มีคนมาไหว้พระ ไว้พระราหู สะเดาะเคราะห์ กันมากมาย เพราะ....
เชื่อกันว่า การบูชา "พระราหู" เทวดานพเคราะห์องค์หนึ่งในคติไทย สามารถบันดาลประโยชน์และโทษให้เกิดขึ้นกับบุคคล หรือสิ่งต่าง ๆ ได้
ในทุก ๆ ปี จึงมีการทำพิธี "ไหว้พระราหู" กันขึ้น เพื่อปัดเป่าเรื่องร้าย ๆ
ให้แปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ดี เกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีโชคมีลาภ เจริญก้าวหน้าร่ำรวย ๆ
และอีกวัด ที่ได้เดินทางไป คือ วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาค
ร เป็นวัดมีชื่อเสียงเรื่องความแม่นยำของการดูดวง!
เหล่านักแสดง ดารา หลายต่อหลายต่อคน นิยมมาทำบุญ ถือศีล และดูดวงกันในวัดนี้ด้วย...
เส้นทางที่ไป ทั้งสมุทรสาคร นครปฐม จะเป็นแถบที่มีวัดเยอะ และอยู่ไม่ห่างกันเท่าไร
จึงสะดวกในการเดินทางไปไหว้พระ ทำบุญ ในแต่ละแห่ง ถ้าเป็นวันธรรมดา
เราสามารถจะเดินทางไปไหว้พระ ได้ ถึง 9 วันในวันเดียว แต่ครั้งนี้เป็นช่วงเทศกาล
คนจึงเยอะและแน่นกว่าปกติ ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปหลายวัดได้ คะ
" วัดศีรษะทอง "
วัดศีรษะทอง ที่ตั้งอยู่ ตำบลศีรษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นวัดที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เพราะในแต่ละวันจะมีประชาชนนิยมมาสักการบูชาพระราหูเพื่อความเป็นสิริมงคลที่วัดนี้เป็นจำนวนมาก ตามประวัติกล่าวว่าวัดศีรษะทอง สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่ 1 นั้นได้ อัญเชิญพระแก้วมรกตจากเวียงจันทน์มาประดิษฐานที่กรุงเทพมหานครและได้อพยพชาวเวียงจันทน์มาตั้งหลักแหล่งอยู่หลายที่ด้วยกัน เช่น ในบริเวณเลยแม่น้ำท่าจีนออกไปบริเวณตำบลห้วยตะโกปัจจุบัน และได้ตั้งเป็นหมู่บ้านขึ้นเรียกว่าหมู่บ้านหัวทอง เนื่องจากขุดพบเศียรพระเป็นทอง ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี เมื่ออยู่เป็นชุมชนใหญ่จึงได้คิดสร้างวัดขึ้น
เวลาต่อมา ทางการได้ทำการขุดคลองจากแม่น้ำท่าจีน (แม่น้ำนครชัยศรี) ที่ตลาดต้นสน เพื่อเป็นทางเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ประชาชนจึงได้ย้ายมาอยู่ริมคลองเจดีย์บูชาและได้ยกฐานะขึ้นเป็นตำบลศีรษะทอง ในการนี้ได้ย้ายวัดมาด้วยเพื่อสะดวกต่อการสัญจร และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดศีรษะทอง จนถึงปัจจุบัน วัดศีรษะทอง นับว่าเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม มีทั้งโบราณวัตถุ โบราณสถาน เป็นวัดที่ ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวของดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ และสมุนไพรมาตั้งแต่อดีต
เจ้าอาวาสรูปแรก คือ หลวงพ่อไต ซึ่งเป็นชาวลาวเวียงจันทน์ที่อพยพมาตั้งต้นจากวัดเล็กจนกลายเป็นวัดใหญ่ที่มีเจ้าอาวาส สืบต่อกันหลายรูป จนถึงหลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ ซึ่งเป็นพระที่เป็นที่รู้จักเพราะเป็นต้นตำรับของการสร้างพระราหูอมจันทร์จากกะลาตาเดียว เครื่องรางที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และได้สร้างชื่อเสียงให้วัดศีรษะทองเป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้ และต่อมาหลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ ก็เปลี่ยนชื่อวัดหัวทองมาเป็นวัดศีรษะทอง และต่อมาก็ยกฐานะขึ้นเป็นตำบลตามชื่อวัด เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน คือ พระครูวินัยธรมานิตย์ ติสาโร
