"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 
23 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
ปลาปะหมู ( ตอนที่ 1 ) - สุคนธ์ จันทรางศุ

คอลัมน์ ทำกินกันเอง
สุคนธ์ จันทรางศุ



 

 

 

 

 

 

 

 

 

พูดถึงบรรดาปลาแม่น้ำ (คือปลาน้ำจืดค่ะ) ทั้งหลาย ทำให้ผู้เขียนอดคิดไปถึงเมื่อตอนสมัยยังเป็นเด็กไม่ได้

ตอนนั้นผู้เขียนเคยติดตามบิดามารดาไปใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดเสียนานหลายปี ทำให้ประทับใจในชีวิตเรียบง่ายของชาวชนบทในสมัยนั้นมาจนกระทั่งทุกวันนี้

ผู้เขียนชอบตามแม่ครัวเวลาเขาไปจ่ายตลาดตอนเช้ากัน สมัยก่อนคนไปจ่ายตลาดกันตั้งแต่เช้ามืด ประมาณตีห้าเศษ บรรดาแม่ค้าที่อยู่ตามชนบทจะหาบของทยอยเดินกลับเข้ามาที่ตลาดเป็นทิวแถว

ผู้เขียนชอบเดินตามมารดาไปซื้อไข่มดที่เขาใส่ชามกะละมังเคลือบสีขาวมาวางขาย มีถ้วยตะไลขนาดที่เขาบรรจุขนมถ้วยขนาดใหญ่เป็นเครื่องตวง ไข่มดจะเป็นเม็ดกลมๆสีขาวขนาดไข่มุกเม็ดเขื่อง

มารดาผู้เขียนชอบซื้อไข่มดไปกำนัลญาติพี่น้องเวลาเข้ากรุงเทพฯเพราะเป็นของหายากในเมืองหลวง

ผู้เขียนชอบไปยืนดูขนมดอกโสนที่หน้าตาคล้ายคลึงกันกับขนมขี้หนูของภาคกลาง แต่มีเนื้อสีเหลืองของดอกโสนปนอยู่ในแป้งด้วย

ส่วนขนมขี้หนูนั้นก็จะวางอยู่อีกทางหนึ่งเป็นผงละเอียด อ่อนนุ่มสีชมพูอ่อนเวลาซื้อเขาจะใช้ที่ขูดมะพร้าวด้วยมือขูดมะพร้าวทึนทึกใส่มาให้ด้วยค่ะ (มะพร้าวทึนทึก คือมะพร้าวกลางอ่อนกลางแก่ค่ะ คนในสมัยก่อนนิยมนำมาใช้ทำขนมรับประทานกันค่ะ)

แต่เวลาที่จะรับประทาน ผู้ใหญ่จะสอนให้เราจับขนมม้วนไปตามทางยาวของใบตอง ม้วนไปหลายๆ ชั้นหน่อยค่ะ แล้วจึงจับแท่งใบตองนั้นมาบิดให้แน่นหนึ่งครั้ง พอเราคลายห่อขนมออกเราจะได้ขนมเป็นแท่งยาว มีน้ำกะทิอันเกิดจากมะพร้าวขูดที่ถูกแรงบิดออกมาปะปนอยู่ด้วย ทำให้เรารับประทานกันด้วยความเอร็ดอร่อย ซึ่งผู้เขียนคิดว่าเป็นวิธีรับประทานขนมของคนสมัยก่อนอย่างหนึ่งที่แสนจะชาญฉลาดค่ะ


ขนมอีกอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนชอบไปยืนดูคือข้าวเหนียวต่างๆค่ะ คือนอกจากเขาจะทำหน้าสังขยา หน้ากระฉีก (ถ้าเป็น หน้ากระฉีกเขาจะใช้คู่กับข้าวเหนียวดำค่ะ) หน้าปลาแห้ง (ที่พิษณุโลกมีปลาแห้งขายมากมายในตอนนั้น เพราะความอุดมสมบูรณ์ของ "ปลา" ในลำน้ำค่ะ แต่ประหลาดแท้เขาเรียกว่า "ปลาเกลือ" ค่ะ) ข้าวเหนียวหน้ากุ้งของเขาจะมีสีสวยมากค่ะ คือตัวข้าวเหนียวจะเป็นสีเหลืองตัดกับหน้าซึ่งสมัยนั้นเป็นกุ้งแท้ๆนะคะ สีส้มอมแสด สวยสุดใจเลยค่ะ

