bloggang.com mainmenu search



ขอสวัสดีปีใหม่ 2552… และยินดีต้อนรับ ทุกๆท่านเข้าสู่การสรุปทุกความรู้สึกของผม OncE UPoN'-'a MaN ที่มีต่อเรื่องราวของภาพยนตร์ ใน 365 รอบวันที่ผ่านมา ในปี 2551 ที่เพิ่งพ้นไป ...กับ "ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์" {The Best of 2008} นะครับ...



ผ่านพ้นไปแล้ว กับการประกาศรายนาม 16 การแสดง และ 10 ฉาก ที่สุดประทับใจของผมในรอบปีที่แล้ว (ย้อนกลับไปดูได้..โดยคลิกที่แบนเนอร์ข้างล่างครับผม)






คราวนี้ก็มาถึงคิวของการสรุปเอาความเป็น The Best ในแง่มุมที่ตรงกันข้ามกับคำๆนี้อย่างสิ้นเชิง ...นั่นผมกำลังหมายถึง The Bad Movie of 2008 กับ 5 หนัง 5 เรื่อง ที่ดูจบแล้ว ก็ทำให้อยากจะลืมว่าเราเคยดูมันมา ...อาจไม่ได้หมายความว่า หนังเหล่านี้เป็นหนังที่แย่ ไปซะทุกเรื่องของคุณๆ แต่ที่ผมเอามานำเสนอ ล้วนมีเหตุผลมาจากความรู้สึกไม่ใคร่ปลาบปลื้ม มีจุดตำหนิมากกว่าจุดน่าชม และยังจะเป็นหนังที่น่าผิดหวัง ประเภทที่ ถ้าใครถามว่าน่าดูมั้ย ผมก็บอกได้เลย ว่า "อย่าดูก็น่าจะดีกว่านะ"...แม้กระทั่งเมื่อมันออกมาเป็นวีซีดี ดีวีดีแล้ว ก็ยังอยากเซย์โน ว่าอย่าลองเช่าหรือซื้อ เลยซะเถอะ ด้วยความปรารถนาดีอันจริงแท้



The 'Bad Movie' of 2008
ที่สุดแห่ง ความไม่สนุก ให้อยากลืม




อันดับที่ 5



“Street Kings”


ถ้าพูดกันตามตรง ณ ตรงนี้ ..ดูแค่หน้าหนังก็คิดว่าธรรมดา ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่หรอก กับการเป็นหนังตำรวจที่ว่ากันถึงเบื้องลึกเบื้องหลังการฉ้อโกง ที่โยงใยให้ต้องหาแพะมารับบาป และให้บังเอิญว่าแพะที่ว่าก็ได้คนถูกหวยมาเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีที่เล่นหนังกี่ทีต่อกี่ที ก็ไม่พ้นข้อครหาว่า หุ่นยนต์ส่งมาเกิด

ทั้งๆที่สองปัจจัยที่ว่า ก็ไม่ใช่เรื่องที่ชวนเชื้อเชิญพอให้ออกจากบ้านมาควักกระเป๋าจ่ายตั๋วเพื่อเลือกดูหนังสักเรื่องที่ไม่น่าหวังอะไรได้มาก ..แต่ยังไงๆก็มิอาจต้านทานอคติตัวเองได้หมด และไม่ว่าเพราะสาเหตุใดนำพาก็ตาม ผมก็ขอยอมจะลองสักที ดีไม่ดีอาจจะเจอแจ๊คพอตก็เป็นไปได้

หากถึงจะไม่เจอว่ามันเป็นแจ๊คพอต สำหรับหนังแนวนี้สักเรื่อง ..แต่ก็คล้ายว่าสุดท้าย ตัวผมเองได้คิดผิดไปแล้ว

ผิดในที่นี้ ..ไม่ใช่แค่ว่าผิดหวัง ...แต่ไม่น่าคิดจะเชื่อว่าหนังคงจะพอดูได้มาแต่ต้นด้วยซ้ำ

ถามว่า มันส์มั้ย? ..ไม่มันส์ ...ถามว่า เข้มข้นมั้ย? ..บทหนังก็งั้นๆ ...ถามว่า ใครเล่นได้สนุก ..ก็พูดไปเลยว่าไม่มี แถมจะชี้ช้ำ เพราะคนบางคน ที่น่าหวังได้อย่าง “ฟอเรสท์ วิเทเกอร์” ก็ดันเล่นโอเวอร์แอ๊คติ้งขั้นเทพไปได้ ..และเป็นการโชว์ขั้นเทพที่น่ารำคาญ มากกว่าจะน่าชม

