Bloggang.com : kuky : วันหยุดช้อป ชิมของอร่อยที่ “ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” ชมวิถีชีวิตริมน้ำกลางกรุง

วันหยุดช้อป ชิมของอร่อยที่ “ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” ชมวิถีชีวิตริมน้ำกลางกรุง

ช่วงนี้อัพบล็อกท่องเที่ยว ต่อเนื่องหลายบล็อกหน่อยนะคะ วางตะหลิวนิดนึง แบบว่าเพิ่งไปมามาด ๆ เมื่อวันอังคาร 23 กรกฎาคม 2556 ... เข้าพรรษาที่ผ่านมา

อารมณ์ ยังต่อเนื่องอยู่กับ....ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ชมวิถีชีวิตริมฝั่งคลอง ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในกรุงเทพฯ

พอดีแม่ใบตองหยุดงานถึง 4 วัน หลังจากไปทำบุญที่วัดแล้ว ยังมีวันพักผ่อนเหลืออยู่ เลยถือโอกาสเที่ยวตลาดน้ำใกล้บ้านซะหน่อย

ตลาดน้ำแบบนี้ เหมาะกับการท่องเที่ยวเล็ก ๆ ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ทำเลที่ตั้งก็ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเมือง อยู่เพียงแค่เขตตลิ่งชัน

ตลาดน้ำที่นี่เปิดมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2547 แต่เดิมนั้น บริเวณแถบนี้ก็เป็นเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านตามปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเจริญเข้ามาอย่างรวดเร็ว

สภาพชุมชนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วย มีการตัดถนนผ่าน มีหมู่บ้านจัดสรร เกิดขึ้นมากมาย สวนผักผลไม้ก็ค่อย ๆ หายไป

นายชวน ชูจันทร์ หรือลุงชวน ผู้นำชุมชนจึงได้ริเริ่มหาแนวทางอนุรักษ์คลอง และวิถีชุมชนชาวคลองลัดมะยมไว้ให้อยู่แบบยั่งยืน

จึงเริ่มฟื้นฟูชีวิตริมคลองให้คนรู้จัก โดยรวมตัวชาวบ้านในชุมชนริมคลอง ขายพืชผลผลิต เป็นที่มาของการเปิดตลาดน้ำขายสินค้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ตั้งแต่นั้นมา

ตลาดน้ำคลองลัดมะยมแห่งนี้ อยู่ไม่ไกลจากบ้านของแม่ใบตองเท่าใด เพราะอยู่ฝั่งธนเหมือนกัน ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ ไม่เกิน 40 นาที ก็ถึง

การเดินทางโดยรถประจำทางก็ไม่ยากคะ ข้อเสียของตลาดตรงที่หลังคา ตลาดจะเตี้ย และทางเดินแคบ ทำให้อากาศในบางวันร้อนอบอ้าวมาก

แต่วันที่แม่ใบตองไปถึง วันนั้นไม่มีแดดเลย อากาศก็เย็นสบาย ช่างเหมาะเจาะเสียกระไร

ตลาดแห่งนี้แบ่งเป็นสองฝั่งคลอง มีสะพานไม้เล็ก ๆ ขนาดสองคนเดินสวนกันได้ เชื่อมเป็นทางข้ามคะ

วันที่ไปเป็นวันหยุดเข้าพรรษา ซึ่งหยุดติดต่อกันถึง 4 วัน ร้านรวงฝั่งที่จอดรถปิดหมดทั้งแถบ

วันนั้นร้านที่เปิดส่วนใหญ่ เป็นร้านขายของกิน ขายอาหาร ส่วนโซนเสื้อผ้าของประดับ มีเปิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่จุดประสงค์ ที่ไปเที่ยวในวันนั้น เน้นกินลมชมธรรมชาติและหาของกินใส่ท้อง เลยไม่ค่อยสนใจของใช้อื่น ๆ คะ

พอเดินข้ามสะพานมา ทั้งซ้ายและขวา จะมีทางเดิน มีร้านอาหารขายให้เราเลือกซื้อมากมาย หลากหลาย

