ภาคแรก ของ Ice Age ...นำเสนอเรื่องราวการผจญภัยของสามสหายต่างสายพันธุ์ ที่ดันมาเจ๊อะเอากับทารกมนุษย์ตัวน้อย ที่ถูกทิ้งไว้กลางทาง ...สัตว์ทั้งสาม ต้องสวมบทเป็น Transporters จำเป็นพาเด็กน้อยนี้ ไปส่งให้ถึงมือพ่อมือแม่ให้ได้ ระหว่างทางก็อลวนอลเวงกันไป เจอนานาเหตุการณ์ให้ต้องประสบ ต้องหนีรอด ...แต่ก็ไม่มีอะไรที่ยากเย็นเกินที่เหล่าสหายทำงานพิเศษนี้จนเสร็จสิ้น
แม้ภาคแรกจะจบลงไปด้วยความซาบซึ้ง ...แต่การเดินทางของสามสหาย ยังมิถึงตอนอวสาน ภาคสองจึงต้องมีตามมาเป็นสัจธรรม

Ice Age : The Meltdown ... ภาคต่อนี้ สามสหายเพื่อนรัก อันได้แก่ แมนนี่ ... ว่าที่แมมมอธตัวสุดท้ายบนโลก , ซิด ... สล็อทเด๋อด๋าที่ทนงตนว่าตัวเองสำคัญ , ดิเอโก้ ... เสือเขี้ยวดาบผู้หวาดกลัวสสารที่เรียกว่า "น้ำ" ...ต้องรวมพลังสามประสาน หนีตายจาก ภาวะโลกร้อน ...เมื่อน้ำแข็งที่ละลายกำลังจะถล่มเขื่อนซึ่งป้องกันที่อยู่ของพวกเขาให้แตกทลาย สามสหายจึงต้องพาผองเพื่อนบ้านทั้งหมดเล่นเกม "Survival" หลีกหนีไปยังจุดหมายซึ่งเป็นเรือที่จะนำพาพวกเขารอดตายจากน้ำที่กำลังท่วม

แต่ระหว่างทางที่สามสหายต้องไป ...ก็ยังต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนกลุ่มใหม่ (สองพอสซั่ม เอ๊ดดี้&แครช และหนึ่งแมมมอธ "แอลลี่" ที่คิดว่าตัวเองเป็นพอสซั่ม???) เหตุการณ์ชวนตื่นเต้น และบทพิสูจน์ทางใจของสามสหาย ที่จะหล่อหลอมรวมกลายเป็นมิตรภาพที่เป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเก่า

สามสหาย(บวกสามสมาชิกใหม่) จะ Survival ได้หรือไม่ ...คำตอบนี้ลุ้นไม่ยาก แต่เจ้ากระรอก "สแครช" นี่สิ ที่น่าลุ้น ...ในภาคนี้ มันจะได้ลูกโอ๊คสมใจอยากหรือไม่ ต้องติดตาม

ความสำเร็จที่ได้รับจาก Ice Age ภาคแรก นำพามาซึ่งความเชื่อมั่นแก่ค่ายอนิเมชั่นประสบการณ์น้อย อย่าง Blue Sky ... หลังจากเมื่อปีก่อน กลับมาพร้อมกับหนังการ์ตูนชุดใหม่ที่ทำออกมาได้ถูกใจผมอย่าง Robots ...ในปี 2006 Blue Sky ของ Fox จึงได้กลับมาสานต่อเรื่องราวที่ได้กลายเป็นโลโก้ประจำบริษัทนี้ไปแล้ว ในภาคสองที่ใช้ชื่อตอนว่า The Meltdown

แม้ผมจะมีความรู้สึกเฉยๆกับ Ice Age ภาคแรก ไม่มีอะไรให้ประทับใจเป็นพิเศษก็ตาม ... แต่ด้วยความที่ชอบ ที่สนุก กับการตีตั๋วดูหนังอนิเมชั่นแล้ว มีหรือ ที่จะยอมพลาดภาคต่อ ของหนังการ์ตูนเปิดตัวกระหึ่มในอเมริกาเรื่องนี้ ...ยังแอบคาดหวังด้วยซ้ำ ว่ามันคงต้องมีดีกว่าภาคแรกบ้างล่ะน่า ...ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ รู้สึกดีกับภาคนี้ ถึงแม้ว่าหนังอาจยังไม่ถึงขั้นที่ประทับใจ แต่ก็ถูกใจคนดูผู้รักความบันเทิงเช่นผมไม่น้อย

