BlogGang.com : : sirivinit : แกงส้มเปลือกแตงโมกับกระดูกหมู .. คุณสุคนธ์ จันทรางศุ

แกงส้มเปลือกแตงโมกับกระดูกหมู .. คุณสุคนธ์ จันทรางศุ

คอลัมน์ ทำกินกันเอง
สุคนธ์ จันทรางศุ

สมัยก่อนเมื่อยังเด็ก จำได้ว่าแม่ครัวที่บ้านแกงส้มเปลือกแตงโมกับปลาแห้ง จะสับปลาแห้งให้เป็นท่อนๆ เคี่ยวไว้จนเปื่อยนุ่ม แล้วจึงนำมาแกง

แต่ต่อมาภายหลัง แต่งงานมาแล้ว คุณย่ามาสอนให้แกงกับกระดูกหมู รู้สึกชอบใจมากกว่า เพราะได้น้ำหวานออกมาจากกระดูกหมูด้วย ทำให้ได้รสอร่อยกว่า ก็เลยตัดสินใจใช้แกงคู่กันกับกระดูกหมูมาจนกระทั่งทุกวันนี้

ก่อนอื่น เลือกกระดูกหมูชนิดที่มีเนื้อมากๆ หน่อย เขาจะมีแขวนขายไว้เป็นเส้นยาวๆ ตามร้านขายหมู เวลาสั่งซื้อก็ให้เขาสับให้เสร็จเป็นท่อนๆ ยาวราว 1.5-2 นิ้ว เท่าๆ กันมาเลย

กลับมาถึงบ้านแล้ว นำกระดูกไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปใส่หม้อเติมน้ำเคี่ยวไปจนเปื่อยพักไว้ค่ะ

ส่วนเปลือกแตงโมที่เหลือหลังจากควักเอาเนื้อไปใช้แล้ว ก็นำมาปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นเสี้ยวยาว ขนาดกว้างประมาณหนึ่งนิ้ว

ต่อจากนั้นก็หยิบชิ้นแตงโมที่เป็นเสี้ยวยาวๆ นั้นมาตัดตามขวางอีกทีหนึ่งเป็นชิ้นพอคำ หั่นเสร็จแล้วล้างน้ำให้สะอาด ถ้ายังไม่มีเวลาแกงในวันนั้น เก็บใส่ถุงพลาสติกไว้ในตู้เย็นใส่ซองธรรมดา จะเก็บไว้ได้ไม่เกินสองคืนค่ะ

ส่วนน้ำพริกแกที่ใช้ปรุง มีดังนี้ค่ะ

นำหอมแดงมาปลอกเปลือกออกราว 10 หัวนะคะ พริกแห้งแกะเม็ดออกล้างน้ำสักสิบเม็ด เพราะแกงส้มชนิดนี้ไม่นิยมรับประทานให้เผ็ดนัก กระชายล้างสะอาดปอกเปลือกออกให้หมดซอยหยาบๆ ราว 5 ดอก

นำของสามอย่างนี้มาโขลกให้สะอาดก่อนที่จะใส่กะปิลงไปอีกหนึ่งช้อนชาแล้วโขลกให้เข้ากันดี

เมื่อกระดูกหมูที่เคี่ยวไว้เปื่อยดีแล้ว ตักน้ำพริกที่โขลกไว้ใส่ลงหม้อคนให้ดี พอน้ำแกงเดือดอีกทีหนึ่งใส่เปลือกแดงที่หั่นเตรียมไว้ลงไป (ถ้าใส่กระดูก หมูครึ่งกิโลก็ใส่เปลือกแตงที่หั่นไว้ลงไปราว 4 ถ้วย ตวงก็พอค่ะ เพราะพอน้ำแกงเดือดแล้วแตงจะยุบไปอีกคะ

เครื่องใช้ปรุงรสมี น้ำส้มมะขามเปียก (ถ้าได้มะขามใหม่จะดีกว่ามะขามค้างปีมากเลยค่ะ น้ำแกงก็จะมีสีสวยกว่ากัน มะขามเปียกใหม่จะมีสีน้ำตาลอมแดงค่ะ ส่วนมะขามค้างปีจะมีสีค่อนข้างดำค่ะ) น้ำตาลปี๊บและน้ำปลาดีค่ะ

หลังจากใส่เครื่องปรุงลงไป ชิมรสชอบใจแล้วนะคะ นำไข่มา 1-2 ฟองมาต่อยใส่ชามใช้ส้อมตีให้แตกเข้ากันดี ค่อยๆ เทลงในห้อแกงที่กำลังเดือด ส่วนอีกมือหนึ่งก็คอยคนน้ำแกงเข้าไว้เพื่อนให้น้ำแกงกระจายออก ไข่จะได้ไม่เกาะกันเป็นก้อนอยู่ที่เดียว

แกงส้มชนิดนี้บางคนชอบรับประทานโดยมีปลาช่อนแห้งหรือปลาสลิด ซึ่งต้องนำมาปิ้งแล้วทุบทอดจนฟูเป็นเครื่องแนม (เช่นสามีของผู้เขียนเป็นต้น)

พูดมาถึงตรงนี้ เผอิญผู้เขียนไปได้ตำราทำปลาสลิดฟูมาจากเพื่อนผู้มีใจอารีก็เลยอยากจะเผื่อแผ่ มาถึงท่านผู้อ่านด้วย เผื่อมีโอกาสรับประทาน ของอร่อยด้วยกัน ขออนุญาตและขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของตำราไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ในตำราบอกไว้ว่า ให้นำปลาสลิด (ตากแห้งแล้ว) มาแช่ไว้ในน้ำธรรมดาราวสิบนาที

ต่อมาให้นำปลาไปปิ้งไฟอ่อนๆ พอสุกแล้วค่อยๆ แบะออกเป็นสองซีกทิ้งก้างกลางไป ส่วนเนื้อปลานั้นให้ใช้ส้อมตะกุยให้ฟู ก่อนนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัดกลับเพียงหนเดียวแล้วจึงเอาขึ้นมาวางบนกระดาษเพื่อให้ซับน้ำมัน เย็นดีแล้วค่อยเก็บใส่กล่อง

ปลาสลิดฟูชนิดนี้รับประทานกับข้าวต้มอร่อยค่ะ หรือจะนำไปรับประทานเป็นเครื่องเคียงแกงทุกชนิด น้ำพริกทุกชนิดก็อร่อย หรือจะนำไปยำเป็นมะม่วงสับใส่หอมซอยและน้ำตาลทรายเล็กน้อยก็รับประทานเพลิน

อ๊ะ! อ๊ะ! แต่อย่าบอกเลยนะคะว่า คุณน่ะชอบรับประทานเล่นเปล่าๆ เหมือน กันกับผู้เขียน

หน้า 5

ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์
คอลัมน์ ทำกินกันเอง
คุณสุคนธ์ จันทรางศุ

อาทิตยวารสวัสดิ์วิบูลย์ค่ะ

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2555

Last Update : 25 พฤศจิกายน 2555 12:00:51 น.

0 comments

Counter : 2242 Pageviews.