน้น-ไป"
หญิงหม้าย-ลูกหนึ่ง ชี้ให้ผมขยับขึ้นไปนั่งบนแท่งศิลาอีกก้อน ซึ่งอยู่ถัดไปทางเหนือซักประมาณครึ่งวา แท่งศิลาก้อนนั้นรูปร่างคล้ายโซฟาตัวยาว ๆ แถมมีส่วนที่มองคล้ายพนักพิงผุดขึ้นมาชวนให้นั่งพักผ่อนอีกด้วย
ชะนีนางบนเนินไพรยังคงกู่ร้องโหยหวน ลมป่าพัดแผ่ว ผมสูดหายใจเก็บเกี่ยวความสดชื่นเข้าสู่ภายในอย่างลุ่มลึก... กระทั่งรู้สึกดีขึ้น เมื่อสายลมเย็นที่โชยมา ช่วยบรรเทาความรุ่มร้อนจากพิษยาให้ผ่อนคลาย
สาวบัวนั่งยอง ๆ บนพื้นศิลาที่ทอดลาดลงสู่ผิวน้ำริมสายธาร หล่อนนั่งหันหลังให้ผม ขณะโน้มตัวก้มลงสาละวนอยู่กับถ้วยจานที่กำลังเช็ดล้างอยู่ในน้ำนั้น ตะโพกงอนผายภายใต้ผืนผ้าถุงปาเต๊ะลายดอกไม้รัดรูปแต่งตึงได้สัดส่วนของหล่อน ยวนยั่วสายตา ปลุกเร้าความหนุ่มของผมให้ขยับตัวและขยายพองขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"ไอ้โรคจิต!"
ผมเคยโดนเพื่อนหญิงในรั้วการศึกษาด้วยกันด่าตวาด ขณะเผลอตาจ้องมองเธอผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ประดับกายอยู่หลังฉากเวทีละคร ตอนที่เราเล่นละครเป็นคู่พระคู่นางกัน
ผมหัวร่อก้าก
"ตูดมึงสวยชิบหายเลยว่ะ"
"ไอ้เปรต-นี่แน่ะ..."
"โอ้ย!"
ผมรู้สึกจุกเสียดในช่องท้องจนหายใจไม่ออก เมื่อโดนลูกถีบของเพื่อนสาวคนนั้นส่งกระเด็นลงไปกองอยู่กับพื้น
ทว่าสาบานให้ตายโหงตายห่า!ในเก้าวันเจ็ดวันก็ได้ ขณะนั้นผมไม่มีความรู้สึกใด ๆ ในด้านลบกับเพื่อนหญิงคู่พระคู่นางของผมเลย
หากแต่บัดนี้ ท่ามกลามความอ้างว้างเดียวดาย ณ กลางป่าดิบ จิตใจของผมกำลังว้าวุ่นและฟุ้งซ่านระส่ำระสายสิ้นดี
หม้ายสาวล้างจานใบสุดท้ายเสร็จ... เธอก้มวักน้ำล้างหน้าเรียกความสดชื่นให้ตนเอง
"สาวบัว"
"จ๋า"
"ไอ้ตัวเล็กอยู่กับใคร" ผมหมายถึงลูกสาวอายุขวบกว่าของหล่อน
"ฝากแม่ไว้"
หล่อนลุกขึ้นยืน สอดปลายนิ้วมือสองข้างรวบเส้นผมอันดกดำเสยไปไว้ด้านหลัง พร้อมหมุนกายหันมาทางผม
"ถามทำไม"
"เปล่า- -เกรงว่าจะรีบกลับ" ผมหยั่งท่าทีแบบหมาหยอกไก่
"วันนี้หยุดพัก"
หล่อนทอดสะพาน และผมก็รีบเดินข้ามด้วยการขยับที่ให้หล่อน
"มานั่งรับลมเย็นด้วยกันตรงนี้ดีกว่า"
สาวบัวเป็นหญิงสาวรุ่นพี่ผมสองปี หล่อนแต่งงานกับไอ้หนุ่มสิบล้อเมื่ออายุสิบหกย่างสิบเจ็ด ทว่าโชคร้าย ขณะตั้งท้องได้สามเดือน ไอ้หนุ่มสิบล้อคนนั้นก็ประสบอุบัติเหตุขณะขับรถไปส่งของให้เถ้าแก่ ยางรถล้อหน้าข้างหนึ่งเกิดระเบิดทำให้รถสิบล้อของเขาเสียหลักพุ่งประสานงากับรถบรรทุกสิบล้อด้วยกันที่แล่นสวนมาจบชีวิตทั้งคู่
"นึกอย่างไรถึงได้ดั้นด้นขึ้นมาขุดแร่ในป่าดงดิบอย่างนี้"
ผมถามเมื่อหล่อนเดินมานั่งลงใกล้ ๆ
"ก็คนบ้านเราส่วนใหญ่ยึดอาชีพนี้กันทั้งนั้นมิใช่หรือ? มีแต่พ่อแม่ของนุ้ยกับคนอื่น ๆ อีกไม่กี่บ้านเท่านั้นใช่ไหม- -ที่ทำสวน?"
จริงของหล่อน!