Ice Age : The Meltdown ... มาพร้อมเรื่องราวที่มีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าภาคแรก (ประมาณว่า เป็นเมาคลี ทาร์ซาน เวอร์ชั่นไม่รับเลี้ยงแล้วยัดเยียดส่งกลับ อย่างไงอย่างงั้น) มันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ
สรรพสัตว์ ไม่มีมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องให้เสียเซลฟ์เหมือนภาคแรก ...Ice Age 2 มาพร้อมกับการล้อเลียนเหตุการณ์ในช่วงเวลาปัจจุบัน ที่น้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลายอย่างดุเดือด แต่ภาพของมันก็สะท้อนไปถึงเรื่องที่เป็นตำนาน เคยเกิดมาแล้วเมื่อ หลายล้านปีก่อน สัตว์ทั้งหลายต่างก็ต้องหนีไป เพื่อรักษาดำรงชีพของตนให้คงอยู่ ...ด้วยความที่พลอตหนังมีความสดใหม่มากกว่า มีเรื่องให้เล่นได้หลากหลายกว่า เลยทำให้ Ice Age ภาคใหม่ในความคิดของผมนั้น รู้สึกได้ถึงความสร้างสรรค์ และมีความสนุกที่ดีกว่างานต้นฉบับ

ความสร้างสรรค์ในที่นี้ หมายความถึง บทหนัง ...ด้วยความสดใหม่ที่มีพลอตแปลกไปไม่เหมือนใคร และมีเรื่องที่หลากหลายของเหล่าตัวละครประดังประเดใส่เข้ามาในหนัง ทำให้การออกแบบเรื่องราวของภาคนี้ ทำออกมาได้ดี ...ส่วนผสมที่มีความลงตัว ของการเป็นหนังผจญภัยอันน่าติดตามชวนตื่นเต้น และการเป็นหนังการ์ตูนสอนเด็กอันมีแง่มุมแง่คิดที่แฝงไว้ด้วยสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมิตรภาพในผองเพื่อนตัวละครทั้งหกไปจนถึง เรื่องส่วนตัวที่ตัวละครต่างๆต้องเผชิญหน้า ... ส่วนผสมสองตัวที่เข้ากันได้ดีใน Ice Age 2 คือ ส่วนประกอบที่ทำให้หนังการ์ตูนเรื่องนี้ เป็นอีกหนึ่งหนังที่เด็กดูสนุก ผู้ใหญ่ดูแล้วเพลิดเพลิน ...

ความสนุกและเพลิดเพลินที่ว่านั้น นอกจากเรื่องราวการผจญภัยที่บทหนังออกแบบมาได้สร้างสรรค์แล้ว ...มุขตลก คือ องค์ประกอบที่ช่วยให้การเล่าเรื่องของ Ice Age 2 ไหลลื่นยิ่งขึ้น เป็นตลกที่แนบเนียนไปกับเรื่องราว
ของหนัง ไม่ว่าจะเป็นตลกจากสีหน้า ท่าทาง หรือคำพูด ...อาจมีบ้างบางมุขที่ผมหัวเราะเพียงฮึๆ แต่หลายมุขก็ทำหน้าที่ระเบิดเสียงฮาเมามันส์ได้อย่างโด่งดังทั้งโรงภาพยนตร์ เสียงเด็ก เสียงผู้ใหญ่ ประสานสอดรับกับความน่ารักจากมุขตลกที่หนังมีให้โดยพร้อมเพรียง ...โดยเฉพาะจอมขโมยซีน นายสแครชเจ้าเก่า ที่ออกมาเมื่อไหร่ก็ยังต้องขำมันซะทุกซีน (ฉากเจ้าแห่งไฟของซิด กับฉากจบของสแครช ถือว่าเป็นสองฉากเด็ดที่ทำผมปวดกรามเอาอย่างมาก)

Ice Age : The Meltdown ... คือ หนังภาคต่อ ที่มีผลลัพธ์อันน่าพอใจ มากกว่า หนังต้นฉบับ ... ความสนุก ความฮา และความ(แง่)คิดดีๆ ที่หนังมีให้ คือ ความพอใจที่คนดูทุกเพศทุกวัยทุกครอบครัวจะได้รับหลังจากชมหนังเรื่องนี้จบ เล่นสงกรานต์กันจน(เปียก)ชุ่มฉ่ำ(ใจ)แล้ว ก็ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศ เสียสตางค์ตากแอร์ให้ตัวแห้งไปกับหนังเรื่องนี้ ก็คงจะดีไม่น้อยนะครับ ฮาาาาดดดด ชิ้ว...!!!

เกรด B+