แทนที่จะดูอะไรให้หายเซ็ง ..กลับต้องมาเง็งเอากับความงั้นๆ ที่ทำให้เสียดายเวลา และเงินมิใช่น้อยๆ



อันดับที่ 4



“คริตกะจ๋า บ้าสุดสุด”


เหมือนว่าเสียงวิจารณ์ตอนฉายโรงของหนังในช่วงวาเลนไทน์ จะเป็นที่พูดถึงในแง่กลางๆ ..แต่มันก็เป็นความกลาง ที่ไม่ค่อยจะพบว่า มีใครไม่ชอบหนังเรื่องนี้เลย ...คือว่ากันว่า ดูเพลินก็พอได้อยู่

สำหรับผมแล้ว ความสนใจที่มีต่อหนังเรื่องนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเสียงวิจารณ์อะไรนักหรอก (ก็เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆน้อยๆ) ..เพราะเอาเข้าจริง ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าน่าสนุกก็คือ การเห็น คริตกะจ๋า ทำอะไรบ้าๆสมชื่อหนัง

แต่จนแล้วจนรอด.. คนที่กลายเป็นบ้า กลับไม่ใช่พระนางในหนังซะนี่ ...หากจะคือ คนดูเช่นผมที่รู้สึกว่า 30 บาทที่เช่าแผ่นวีซีดีมา ไม่น่าจะพลาดด้วยประการฉะนี้เลย

อย่าว่าแต่ว่ามันเป็นหนังดูเอาคลายเครียด สบายๆอะไรเลย ...ผมพลาดไปที่กลับไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนที่ตลกพอจะเรียกเสียงหัวเราะ หรือกระทั่งรอยยิ้มน้อยๆก็ฝืนไม่เป็น ..นี่ไม่รวมว่ามันยังเป็นหนังรักที่ผมรู้สึกว่าเปี่ยมล้นไปด้วยความเลี่ยน มากกว่าจะอยากเคลิ้มตามอีกต่างหาก

ถึงต่อให้หนังเรื่องนี้จะเป็นที่น่าชื่นชมว่า กล้าจบแบบไม่ลอกธรรมเนียมละครน้ำเน่าสามัญชน ..แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ในเมื่อก่อนหน้าผมไม่ไหวจะอินกับมันไปเรียบร้อยแล้ว



อันดับที่ 3



“หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย”


หลวมตัวเพราะเคลิ้มกะตัวอย่างสถานเดียวจริงเชียว ..ที่ทำให้ผมยอมจะปล่อยเวลาชั่วโมง เกือบสองชั่วโมงหมดไปกับการย่ำอยู่กับที่ของหนัง และการกำกับของคุณน้าตลกปากย้อย ที่จะบอกว่ามีการพัฒนา ..มันก็แค่ตรงที่เขามีชั่วโมงบินในการทำหนังมากขึ้นก็เท่านั้น

แม้หนังจะว่ามีดีกว่าภาคแรก ตรงที่มีสาระทางศาสนาเพิ่มเข้ามาเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น (บวกให้อีกนิดกับภาพที่ดูดีดูสวยกว่าหนังตลกกำกับทั่วไป) ...แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างอะไรได้เลย หากตราบใดว่าเรื่องราวก็ยังขอเน้นย้ำจะสร้างเสียงหัวเราะให้ประชาชนชาวไทย มากกว่าจะสอนใจให้ตัวจำ

แค่ว่าสาระมีให้ แต่ทำได้แบบแกนๆ (และเป็นแกนที่ไม่มีอะไรเกาะติดได้เลย) ก็ทำให้ว่าดูงั้นๆแล้ว ..พอเจอะกับความตลกที่ค่อนไปทางฝืด ...ก็ทำให้รู้สึกผิดอีกแล้ว ที่ดันเชื่อความตลกในหนังตัวอย่างมันไปซะงั้น

ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียน ที่ทำให้ผมแน่ใจว่า... จะมีภาคสาม หรือไม่มี ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องสนใจอีกต่อไป ...แล้วต่อให้สามารถนิมนต์ หลวงพี่เท่ง(ที่มาทั้งตัวเป็นๆ..ไม่ใช่แค่ไว้ชื่อเพื่อขายของแบบนี้) กลับมาจากธุดงค์ได้ ..ผมก็คงไม่แวะไปนมัสการท่านอีกแล้วล่ะ

