ปลาร้าสด เก็บสด กินนาน แม่บ้านเกษตรกรบ้านดงกลาง อำเภอบ้านหมี่
แม่บ้านงานเกษตร สุจิต เมืองสุข เพราะความเป็นแม่บ้าน เมื่อว่างเว้นจากการงานอาชีพที่ทำเป็นหลักอยู่ คงจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ไม่ได้ อย่างกลุ่มแม่บ้านในตำบลชอนม่วง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำไร่ เสร็จสรรพจากไร่ก็จับงานบ้าน นอกเหนือจากนั้นก็รวมกลุ่มคิดหาวิธีการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว แม้ว่าตำบลชอนม่วงจะมีหลายหมู่บ้าน หลายหลังคาเรือน แต่ก็ไม่ทุกบ้านที่ใช้เวลาว่างรวมกลุ่ม ค้นวิธีการเพิ่มรายได้จากความเป็นแม่บ้านของตนเอง
คุณพงษ์ลัดดา กันโรคา แม่บ้านวัยกลางคน ผู้ที่กลุ่มแม่บ้านให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ตั้งให้เป็นประธานกลุ่มตามความสามารถและความคิดริเริ่มในระยะแรกของการตั้งกลุ่ม คุณพงษ์ลัดดา เล่าย้อนให้ฟังว่า ก่อนการรวมกลุ่ม แม่บ้านทุกคนก็มีหน้าที่หลักทำไร่ หน้าที่รองขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะทำอะไร แต่เวลาส่วนใหญ่ก็ยังเหลือพอจะนั่งรวมกลุ่มพูดคุยเรื่องจิปาถะ และเพราะการร่วมวงแลกเปลี่ยนความคิดจิปาถะในทุกวัน ทำให้คุณพงษ์ลัดดา มีแนวคิดจับกลุ่มหรือตั้งกลุ่มเป็นกลุ่มแม่บ้าน สร้างรายได้ให้กับแม่บ้านด้วยกันเอง เริ่มต้นด้วยแม่บ้านที่มีความเห็นตรงกัน 34 คน ลงหุ้นละ 100 บาท แต่จำนวนนี้ก็ไม่เพิ่มหรือลดจนกระทั่งปัจจุบัน
แรกเริ่มที่ขิงดอง ค่อยๆ ขยาย แต่ท้ายที่สุดก็ไปไม่ได้ เพราะทางตันของขิงดองอยู่ที่พื้นที่ทางการตลาด น้ำพริก เป็นสิ่งที่กลุ่มแม่บ้านกลุ่มนี้มีไอเดีย เหตุผลสำคัญอยู่ที่น้ำพริกเป็นวัตถุดิบสำคัญในการประกอบอาหารหลายรายการ และจำเป็นต้องใช้ในทุกบ้าน ยิ่งหากน้ำพริกมีรสชาติถูกปากผู้บริโภคมากพอ การขยายช่องทางจำหน่ายน่าจะเป็นไปได้ง่าย น้ำพริก เป็นสินค้าที่ประสบความสำเร็จ!! แม้จะประสบความสำเร็จ แต่เอาเข้าจริงก็ยังขยายตลาดไปได้ไม่ไกล เนื่องจากกลุ่มแม่บ้านไม่นิยมใส่สารสังเคราะห์หรือวัตถุกันเสียลงในอาหาร ดังนั้น ในทางการตลาด หากต้องการวางจำหน่ายในระยะเวลานาน หรือส่งจำหน่ายยังสถานที่ที่ต้องใช้ระยะเวลาเดินทาง น้ำพริกจะไม่ได้รับการยอมรับ จากขิงดองที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในปี 2550 นับแต่ตั้งกลุ่ม ราว 2 ปีถัดมา น้ำพริกก็ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ด้วยข้อจำกัดของกลุ่มแม่บ้านที่ไม่ต้องการใส่สารสังเคราะห์หรือวัตถุกันเสียเข้าไปที่น้ำพริกเป็นหลัก แม้ว่าจะได้รับการส่งเสริมด้านงบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐก็ตาม