|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
สุมิตตากุมารี
วิมุตติรัตนมาลี โดย พระพรหมโมลี
( วิลาศ ญาณวโร ป.ธ.9)
จะกล่าวถึงกุมารีนางหนึ่ง ซึ่งเป็นสาวแรกรุ่นโสภาอายุได้ 16 ปี เป็นบุตรีของคฤหบดีชาวปัจจันตคาม
วันนั้นเมื่อมีการประกาศว่า ให้มหาชนช่วยกันแผ้วถางทางเพื่อรับเสด็จสมเด็จพระทีปังกรบรมโลกนาถเจ้า ก็มีศรัทธามาร่วมถากถางทางกับชาวบ้านปัจจันตคามทั้งหลายด้วย ครั้นได้ทอดทัศนาเห็นสุเมธฤๅษีผู้มีฤทธิ์เหาะมาจากป่าใหญ่ ก็ให้มีความแปลกประหลาดใจเป็นอันมากกาลต่อมา เมื่อเห็นมหาชนพากันแกล้งชี้มือบอกฤๅษีผู้ขออนุญาตให้ไปทำทาง ณ บริเวณที่เต็มไปด้วยโคลนเลนซึ่งเป็นสถานที่จะทำให้สำเร็จได้ยากลำบากหากฤๅษีผู้มีฤทธิ์ก็รับทำจำยอมแต่โดยดี เจ้าสุมิตตากุมารีก็มีความเห็นใจแลสงสารท่านฤๅษี จึงช่วยแผ้วถางและขนดินจากที่อื่นเทถมในที่นั่นด้วยใจภักดี แล้วก็ลอบชำเลืองดูร่างฤๅษีผู้ศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้อยู่ไปมา
แต่พอได้เสวนาการพระพุทธฏีกาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทีปังกรบรมศาสดา ทรงประกาศแก่ปวงมหาชนว่า สุเมธฤๅษีจักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลอีกนานหนักหนา สุมิตตา กุมารีเจ้า ก็บังเกิดความยินดีปรีดา รีบวิ่งไปแสวงหาดอกไม้ ได้ดอกอุบลสดใหม่มา 8 ดอก แล้วจึงซบกายถวายบังคมลงตรงเบื้องพระพักตร์ กระทำการสักการบูชาสมเด็จพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า ออกโอษฐ์ตั้งปณิธานความตาม ประสาใจของนางในขณะนั้นว่า
" ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐเป็นพระบรมโลกุตมาจารย์ ด้วยเดชะอานิสงส์ที่ข้าพระบาทน้อยได้กระทำการบูชาแก่สมเด็จพระพุทธองค์เจ้าในกาลบัดนี้ ขอให้สุเมธฤๅษี จงเป็นสามีของข้าพระบาทสมใจปรารถนาในภายภาคหน้าด้วยเถิด
ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐบุญกุศลใดๆ อันเกิดจากพลีกำลังกายถากถางทางเพื่อเสด็จพระพุทธดำเนินในครั้งนี้ก็ดี และบุญกุศที่ได้ถวายสักการบูชาสมเด็จพระทศพลด้วยดอกอุบลอันงามนี้ก็ดี ขอให้สุเมธฤๅษีนี้ จงได้เป็นสามีร่วมรักแห่งข้าพระบาทผู้มีวาสนาน้อยในอนาคตกาลด้วยเถิด"
