The Return of พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร >> แจ่มเว่อร์!!
พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 1Children's Discovery Museum13.80345,100.550999หลังจากปิดตัวไปอย่างไม่มีกำหนดจนต่างคิดว่าจะไม่มีวันกลับมาเปิดอีกแล้ว แต่พลังสังคมที่กดดันจนในที่สุดพิพิธภัณฑ์เด็กก็ Return สู่โลกของเด็กอีกครั้ง จำได้ว่านายน้ำฟ้ากับลูกสาวก็ร่วมลงชื่อทวงคืนพิพิธภัณฑ์เด็กแห่งนี้กับเค้าด้วยนะเออ เมื่อข่าวดีมาเยือนกรุงเทพมหานครประกาศเปิดตัวพิพิธภัณฑ์เด็กไปอย่างเป็นทางการเมื่อวันเด็ก ให้หลังไปไม่ถึงอาทิตย์เราก็พากันไปสำรวจโลกแห่งความสนุกโฉมใหม่ทันทีไม่รอช้า พอไปถึงจอดรถเดินผ่านประตูเราก็รีบควักตังค์ทันทีด้วยความเคยชินจะซื้อบัตร จำได้เมื่อก่อนค่าเข้าผู้ใหญ่ 70 เด็ก 50 มีหรือครั้งนี้จะไม่เก็บตังค์ เผลอๆ แพงกว่าเดิมเพราะลงทุนปรับปรุงไปเยอะ ปรากฏว่า เข้าฟรี โอ้ว เข้าฟรีค้าบ เย้ ดีใจๆ พร้อมกับการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งนี้ที่เดิม ย่านตลาดนัดจตุจักรติดสวนสมเด็จ เราก็ได้รู้อีกว่ามีการเปิดตัวแห่งใหม่อีกอยู่แถวทุ่งครุ ตกลงเราก็มีพิพิธภัณฑ์เด็กสองแห่ง! โดยที่นี่ขึ้นป้ายห้อยท้ายว่าแห่งที่ 1 โฉมใหม่ไฉไลยังไงตามมาเลยค้าบ โย่ว
เข้ามาถึงก็ต้องตะลึ่งตึ่งโป๊ะ แม่จ้าวว้อยยยยย สวย ๆ ฟ้าสวยมว้ากกก แป่ว 55555 ป่าวๆ ฟ้าหน้าหนาวหน่ะสวยอยู่แล้ว แต่ฉากตรงหน้าสิ แหม่ คือเดินเข้ามาก็เจอกันสวนสนุกอลังการงานสร้างน่าเล่นกว่าเดิมมากเลย เห็นแล้วอยากจิกลับเป็นเด็กอีกครั้งนึงว่ามั้ย พอเหลือบตามองไปทางซ้ายตาแทบเหลือกอีก //แกจะบรรยายเว่อร์ไปถึงไหน โอ้ว ว้าวววว สวนน้ำ! ลานน้ำพุ! น่าหนุกหนานมากนั่น เด็กๆ เล่นกันมันส์เลย ลูกเราเล่นไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยนอะดิ่ ใครจะพาลูกมาเตรียมชุดเปียกมากันได้เลยนะครัช หนุกแน่ๆ
แม้จะแดดเปรี้ยงป้าง แต่เค้าก็ปลูกต้นไม้สร้างร่มเงาบังใบ แผ่เงาคลุมลานพอสมควรนะ หรือถ้ากลัวผิวเสียก็จัดครีมกันแดดกันหน่อย วันที่ไปอากาศยังเย็นสบาย แต่ถ้าพากันมาหน้าร้อนแดดแรง UV อาจจะเข้มไปหน่อย เท่านั้นยังไม่พอรอบลานน้ำนี้ยังทำเพิงบังแดดโค้งกลมให้ผู้ใหญ่นั่งเฝ้าเด็กๆ หรือมานั่งออกันตรงบันไดด้านหลังเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์นี่ก็ได้ แหม่ มองก็ร่มรื่นตา ได้เข้าไปเล่นน้ำด้วยล่ะก็ชุ่มฉ่ำทั้งกายทั้งใจแน่ๆ เออ เปิดใหม่คราวนี้พิพิธภัณฑ์เด็กดูช่างไฉไลกว่าเดิมเสียจริงเชียว
มาเข้าสำรวจอาคารแรกกันเลยดีกว่า ข้างในจะมีอะไรน่าสนใจบ้างน้อ เดินเข้ามาก็เจอกันความโอ่โถง สีสันสดใส และเครื่องเล่นเชิงทดลองฟิสิกวิทยาศาสตร์การเรียนรู้เต็มไปหมด อย่างท่อกลมๆวนๆที่เห็นตรงหน้านี่ก็คือสถานีทดลองการเดินทางของเสียงครับ
ไข่ยักษ์นี่เล่นทดลองอะไรไม่รู้ไม่ได้เดินเข้าไปทดลอง ใครรู้ช่วยบอกหน่อยนะ เผื่อใครจะไปมาแล้ว มองกวาดตาไปก็มีผีเสื้อยักษ์ ฉลามยักษ์ และเครื่องทดลองอื่นอีกสารพัด ว่าจะลองเดินเข้าไปเล่นเสียหน่อยไม่ทันการแล้วเพราะว่าได้ยินเสียงลูกสาวร้องกรี๊ดดดด!!!!!!