และมีโต๊ะให้มานั่งทานกัน หลายรูปแบบ ทั้งโต๊ะไม้ไผ่ หรือ นั่งกับพื้น ก็มีให้เลือก

มีเรือล่องนำชมคลอง สวนสองฝั่งคลอง และวิถีชีวิตริมฝั่งคลองของชาวตลิ่งชัน

เห็นว่ามีเรือพาทัวร์เล็ก หลายเส้นทาง ค่าเรือหางยาวคนละ 60 บาท

เรือที่แม่ใบตองนั่ง พาแวะไหว้พระที่วัดสะพาน และแวะชมสวนกล้วยไม้ ...แต่เห็นเรือบางลำก็พาไปไหว้พระวัดจำปา และแวะบ้านขนมไทย

อันนี้คงต้องถามเค้าดูอีกทีว่าเรือลำไหนไปแวะที่ไหนนะคะ

เรือหางยาวลำใหญ่ นั่งกันได้เยอะเลยคะ

ถ้าไม่นั่งเรือหางยาวติดเครื่อง ก็สามารถเลือกเรือพายแบบในภาพก็ได้คะ ลำนึงนั่งได้ 4-6 คน ไม่แน่ใจว่าค่าเรือคนละ 20 หรือ 40 บาท แต่เรือพายจะพาไปไม่ไกลเท่าไร

ก็ได้นั่งเรือชมวิวสองฝั่งคลอง ในอีกรสชาตินึง

ด้วยแม่ใบตองกับคณะ อยากนั่งหน้าสุดของลำเรือ เลยรอเรือลำใหม่คะ

ระหว่างรอก็ให้อาหารปลาไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ ที่นี่ปลาสวายเยอะมาก

ลงเรือกันแล้วคะ มุ่งหน้าชมบรรยากาศและชีวิตริมฝั่งคลองกัน

น้ำในคลองไม่ใส ออกสีเขียวขุ่น ๆ แต่ก็ไม่เน่านะคะ

คนขับเรือจะเป็นลุงอายุค่อนข้างเยอะแล้วคะ เค้าก็บรรยายตามภาพที่เห็นสองฝั่งคลอง และให้ความรู้ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น

การทำเขื่อนริมคลอง ที่ใช้ต้นทองหลางมาเป็นเสา ต้นทองหลางถ้าวางบนปูนซีเมนต์ ไม่กี่ปีก็ผุกร่อย แต่ะถ้าเอามาทำเสาที่แช่ลงไปในน้ำ จะอยู่ได้เป็นสามสิบปีเลย

หรือแม้แต่ราคาที่ดินที่เรือวิ่งผ่าน ร้านรับต่อเรือหางยาว สารพัดความเพลิดเพลินที่เราจะได้รับคะ

คำถามที่คนขับเรือถาม ที่หลาย ๆ คน ตอบไม่ได้ : คนปลูกบัวหลวงกลัวอะไรที่สุด???

คำตอบคือ.....

บ้านทรงไทย ที่ยังอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม

ด้วยภูมิปัญญาคนไทยรุ่นก่อน เสาบ้านที่สูงสามารถป้องกันน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ได้เป็นอย่างดี

ส่วนนี้ปลูกผักกระเฉด ผักบุ้งไทย

เรือหางยาวพาเรามาถึงวัดสะพาน ให้เวลา 20 นาที สำหรับขึ้นไปไหว้พระ ชมโบสถ์เก่า และซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ

ที่นี่ก็เป็นตลาดน้ำเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งคะ วัดนี้ตั้งอยู่ริมคลองบางน้อย หันหน้าวัดเข้าสู่คลอง

ตลาดน้ำวัดสะพาน เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หรือตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาไม่แน่ใจ

เพราะมีการค้นพบพระพุทธรูป และรูปแบบการสร้างศาสนสถานที่แสดงให้เห็นว่าน่าจะเป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา

วัดนี้มีพระพุทธรูปหินทรายเก่าแก่สมัยอยุธยาอยู่หลายองค์ด้วยกัน

พระพุทธรูปสามองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารโถง ซึ่งเป็นวิหารที่ไม่มีฝาผนัง มีเพียงเสากับหลังคา แต่ผนังทั้งสี่ด้านเปิดโล่งรับลมเย็นๆ จากคลองที่พัดเข้ามา แล้วบอกว่า พระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้ก็เป็นพระพุทธรูปหินทรายด้วยเช่นกัน โดยชาวบ้านได้ปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปทั้งสามองค์ พอกปูนใหม่ แล้วจึงประดิษฐานไว้ในวิหารเล็กๆ สามหลังเรียงต่อกัน แต่ต่อมาวิหารทั้งสามหลังทรุดโทรมลงมาก ญาติโยมจึงมีศรัทธาสร้างเป็นวิหารโถงเก้าห้องแทน

มาถึงวัดแล้ว เราก็ไปกราบไหว้พระกันก่อนนะคะ

ที่ซุ้มหน้าทางเข้า จะมีจัดเครื่องบูชา ดอกไม้ ธูป เทียน เอาไว้ให้ แล้วก็มีตู้ให้หยอดบริจาคตามแต่ศรัทธา

วัดนี้มีพระพุทธรูปหินทรายเก่าแก่สมัยอยุธยาอยู่หลายองค์ด้วยกัน

พระพุทธรูปสามองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารโถง ซึ่งเป็นวิหารที่ไม่มีฝาผนัง ชาวบ้านได้ปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปทั้งสามองค์ พอกปูนใหม่

แล้วจึงประดิษฐานไว้ในวิหารเล็กๆ สามหลังเรียงต่อกัน แต่ต่อมาวิหารทั้งสามหลังทรุดโทรมลงมาก

จึงได้สร้างเป็นวิหารโถงเก้าห้องนี้แทน

พระพุทธรูปทั้งสามองค์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน ก็คือ "หลวงพ่อโต" "หลวงพ่อกลาง" และ "หลวงพ่อดำ"

ตลาดน้ำวัดสะพานตั้งอยู่บริเวณรอบวัด เป็นหนึ่งในตลาดน้ำในกลุ่มชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร

ที่ประกอบไปด้วยตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำคลองลัดมะยม และตลาดน้ำวัดสะพานแห่งนี้คะ

ศาสนะ อีกแห่งที่ตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่กลางวัด คือ วิหารโบสถ์เก่า

รอบ ๆ บริเวณตัวโบสถ์ มีรอยกระเทาะของปูนซีเมนต์ นั่นคือร่องรอยน้ำท่วม เมื่อปี 2554 คะ

บริเวณวัดค่อนข้างกว้างขวาง แบ่งเป็นสัดส่วน แต่คณะของเรามีเวลาน้อย เลยไปเดินสำรวจตลาดอีกนิดหน่อยคะ

ตลาดน้ำแห่งนี้เริ่มตั้งขึ้นเมื่อปี 2548 เห็นว่าวัดแห่งนี้มีความเงียบสงบ มีความเก่าแก่บรรยากาศร่มรื่น ยังมีความเป็นธรรมชาติให้เห็นมากมาย คลองหน้าวัดก็มีปลาสวายมาอาศํยอยู่มาก

ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง จึงได้ตั้งตลาดน้ำขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและรู้จักวัดสะพานกันมากขึ้น

ตลาดที่นี่เป็นตลาดเล็ก ๆ ขายของรอบ ๆ วัด วันที่ไปเป็นเวลาบ่ายแก่ ๆ ของวันเข้าพรรษา มีแม่ค้าไม่เยอะ เหมือนเสาร์-อาทิตย์คะ

สินค้าจะเน้นของกิน สินค้าจากพืชสวนของชาวบ้านแถบนั้น

ดอกขจร 3 กระทงนี้ 20 บาท

หลังจากแวะชมกันพอประมาณแล้ว เรือก็พาไปต่อจุดมุ่งหมายคือ สวนกล้วยไม้

วัดตะล่อม อีกเส้นทางที่เรืองวิ่งผ่าน แต่ไม่ได้แวะ .เห็นท้องฟ้าไหมคะ เมฆฝนเริ่มครึ้มแล้ว