สุเมธฤๅษีโพธิสัตว์ผู้ซึ่งได้รับลัทธยาเทศคำพยากรณ์จากพระโอษฐ์แห่งองค์สมเด็จพระชินสีห์ทีปังกรเจ้าว่า จักได้สำเร็จซึ่งพระพุทธภูมิในอนาคตภายภาคหน้า ครั้นได้เสวนาการกุมารีงามโศภาชาวปัจจันตคาม เจ้ามาตั้งความปรารถนาจะได้ตนเป็นสามี เฉพาะพระพักตร์สมเด็จพระทีปังกรพุทธเจ้าอย่าตรงแท้ตามประสาใจนางเช่นนั้น ก็ให้พลันสะดุ้งตกใจเป็นล้นพ้น
ทั้งนี้ก็เพราะว่า ในขณะนั้น ตนเป็นผู้ได้บรรลุถึงฝั่งแห่งฌานสมาบัติอันจัดเป็นวิกขัมภนวิมุตติกิเลสราคะสงบซบอยู่ด้วยอำนาจแห่งกำลังฌาน จะได้มีตัณหาความอยากได้ใคร่ดีในนางกุมารีน้อย แม้แต่สักนิดหนึ่งก็หามิได้ ดังนั้น ท่านสุเมธฤๅษีผู้มีฤทธิ์จึงมีวาจากล่าวห้ามปรามความปรารถนาแห่งเจ้าสุมิตตากุมารีขึ้นว่า
"ดูกรเจ้าซึ่งมีพักตร์อันเจริญ อันความปรารถนาแห่งเจ้าที่จะได้เราเป็นสามีนี้ แม้จะเป็นความปรารถนาที่ดี แต่เราจะได้ชอบใจด้วยแม้แต่สักนิดหนึ่งก็หามิได้ ขอเจ้าจงถอนความปรารถนาเช่นนั้นเสียในกาลบัดนี้ ขอเจ้าอย่าพึงกระทำความปรารถนาอย่างนั้นเลย จงปรารถนาอย่างอื่นเถิด"
สุมิตตากุมารีสาวงามแห่งปัจจันตคาม ซึ่งมีความปรารถนาในใจอันมั่นคงแรงกล้า แม้จะถูกฤๅษีออกวาจากล่าวห้ามปราม ฉะนี้เป็นหลายหนหลายครั้ง นางก็ยังยึดมั่นอยู่ในความปรารถนาดั้งเดิม หาแปรไปเป็นอื่นไม่
สมเด็จพระจอมไตรโลกนาถทีปังกรบรมศาสดาจารย์ พระองค์ผู้ทรงมีพระญาณอันไม่ขัดข้องในทุกกรณี เมื่อทรงอาวัชนาการดูเหตุอันจักพึงมีในอนาคตกาลแจ้งประจักษ์ ในพระญาณ จึงทรงมีพระมหากรุณาตรัสแก่สุเมธดาบสว่า
"ดูกรสุเมธดาบสเอ๋ย ตัวท่านอย่าได้ห้ามซึ่งความปรารถนาแห่งกุมารีน้อยนี้เลย ด้วยว่า ในอนาคตกาลภายหน้า เมื่อตัวท่านบำเพ็ญพุทธบารมีธรรมเพื่อบ่มพระบรมโพธิญาณให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์นั้น กุมารีมีจิตมั่นคงนี้จักเป็นที่พึ่งอาศัยของท่าน และท่านจักได้บำเพ็ญบารมีเป็นภริยาทานบริจาคในกาลภายหน้าได้ ก็โดยอาศัยกุมารีนี้แลเป็นปัจจัยสำคัญ
ดูกรสุเมธดาบสเอ๋ย ถึงเราตถาคตนี้ เมื่อยังสร้างพระบารมีท่องเที่ยวอยู่ในกระแสวัฏสงสารได้อาศัยสตรีภาพจึงมีโอกาสบำเพ็ญภริยาทานเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ขอท่านจงอย่าห้ามความปรารถนาแห่งนาง จงปล่อยให้เป็นไปตามประสาแห่งใจนาง ในกาลบัดนี้เถิด"
สุเมธฤๅษีได้เสวนาการพระพุทธฎีกาแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงสวัสดิภาคฉะนี้ ก็มีความเลื่อมใสเชื่อฟังด้วยดี น้อมเศียรศิโรตม์อันทรงไว้ซึ่งชฎา รับพระพุทธฎีกาว่า สาธุ ! สาธุ !