Review.. "หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย" ... เรารู้ซึ้งในรสพระธรรม (หากนี่่ก็คือ ตัวอย่างแห่งความไม่เป็นธรรม)




อันดับที่ 2



“Max Payne”


เพราะความสวยของงานศิลป์ในตัวอย่าง และความที่เคยได้เล่นเกมในภาคแรกมาก่อนหน้า ..คือ ตัวการที่ทำให้ผมไม่ค่อยลังเลใจจะลองดูให้รู้เรื่อง ทั้งที่จะว่าไป ...หนังใดๆที่สร้างจากเกมส์คอมพิวเตอร์ ล้วนพากันชวนตกม้าตายมานับไม่ถ้วนแล้ว

แต่เอาเหอะ ตราบใดที่โลกนี้ยังคงมี “อูเว่ โบล์ว” ยืนหายใจอยู่ได้ ..ผมก็เชื่อลึกๆว่า คงไม่มีหนังจากเกมส์เรื่องไหน อาจหาญจะกล้าหายนะได้เทียบเท่า ผลงานใดๆที่มีชื่อผู้ชายคนที่ว่าทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของโลก(แห่งเกมส์)อีกแล้วล่ะ

แม้สิ่งที่ผมเชื่อ มันจะเป็นความจริง ..และช่วยยกระดับให้ แม๊กซ์ เพย์น ดูดีกว่ามากมาย ในแง่ของการเป็นหนังที่เงินทุนถึง และมีฟอร์มกันกว่าเยอะ ...แต่มันก็ไม่ค่อยจะช่วยตัวหนังจริงๆเสียเท่าไหร่ ในเมื่ออาถรรพ์ของหนังเกมส์ ยังคงเป็นจริงเสมออีกแล้ว

ถึงว่าองค์ประกอบทางศิลป์ จะได้แรงบันดาลใจอันสูงส่งจากเกมมาก่อให้เกิดอารมณ์นัวร์ร่วม ..แต่ผมก็ไม่อาจคล้อยตามใดๆ กับการพยายามโชว์อ๊อฟของผู้กำกับ ...ที่สักแต่จะเน้นฉากหลังให้ดูดีเข้าว่า หากแต่เบื้องหน้าดูอ่อนด้อย ร่องรอย ไร้น้ำหนัก

แม้ว่างานนี้จะได้ระดับ “มาร์ค วอห์ลเบิร์ก” (ก็ถือว่ามีระดับ..กว่าที่คาดไว้ตอนแรกจะสร้างอยู่) มาประดับเกียรติเป็นชื่อขายให้ ...แต่ไม่ว่าจะใด ก็ไม่ช่วยให้หนังดูดี จนพอจะลืมข้อด้อยยุบยั่บใดๆไปได้เลย

สรุปสุดท้าย ...ถ้าต้องการอรรถรสและรับรู้ถึง ความเจ็บปวดขั้นสูงสุด ให้สมชื่อ ...’เกมส์’ เท่านั้นที่ช่วยคุณได้



และ...อันดับที่ 1

เรื่องที่ได้ชื่อว่า ด้อยที่สุด...

เรื่องที่ได้ชื่อว่า ไม่น่าจดจำเป็นที่สุด...

และยังต้องบวกไปอีกเรื่อง ..ที่ผมกล้ายืนยันว่า มันไม่ใช่แค่ว่าไม่ชอบ ...แต่เรียกว่า มันเป็นหนังที่แย่ เลยซะดีกว่า

คือ ผลงานล่าสุด(ในบ้านเรา)ของซูเปอร์สตาร์ผิวสี ที่แค่ประกาศชื่อหราแปะเหนือชื่อหนัง ...ก็ตีตราทันทีว่า ไม่มีทางเจ๊ง

แล้วยิ่งมาบวกกับความถนัด(ทางลีลา)เฉพาะตัว ..รวมถึงว่าเป็นครั้งแรกที่จะให้เขาได้พัฒนาตัวเอง จากการเป็นฮีโร่(ผู้เคยขวางมาแล้ว.. ทั้งมนุษย์ต่างดาว นรก หุ่นยนต์ ยันซอมบี้) ไปสู่ขั้นสูงกว่า อย่างการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ...มันก็น่าจะการันตีว่า เราคงได้ดูหนังสนุกๆที่ เจ๋งได้เรื่อง เลยทีเดียว