มีอีกหลายวัดที่ตั้งอยู่ริมคลองผ่าน ซึ่งเป็นวิถีชุมชนที่อยู่คู่กับชีวิตคนไทยจริง ๆ คะ

อีกจุดที่เรือแวะคะ เป็นสวนกล้วยไม้หลากชนิดและต้นไม้อื่น ๆ ให้ชม และหาซื้อได้คะ

ให้เวลา 20 นาทีสำหรับเดินชม แหม คนชอบกล้วยไม้ต้นไม้เนี่ยเวลาชื่นชมไม่พอเลยคะ

ใช้เวลารวมประมาณ ชั่วโมงครึ่ง สำหรับการล่องเรือชมบรรยากาศริมคลอง

ซึ่งเรือวิ่งผ่านคลองเล็ก คลองน้อยมากชื่อ จำไม่หมดคะ

กลับมาที่ตลาดคลองลัดมะยมกันต่อ ตอนนี้ท้องเริ่มหิวแล้ว เพราะยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงกัน

ขึันจากเรือมาก็ได้เวลาหาอะไรใส่ท้องก่อนคะ

ที่นั่งเรียงราย ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวหาซื้ออาหารมานั่งทานกัน

เดินหาซื้อของกิน ก็ชมบรรยากาศของตลาดกันไปด้วยคะ

ไข่กระโหลก ลูกละ 40 บาท มีหลากหลายไส้ ทั้งชีส ไส้กรอก ปูอัด ฯลฯ

สำหรับไข่กระโหลกตามป้ายที่แม่ค้าเรียก เค้าเริ่มขายตั้งแต่ปี 2553 พอเห็นปุ๊บ นึกถึงเมนูที่แม่ใบตองเคยทำนานมาแล้วคะ

เป็นไข่แบบนี้ แม่ใบตองเรียกว่า ไข่ซาลาเปา ใช้กระบวยเป็นภาชนะ 555 เราทำก่อนที่เค้าจะมีแฟรนไชด์ซะอีก

ลองดูตามลิงค์ข้างล่างนะคะ

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=baanbaitong&month=13-03-2009&group=2&gblog=8

ราคาอาหารก็อยู่ในระดับกลาง ๆ คะ ส้มตำ 2 จานนี้ รวมราคา 90 บาท

ไอศกรีมโบราณ มีเป็นสิบรสชาติให้เลือก ตักถั่วใส่เอง อร่อยดีคะ

หน้าตาอาหารที่ได้ลิ้มรส ยังมีอาหารอื่น ๆ อีกมากมายให้เลือกชิม เลือกซื้อ

แม่ค้าขายหอยทอดทางเรือใช้เตาถ่านก็มีให้เห็นคะ

นับว่าเป็นวันหยุดพักผ่อนที่ดีอีกวัน ได้ท่องเที่ยว ได้รื้อฟื้นความทรงจำในวัยเด็ก สมัยปู่ย่า ตายายของเรา

ได้สูดโอโซน กับธรรมชาติที่หาไม่ค่อยได้ในเมืองกรุงกันคะ

ตลาดน้ำคลองลัดมะยมแห่งนี้ ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง แต่แม่ใบตองเดินไม่ทั่ว

ถ้ามีโอกาสได้ไปอีก จะเก็บภาพที่ไม่ซ็ำกันมาให้ชมนะคะ

“ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” ตั้งอยู่บน ถ.บางระมาด แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม.
การเดินทางหากมาจาก ถ.บรมราชชนนี (ฝั่งขาออก มุ่งหน้าพุทธมณฑล) ให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.กาญจนาภิเษก
จากนั้นวิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นป้ายบอกทางเข้าตลาด ให้เลี้ยวเข้า ถ.บางระมาด (ทางลัดไป ซ.จรัญฯ 35)
อยู่ตรงข้ามกับสมาคมชาวปักษ์ใต้ วิ่งตรงไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะเห็นตลาดตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลอง เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์
และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาประมาณ 09.00-15.00 น
. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลุงชวน โทร. 0-2422-4270, 08-9215-2659

มีความสุขที่ได้ แบ่งปัน..... สร้างสรรค์

ยินดีที่แวะมาเยียมเยียนกันนะคะ

Create Date : 29 กรกฎาคม 2556

Last Update : 29 กรกฎาคม 2556 14:17:48 น.