ดังนี้แล้ว ก็ค่อยคลานออกมา เพื่อเปิดโอกาสให้สมเด็จพระพุทธองค์ทรงพาพระภิกษุสงฆ์เสด็จพระพุทธดำเนินไปยังปัจจันตคาม ตามคำอาราธนาของชาวประชาต่อไป ครั้นล่วงทัศนวิสัยสมเด็จพระพุทธองค์และสงฆ์บริษัทแล้ว สุเมธฤๅษีมหาบุรุษ ก็อุฏฐาการลุกขึ้นจากลักษณาการที่ หมอบคลาน หากแต่ยังมีดวงมานเต็มไปด้วยความปรีดาปราโมทย์ จึงมิได้เคลื่อนกายไปไหน กลับทำบัลลังก์นั่งสมาธิคำนึงด้วยปีติว่า
"เราเป็นผู้มีฌานชำนาญเป็นอันดี หมู่ฤาษีทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุ จะได้มีอิทธิวิธีธรรม และความสามารถเสมอด้วยตัวเรานั้นหามิได้ เพราะว่าเราได้อาศัยสมาบัติธรรมมากมั่นอยู่ในสันดาน จึงได้เสวยความสุขสิ้นเสื่อมกายวิการเห็นปานดั่งนี้"
กาลเมื่อสุเมธฤๅษีนั่งบัลลังก์สมาธิอยู่นั้น บรรดาเทพเจ้าทุกถิ่นสถานในโลกจักรวาล ต่างก็พากันมาประสานศัพท์นฤนาทก้องแซ่ซ้องสาธุการถวายพระพรว่า
"ข้าแต่ท่านฤๅษี ตัวท่านนี้จักได้ตรัสแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณสำเร็จเป็นองค์พระบรมโลกุตมาจารย์เป็นที่เที่ยงแท้ มิได้แปรปรวนวิปริต ขอท่านจงตั้งจิตถือมั่นผูกพันความพยายาม อย่าให้ความเพียรนั้นกลับถอยน้อยลงไป จงทำวิริยบารมีให้ยิ่งใหญ่ เพื่อได้ตรัสเป็นองค์สมเด็จพระชินสีห์ตรีโลกนาถเจ้าต่อไป ให้สมกับพระพุทธฎีกาพยากรณ์ในวันนี้เถิดเจ้าข้า"
สุเมธฤๅษีมหาโพธิสัตว์ เมื่อได้สดับคำอำนวยพรของทวยเทพเจ้าดั่งนั้นก็ยิ่งมีกมลมั่นคำนึงวินิจฉัยถึงพุทธฎีกาพยากรณ์ว่า
"ธรรมดาพระพุทธพากยกถา คือ พระพุทธฎีกาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายนี้ ย่อมเป็นสุภาษิต จะได้วิปริตผิดพจนะกระแสแปรไปสองหรือเป็นสภาวะสูญเปล่ามิได้เป็นจริงนั้นย่อมเป็นไปมิได้ พระองค์ดำรัสอรรถคดีสิ่งไร สิ่งนั้นย่อมเป็นไปแน่แท้ดั่งกระแสพระพุทธบรรหาร พระโพธิญาณแห่งเราคงจักสำเร็จสมประสงค์เป็นแม่นมั่น เรานั้นคงจะได้ตรัสเป็นพระสัพพัญญูเจ้าอย่างเที่ยงแท้ในอนาคต กำหนดกาลอีก 4 อสงไขยแสนกัปเท่านั้น"
ครั้นคำนึงถึงวินิจฉัยฉะนี้แล้ว สุเมธฤๅษีจึงพิจารณาทศบารมีธรรมทั้งปวงสืบไปด้วยอำนาจอภิญญาฌานสมาบัติที่ตนชำนาญแล้วด้วยดีเป็นวสีภาพแล้วก็ทราบชัดว่า โพธิปริปาจนธรรมสำหรับบ่มพระพุทธภูมินั้น ตนได้สั่งสมมามากมายชั่วระยะเวลานานหลายอสงไขยทีเดียว เป็นด้วยเดชะมหานุภาพที่พระดาบสนั่งพิจารณาบารมีที่เคยสร้างไว้ในขณะนั้น พอการพิจารณาพุทธบารมีธรรมอันยิ่งใหญ่จบลงก็พลันบันดาลให้บังเกิดโกลาหลทั่วพิภพจบสกล พสุธาดลพื้นปฐพีก็มีอันก้องกึกพิลึกสนั่นหวั่นไหวประหนึ่งว่าจะแตกทำลายลง