โซนถ้ำไดโนเสาร์
และนี่คือไฮไลค์เด็ดสุดขีน ถ้ำไดโนเสาร์ อยู่ถัดห้องเรียนรู้วิทยาศาสตร์มาอีกห้อง เห็นปุ๊ปตะลึงทันที ไดโนเสาร์อ้าปากกว้างมากเป็นปากทางเข้าถ้ำ นี่คือต้นเหตุให้ลูกสาวเราร้องกรี๊ดนี่เอง อิอิ มามา มุดสำรวจถ้ำไดโนเสาร์กันดีกว่า
มุดเข้ามาต้องร้องโอ้โหย ซี่โครงไดโนเสาร์บานเลย 5555 เด็ดมากนี่เรากำลังอยู่ในท้องไดโนเสาร์ยักษ์ชัดชัด สงสัยจะไดโนเสาร์ตัวเมียด้วย เพราะว่าเจอไข่ไดโนเสาร์ยักษ์ตรงหน้าเลย 555 เข้าไปดูภายในไข่เสียหน่อย ก็เป็นสถานีเรียนรู้ล่ะ อีกมุมหนึ่งก็เป็นไข่ไดโนเสาร์จำลองกองอยู่หลายๆ กอง ไข่บางใบกำลังฟัก มีไดโนเสาร์ตัวน้อยๆกำลังมุดออกมา ทุกจุดมีป้ายเรียนรู้มีคำอธิบายให้เด็กๆได้อ่านกันไปพร้อมความสนุกตื่นตาตื่นใจ มีชุดไดโนเสาร์ให้สวมหัวด้วย กระดองไดโนเสาร์ มือขาจำลองเอามาใส่ถ่ายรูปกันใหญ่เลย
ผนังมีหัวไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ ด้วย ทำดีน่าชม ของดีดีก็ต้องว่าดี ตอนแรกกะพาลูกสาวมาเที่ยวเล่นๆ พ่อก็พักผ่อนไป ดีว่าติดกล้องมานะเลยถ่ายมาทำรีวิวซะเลยเพราะเจ้าถ้ำไดโนเสาร์เนี่ยแหละที่จูงใจ อิอิ ตัวนี้น่าจะเป็น Triceratop ชัวร์เลย พันธุ์นี้จำชื่อง่าย Tri แปลว่าสาม, top แปลว่าบนยอด ก็คงเป็นชื่อตั้งตามเขาสามเขาโพล่บนหัวกระบาลเค้าแหละ เน้อะๆ
ในโซนถ้ำไดโนเสาร์นี้มีทั้งสิ่งแสดงที่ห้ามจับต้องและสิ่งของที่จับต้องเล่นได้นะครับ น้องๆหนูๆผู้ปกครองเพิ่มความสังเกตกันด้วยนิดนุง ส่ิงอันใดทำไว้ไม่ให้จับ มีป้ายห้ามแล้วก็อย่าแตะต้องของจะเสียคนมาทีหลังอดดู สถานที่เข้าฟรีแบบนี้งบซ่อมดูแลคงน้อยแน่ ส่วนสิ่งอันใดจับได้เล่นได้ก็จัดเต็มไปเลยพะยะค่ะ เพื่อฟามสุขของบุตรหลาย อิอิ
โผล่ออกจากถ้ำไดโนเสาร์เราก็มาเจอกับลานทรายฟอสซิลไดโนเสาร์เต็มๆ ใครเพิ่งอาบน้ำเปลี่ยนผ้าให้ลูกก็กุมขมับต่อ 5555 เตรียมตัวเลอะทราย อิอิ เด็กๆ กับน้ำกับทรายมันของคู่กัน ขุดทรายหาฟอสซิลได้โนเสาร์กันดีกว่า มา มา มา มาเป็นนักขุดค้นกัน