19 comments

Counter : 7826 Pageviews.

อร๊ายยย แ่ม่ใบตองค่ะ
กำลังชมบรรยากาศตลาดน้ำเพลินๆ
แต่มาสะดุดในช่วงท้ายนี่ล่ะ แงๆ
อาหารแต่ละอย่างน่าทานที่สุด
ขอหม่ำส้มตำ หอยแครง และปีกไก่ทอดค่ะ
ตบท้ายด้วยเม็ดขนุนและทองหยอดอีก
ยังไม่ได้หม่ำข้าวเที่ยงเลยค่ะ ทรมานกระเพาะอีกแล้ว หุหุ

โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ

วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:21:46 น.

~ ตามมาเที่ยวและตามมากินด้วยค่ะ ผักบุ้งไทยนั่นน่ากินจังนะคะ ~

โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa

) วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:16:39 น.

สวัสดีค่ะคุณแม่ใบตอง
เห็นตลาดน้ำแล้วตาโตค่ะ
ยิ่งเห็นของกินแล้วยิ่งนั่งกลืนน้ำลายเอื้อกๆ
อะไรๆก็น่ากินไปโม๊ด กำลังอยู่ในโหมดหิวข้าวตอนบ่ายๆค่ะ
ใกล้วจะได้เวลาเตรียมอาหารให้หนุ่มแล้วซะนี่ รู้แระทำไมถึงหิว อิอิ
เห็นไข่กะโหลกแล้ว แหม อยากตักมาใส่จาน
ให้หนุ่มๆที่บ้านสักคนละลูกค่ะ
สาวกไข่อย่างสองหนุ่มคงชอบมากแน่ๆเลยล่ะค่ะ

ปล.ดาก้เพิ่งกลับมาทำขนมปังอีกครั้งเหมือนกันค่ะ
หลังจากที่ซื้อเค้ากินอยู่นาน ไม่มันไม่โดนใจเนาะ
ไส้ก็น้อยเหลือเกิน ไม่สะใจเหมือนทำเองค่ะ

ปล.2 ยกมาฝากคุณแม่ใบตองด้วยจ้า
รับรองว่าสูตรนี้ นุ๊ม นุ่ม แล้วก็อร่อยจริงๆค่ะ

โดย: phunsud

วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:18:57 น.

อยากไปมากเลยคะแม่ตอง
จด ๆ ไว้ไปไหนก่อนดี
กลับไปคิวเที่ยวยาว 555

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา

วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:33:02 น.

พาเที่ยวอีกแล้วนะค๊า.. ชอบตลาดน้ำแบบชาวบ้านมากกว่าตลาดน้ำแบบท่องเที่ยวค่ะ
เคยไปตลาดน้ำท่าคาถ้าจำไม่ผิดนะ เขาจะมีเฉพาะวันพระ ชาวบ้านพายเรือขายตามคลองต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมต่อถึงกันแต่ละชุมชน และที่สำคัญที่ชอบคือน้ำสะอาดค่ะ
ชอบตลาดน้ำตรงที่ของกินเยอะ อิอิ... รู้สึกจะไม่พ้นเรื่องนี้เนาะ

ไข่กระโหลกอุปกรณ์และวิธีทำก็แนวเดียวกับทาโกะยากิเลย พี่เคยทำในหม้อละลายช็อคโกแลตใบเล็ก ๆ ทอดออกมาก็กลมเหมือนกันค่ะง่ายกว่าทำในกระบวยเยอะแล้วก็ไม่ต้องล้างเตาด้วยล่ะ 555

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:34:55 น.

เป็นตลาดที่น่าไปเดินจังเลยค่ะ น่าจะได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านเพียบแน่ๆเลย

โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ

วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:44:31 น.

