bloggang.com mainmenu search


นี่เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ยอมเชื่อน้ำคำของคนเฉลิมไทย ซึ่งต่างพามาให้เสียงลือเล่าอ้างกันให้แซ่บว่า "แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า" เรื่องนี้ ตลกคุ้มค่าตั๋วซะจริงๆ ...

ครั้งที่ยังเป็น "พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า" จากการได้เห็นตัวอย่าง ผมก็คาดไปแล้วว่า หนังเรื่องนี้ คงจะชวน 'ส่ายหน้า' เสียดายเงินอย่างแน่นอน ... ยิ่งมีกระแสคำชม(ในทางที่แย่)มากมายเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่า ผมคิดถูกอีกครั้งกับหนังไทยขายตลกหนึ่งในหลายเรื่องที่เป็นกันอย่างนี้จนพาลให้คิดอคติ

และในความรู้สึกเก่าๆแบบนั้น มันก็พลันกลับมาทำให้ผมเกิดความคิดแง่ลบต่อหนัง "แสบสนิทฯ" เรื่องนี้ ... เท่าที่ดูตัวอย่าง ผมไม่รู้สึกสะทกสะท้านในความขำอะไร (กระทั่งฉากไฮไลท์ของโก๊ะตี๋ ก็กระตุกต่อมฮาของผมยังไม่ได้เลย) ในความคิดตอนนั้น ก็คงจะมีอยู่สาเหตุเดียวเท่านั้นที่ทำให้ผมอยากดูหนังเรื่องนี้ก็คือ นางเอก "วีเจจ๋า" (ก็มีแต่ฉากกระต่ายข้ามเกาะนี่แหละ ที่ผมรู้สึกได้ในความน่ารักของมุขเชยๆมุขนี้)

ผมเองเป็นคนหนึ่งที่เชื่อคนง่าย เวลาจะมีกระแสให้ชวนไปดูหนังเรื่องไหน ผมจะเฮโลสาระพาตามไปดูให้ถึงอกถึงใจ ... แต่กับ แสบสนิท นี้ กลับคิดตลบตแลงบวกลบคูณหารอยู่หลายชั้น กว่าจะสามารถลากตัวเองไปยืนซื้อตั๋วได้



"แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า" ... เป็นเรื่องราวของนายสนิท พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวผู้ปลาบปลื้มกีฬามวยเป็นชีวิตจิตใจ บ้ากันจนกระทั่งถึงขั้นลงแข่งเป็นนักมวยเองซะเลย แต่ช้าแต่ ไม่ว่าจะแข่งซะกี่ครั้ง มันก็แพ้ซะทุกครั้งเลยพับผ่าสิ (แถมยังแพ้ในแบบต๊องๆอีกต่างหาก) ... ก่อนที่นายสนิทจะสามารถแพ้พ่ายจนทำลายสถิติโลก ก็บังเกิดเรื่องความเป็นความตายของหญิงคนรัก "สวย" ซึ่งมันมีความจำเป็นที่เขาจะต้องชนะมันให้จงได้ ...แรงฮึดลูกสุดท้าย จะทำให้นายสนิทสู้เพื่อรักสำเร็จหรือไม่ อันนี้ต้องแล้วแต่เงินค่าตั๋วในมือคุณจะตัดสินใจ เพราะผมทำได้เพียงแค่บอกว่า "ไปหาคำเฉลยที่โรงหนังละกันครับ"

อาจเพราะด้วยความที่งานก่อนฝากรอยแผลช้ำในเอาไว้หลายจ้ำ ผู้กำกับ "ยอร์ช-ฤกษ์ชัย" ก็เลยเกิดลูกฮึด พยายามฝึกปรือฝีมือการกำกับเสียใหม่จนทำให้ แสบสนิท ชิ้นล่าของเขา ออกมาดูดีได้ขนาดนี้ ... ความดูดีในที่นี้ คือ ความดูดีในความเป็นหนังตลกขายบันเทิง เอากันอย่างตรงๆ ซึ่งๆหน้า ...

