Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
26 กุมภาพันธ์ 2553

มนตราแห่งศิลาทราย : วาระสุดท้ายแห่งอาณาจักรพระนคร




พระเจ้าอินทรวรมันที่ 2 ( 1220-1243) ได้ครองราชย์เป็นพระองค์ต่อมา
การสร้างศาสนสถานใหม่แทบจะเป็นไปไม่ได้ อาจเพียงต่อเติมปราสาท
ที่มิได้แล้วเสร็จในรัชกาลให้ลุล่วง ก็คงเป็นงานที่หนักเกินกำลังไปแล้ว

เมืองพระนครเข้าสู่ยุคของการปลดแอกจากอำนาจของเมืองต่างๆ โดยรอบ
ปี 1238 พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง ร่วมมือกันชิงเมืองสุโขทัย
คืนจากขอมสบาดโขลญลำพง แต่พ่อขุนผาเมืองก็ยกเมืองสุโขทัย
พระแสงขรรค์ชัยศรี และพระนามกมรเตงอัญศรีบดินทราทิตย์
ที่ได้รับมาจากกษัตริย์เขมร ในการเป็นเจ้าเมืองราดให้กับ
พ่อขุนบางกลางหาวตามประวัติศาสตร์ แห่งการก่อตั้งรัฐสุโขทัย

พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 (1243 - 1295) กษัตริย์พระองค์ต่อมา
ก็เป็นการทวงคืนอำนาจของเหล่าพราห์มที่สูญเสียอิทธิพล
เนื่องจากการเปลี่ยนศาสนา ให้เมืองกลับมาเป็นไศวนิกายเช่นที่เคยเป็น
ปราสาทพุทธมหายานที่สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั้น
ใบหน้าของพระพุทธเจ้าถูกลบ บางภาพถูกสลักทับด้วยภาพฤาษี

พระเจ้าชัยวรมันพาราเมศวร เป็นกษัตริย์พระองค์สุดท้ายที่ปรากฏในจารึก
หลังจากปี 1340 เขมรก็ได้ยกเลิกประเพณีการสรรเสริญพระมหากษัตริย์
โดยการจารึกภาษาสันสกฤษ ลงบนแผ่นหิน เป็นการบันทึกพงศาวดาร
เป็นภาษาบาลีลงในสมุด ซึ่งเป็นภาษาทางการของศาสนาพุทธ-หินยาน




ปี 1350 ละโว้ซึ่งเป็นกองทัพที่เดินตามหลังทัพเสียมกุก ในภาพสลักนครวัด
ได้ก่อตั้งตั้งอาณาจักรอยุธยา โดยพระเจ้าอู่ทองปฐมบรมกษัตริย์
แม้อาณาจักรพระนครจะอ่อนแอลง แต่ก็ยังอยู่ยืนยงร่วมสมัยมาได้
จนถึงปี 1432 ที่เจ้าสามพระยายกทัพไปล้อมเมืองพระนครอยู่ 7 เดือน
ก็สามารถตีเอาเมืองพระนครหลวงได้ พระองค์ทรงโปรดให้พระอินทราชา
พระโอรสปกครองเมืองนครหลวงในฐานะเมืองประเทศราช

แล้วให้นำเชื้อพระวงศ์ เทวรูป และสมบัติศิลปะของขอม
พร้อมทั้งกวาดต้อนผู้คนและสิ่งของสำคัญๆ มายังกรุงศรีอยุธยา
ทำให้อิทธิพลของเขมรในด้านการปกครอง ประเพณี คติความเชื่อ
ตลอดจนงานศิลปะปรากฏชัดในอยุธยา

พระอินทราชาครองราชย์เมืองพระนครไม่นานก็สิ้นพระชนม์
อยุธยาก็ไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดขึ้นไปดูแลแทน เพราะชาวเขมรได้หลบหนีไป
ซ่องสุมผู้คนแล้วก่อตั้งราชธานีใหม่ที่ละแวก ทำให้เมืองพระนครร้างไป
รวมเวลาแห่งการรุ่งเรืองของการเป็นราชธานีของมหาอาณาจักร
จากศตวรรษที่ 9 ถึง 15 เป็นเวลาเกือบหกร้อยปี



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 16 เมษายน 2553 9:46:33 น. 8 comments
Counter : 1512 Pageviews.  