แต่น้ำพริกก็ยังเป็นที่โจษจันถึงรสชาติและฝีมือการปรุงรสของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านดงกลางแห่งนี้ นอกเหนือจากขิงดอง น้ำพริกแล้ว กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านดงกลางยังเจียดเวลาเรียนวิธีการทำซาลาเปาจากการส่งเสริมให้เรียนทำซาลาเปาด้วยงบประมาณของกรมการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ตามมาด้วยขนมปุยฝ้าย แต่ทั้งขิงดอง น้ำพริก ซาลาเปา ขนมทองพับ และขนมปุยฝ้าย ยังเป็นสินค้าที่ผลิตจำนวนน้อยในแต่ละครั้ง เพราะข้อจำกัดด้านการตลาด
พริกแกง เป็นสินค้าตัวรองของกลุ่มที่ได้รับการยอมรับ และมีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย
เครื่องที่นำมาตำเป็นพริกแกง เป็นผลิตผลจากพื้นถิ่น เช่น พริก หอม กระเทียม ตะไคร้ ใบมะกรูด ตำกันสดๆ ตามออเดอร์ในแต่ละครั้ง รสชาติจึงถึงเครื่องและผูกใจผู้บริโภคมาโดยตลอด ยอดจำหน่ายในปัจจุบันสำหรับพริกแกง 50 กิโลกรัม ต่อเดือน ขายในราคากิโลกรัมละ 80 บาท เมื่อถามถึงปลาร้าสด สินค้าเด่นของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านดงกลาง คุณพงษ์ลัดดา บอกว่า ปลาร้าสด เริ่มขึ้นในปี 2554 จากแนวคิดจุดเล็กๆ ที่ต้องการเก็บชิ้นปลาที่ปรุงสำเร็จแล้วไว้กิน ไม่ถึงกับหมักเหมือนกับการทำปลาร้าทั่วไป จึงเรียกว่า ปลาร้าสด ปลาร้าสด เลือกปลาจีนมาทำ เพราะเนื้อเยอะ ก้างน้อย และยังสะดวกต่อการสั่งซื้อสำหรับกลุ่มเรา ในแต่ละครั้งจะสั่งปลาจีนน้ำหนัก 40-50 กิโลกรัม มาทำปลาร้าสด ระยะเวลาการขายอยู่ที่ 10-15 วัน ก็ต้องเริ่มทำใหม่ แหล่งขายปลาร้าสดของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านดงกลาง เป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากบ้านของคุณพงษ์ลัดดา ซึ่งคุณพงษ์ลัดดา ต่อเติมพื้นที่ด้านข้างที่พักอาศัยเป็นสถานที่รวมกลุ่มแม่บ้าน และใช้เป็นพื้นที่สำหรับประกอบกิจกรรมของกลุ่ม และปรุงสินค้าของกลุ่มทุกชนิด
ที่ว่าแหล่งขายปลาร้าสดเป็นบ้านคุณพงษ์ลัดดานั้น แท้ที่จริงเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เมื่อผลิตแล้วเสร็จ สินค้าจะถูกส่งไปยังบุคคลหรือสถานที่ต่างๆ ตามออเดอร์ที่ได้รับมา จึงไม่มีที่วางจำหน่ายที่แน่ชัด ยกเว้นบ้านคุณพงษ์ลัดดา หากผู้บริโภคต้องการซื้อสินค้าของกลุ่ม จำเป็นต้องมุ่งมาที่บ้านคุณพงษ์ลัดดาแห่งเดียว หรือมากกว่านั้นต้องใช้โทรศัพท์เป็นสื่อกลางสั่งออเดอร์ และรอรับปลายทาง เมื่อตั้งเป็นกลุ่มแม่บ้าน มีการลงหุ้น จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านดงกลางแห่งนี้ ใช้วิธีปันผลทุกปี และแบ่งกำไรในการขายแต่ละรอบให้กับผู้ลงมือทำสินค้าในงวดนั้นๆ