แม้ช่วงแรกๆของหนัง จะยังเป็นได้แค่หนังตลกมุขต่อมุข ... ก็ยังต้องยอมรับว่า มุขที่เอามาต่อเรียงกันนั้น เป็นความดูสนุกได้อารมณ์ฮาก๊ากอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่มุขนั้นเราเคยเห็นกันมาชินตาเคยๆจนจับไต๋ได้แล้วก็ตาม แต่ด้วยจังหวะการปล่อยของผู้กำกับ ลูกเล่นกลเม็ดของคนแสดง และเนื้อมุขที่คนเขียนบทกำหนดเอาไว้ มันเลยสำเร็จเสร็จความฮาแก่ชาวเรากันได้ทุกที



พอเข้าสู่ช่วงกลาง หนังก็เริ่มเปลี่ยนวิถี ใช้การใส่เรื่องราวเป็นตัวเดินหนัง ... ในขณะที่ความเป็นหนังตระกูลส่ายหน้า ยังคงรักษาสมดุลความตลกได้อยู่ต่อไป แสบสนิทก็มีโอกาสได้หยอดความเป็นดรามาเข้ามาแซมๆเสริมความจริงจังให้กับตัวหนัง ...ถือเป็นเรื่องที่แอบเซอร์ไพรส์นิดๆ เพราะ ไม่ได้คิดว่าหนังจะมีอะไรให้จริงจังกันอย่างนี้

ส่วนของดรามา เป็นเนื้อเดียวกลมเกลียวกับความส่ายหน้าของมัน ... หนังต่อจังหวะตลกได้ติดกับอารมณ์ความอินแบบหนังชีวิต ดูเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่ยัดเยียดให้รู้สึกว่ามากไปฟูมฟายเกินไป ...แม้ความอินของมันจะยังไม่ถึงระยะหวังผลสั่นคลอนหัวใจคนดูได้เต็มที่ แต่ความซึ้งที่เป็นอยู่ มันก็ให้อย่างพอดีพอดิบ เหมาะสมกับความเป็นหนังตลกขายตลาดแบบบ้านๆกันเช่นนี้

บทหนัง ของ พิง ลำพระเพลิง (ผู้ที่เพิ่งผ่านพ้นงานกำกับชิ้นแรก "โคตรรักเอ็งเลย" มาแหม่บๆ) เขียนเล่าออกมาได้กำลังดี ดูเนียนตาเนียนใจ(ได้มากไปกว่าหนังของเขาเองเสียอีก) ...ความตลกกลมความดรามาได้อย่างไม่อิหลักอิเหลื่อ ให้ประดักประเดิดในความรู้สึก
...มุขเก่าๆที่เราเคยๆทั้งหลาย เมื่อนำมาเขียนด้วยปลายปากกาผ่านความคิดความอ่านที่ถี่ถ้วนแล้ว ความตลกที่สะท้อนออกมาจากน้ำหมึกของเขา สามารถสะเทือนต่อมฮาได้อย่างไม่มีหยุดหย่อน ...ต่อให้คุณเป็นคนเส้นลึกมากสุดใจขนาดไหน ลองมาเจอ สี่ฉากไฮไลท์ (สัก,เจอผี,พูดไม่ชัดกวนนักเลง และหยุดหัวเราะ) เข้าไป เสียงหัวเราะไม่ออกมาสักแอะ ก็แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่งแล้ว