Edutainmentวกกลับเข้ามาในอาคารเดิมต่อ ตะกี้ชั้นล่างเราผ่านโซนวิทย์+ฟิสิก แล้วก็เลี้ยวเข้าถ้ำไดโนเสาร์ มีอีกห้องนึงอยู่ถัดจากไดโนเสาร์ไปคือห้อ Art Studio ลืมเลี้ยวไปดูว่ามีไรมั่ง ตอนนี้วกกลับเข้ามาในอาคารใหม่แล้วขึ้นมาสำรวจชั้นที่สองกันต่อ ตามมาๆกัน บนชั้นนี้แบ่งโซนเป็นห้องๆ ประมาณสี่ห้าห้อง จับลูกๆให้ดีดีนะครับ วิ่งเข้าห้องโน้นออกห้องนี้แน่ 5555 สนุกเค้าล่ะ เล่นเพลินๆไม่รู้ตัวหรอกว่าได้เรียนรู้อะไรไปบ้างแล้ว อิอิ เนี่ยล่ะกุศลโลบายของสถานที่เรียนรู้สำหรับเด็กๆ ต้องเอาความสนุกเอาสีสันเอาความแปลกตามาล่อให้เรียนรู้
มองด้วยมือ!ยื่นมือเข้าไปสิ กล้ารึเปล่า กลัวรึเปล่า ใช้ประสาทสัมผัสของปลายนิ้วของเราเดาดูซิว่าสิ่งของภายในช่องแต่ละช่องนั่นคืออะไร ลูบๆคลำๆถูกอะไรบ้างไม่รู้น้า ลองดูเอง อิอิ ภาพล่างนี้มุมเล่นสุดท้าท้าย ห่วงไฟฟ้าประลองฝีมือ ลากปื๊ดๆ ให้ตลอดๆฝั่งไปตามทางยาวคดๆงอๆขอท่อเหล็ก ห่วงแตะสัมผัสท่อทางเดินเมื่อไหร่เสียงออดพร้อมไฟแดงสว่างโร่ game over มีให้เลือกประลองสมาธิกันถึงสามแบบสามลาย บ่องตงเล่นกันอยู่หลายรอบไม่เคยพาห่วงไปได้ถึงครึ่งทางเลย ยากมาก ถ้าได้มาอีกมะไหร่จิมาแก้แค้น ขอคลุกอยู่มุมนี้ทั้งวันจนกว่าจะชนะ >"<
Our Friends
ห้องต่อมาคุ้นตามาก หลายอย่างที่ประทับใจยังคงอยู่ในห้องนี้นั่นคือบ้านสี่ภาคจำลอง เรือนไทยใต้ อีสาน เหนือ ออก ตก ประมาณนั้น มีเรือกอแระจำลอง สมัยลูกสาวยังเล็กๆ เมื่อครั้งที่ยังไม่ปิดซ่อมเคยพามาปีนเล่นขึ้นเรือนโน้นลงเรือนนี้มีเสือชาวไทยวัฒนธรรมต่างๆให้ลองสวมใส่ถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วย เช่นชุดหม้อฮ่อม ชุดชาวเขา สังเกตส่ิงที่หายไปคือเมื่อก่อนจะมีบ้านชาวเอสกิโมด้วย เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ที่พิเศษกว่านั้นต้อนรับการจะมาถึงของ AEC ห้องนี้จึงเพิ่มมุมเรียนรู้อาเซียนของเราจัดเรียงหน้ากระดานอยู่ปากทางเข้าเป็นจอคอมพิวเตอร์เรียงเป็นตับให้แบบจอสัมผัสให้ได้จิ้มทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านของเรา
ขึ้นชั้นสามต่อกันเลยโลด ก้าวตามมาๆ ไปดูกันบนนั้นมีไร เสียงเจี๊ยวจ๊าวมว้ากกกก!!!!!