แต่จนแล้วจนรอด(ที่ผ่านพ้นมาได้ด้วยความตุปั้ดตุเป๋) จากจุดเริ่มต้นของพลอตหนังที่เคยมีคนชมชอบ เชียร์ว่า มันทั้งสนุก และน่าประทับใจ (อีกทั้งเคยจะได้ระดับ “ไมเคิล มานน์” มากำกับเสียด้วยซ้ำ) ...เมื่อท้ายที่สุด ได้ออกสู่สายตาประชาชนของจริง มันก็ถูกกาลเวลายาวนานกัดกร่อนคุณค่า และยังกลับกลายไปเป็นหนังที่ยากจะหาความสนุก อีกทั้งอย่าเรียกหาความประทับใจใดๆอื่นเลย ...เพราะสิ่งที่ได้คืนมา คือ ความย่ำแย่อีกครั้งหนึ่งของหนังสักเรื่อง ที่ถูกจัดอยู่ในตระกูลซูเปอร์ฮีโร่ด้วยกัน

ครึ่งแรกยังว่าเรื่อยๆ พอทน ..พอเข้าครึ่งหลังเป็นต้นมา ...อะไรๆที่น่าจะนิยาม เรียกว่า ความบัดซบ ก็ได้ถูกรวมรวบเอาไว้ แล้วมาจัดอยู่ในสารบบความรู้สึกทางลบ ที่มีต่อหนังทั้งเรื่องในทันที ที่บังอาจมีหักมุม

ถึงจะว่าได้ดูหนังเล่นมุขหักมุมมาก็เยอะพอสมควรแล้ว ..แต่ผมก็ยังไม่เคยได้พบเจอหนังเรื่องไหน ที่ไม่ใช่แค่ว่าใจกล้า แต่มันควรค่าแก่การเรียกว่า หน้าด้านๆ ได้ เท่ากับหนังเรื่องที่ว่านี้

และที่เจ็บใจมากที่สุด ยิ่งกว่านั้น... ผมยังเกลียดความมั่วซั่ว แบบจับยัด ที่หนังประเคนให้มาทั้งความตลก ความรัก ความลึกลับ และความมันส์ ..แต่พอเล่าให้เป็นเรื่องเป็นราวอย่างต่อเนื่อง มันกลับไปด้วยกันไม่ได้ความเลยสักอย่าง

เคยดูหนัง “วิล สมิธ” มาแล้วก็แทบทุกเรื่อง ..และมีทั้งที่ว่าสนุกน้อย สนุกมาก คละเคล้ากันไป ...แต่ผมก็ยังไม่เคยได้พบได้เห็นว่า ในเครดิตของเขา จะมีชื่อของหนังที่เป็นหายนะแห่งความทรงจำรวมอยู่ในนั้นด้วยแต่อย่างใด

ซึ่งถ้าจะต้องมีแล้ว ก็คงจะมีเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ...และลึกๆก็หวังว่า มันคงจะเป็นแค่เรื่องเดียว เพียงเท่านั้นก็เกินพอ.. สำหรับผม



เรื่องๆนั้น ก็คือ... “Hancock”


Review.. "Hancock" ... คำสารภาพเรื่อง ความหงุดหงิดใจของผม ที่มีต่อ 'แฮนค็อก'..ซูเปอร์ฮีโร่'แหกคอก'







ทั้งหมดทั้งมวล ทั้ง 5 เรื่อง ...คือ บทสรุปของความไม่น่าจดจำ กับสาขา 5 หนังไม่สนุก ให้อยากลืม เป็นที่สุด ของผม

แล้วของคุณล่ะครับ มีหนังเรื่องไหนบ้างที่ทำให้คุณรู้สึกกระสับกระส่าย ใจเหนื่อยหน่าย คิดงุ้นง่าน และทำให้เดือดพล่านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด จนเมื่อหนังจบ สิ่งเดียวที่คิดออกก็คือ อยากจะลืมมัน ...อยากจะรู้ว่าคุณและผม คิดเหมือนกันหรือเปล่า ?


แล้วพบกันอีกทีในวันพรุ่งนี้ กับ 5 หนังที่เป็น {The Best of 2008} ..in My Home ครับผม

Create Date :14 มกราคม 2552 Last Update :19 มกราคม 2552 4:51:24 น. Counter : Pageviews. Comments :5