Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
11 มกราคม 2556

Koyo Kansai : Wakayama castle (2)




11.59 น. ถึงป้าย Koen-mae เดินผ่านสะพานที่ข้ามคูปราสาทไปยัง
Ichinohashi Gomon ซึ่งเป็นประตูหลักของปราสาทนับแต่ปี 1600
ทางขวามือคือเป็นสวนที่ในอดีตเคยเป็นอาคารที่เรียกว่า Ninomaru
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปราสาททำหน้าที่คล้ายกับหอประชุม

ปัจจุบันกลายเป็นสวนญี่ปุ่นแบบสวนแห้ง มีชื่อว่า Karensansui
เดินตามถนนไปตรงเชิงเขามีหินที่แกะสลักเป็นรูปเสือ เพราะเมื่อก่อนนี้
ปราสาทนี้มีชื่อว่า Fukko หรือ Hidden Tiger อันมีที่มาจาก
เมื่อมองจากทะเลจะเห็นเนินเขานี้ทอดตัวยาวราวกับเสือที่หลับใหล

เดินขนานกำแพงปราสาทด้านตะวันออกไปเรื่อยๆ หันมองไปเนินเขา
แต่เจอที่เสียบไม้เท้าให้ยืม เย้ๆ เราเจอทางเข้าแล้ว แต่ว่ามันต้องชันแน่ๆ
มันคือทางขึ้นหลัก ชื่อว่า Omotezaka slope เริ่มไต่ความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
มองไปทางซ้ายมีสวนสัตว์ให้ดูฟรี ราว 15 นาที ก็มาถึงลานหน้าปราสาท

มีร้านขายของที่ระลึก ใบของต้นแปะก๊วยร่วงอยู่เต็มไปหมดคล้ายพรมสีเหลือง
เราสามารถมองเห็นเมือง Wakayama ได้ทั้งหมด จ่ายเงินค่าเข้าแล้วไปกันเลย
ปราสาทหลักมีขนาดไม่ใหญ่นัก สูงสามชั้นออกมาแล้วงงๆ ว่าเดินทั่วแล้วหรือเนี่ย
สิ่งที่น่าสนใจภายในถือว่ามีน้อยมาก เมื่อเทียบกับหลายๆ ปราสาทที่เคยผ่านมา

Wakayama-jo เดิมคือวัดในศาสนาพุทธนิกาย Shinshu ของเมือง Ota
แคว้น Kii ในช่วงยุค ในช่วง 1570-1580 Saika Ikki หัวหน้ากลุ่มพระนักรบ
Ikko ikki ได้ดัดแปลงเพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นต่อสู้กับแม่ทัพ Toyotomi Hideyoshi
ที่เป็นมือขวาของไดเมียวผู้เรืองอำนาจนาม Oda Nobunaga



ปี 1585 ปราสาทนี้ก็ถูกตีแตก Hideyoshi ส่งลูกพี่ลูกน้อง Hidenaga
มาเป็นไดเมียวและสร้างปราสาทลงบนสถานที่แห่งเดิมบนเนินเขาปากแม่น้ำโอตะ
ปี 1600 หลังสงคราม sekigahara ไดเมียว Tokugawara Ieyasu
ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ และกวาดล้างกลุ่มฐานอำนาจเดิม

เค้าส่ง Asano Yoshinaga มาครองปราสาทและดูแลเมืองแห่งนี้
ปี 1615 Toyotomi Hideyori บุตรชายของ Hideyoshi ก่อกบฏ
เพื่อยึดอำนาจของตนเองคืน เค้าได้ส่งกำลังทหารสามพันนายมาล้อมปราสาทนี้
แต่การรบก็จบลงที่ความพ่ายแพ้ทั้งที่ Wakayama และ Osaka

ลงมาจากตัวปราสาทเจอแยกแรก ทางขวาคือทางหักศอกตอนเดินขึ้นมา
แต่ตรงหน้ามีเนินเขาที่สูงกว่าที่ตั้งของตัวปราสาทเสียอีก มีป้ายปักอยู่
จับใจความได้ว่ามันคือที่ตั้งของตัวปราสาทหลัก หรือ Honmaru หลังเดิม
ตั้งแต่เดินเข้ามา ยังไม่เห็นสิ่งสำคัญที่ไม่มีที่ปราสาทอื่น เราต้องหามันให้เจอ

ฉะนั้นเราเลือกลงไปทางซ้ายซึ่งชันกว่าทางที่เราขึ้นมา มันคือ Urasaka slope
เมื่อลงไปถึงข้างล่าง เราก็เจอทางเข้าที่เดินเข้ามาอยู่ขวามือ เราเดินไปทางด้านซ้าย
ข้างหน้าคือสิ่งที่เราตามหา Ohashi Rokka สะพานที่ทอดตัวจาก Karensansui
ลงไปหาสวน Momiji Ravine ที่มีจุดเด่นที่มีศาลาชงชาอยู่เกาะกลางสระน้ำ

Ohashi Rokka คือสะพานไม้ที่มีหลังคาและฝากระดานด้านข้าง เพื่อปกป้อง
ไดเมียวขณะเดินผ่านอย่างมิดชิด ภายในเป็นทางลาดที่ปูพื้นไม้เป็นขั้นๆ
เพื่อป้องกันการลื่นไถลเวลาใส่เกี๊ยะโบราณ เป็นจุดไฮไลท์ที่ใครมาที่ปราสาทนี้
จะต้องมาดู เพราะการออกแบบนี้นั้นไม่สามารถจะพบได้ในปราสาทอื่นใด

อากาศใกล้กับเลขหลักเดียว สวนที่ปราสาทก็มีการถ่ายทำรายการแข่งขันกินอาหาร
ที่น่าสนใจคือพิธีกรกำลังยืนอยู่กับ mascot ประจำปราสาทคือ Yoshibune-san
เป้าหมายต่อไปคือไปกินข้าวกลางวันที่ Wakayama marina city
12.15 น. เดินไปที่ป้ายรถเมล์หน้าปราสาท และรู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว





Create Date : 11 มกราคม 2556
Last Update : 11 มกราคม 2556 10:21:47 น. 2 comments
Counter : 1686 Pageviews.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามเที่ยวด้วยคนครับ อ่านเรื่องราวในบล็อกนี้แล้วได้ความรู้เกี่ยวกับปราสาทในญี่ปุ่นเพิ่มเติมเยอะเลยครับ ผมเคยชมปราสาทแบบญี่ปุ่นนี้จากรายการสารคดีทางโทรทัศน์อย่างเดียวเองครับ

อิอิ



โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:17:18:54 น.  

 
หลงทางอีกหรือคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:19:55:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]