bloggang.com mainmenu search


หลายปีมาแล้ว... เขาเคยทำหนังย้อนยุค'แนว'เจ็บๆ ขึ้นมา อันมีชื่อเป็นยาสมุนไพรชวนงงๆว่า "ฟ้าทะลายโจร"

สองปีที่แล้ว... เขาเพิ่งได้สร้างหนัง'แนว'รัก ในชื่อที่สื่อความหมายถึงเมืองหลวงของประเทศไทยอันมึนๆ นามว่า "หมานคร"

...จนมาถึงในปีนี้ ผู้กำกับ "วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง" กลับมาพร้อมกับงานใหม่ที่ขาดซึ่งความ'แนว'อันเคยคุ้น และสร้างออกมาเพื่อหวังตลาดใหญ่ล้วนๆ ...หนังเรื่องนั้นมาพร้อมกับเบื้องหน้าเรื่องราวความสยองชวนขนลุกซึ่งถูกผนวกลงไปบนเบื้องหลังของความรักอันร้าวราน และหนังเรื่องนี้ก็มาพร้อมกับชื่อเรื่องซึ่งสื่อออกมาได้ไม่ต้องคิดมากให้หลายตลบก็เข้าใจกันได้ว่า "เปนชู้กับผี"



"เปนชู้กับผี" ... คือ เรื่องราวของสาวชาวบ้าน(นอก) "นวลจันทร์" ที่เข้าเมืองหลวงมาพร้อมกับลูกวัยแบเบาะ เพื่อหวังจะตามหาสามีของเธอซึ่งหายตัวไปนานนับปี ...ด้วยความที่เธอไม่มีบ้าน ไม่มีญาติในเมืองกรุงเลย ทำให้เธอต้องตามตะลอนแวะพักไปในแต่ละที่ด้วยความโดดเดี่ยว จนกระทั่งเดินทางมาถึงบ้านหลังหนึ่งซึ่งดูแสนจะลึกลับในความคิดของเธอ ...แต่เธอก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า การที่เธอเดินเข้ามาพบกับความลึกลับในบ้านหลังนี้ กำลังจะทำให้ชีวิตของเธอต้องพบกับความน่ากลัวหวั่นสะพรึงเข้าให้แล้ว



คุณนาย "รัญจวน" ผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ คือ ผู้หญิงม่ายสามีเสียที่ไม่สุงสิงกับใคร อีกทั้งยังต้องการเก็บตัวนิ่งเงียบอยู่บนเรือนนอนของเธอ ...การเข้ามาในบ้านของนวลจันทร์เป็นที่รับรู้ของคุณนาย ในตอนที่เธอรู้ว่านวลจันทร์มาพร้อมกับเด็กทารกลูกน้อยของเธอ ...คุณรัญจวนก็เลยทำการสร้างกฎขอเข้ามาอยู่ของนวลจันทร์ ด้วยการขอให้เธอนำลูกของเธอ ขึ้นมาให้เธอได้เลี้ยงทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น ...ด้วยความที่นวลจันทร์ไม่อยากไว้ใจในคุณนาย(ผู้ที่มีแต่เรื่องความลับคมในให้ชวนสงสัย) เลยทำให้การปฏิบัติตามกฎของเธอต้องเป็นไปด้วยความน่ากลัวหวั่นสะพรึง

ความน่ากลัวหวั่นสะพรึงในย่อหน้าก่อนเป็นเพียงแค่เรื่องเดียวที่ผมพอจะบอกได้กับคนที่ยังไม่ได้ดู เพราะในหนังความยาวเกือบสองชั่วโมงเรื่องนี้ ยังมีความน่ากลัวหวั่นสะพรึงอีกมากมายให้คุณได้รับรู้กันอีก

การเปลี่ยนแนวมาทำหนังน่ากลัวหวั่นสะพรึงเป็นเรื่องแรกของ วิศิษฐ์ คนนี้ ...อาจจะเป็นอะไรที่ขัดกัน และห่างไกลกับงานกำกับเก่าๆทั้งสองอยู่หลายกิโลก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่นักดูหนังหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ก็คือ ความจริงที่ว่าเขาเคยเขียนบทให้กับหนังสยองเรื่องดัง ฟันตลาดทำเงินเป็นร้อยล้าน อย่าง "นางนาก" มาก่อนหน้าที่จะเริ่มต้นลงมือเป็นผู้กำกับหนัง'แนว' ไม่ทำเงินของเขา ...การที่ผมได้รู้ข้อความจริงนี้ ก็เลยหมดซึ่งความสงสัยถึงความเยี่ยมที่เขาได้ทำเอาไว้กับ "เปนชู้กับผี" เรื่องนี้