ป๊าดดด วิศวกรน้อยวิ่งเล่นกันสนุก ชั้นนี้เรียกว่าชั้นจับปูใส่กระด้ง เด็กๆสนุกกันมากวิ่งกันไปวิ่งกันมาให้ขวัก เหลือบมองดูป้าย โอ้โห
Wonder Building
โลกสร้างสรรค์เติมต่อจินตนาการฝึกประกอบโน่นต่อนี่นั่นเอง ไปดูกันสิมีไรจะให้เด็กวัยซนสรรค์สร้างกันได้บ้าง
วะว้าว ดูดู วิศวกรน้อยสร้างเมืองกันเลยทีเดียว ตะลึง นี่ฝึมือเด็กๆมารังสรรค์กันไว้นะครับเนี่ย เด็กโตผสมโรงด้วยแหละ เด็ดสะระตี่มากๆ ลุงหยีเห็นแล้วอยากจะร่วมสร้าง แต่แออัดจนไม่รู้จะเบียดตึกใหม่ขึ้นตรงไหน อิอิ ไม่ทันจะสำรวจให้ทั่วชั้นคุณลูกสาวลงไปแล้วครับ อะไรจะเบื่อเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนยังมีอีกฟากนึงบนนี้เป็นโซนเด็กตัวเล็กตัวน้อย แต่ตอนนี้ก้าวตามขุ่นลูกสาวไปก่อนนะครับ เดี๋ยวพลัดหลง
มาถึงอาคารถัดไป
อาคารเหลืองอ๋อย คาดแดงคาดเขียวคาดน้ำเงินสีสันถูกใจเด็กๆ อยู่ตรงข้ามโซนวิทยาศาสตร์และฟิสิกอาคารแรกที่เราลงมา มีมุมพักผ่อนสวนหย่อมอเนกประสงค์คั่นกลางระหว่างสองอาคาร มีทางเชื่อลอยฟ้าถึงกัน มาดูกันต้องมีไรดีแน่ๆ มองไปมีสามชั้น เอ้า มามา เริ่มดูกันที่ชั้นหนึ่ง
แต่ละชั้นแบ่งเป็นห้องๆ มีระเบียงตลอดด้านหน้าเหมือนๆ อาคารตามโรงเรียนแหละ มาดูห้องแรกเขียนชื่อหน้าประตูห้องว่า
Big Backyard สวนหลังบ้านยักษ์ใหญ่
สวรรค์ของเด็กเล็กวัยน่ารักวัย 1-2 หรือ 3 ขวบ (ประมาณนี้ เด็กโตเข้าไปเดี๋ยวจะแย่งน้องเล่นหมดน้า) มีแปลงปลูกผักน่าสนุกมาก เด็กๆ หัดปลูกกันใหญ่ แล้วก็มีอะไรต่อมิอะไรน่าสนใจเยอะ เรียกว่าเด็กๆ พามาปล่อยห้องนี้ล่ะก็คุณพ่อคุณแม่เฝ้าไปเลยครึ่งค่อนวัน อิอิ
ห้องสมุดสุดสร้างสรรค์ Creative Library
นี่คือห้องถัดจากบิ๊กแบ๊คย๊าด เข้าได้ทุกวัย เป็นห้องที่ตกทอดมาแต่เก่าก่อนครั้งกระโน้น ทางพิพิธภัณฑ์ยังรักษาไว้ในสภาพที่น่าเข้าเหมือนเดิม บอกเลยนี่คือห้องโปรดของทั้งป๊ะป๋านายน้ำฟ้ากะลูกสาวน้องโฟกัสล่ะ ห้องนี้เย็นฉ่ำมากอ่านหนังสือแล้วอยากหลับ เค้าให้นอนอ่านก็ได้เค้ดดู อิอิ
หนอนหนังสือ นี่ไงนี่นี่ ดู! เจ้าหนอนหนังสือยักษ์ร่างพรุนเป็นรูรู เป็นช่องๆ ให้คนได้หอบหิ้วหนังสือเล่มโปรดไปมุดหนอนนอนอ่าน เห็นหลับสัปงกไปกันหลายคน 5555 ภายในห้องนี้กว้างขวางโอ่โถงเพดานสูง จนมีการสร้างเป็นชั้นลอยคล้ายๆ บ้านต้นไม้อีก มาแล้วลองแวะเวียนมาห้องนี้กัน ส่งเสริมให้น้องๆ หนูๆ รักการอ่านดีนักแล
ขยับขึ้นชั้นถัดมา... ชั้นที่สองของอาคารเหลืองอ๋อย
เมืองสายรุ้ง Rainbow Town
ห้องใหญ่ยักษ์ //ยักษ์อีกแล้ว >"< ก็มันเหมาทั้งฟลอร์เลยนี่ ไม่เชื่อต้องมาพิสูจน์ เข้าไปแล้วนึกว่าไป kidsona Kidsania ก็ไม่ปาน เหมาะกับเด็กประถมวัย