 
มาศึกษาวาระสุดท้ายของอาณาจักร์พระนคร ไม่มีความรู้ในเรื่องประวัติศาตร์ค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ สมองได้เพิ่มหยักขึ้นมาอีกนิด


โดย: YUCCA วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:46:22 น.  

 
ขอบคุณสำหรับ comment ครับ


โดย: VET53 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:01:04 น.  

 
สงสัย ??? นครวัด ไม่เคยร้างเลยใช่ไหมคะ คือเป็นอย่างนี้มาตลอด

นครธม ด้วยไหมคะ

เพราะเช่นปราสาทตาธมนี่ก็พบภายหลังแบบทิ้งร้างไปแล้วน่ะค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:31:58 น.  

 
ไม่รู้คำตอบที่แท้จริง คาดเดาจากความน่าจะเป็น เมื่อเขมรทื้งเมืองไป

นครธมน่าจะร้าง สังเกตจากปราสาทบาปวนพังเป็นแถบ ปราสาทบายนพังไม่มากน่าจะเพราะตั้งใจทำเพราะเป็นปราสาทประจำรัชกาลของชัยวรมันที่ 7

แต่นครวัดต่างออกไป
1. อยู่ในสภาพดีตั้งแต่ภาพแรกสเกตแรกของฝรั่งเศส
2. หินกว่า 3 ล้านก้อน ถ้าพังคงไม่ซ่อมออกมาขนาดปัจจุบันไม่ได้แน่ๆ
3. มีวัด 2 ข้าง และพระพุทธรูปมากมายที่นี่
4. มีบันทึกถึงการจาริกไปนครวัดโดยพระในรุ่นหลัง
5. สีร้อยปีหลังการสร้าง นักองค์จันกลับมาสลักภาพให้แล้วเสร็จ

ผมเชื่อว่าความใหญ่โตอลังการ ทำให้ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
นักบวขในรุ่นหลังเดินทางมาที่นี่เหมือนการจาริกแสวงบุญ
ทำให้ที่นี่ไม่น่าจะเคยร้าง อย่างน้อยก็สี่ร้อยปีหลังจากการสร้าง


โดย: VET53 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:49:29 น.  

 
มาอ่านข้อสงสัย ขอบคุณค่ะ

วันนี้พาไปพิจิตร ก่อนนะคะ แต่ไม่อยากไปดูแพนด้าหรอกค่ะ เพราะเคยเห็นตอนไปคุนหมิงแล้ว

ดอยอินท์อยากไปอยู่ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:24:16 น.  

 
น่าสนใจจริงๆครับ ถ้ามีการกวาดต้อนชาวเขมรมายังอยุธยา
ลูกหลานของชาวเขมรที่กวาดต้อนมาในตอนนั้น ก็คงต้องปะปนผสมผสาน
จนเป็นคนอยุธยาหรือคนไทยภาคกลางไปแล้วแน่ๆ

เท่ากับว่าภูมิภาคนี้ จริงๆแล้วก็ญาติพี่น้องกันทั้งนั้น ไม่น่าทะเลาะเบาะแว้งกันเลย


โดย: NATSKI13 วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:14:38:26 น.  

 
ประวัติศาสตร์สามารถใช้เป็นพลังในการร่วมมือร่วมใจ
ของคนในชาติได้ ก็ใช้โจมตีกันไปกันมา แต่ถ้าเราอ่าน
มากๆ สุดท้ายเราก็พบว่า มันเป็นเรื่องของอดีต
ที่เราจะเอาความคิดของคนปัจจุบันไปคิดแทนไม่ได้

เรื่องมันจบไปแล้ว
คนรุ่นเรามีแต่ชีวิตที่ต้องมองไปข้างหน้า มิใช่หรือ


โดย: VET53 วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:15:22:27 น.  

 
ไม่รู้จะคอมเมนท์อะไรค่ะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 21 ธันวาคม 2555 เวลา:18:51:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]