ผมกล้าที่จะพูดได้ว่า "เปนชู้กับผี" เรื่องนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานบทบัญญัติใหม่ในแวดวงหนังผีไทยไปแล้ว ...เพราะสิ่งที่ วิศิษฐ์ ได้ทำเอาไว้กับหนังสยองชวนสงสัยเรื่องนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเห็นจากหนังนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่หนังผีไทยเรื่องอื่นๆยังทำได้ไม่ถึงเท่า ...ขณะที่หนังเรื่องอื่นต้องใช้ความพยายาม(อย่างเห็นได้ชัด ไม่เนียนตา) รีดความน่ากลัว ใจเต้นกระตุกของคนดูออกมาได้อย่างจนถึงขั้นให้ชวนประสาทได้ ในหนังเรื่องนี้ไม่ต้องพยายามอะไรให้มากมายเลย ขอเพียงแค่มีบรรยากาศวังเวง มีการแสดงของดาราที่รับรู้อย่างอิน และมีเสียงดนตรีอารมณ์หลอนฮึมฮัมให้รุกเร้าใจคนดูได้ ...เพียงแค่สามสิ่งนี้ที่ทำออกมาได้สุดๆ ก็สามารถปลุกปั้นความสยองในความรู้สึกคนดูได้แล้ว

"ชัตเตอร์" ที่เคยว่าแน่สำหรับคนดูหนังผี มาจนเจอเรื่องนี้เข้า ผมก็ขอฟันธงลงไปเน้นๆเลยว่า "เปนชู้กับผี" ทำได้ดีกว่า ...ถึงแม้ ชัตเตอร์ อาจจะกระตุ้นความสยองนันสต๊อปเป็นอย่างสุดอัดอั้นตันอุราได้เหนือชั้นกว่า แต่มันก็ยังแอบรู้สึกไม่เนียนตา ตรงที่สไตล์ของการสร้างความสยอง อันดูออกว่าจงใจจะเลียนตามหนังผีเอเชียดังๆทั้งหลาย...



เปนชู้กับผี มีการสร้างความสยองที่เป็นตัวของตัวเอง ...หลายคนอาจจะพูดว่า หนังเรื่องนี้เลียน "The Others" มาอีกตลบหนึ่ง แต่สำหรับผมแล้ว มันมีความแตกต่าง ที่เราไม่สามารถจับผิดได้อย่างเด่นชัด ถึงความไปเหมือนพ้องต้องกันกับหนังเรื่องนั้น

ความเป็นตัวของตัวเองของ เปนชู้กับผี อยู่ตรงที่ ...หนังทำตัวเองออกมาให้มีความเป็นไทยเน้นๆ เป็นการเอาเอกลักษณ์สไตล์เรื่องสั้นในการ์ตูนผีราคาสามบาทที่ชาวบ้านร้านตลาดยุคเก่าๆเขาชอบอ่านกันมาประยุกต์ใช้ในความเป็นหนังที่สามารถสร้างความแตกต่างกับหนังผีทั่วๆไปได้

วิศิษฐ์ ยังคงเป็น ผกก.คนเก่าที่มีวิธีการคิดการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ เก่งในการสร้างความน่าสนใจลงไปให้กับตัวหนังของเขา ...แม้ว่างานใหม่ชิ้นนี้ จะดูแปลกแยกในแนวทาง แต่ความดีก็ไม่แตกต่างไปจากงานชิ้นเก่าๆของเขา ...

แม้ผมจะไม่ชอบ ฟ้าทะลายโจร ในความเป็นหนังดูเพลิน แต่ศิลปะการทำของเขาต้องยอมรับว่าเปรี้ยวสุดฤทธิ์ ...ต่อมาใน หมานคร ความดีของมันก็กลายเป็นงานประทับใจในความดูสนุก และการสร้างสรรค์ความไม่เหมือนใครของผกก.คนนี้



และแล้วกับงานเรื่องล่าสุด เปนชู้กับผี ...หนังเรื่องนี้สามารถเขย่าอารมณ์ระทึกขวัญในจิตได้เป็นอย่างดี ภาพของหนังไม่ต้องเล่นอะไรให้น่ากลัวกันตรงๆโต้งๆ แต่ใจคนดูก็รับรู้ในความหลอนๆได้ ...ผกก.วิศิษฐ์ ควบคุมโทนหนังให้ชวนเกิดอารมณ์กลัวได้อยู่ เพียงแค่ใช้งานสามสิ่ง(ที่ว่าไปข้างบน)เป็นส่วนประกอบเท่านั้นเอง