ตามมาเที่ยวตลาดลัดมะยม ชอบบรรยากาสจัง คุณบรรยายซะจน
อยากไปเที่ยวแต่คงไปไม่ถูก

ของกินเยอะดี

โดย: ยายเก๋า IP: 125.24.162.157 วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:25:38 น.

เดี๋ยวนี้ตลาดน้ำมีทุกหนทุกแห่งนะคะ
แต่ตลาดน้ำเก่าแก่แบบนี้น่าเที่ยวกว่ามาก
เพราะเป็นตลาดน้ำที่เป็นวิถีชีวิตของคนมาแต่ดั้งเดิม
ไม่ใช่สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ทางการท่องเที่ยว
อยากไปมากค่ะ

โดย: ฝากเธอ2

วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:02:36 น.

กด Like ให้เป็นคนที่ 2
ว่างๆ น่าจะไปเดินเล่นมั่งค่ะ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:38:14 น.

thx u crab

โดย: Kavanich96

วันที่: 30 กรกฎาคม 2556 เวลา:4:56:24 น.

อรุณสวัสดิ์ ยามเช้า คะ...แม่ตอง
มีความสุขกับการทำงาน
- Have a nice day - คะ

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา

วันที่: 30 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:53:31 น.

สวัสดีอีกครั้งค่ะ ^_^

กลับมาโหวตให้ค่ะ
เมื่อคืนกว่าจะมาถึงนี่หมดงบซะก่อน ^_^

นอนหลับฝันดีนะคะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
never the last Food Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
kuky Travel Blog ดู Blog

โดย: ฝากเธอ2

วันที่: 30 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:59:23 น.

ที่นี่ของกินหลากหลาย ผู้คนมากมาย เพราะไป-มาสะดวก
ถ้าไปสายสักหน่อยที่จอดรถจะต้องจอดไกลหน่อย
เป็นที่ที่ผมไปหลายครั้งครับ เพราะอยู่ไม่ห่างจากตลายนี้มากนัก

kuky Travel Blog

โดย: Insignia_Museum

วันที่: 1 สิงหาคม 2556 เวลา:21:28:17 น.

อากาศในวันที่ขึ้นไปดอยอินทนนท์สุดยอดมากค่ะ
ถึงหมอกจะเยอะจนถ่ายภาพออกมาไม่สวย แต่ได้อากาศแบบนี้มาปลอบใจ
ลืมความเสียใจไปเลยค่ะ อิอิ

โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ

วันที่: 2 สิงหาคม 2556 เวลา:7:57:07 น.

เห็นรูปล่องเรือทำให้คิดถึงนิยายของไทยเรื่องเมื่อคุณตาคุณยายยังเด็กเลยค่ะ ตอนอ่านก็แอบจินตนาการว่าได้นั่งเรือเด็ดฝักบัวมากิน สุขตามภาพไปเลยค่ะ ขอบคุณที่ทำให้คิดถึงอดีตนะคะ

โดย: ร้อยคืนหมื่นวัน

วันที่: 2 สิงหาคม 2556 เวลา:10:39:52 น.

น่าไปเดินมากๆค่ะ บรรยากาศน่าสนใจมากมาย ^^

โดย: auau_py

วันที่: 2 สิงหาคม 2556 เวลา:15:23:18 น.

ตามเข้ามาชมด้วยค่ะ เพลินเลย เหมือนเดินตามกันไปเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

โดย: ศิรินันท์ บ้านสวน IP: 122.155.44.105 วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:10:14:30 น.

ดูเงียบสงบดีจังเลยนะคะ
ขอหลบไปอิยู่แถวนั้น ระหว่างนี้
ถ้าจะดี เพราะ กทม.วุ่นวายหนอ

โดย: พี่อ้อ เริงฤดีนะ IP: 110.77.162.211 วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:13:41:18 น.

เที่ยวแล้วคลองลัดมะยม หามะยมกินสักลูกไม่มีเลย อิ อิ

โดย: ปลายแป้นพิมพ์

วันที่: 7 สิงหาคม 2556 เวลา:21:42:34 น.