แม้หนังจะได้งานกำกับที่ดีเยี่ยมสักแค่ไหนก็ตามแต่ กระทั่งได้บทหนังระดับเทพที่สามารถรีดเสียงหัวเราะออกมาจากปากคนดูได้มากไปกว่านี้อีก แสบสนิท ก็คงจะแป้กได้อยู่ดี ถ้าขาดซึ่งทีมนักแสดงที่เชี่ยวความตลกทีมนี้ไป ... จตุรงค์-โก๊ะตี๋-ค่อม-จิ้ม เติมรสฮาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ การรับส่งของคนทั้งสี่ไม่มีปัญหาอะไรให้ดูขัดตาขัดใจ ความบ้านๆของคาแรกเตอร์เหล่านี้ทำให้คนดูรู้สึกสนิทสนม และเข้าถึงความเป็นพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ...ในฉากขายของพวกเขาแต่ละคน เป็นอะไรที่ไม่สามารถจะลืมความมันส์ในการแสดงของเขา
ได้ลง (ค่อม-สัก,โก๊ะตี๋-เจอผี/หยุดหัวเราะ,จตุรงค์-พูดไม่ชัดกวนนักเลง) ขาดก็แต่ จิ้ม ที่มีบทบาทน้อยกว่าใครเพื่อนไม่พอ ยังอดได้ฉากขายให้ชวนจดจำอีก มันน่าน้อยใจแทน

พระนาง แดน-จ๋า ...เป็นคู่รักสไตล์หนังไทยบ้านๆ ที่มีเคมีลงตัว เขาและเธอยัดความหวานเลี่ยนเอาไว้เต็มทะนาน แต่คนดูกลับไม่ยักจะเอียน แถมยังอยากจะเฮจะฮิ้วให้กับมุขเสี่ยวๆซะอย่างงั้น ...แดน ให้การแสดงเป็นชายหนุ่มแสนซื่อ(สัตย์)ได้น่ารัก แม้จะยังดูเก็กๆ เป็นตัวของตัวเองให้ผมรู้สึกขวางหูขวางตาอยู่ ก็ยังต้องยอมรับว่า บท "สนิท" บทนี้เหมาะที่จะให้เขาเกิดมาเป็นซะจริงๆ ...วีเจจ๋า กับการแสดงที่ไม่ห่วงสวยไม่ห่วงเซ็กซี่ ในบท "สวย" ของเธอทำให้ผู้ชายอย่างผมรู้สึกคุ้มค่าที่ได้มาดูเธอสมใจอยาก ความน่ารักชนะขาด ความตลกชนะน็อกใจผมเข้าจังเบอร์ (ใจสู้หรือเปล่า ไหวมั้ยบอกมา...ถึงจะเลียนเขามาอีกที ก็ยังให้ความรู้สึกว่าเธอเอามาล้อเล่นเป็นตัวของตัวเองซะจริงๆ)



ฉากต่อมมวยไคลแม๊กซ์ ที่สนิทซับเลือดด้วยผ้าเช็ดหน้าของสวย ...เป็นฉากที่ผมชอบมากที่สุด เพราะมันมีความเป็นดรามา ที่ทำให้ผมแอบใจหาย ในการแอบแฝงความหมายของมัน (เลือดที่นองอยู่ในผ้าเช็ดหน้าใต้รูปเด็กผู้หญิงที่สื่อถึง 'สวย' ทำให้ผมรู้สึกใจคอไม่ดี กลัวว่าสวยจะต้อง...จริงๆ)

"แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า" ... ก่อนหน้าจะดูเห็นเปลือกนอกคิดว่าเป็นอาหารแช่แข็ง แต่พอออกจากโรงแล้ว ความคุ้มค่าตั๋วก็เปลี่ยนความคิดให้ผมรู้ว่า เนื้อในของมันช่างอร่อยซะจริงๆ ...ถ้าใครอยากจะหัวเราะดังๆ เพื่อกำจัดความเครียดที่ซ่องสุมตามซอกหลืบสมอง ก็ขอให้ได้ลองพิจารณาหนังเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจสักหน่อย เพราะผมเองก็ต้องจำยอม ขอเป็นอีกคนที่รับรองให้ว่า ดูจบไม่มี 'ส่ายหน้า' เสียดายเงินแน่นอน

เกรด B+...

ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
Create Date :12 ธันวาคม 2549 Last Update :12 ธันวาคม 2549 0:07:33 น. Counter : Pageviews. Comments :8