พูดถึงเรื่องข้าวเหนียวหน้ากุ้งที่ว่านี้ทำให้นึกออกถึงเรื่องขำๆเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

คือเมื่อประมาณ 2-3 ปีมานี้ ผู้เขียนกับลูกชายไปเยี่ยม เพื่อนของลูกคนหนึ่งซึ่งไปนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล (ผ่าตัดไส้ติ่งน่ะคะ)

พอผู้เขียนและลูกชายโผล่เข้าไปในห้อง คนป่วย แลไปเห็นคนเจ็บนอนระทวยอยู่บน เตียงในชุดกางเกงสีปุนแห้งอมแสด และเสื้อยืดคอกลมสีเหลืองอ๋อย ทำให้ผู้เขียนหลุดปากออกไปโดยไม่ทัน คิด ว่า

"ต๊าย! นึกว่าข้าวเหนียวหน้ากุ้ง!"

เท่านั้นแหละค่ะ เรียกเสียงฮาได้ลั่น ห้อง พร้อมทั้งมีเสียงเรียกร้องขอคำอธิบายตามมา

แล้วยังมีขนมด้วงที่ตัวขาวราวกับด้วงตัวใหญ่นอนมาในซีกหนึ่งของถาดขนมสี่เหลี่ยมใบใหญ่ เวลาซื้อผู้ขายเขาจะตักใส่ใบตอง(ตอนนั้นถุงพลาสติกยังไม่เกิดค่ะ) แล้วก็มีมะพร้าวขูดปนงาและน้ำตาลทรายแถมหัวกะทิข้นๆราดมาให้ด้วยค่ะ แสนจะอร่อย

ส่วนอีกซีกหนึ่งของถาดนั้นเป็นข้าวเหนียวค่ะ ของรับประทานคู่กันคือน้ำเชื่อมสีน้ำตาลเข้มเป็นคาราเมล แถมโรยด้วยข้าวคั่วอีกนิดหน่อยค่ะ

ของสดที่หาได้ยากอีกอย่างหนึ่งในตลาดก็คือปลาน้ำจืดค่ะ เพราะพิษณุ โลกเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน ค่ะ หรือเรียกได้อีกอย่างหนึ่งค่ะว่ามีแม่น้ำผ่านกลางเลยแหละ ในสมัยก่อนเรา จึงรู้จักเมืองนี้ในนามว่า "เมืองอกแตก" หรือ "เมืองสองแคว" ไงคะ

ปลาในตลาดนอกจากจะมีปลาดุก ปลาช่อน และปลาที่เราเคยเห็นกันจนชินอย่างปลาสวาย ปลาเทโพ ปลากราย ปลาเนื้ออ่อนแล้ว

เรายังได้เห็นปลาแปลกๆ เป็นต้นว่า ปลาสังกะวาดที่มีหนวดยุ่มย่าม เขามักนำมาร้อยขายเป็นพวงๆซึ่งแม่ครัวของเราชอบซื้อมาทำพริกขิงแสนอร่อยให้เรากินกันบ่อยๆ

ส่วนปลาสร้อยซึ่งเป็นปลาตัวเล็กนั้น เขาขายกันทีละถังน้ำมันใหญ่ๆมารดาผู้เขียนชอบซื้อมาทำน้ำปลารับประทานเองค่ะ เวลาทำครั้งหนึ่งจะใช้รับประทานไปเป็นปี ผู้เขียนยังจำได้ถึงหัวน้ำปลาที่คุณแม่เรียกว่าน้ำปลาที่หนึ่งตั้งเรียงตากแดดเป็นทิวแถวออกสีน้ำตาลเข้มใสแจ๋วราวกับเหล้าแม่โขง

แม่ครัวมักจะชอบซื้อปลาสวายชิ้นใหญ่มาทอดจนเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล เนื้อสองข้างของลำตัวตามขวางของมันจะเป็นรูปวงกลมคล้ายกับหอย เวลาสุกขึ้นมาร้อนๆตักออกมาจิ้มกับ "หัวน้ำปลา" ที่ว่าจะมีรสอร่อยนัก

(อ่านต่อฉบับหน้า)

หน้า 5

ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์
คอลัมน์ ทำกินกันเอง
คุณสุคนธ์ จันทรางศุ

สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ




Create Date : 23 ตุลาคม 2555
Last Update : 23 ตุลาคม 2555 9:05:01 น. 0 comments
Counter : 1558 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.