คราทีนั้น ปวงมหาชนในปัจจันตคามต่างก็พากันล้มสยบหวาดเสียวอยู่ มิได้ล่วงรู้เหตุร้ายดีประการใด ล้วนแต่ตกใจกลัวแก่เหตุการณ์ข้างที่ร้ายนั่นแลเป็นกำลัง จึงรีบพากันเข้าเฝ้าสมเด็จพระทีปังกรพุทธเจ้าแล้วกราบทูลถามว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มหาโกลาหลนี้ ปรากฏมีขึ้นด้วยมหาศักดานุภาพของทวยเทพ อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ หรือ ฤๅษีสิทธิ์ศักดิ์ อสูร นาค ครุฑ ตนใด ข้าพระบาททั้งหลายจะได้ทราบก็หาไม่ จักเป็นมหาวินาศภัยมาบีฑาโลกธาตุ หรือจักเป็นด้วยอำนาจอุปัทวการบาปกรรมสิ่งใดประดามี หรือว่าจะเป็นสวัสดิมงคลประการใด ขอสมเด็จพระจอมไตรโลกนาถจงทรงแสดงเหตุให้ข้าพระบาททั้งปวงได้ทราบด้วยเถิด พระเจ้าข้า"
สมเด็จพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงมีพระพุทธดำรัส สำแดงเหตุมหาโกลาหลแก่มหาชนในที่นั่นว่า
"ดูราท่านทั้งหลาย ขอท่านทั้งปวงจงอย่ามีความสะดุ้งหวาดเสียวต่อภัยสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย การที่เมทนีคือแผ่นดินเกิดกึกก้องโกลาหลกำเริบขึ้นนี้ ก็เพราะเหตุที่เราตถาคตได้พยากรณ์สุเมธดาบสว่า เธอจักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล บัดนี้สุเมธดาบสนั้นเธอคำนึงวินิจฉัยถึงบารมีธรรมของตน มหาโกลาหลจึงบังเกิดมีขึ้น ด้วยเดชะอำนาจคุณบารมีของพระโพธิสัตว์สุเมธดาบสนั้นเป็นสำคัญ"
หมู่มหาชนครั้นได้สดับพระพุทธฎีกาดังนั้น ต่างก็มีกมลโสมนัสปสันนาการในสุเมธฤๅษียิ่งหนักหนา รีบพากันจัดประทีปธูปเทียนบุปผาสุมาลัย ออกไปประชุมกันสักการบูชา ต่างคนต่างก็ออกโอษฐ์ ออกวาจาเป็นมธุรอรรถวาที ด้วยคำอันเป็นมงคลเป็นต้นว่า
"ข้าแต่ท่านดาบส ขอให้ท่านได้ตรัสเป็นองค์สมเด็จพระทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคหน้าให้สมจริงตามพระพุทธฎีกาพยากรณ์นั่นเถิด เจ้าข้า"
แม้ปวงเทพยดาในสกลเทวสถานทั่วโลกธาตุ ก็พากันมากระทำสักการบูชาด้วยทิพยสุคนธมาลัยงามเลิศต่างๆทิ้งโปรยปรายลงมาจากนภากาศมากมายราวกับว่าห่าฝนยังปฐพีดลบริเวณนั้น ให้เต็มไปด้วยทิพยบุปผานานาพรรณ แล้วก็พากันบันลือศัพท์สาธุการเพรียกพร้องร้องถวายเทพพรมงคลว่า