คนที่ลงหุ้น แต่ไม่ได้ลงแรง จะได้ปันผลเพียงร้อยละ 5 หักเข้ากลุ่มไว้ทำกิจกรรมร่วมกันร้อยละ 15 และอีกร้อยละ 80 แบ่งให้กับผู้ที่ลงแรง
แม้ว่าการบริหารจัดการกลุ่มอาจดูไม่เป็นระบบมากนัก แต่คุณพงษ์ลัดดา บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาในการบริหารจัดการแม้แต่น้อย เพราะสมาชิกทุกคนทำงานด้วยกันแบบพี่น้อง ไม่มีกฎกติกาตายตัว เพราะปัญหาที่กลุ่มควรมุ่งมั่นแก้ไข คือ แพ็กเกจสินค้าและการตลาด ที่ถือว่ายังหาคนเก่งมาบริหารจัดการด้านนี้ไม่ได้
ปลาร้าสด สินค้าชูโรงของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านดงกลาง มีวิธีทำ ดังนี้ 1. นำปลาจีนที่ได้มาขอดเกล็ด แล้วหั่นเป็นชิ้น ขนาดพอประมาณ ดูสวยงาม 2. นำไปล้างด้วยน้ำเปล่า 1 ครั้ง 3. นำไปล้างด้วยน้ำผสมเกลือ 1 ครั้ง น้ำผสมเกลือช่วยกลบกลิ่นคาวปลา 4. นำเนื้อปลาใส่ตะแกรง ผึ่งลม ไม่จำเป็นต้องกลางแดด 5. สังเกตน้ำที่ตะแกรงหมาดๆ นำเกลือเม็ดมาตำ คลุกเคล้ากับเนื้อปลา
6. นำเนื้อปลาใส่ถุงพลาสติก ปิดถุงพลาสติก นำไปแช่ในถังน้ำแข็ง ทิ้งไว้ประมาณ 3 วัน 7. วันที่ 2 ของการแช่ปลาในถังน้ำแข็ง ให้ตำกระเทียมกับน้ำซาวข้าวเคล้ากัน ทิ้งไว้ 8. เมื่อครบ 3 วัน ของการหมักปลาในถังน้ำแข็ง ให้นำปลาออกมาเคล้ากับข้าวคั่ว และกระเทียมกับน้ำซาวข้าวที่เคล้าไว้ก่อนหน้า แช่ไว้ในถังน้ำแข็งต่ออีก 1 วัน 9. วันที่ 4 ปลาในถุงพลาสติกตามขั้นตอน เป็นปลาร้าสดโดยสมบูรณ์
คุณพงษ์ลัดดา เล่าว่า การกินปลาร้าสดทำได้ง่าย โดยนำไปทอด ไม่ต้องปรุงรสเพิ่ม ยกเว้นรสเผ็ดที่ต้องซอยพริกขี้หนูโรยเพิ่มเข้าไปที่ปลาร้าสดหลังทอดเท่านั้น ส่วนรสเปรี้ยวที่อาจเกิดจากการนำไปแช่น้ำแข็งไว้นาน 4 คืน และกว่าจะนำมาประกอบเป็นอาหาร อาจใช้เวลาอีกหลายวัน กลุ่มแม่บ้านยืนยันว่า มีรสเปรี้ยวติดปลายลิ้นเล็กน้อย รสเค็มปานกลาง ดังนั้น สามารถกินได้ทันที
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการอุดหนุนฝีมือกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านดงกลางแห่งนี้ ติดต่อโดยตรงได้ที่ คุณพงษ์ลัดดา กันโรคา โทรศัพท์ (089) 804-6727 หรือสอบถามเส้นทางไปชมวิธีการทำกันสดๆ ได้ที่ บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 2 ตำบลชอนม่วง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ขอบคุณ มติชนออนไลน์ แม่บ้านงานเกษตร คุณสุจิต เมืองสุข สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
Create Date : 28 สิงหาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 28 สิงหาคม 2555 12:38:23 น. |
Counter : 4157 Pageviews. |
|
|
|