ต่อมามีการสร้างโรงเรียนประชาบาล คือ โรงเรียนวัดศรีษะทอง (น้อยชม ประชานุกูล) เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2477 ในระดับชั้น ป.1 ป.4 ต่อมาได้เปิดเป็นโรงเรียนขยายโอกาส สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3)
ปัจจุบัน วัดศีรษะทองได้จัดสร้างพระราหูขนาดใหญ่ไว้ให้ประชาชนได้มาสักการบูชาตามความเชื่อ และความศรัทธาส่วนบุคคลแต่ผู้บูชาพระราหูจะต้องมีศีล มีธรรม ทำคุณความดี และหมั่นทำบุญกุศลอยู่เสมอ ความร่ำรวยและโชคลาภนั้นจึงจะเกิดขึ้นได้
//travel.kapook.com/view52517.html
" วัดท่าไม้ "
สำหรับ "วัดท่าไม้" ตั้งอยู่เลขที่ 51 หมู่ที่ 11 ถนนเศรษฐกิจ 1 ซอย 8 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ในวัดมีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2532 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา (เขตที่พระราชทานแก่สงฆ์ เพื่อใช้เป็นที่สร้างพระอุโบสถ หรือเขตที่พระสงฆ์ใช้ประกอบสังฆกรรม) เมื่อปี พ.ศ. 2537
ส่วนบรรยากาศโดยรอบของ "วัดท่าไม้" นั้น มีต้นไม้ปลูกรอบล้อม บรรยากาศร่มรื่น ทางทิศใต้ของวัดมีสระน้ำยาวประมาณ 40 เมตร กว้าง 4 เมตร ภายในอุโบสถของวัด มีพระพุทธรูปปางชินราช ขนาดหน้าตัก 69 นิ้ว พร้อมอัครสาวกในอุโบสถ นอกจากนี้ ยังมีสวนพุทธประวัติใต้มหาโพธิ์ริมแม่น้ำ และมีสังฆรูปอดีตสาวกพระมหาสังกัจจายจีน ปางนั่งลูกปะคำ หน้าตัก 59 นิ้ว อยู่ใกล้หอกลางริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งผู้คนต่างนับถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด
เท้าความถึงประวัติความเป็นมาของ "วัดท่าไม้" กันบ้าง เดิมทีวัดแห่งนี้เป็นสำนักสงฆ์ที่มีชื่อว่า "โพธิ์ธรรมรังษี" สร้างเมื่อปลายปี พ.ศ. 2520 โดยพระภิกษุยอด อุปติสฺโส จากวัด หนองพันท้าว จังหวัดกาญจนบุรี จาริกมาตั้งสถานปฏิบัติธรรม มีประชาชนศรัทธาและเคารพเลื่อมใส สนับสนุนให้สร้างเป็นวัดเรื่อยมา ต่อมา พระภิกษุยอด ได้ติดต่อขอซื้อที่ดินจำนวน 4 ไร่ และรับบริจาคอีก 2 ไร่ สร้างศาลาอเนกประสงค์ กุฏิเจ้าอาวาส ศาลาท่าน้ำ บ่อน้ำบาดาล และอื่น ๆ กระทั่งถึงกลางปี พ.ศ.2532 พระภิกษุยอด จึงออกจาริกหายไป
จากนั้น ท่านพระครูธรรมรัตน์ เจ้าคณะตำบลท่าไม้ ได้เห็นความชำรุดทรุดโทรม จึงได้ส่งพระประสิทธิ์ กิตฺติภทฺโท จากวัดนางสาว ไปเป็นผู้ดูแลในปี พ.ศ. 2527 จนได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดท่าไม้ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532
สำหรับจุดสนใจของ "วัดท่าไม้" ที่ประชาชนนิยมเดินทางเข้ามาเคารพสักการะนั้น ได้แก่ ราหู กวนอิม พระพิฆเนศ พระอินทร์ พระพรม เจ้าแม่ตะเคียน นอก จากนี้ ยังมีพิธีกรรมตามความเชื่อ อาทิ ดูดวง แก้กรรม ต่อบุญ เสริมดวงชะตา และแก้ปีชง อีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องดวง ที่ใครต่อใครต่างก็บอกว่า หลวงพ่ออุเทน ดูดวงแม่นยำมาก แต่ถ้าหากใครอยากไปดูดวงต้องเดินทางไปรับบัตรคิวตั้งแต่ตี 5 ถึง 7 โมงเช้าเลยล่ะ
//horoscope.kapook.com/view42965.html
มีความสุขที่ได้ แบ่งปัน..... สร้างสรรค์
ยินดีที่แวะมาเยียมเยียนกันนะคะ
ปีใหม่นี้ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีดีค่ะ
โชคดีตลอดปีและตลอดไปค่ะ