ข้างในทำเป็นเมือง มีถนนรถวิ่ง มีไฟเขียวไฟแดง ตู้ไปรษณีย์ ป้อมตำรวจ สถานีดับเพลิง อันนี้สถานีโปรดของเด็กทุกคนที่จะได้เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นนักผจญเพลิงขึ้นประจำรถกดวู่ดปี๊ป่อๆๆๆๆ อลเวงอลหม่านกันไปหมด นอกจากนี้ก็มีปั๊มน้ำมัน อู่ซ่อมรถ นี่ก็มันส์ ได้เป็นช่างฟิตกันสนุก ส่วนน้องๆ หนูๆ ผู้หญิงก็มีเล่นเปิดร้านขายของ ร้านทำผม หรือทดลองเป็นเจ้าของมินิมาร์เก็ต คลีนิครักษ์สัตว์ หรือทดลองเป็นผู้ประกาศข่าวผลิตรายการทีวีก็มี
มาพิพิธภัณฑ์เด็กเผลอๆ เที่ยวห้องนี้ห้องเดียวก็เกินคุ้ม เพราะว่าเล่นแบบนี้ที่อื่นเสียคราวนึงหลายร้อย แถมคิดตังค์กันทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ทั้งๆ ที่แค่พาเด็กไปเล่น ผู้ใหญ่ไม่ได้เล่นด้วยเสียหน่อยจริงไม่จริง!
ยัง ยังไม่พอ มีเครื่องบินพาณิชให้ทดลองเป็นผู้โดยสาร แม้กระทั่งลองเป็นกัปตันก็ยังได้ หรือเครื่องบินไม่พออยากเป็นนักบินอวกาศก็ยังได้ 555 น่าสนุกไปหมด อยากจิเป็นเด็ก
เดินไปอีกมุมนึง ป๊าด ฟาร์มปศุสัตว์ เล่นปลูกพืชปลูกผักเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่มีออกไข่ด้วย เล่นกันเพลินจนท.เดินมาบอกว่าเหลืออีกครึ่งชม.จะได้เวลาปิด หือ! ที่นี่ ปิดสี่โมงเย็น พอรู้ว่าใกล้ปิดทีนี้เด็กๆกระหน่ำเล่นกันใหญ่ แบบว่าเสียดายยังสนุกไม่จุใจ
ก่อนจะหมดเวลาเด็กๆ ทยอยออกจากอาคารแต่ยังครับยัง ไม่ไล่ไม่เลิก! วิ่งงงมาสนุกสนานโลดโผนกันต่อที่โซนสวนสนุกนี่ แหม เห็นเด็กๆ มีความสุขเราผู้ใหญ่ก็พลอยสุขไปด้วย รอยยิ้มเปื้อนหน้า จัดไปๆ วันของลูกให้ลูกเต็มที่ น่าจะเปิดถึงสักห้าโมงหกโมงเย็นนะเนี่ยเด็กๆ เล่นไม่ยอมอิ่ม อิอิ
พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 1 ( จตุจักร ) เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์ จันทร์ปิดนะครับอย่าลืมๆๆ เวลาเปิด 10:00 น. - 16:00 น.
สำหรับบล็อกนี้ขอจบเพียงเท่านี้นะครับยาวแระ ติดตามชมบล็อกถัดไปต้นเดือนหน้า นายน้ำฟ้าจะพาไปชิลชิลเลาะฝั่งโขงจังหวัดนครพนม + มุกดาหารกัน รับรองว่าอลังการไม่แพ้บล็อกนี้จ้า
ฝากคอมเมนท์ไว้เป็นกำลังใจหรือทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยือนเรา นายน้ำฟ้า นะครับ โย่ว
Create Date : 27 มกราคม 2558 |
Last Update : 27 มกราคม 2558 10:23:52 น. |
|
63 comments
|
Counter : 25973 Pageviews. |
|
|
เหมือนยังมาไม่ถึงครับ
เพราะฉะนั้น โหวตทันทีครับ !!!
ภาพสวยสุดยอด ที่สำคัญ
หากผมได้ลงไป กทม.ครั้งหน้า
หนึ่งวันจะสวงนสิทธิ์พาคุณชายไปเที่ยวที่นี่แน่นอน
ขอบคุณพี่หยีด้วยครับ
สำหรับบล็อกแนะนำสถานที่ดีดีเกี่ยวกับเด็ก
และครอบครัวแบบนี้
ต้องพาหมิงหมิงไปเที่ยวแน่นอนครับ