"ข้าแต่สุเมธดาบสผู้เจริญ วันนี้ตัวท่านมีมหาลาภและประสบกองบุญอันยิ่งใหญ่ ได้แล้วซึ่งคำพยากรณ์จากสำนักสมเด็จพระทีปังกรทศพลญาณขอความปรารถนาของท่านจงสำเร็จสมตามมโนปณิธาน ขอท่านจงได้ตรัสแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นพระตรีโลกนาถศาสดาจารย์สมตามพระพุทธทำนาย
อนึ่ง สมเด็จพระไตรโลกนาถศาสดาจารย์ พระองค์ที่ล่วงแล้วมาทุกพระองค์ ล้วนแต่ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีถึงที่สุด แล้วก็ได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ สถิตเหนืออปราชิตบัลลังก์และได้ทรงแสดงพระธรรมจักรเทศนาอันเป็นพระพุทธประเพณีสืบมาฉันใด ขอท่านดาบสจงบำเพ็ญพระบารมีให้ถึงที่สุดแล้วสถิตเหนือ อปราชิตบัลลังก์แสดงพระธรรมจักรเทศนา เหมือนกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ล่วงมาแล้วนั้นเถิด
อนึ่ง นทีแม่ น้ำน้อยใหญ่ใดๆ ย่อมมีกระแสชลอันไหลหลั่งมาสู่มหาสมุทรทั้งหมดฉันใด ขอท่านดาบสจงได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นองค์อัครมหามกุฎอาจารย์จอมโลก เป็นที่ไหลมาแห่งบรรดาประชาสัตว์ทั่วโลกธาตุทั้งหลายดังมหาสมุทรทะเลใหญ่เป็นที่รวมแห่งกระแสชลฉะนั้น"
เมื่อท่านสุเมธฤๅษีผู้มีฤทธิ์เป็นมหัศจรรย์ ได้ทัศนาการเห็นหมู่เทพยดาและมนุษยนิกร มาสโมสรประชุมกันกระทำสักการบูชาและอำนวยศุภพรให้กับตนดั่งนี้ ก็มีความปรีดาโสมนัสว่า
"กาลอนาคตกำหนดยังอีก 4 อสงไขยกับเศษอีก 100,000 มหากัปเท่านั้น เราก็จักได้ตรัสพระสัพพัญญุตญาณเป็นสมเด็จพระตรีโลกาจารย์พุทธเจ้าอย่างเที่ยงแท้"
ครั้นคำนึงนึกแน่แก่ใจตนฉะนี้ สุเมธฤๅษี ซึ่งเป็นดาบสผู้มีฤทธิ์นั้นจึงอธิษฐานมั่นด้วยวิริยบารมี หน่วงเอาพระพุทธคุณมาเป็นอารมณ์ น้อมกายบ่ายพักตร์บังคมเฉพาะทิศอันเป็นที่สถิตอยู่แห่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทีปังกรสัมมาสัมพุทธอรหันต์แล้ว ก็มีใจผ่องแผ้วอธิษฐานให้บังเกิดฌานอภิญญา เหาะทะยานว่ายฟ้าบ่ายหน้าไปยังมหาอรัญอันเป็นที่อยู่แห่งตน ครั้นสิ้นชนมายุแล้วก็ได้ไปอุบัติเป็นพระพรหมผู้วิเศษ สถิตเสวยพรหมสมบัติเป็นสุขอยู่ ณ รูปภพพรหมภูมิโดยอำนาจฌานสมาบัติอันจัดเป็นวิกขัมภนวิมุตติที่ตนได้บรรลุแล้วนั้น
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ...