ผมเกิดความแปลกใจอยู่เล็กน้อยตรงที่งานกำกับของวิศิษฐ์คราวนี้ กลับไม่มีชื่อของเขาในฐานะของคนเขียนบทแขวนเอาไว้ด้วยเหมือนงานก่อนๆ ...แต่นั่นก็ไม่ถือเป็นเรื่องอะไรให้ต้องกังวลเลย เพราะกับบทหนังที่ผกก.วิศิษฐ์ได้เอามาทำในหนังเรื่องที่สามนี้ เป็นฝีมือการเขียนของ "ก้องเกียรติ โขมศิริ" ผู้ซึ่งผ่านพ้นการ "ลองของ" มาเมื่อปีกลาย

จากหนัง "ลองของ" ที่เขาเขียนเองกำกับเอง(กับเพื่อนๆอีกห้าคน) มาเป็นพัฒนาการขั้นต่อไปที่ดีขึ้นของเขาใน เปนชู้กับผี ... เขาสร้างเงื่อนไขแห่งความซับซ้อนของเรื่องราวชวนสงสัยลงไปได้อย่างลึกลับชวนให้คนดูต้องคิดตาม มีการใส่มิติความเข้มข้นทางอารมณ์ของตัวละครที่จะเดินไปพร้อมกับความน่าติดตามจากเหตุการณ์ต่างๆซึ่งผูกพันข้องเกี่ยวกันอยู่ พอถึงช่วงเฉลยในท้ายที่สุด เขาก็สามารถจบเรื่องราวของหนังลงได้อย่างเหมาะสม และหมดซึ่งความตะขิดตะขวงใจ



ในส่วนของการแสดง ...สี่คนหลักๆ ไม่มีอะไรให้ต้องติเตียน ไม่ว่าจะเป็น "นวลจันทร์" ของ นุ่น-ศิรพันธ์ ที่ขอยกนิ้วให้กับการสวมบทที่แตกต่าง และสามารถลบภาพ 'ดากานดา' ออกไปจากใจผมได้อย่างชั่วคราวตลอดเวลากำลังดูหนังเรื่องใหม่ของเธอ (แต่ยังไงก็จะขอเลือกจำเธอในภาพของดากานดาไปอย่างนี้นี่แหละ) , "รัญจวน" ของ ทิปปี้-สุพรทิพย์ ที่ให้การแสดงออกทางตา และการจีบปากจีบคอไว้เป็นอย่างดี , "ช้อย" ตัวละครขโมยซีนที่ทั้งสร้างความขบขันผ่อนอารมณ์ไปได้ในเวลาที่เธอร่วมแบ่งจอ , บทคนรับใช้ ของ คุณป้าทัศวรรณ ก็ทำหน้าที่เสริมทับความน่ากลัวในหนังให้ดูหลอนเข้าไปได้อีก

ส่วนอีกหนึ่งคนประกอบที่เหลือ ในบทบาทของ "สามีของนวลจันทร์" ผมขอพูดเพียงแค่ว่า ...บทบาทของเขาคนนี้ เป็นส่วนที่ไม่ดีพอ(และยังส่งผลให้หนังโดนลดความประทับใจจากผมลงไปด้วย) เพราะเขาไม่สามารถทำให้ผมเห็นถึงความสำคัญของเขาที่มีต่อหนังเรื่องนี้ได้



"เปนชู้กับผี" ... ทุกนิยามความสยองของหนังผีที่คุณเคยดูมาอาจว่าเจ๋ง อาจว่าเขย่าอารมณ์สุดๆ แต่ถ้าลองมาดูหนังเรื่องนี้ ความคิดของคุณอาจจะถึงทีเปลี่ยนไปก็เป็นได้ ...นี่คือหนังไทยดีๆ ที่ผมอยากให้ทุกคนได้ลองสละเงินเสียค่าตั๋วไปดูกัน

ขอแนะนำ...ครับ

ดู{ดี} วิธ มายเซลฟ์ :
1. "วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง" กับการเปลี่ยนแนวที่ไม่เปลี่ยนความเจ๋งของเขา
2. "ศิรพันธ์ วัฒนจินดา" กับการเปลี่ยนไปในบทบาทใหม่ ที่ยังคงเล่นได้อิน
3. การแสดงของนักแสดงหญิงอีกสามคน ที่ต่างคนก็ต่างเด่น
4. บทของ "ก้องเกียรติ โขมพัฒน์" เล่าเรื่องสนุก น่าติดตาม และน่าคิดตลบไปตลบมา

ดู{ด้อย} วิธ มายเซลฟ์ :
"สามีของนวลจันทร์" กับนักแสดงที่ไม่สามารถแสดงออกถึงความสำคัญของบทบาทนี้ได้

เกรด A-

ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ
Create Date :13 พฤศจิกายน 2549 Last Update :13 พฤศจิกายน 2549 8:39:06 น. Counter : Pageviews. Comments :9