เพราะนอกจากพวกเพื่อน ๆ ของผมที่บุกป่าฝ่าดงเข้ามาเสี่ยงโชคขุดแร่ในป่าแห่งนี้เป็นอาชีพแล้ว ก็ยังมีบุคคลอื่นอีกจำนวนมากที่พากันเข้ามาเสี่ยงโชคขุดหาเม็ดแร่ใต้พื้นดินหรือตามท้องคลองยึดเป็นอาชีพด้วยเหมือนกัน
"เคยมีคนมาจีบบ้างไหม?" ผมเลี้ยวกลับทางเก่า
"นับไม่ถ้วน ไอ้บองหลาเพื่อนรักของนุ้ยก็เอากับเขาเหมือนกัน"
ผมปล่อยก้าก นึกถึงตอนมันเขกหน้าแข้งตัวเองเมื่อตอนหัวรุ่ง
"ไอ้บองหลามันขยันงานนะ" ผมหยั่งท่าทีของหม้ายสาว
"คนบ้านเดียวกัน คุ้ยเคยกันมาตั้งแต่เด็ก-รักไม่ลง"
"แล้วผม...?" ว่าพลางตัดสินใจเล่นบทเจ้าชู้ยักษ์ กระเถิบเข้าไปเบียดพร้อมโอบไหล่รวบกายหล่อนมาแนบชิด จนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตูม ๆ เหมือนรัวกลอง
สาวบัวไม่ขัดขืน หากแต่ก้มหน้ามองพื้น หายใจหอบถี่ หน้าแดงเรื่อ พูดติด ๆ ขัด ๆ ฟังไม่ได้ศัพท์อยู่ในลำคอสองสามคำแล้วนั่งตัวแข็ง
ผมก้มจูบตรงเรียวแก้มของหล่อน กระซิบเบา ๆ
"เราลงไปเล่นน้ำกันเถอะ"
"หนาว"
"แต่ผมร้อน..." ผมลุกจากที่ แล้วก้มไปโอบรัดกายหล่อนพยุงให้ลุกตาม
หม้ายสาวเหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาด ๆ
"เดี๋ยวใครมาเห็น"
"ในน้ำไม่มีใครเห็นหรอก"
จากนั้นผมก็ค่อย ๆ ประคองหม้ายสาวก้าวย่างไปตามพื้นศิลาที่ทอดยื่นออกไปในสายน้ำ กระทั่งถึงช่วงน้ำลึกเหนือบั้นเอว ก็ตระกองกอดพาหล่อนแหวกว่ายไปตามกระแสน้ำมุ่งสู่หลืบหินริมฝั่งอีกด้าน ซึ่งมั่นใจว่าลับตาคน
**************************
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 2 ธันวาคม 2555 22:36:15 น.
5 comments
Counter : 2589 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดีค่ะ ตามมาอ่านนิยายด้วยคน
เรื่องนี้มีติดเรทนิดๆๆๆ (ไม่เยอะค่ะ มิเป็นไร อิอิ)
หนุ่มสาวจีบกัน ท่าทางน่าสนุก
ไว้จะมาติดตามตอนต่อไปนะคะ
ปล. พี่เอิงอยู่มิลานค่ะ (ไม่ใช่โรม) แต่ชอบไปเที่ยวโรม
มีอะไรให้ดูเยอะมาก ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองมาเที่ยวดูนะคะ
โดย:
diamondsky
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:05:22 น.
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันนะคะ มาขออนุญาติaddไว้เป็นเพื่อนบ้านเหมือนกันค่ะ
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:50:25 น.
ขอรวบรัดขอบคุณมิตรบล็อกทั้งสองท่านครับ
แล้วผมจะหมั่นไปเยี่ยมเยียนพวกคุณให้บ่อย ๆ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:48:12 น.
แจ่มได้ใจ
เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ
โดย:
บ้าได้ถ้วย
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:02:39 น.
สวัสดีค่ะ ตามมาอ่านนิยายด้วยคน
เรื่องนี้มีติดเรทนิดๆๆๆ (ไม่เยอะค่ะ มิเป็นไร อิอิ)
หนุ่มสาวจีบกัน ท่าทางน่าสนุก
ไว้จะมาติดตามตอนต่อไปนะคะ
-----------------------------------------------------------------------------------------
แรก ๆ ก็มักมีการเข้าใจกันอย่างนั้น ติดเรท อาร์ ไม่ถึงกับเอ็กซ์
ทว่าจริง ๆ แล้ว อาร์ก็ไม่ใช่ เพียงสำนวนผมออกจะทะลึ่งตึงตังไปหน่อย เพราะอยากให้อ่านกันสบาย ๆ ไม่ซีเรียส
แต่ถ้าหากมีสิ่งใดไม่ถูกไม่ควร หรือขัดหูขัดตาก็กรุณากระซิบด้วยนะคร้าบบบ
โดย:
หลวงเส
วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:04:35 น.
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หลวงเส
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ดอยสะเก็ด
diamondsky
บ้าได้ถ้วย
ยาชมภู
เกศสุริยง
KeRiDa
วัวป่าหลงเงาจันทรา
nonguide
Webmaster - BlogGang
[Add หลวงเส's blog to your web]
Bloggang.com
เรื่องนี้มีติดเรทนิดๆๆๆ (ไม่เยอะค่ะ มิเป็นไร อิอิ)
หนุ่มสาวจีบกัน ท่าทางน่าสนุก
ไว้จะมาติดตามตอนต่อไปนะคะ
ปล. พี่เอิงอยู่มิลานค่ะ (ไม่ใช่โรม) แต่ชอบไปเที่ยวโรม
มีอะไรให้ดูเยอะมาก ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองมาเที่ยวดูนะคะ