ที่มา : //bannpeeploy.exteen.com/20080129/entry
Create Date : 26 พฤศจิกายน 2552 |
|
92 comments |
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2552 22:21:51 น. |
Counter : 1487 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 26 พฤศจิกายน 2552 22:41:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 27 พฤศจิกายน 2552 7:23:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV 27 พฤศจิกายน 2552 9:13:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 27 พฤศจิกายน 2552 9:47:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 27 พฤศจิกายน 2552 11:50:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 27 พฤศจิกายน 2552 12:54:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาลีอา 27 พฤศจิกายน 2552 13:16:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: nLatte 27 พฤศจิกายน 2552 14:07:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: มินทิวา 27 พฤศจิกายน 2552 17:19:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ้วนforest IP: 112.142.56.138 27 พฤศจิกายน 2552 17:33:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV IP: 125.26.109.161 27 พฤศจิกายน 2552 17:38:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 27 พฤศจิกายน 2552 20:13:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: deeplove 28 พฤศจิกายน 2552 1:50:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: กัดหมอน (กัดหมอน ) 28 พฤศจิกายน 2552 6:29:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 พฤศจิกายน 2552 7:15:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 28 พฤศจิกายน 2552 15:18:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV IP: 113.53.103.134 28 พฤศจิกายน 2552 17:25:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวp_box 28 พฤศจิกายน 2552 18:13:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 28 พฤศจิกายน 2552 18:37:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: deeplove 28 พฤศจิกายน 2552 21:02:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 28 พฤศจิกายน 2552 21:05:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 28 พฤศจิกายน 2552 22:02:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ้วนforest IP: 119.31.126.141 28 พฤศจิกายน 2552 22:20:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 พฤศจิกายน 2552 23:55:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 พฤศจิกายน 2552 6:18:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 29 พฤศจิกายน 2552 8:37:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV 29 พฤศจิกายน 2552 10:00:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: nLatte 29 พฤศจิกายน 2552 14:43:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ้วนforest IP: 118.172.28.126 29 พฤศจิกายน 2552 18:36:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: กัดหมอน (กัดหมอน ) 29 พฤศจิกายน 2552 19:44:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 29 พฤศจิกายน 2552 22:04:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องข้าวเหนียวกะพี่หมูปิ้ง (MooBamBam ) 29 พฤศจิกายน 2552 22:59:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 30 พฤศจิกายน 2552 6:58:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแว่น 30 พฤศจิกายน 2552 7:13:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 พฤศจิกายน 2552 7:23:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV 30 พฤศจิกายน 2552 8:22:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: nLatte 30 พฤศจิกายน 2552 8:26:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 30 พฤศจิกายน 2552 11:58:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV IP: 125.26.109.53 30 พฤศจิกายน 2552 12:08:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: nLatte 30 พฤศจิกายน 2552 13:06:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 พฤศจิกายน 2552 13:36:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ซอมพอแสด 30 พฤศจิกายน 2552 14:40:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV IP: 125.26.109.53 30 พฤศจิกายน 2552 16:12:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV IP: 125.26.109.53 30 พฤศจิกายน 2552 16:21:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 พฤศจิกายน 2552 16:29:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 30 พฤศจิกายน 2552 16:48:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 30 พฤศจิกายน 2552 17:40:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่มณี หลินเอ๋อ (ย่าชอบเล่า ) 30 พฤศจิกายน 2552 18:49:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: Budratsa 30 พฤศจิกายน 2552 19:48:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ้วนforest IP: 192.168.50.190, 222.123.208.220 30 พฤศจิกายน 2552 21:39:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 30 พฤศจิกายน 2552 23:15:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: I_sabai 1 ธันวาคม 2552 7:58:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธู 1 ธันวาคม 2552 10:13:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 1 ธันวาคม 2552 11:13:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: อมิธีสท์ 1 ธันวาคม 2552 13:27:55 น. |
|
|
|
|
|
|
เพียรฝึกตนใฝ่รู้ หลักธรรม
จิตเพ่งคิดจดจำ บ่มไว้
หมายเพียรมุ่งตัดกรรม วัฏฏะ
หวังสละจิตสุดท้าย ดิ่งเข้านิพพาน..
|
|
|
|
|
|
|
ตอนนี้ยาวครับผม
ขอโมทนาด้วยครับ
แล้วจะมาติดตามทุกๆ ตอนนะครับ
พี่ไผ่มาชวนไปเที่ยวครับผม
ที่บ้านอัพบล็อกใหม่ 4 บล็อก ครับ
ว่างๆ ขอเรียนเชิญที่บล็อกนะครับ
คลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่ได้ครับ
หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