Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
17 มกราคม 2556

Koyo Kansai : Tama Densha (2)



16.10 น. กระหืดกระหอบมาซื้อตั๋วรถไฟ คุณลุงเห็นเป็นต่างด้าวเลยให้จ่าย 600 เยน
เป็นตั๋วแบบ one day pass พร้อมทั้งโบชัวร์ภาษาญี่ปุ่น รู้ดีว่าคงใช้ไม่คุ้มตามกฎขึ้นลง 3 ครั้ง
เพราะตอนนี้คงไม่สามารถแวะเที่ยวกลางทางได้ แต่ไม่อยากเสียเวลาสื่อสาร
โชคร้ายที่สองก็ตามมา เมื่อรถไฟขบวนที่จอดนั้นเป็นขบวนปรกติ ไม่ใช่โบกี้ที่เราอยากนั่ง

ถ้าเหลือเวลามากกว่านี้ คงสามารถลงกลางทางเพื่อรอขบวนพิเศษถัดไปได้
แต่ตอนนี้ตารางเวลาออกคือ 4.21 น. แล้วคงต้องนั่งไปถึงสถานีปลายทาง 
ซ้ำร้ายมั่นใจเกินไปไม่ยอมพิมพ์ตารางเดินรถภาษาอังกฤษมาอีก ลืมไปว่าที่นี่คือประเทศญี่ปุ่น
ทั้งหมดนี้เกิดจากความผิดพลาดที่เสียเวลาอันมีค่าจากการตกรถที่ปราสาทตอนเช้า

รถไฟมีเพียงสองตู้วิ่งผ่านสถานีต่างๆ สองข้างทางเป็นวิวของชนบทญี่ปุ่น
มีไร่ส้มให้เห็นแสดงถึงความโดดเด่นของเมืองนี้ ราวครึ่งทางก็มีสียงดนตรีดังขึ้น
มองลงไปมันคือสถานี Idashido ในแผนเดิมเราจะลงไปเที่ยวร้านขายของที่ระลึก
แต่ตอนนี้ดวงอาทิตย์แทบจะตกพ้นผืนฟ้าแล้ว เราได้แต่ทำใจเงียบๆ และนั่งต่อไป

รถไฟยังคงวิ่งต่อไปบนสะพานที่ทอดข้ามผ่านบึงน้ำเล็กๆ แถวสถานี Oikeyuen
ถ้าเราทำเวลาได้ดีกว่านี้คงได้มีโอกาสลงไปเดินเล่น นอกจากนี้แม้แต่สถานีเล็กๆ
มักจะมีสิ่งที่น่าดูเสมอ ไม่ว่าจะเป็นไร่ส้ม ไร่องุ่น หรือแม้กระทั่งทางเดินแสวงบุญ
ที่มีศาลเจ้าเรียงราย เรียกได้ว่า เวลาซักครึ่งวันก็แทบหมดไปได้โดยไม่รู้ตัวทีเดียว



เนื่องจากเป็นรถไฟรางเดี่ยว มันจึงต้องจอดรอหลีกเป็นระยะให้กับขบวนที่สวนทางมา
เริ่มสังเกตว่า มันจะสลับกันระหว่างรถไฟธรรมดากับรถไฟแบบลวดลาย
16.45 หลังจากใช้นั่งมาราว 26 นาที ก็มีเสียงดนตรีดังขึ้นอีกครั้ง ที่นี่สถานี Kishi
จุดหมายหลักที่ทำให้เราดั้นด้นมาที่เมือง Wakayama แห่งนี้

เมื่อไปถึงพบเด็กคนหนึ่งกำลังจ้องจะถ่ายภาพแมวผ่านตู้กระจก
อย่างเอาเป็นเอาตาย ในขณะที่เจ้าเหมียวทำหน้าหวาดกลัวไม่ยอมออกมา
รู้สึกผิดหวังกับภาพที่เห็นเล็กน้อย ราวกับว่ามันรู้ทุกครั้งว่าที่รถไฟจอด
ต้องมีคนมารุมล้อมอย่างแน่นอน ผมถอนตัวเพราะถ่ายไปก็คงไม่ได้ภาพที่ดูดี

ออกจากสถานีไปเห็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง
กำลังยืนถ่ายรูป เราเดินตามไป
เมื่อหันกลับมา เป็นภาพที่น่ารักมาก สถานีรถไฟทีมีรูปหูแมวเล็กๆ อยู่สองข้าง
ทำให้เราแอบยิ้มกับความช่างคิดของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ทุกๆ อย่างที่นี่เต็มไปด้วยแมว สมกับมี Tama เป็น Station master

เหลือบมองนาฬิกาตอนนี้ 16.58 น.คงไม่มีคนถ่ายรูปแล้ว 

ตู้กระจกไฟดับมืด      
“ แมวหายไป ” 



เคยเข้าใจตลอดมาว่าคนญี่ปุ่นตรงเวลา ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมืดแล้วก็ตาม
แต่ว่ามันก็ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนี่นา แล้วแมวหายไปไหนละเนี่ย ????
ความเซ็งเริ่มโถมทับทวีคูณ ตั้งแต่เจอรถไฟขบวนปรกติ อดเที่ยวกลางทาง
ถึงกับทดท้อจนต้องออกไปยืนถ่ายป้ายสวนสตอเบอรี่หน้าสถานี

17.05 น. รถขบวนเดิมกำลังเคลื่อนตัวจากไป เราคงใช้เวลาที่เหลือ
เพื่อจะรอนั่งขบวนพิเศษกลับไปในเมือง สักพักมีคุณป้าญี่ปุ่นคนหนึ่งมาสะกิด
และแน่นอนว่าเค้าต้องพูดภาษาญี่ปุ่นที่เราฟังไม่ออก เดาว่าเค้าอยากให้ตามไป
อ่อนเพลียทั้งกายและใจ เดินไปท่ามกลางความมืดที่ถนนหลังสถานี

มีนักท่องเที่ยวและกล้องจากสถานีโทรทัศน์ยืนล้อมโต๊ะตัวหนึ่งเป็นครึ่งวงกลม
เรานึกไม่ออกว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ก็สวมจิตใจไทยมุงตามเค้าไป ราวสิบนาที
มีเสียงเซ็งแซ่ดังขึ้น คุณลุงอุ้มเจ้าแมวสามสีใส่ชุดซานต้ามาวางที่โต๊ะ
แสงแฟรชระรัว ผมหามุมถ่ายแทบไม่ได้ แถมเกรงใจแมวไม่อยากเปิดแฟรชอีก

เสียง Kawaii iiii ระงม เจ้าแมวดิ้นรนพลิกตัวขู่ไปมา เป็นภาพที่สมกับการอคอย
เพราะคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ ที่เจ้าของจะเอาทามะมาโชว์แบบนี้
ไม่คิดว่านี่เป็นกิจกรรมปรกติที่เกิดขึ้นประจำ ความโชคร้ายที่มาถึงที่นี่ช้า

กลับทำให้เราได้ภาพที่น้อยคนนักจะได้เห็น





Create Date : 17 มกราคม 2556
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2556 13:33:06 น. 2 comments
Counter : 1811 Pageviews.  

 
ความเข้าใจที่ว่า...ยังคงอยู่ไหมคะ

ในความโชคร้าย เราัมักมีอะไรโชคดีโดยไม่ได้คาดฝันมาก่อน แต่ถ้าเลือกได้ เราคงไม่อยากโชคร้ายนะคะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:18:21:16 น.  

 


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:14:15:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]