Exclusive Tri-Origin Blend Tasting and Workshop เอาใจคอกาแฟ Tri – Origin Blend

บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น [ไทยแลนด์] จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ ในกลุ่มเครื่องดื่มและอาหารระดับพรีเมียม แบรนด์  “คอฟฟี่ เวิลด์  จับมือ นายปกรณ์ มโนรมย์ภัทรสาร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดธุรกิจโพสต์เพด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) จัดกิจกรรม “Exclusive Tri-Origin Blend Tasting and Workshop” ณ ร้านคอฟฟี่ เวิลด์ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 เอาใจผู้ชื่นชอบกาแฟ Tri-Origin Blend ที่ผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟจากบราซิล กัวเตมาลา และเชียงใหม่ และครั้งนี้ดีแทค รีวอร์ด

รวมถึงประสบการณ์ในการทำกาแฟแบบ Latte Art พร้อมพิสูจน์ความอร่อยด้วยเมล็ดกาแฟอราบิก้า 100% คุณภาพเยี่ยมจาก 3 แหล่งเพาะปลูกชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะจากคอฟฟี่เวิลด์ ที่หอมกลมกล่อมไม่เหมือนใคร โดยครั้งนี้เป็นรอบสื่อมวลชน และจะจัดขึ้นต่อเนื่องเดือนละครั้งไปจนถึงสิ้นปี

ผู้เชี่ยวชาญจาก Coffee World ที่จะมาให้เกร็ดความรู้และเคล็ดลับในการดื่มกาแฟให้ได้รสชาติ เธอบอกว่ากาแฟ หมายถึงเครื่องดื่มสีน้ำตาล รสขมปนหวาน มีกลิ่นหอม ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ลดอาการง่วง แต่สำหรับคนรักกาแฟ หรือ Coffee People แล้ว กาแฟมีเสน่ห์ให้สัมผัสในหลากหลายมุมมอง กว่าจะได้เป็นกาแฟสักถ้วย การเดินทางนั้นแสนยาวไกล และหากได้สัมผัส คุณจะรักกาแฟยิ่งขึ้น

"หลายคนยังไม่เข้าใจว่ากาแฟมีหลายชนิด ตั้งแต่ Arabica มีขนาดเมล็ดใหญ่กว่า มีชั้นของเนื้อผลไม่ หนากว่า Robusta มีร่องกลางเมล็ด ที่ยาวจรดปลายทั้งสองด้านตามความยาวของเมล็ด เนื้อเมล็ดด้ายล่างร่องกลางเมล็ด ค่อนข้างแบน ลักษณะปลายเมล็ดมีความโค้งมน Robusta มีรูปทรงกลมกว่า Arabica ร่องกลางเมล็ดจะยาวไม่ถึงปลายเมล็ด และเนื้อเมล็ดด้านข้างร่องกลางเมล็ด ค่อนข้างพองนูน และลักษณะปลายเมล็ด อาจมีความเรียว Liberica และ Excelsa มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่ใหญ่กว่า Arabica และ Robusta มาก กาแฟ Arabica มีสัดส่วนการค้าที่ 70%-80% มีกลิ่นหอมหวน มีความเป็นกรดเปรี้ยวแบบผลไม้ มากกว่ากาแฟ Robusta และกาแฟ Robusta มีลักษณะเนื้อของกาแฟ และปริมาณคาเฟอีนในเมล็ดมากกว่ากาแฟ Arabica" ผู้เชี่ยวชาญแจกแจง

มาถึงวิธีการเวิร์กช็อปการ DRIP กาแฟกัน ผู้เชี่ยวชาญสำหรับกาแฟที่กำลังฮิตกันก็คือการ DRIP ที่ใครๆ สงสัยก็คือ วิธีการชงโดยการเทน้ำร้อนผ่านกาแฟคั่วที่บดระดับกลางที่บรรจุอยู่ในกระดาษกรอง น้ำ ไหลผ่านด้วยแรงโน้มถ่วง ทำการสลัดน้ำกาแฟให้ไหลลงไปในถ้วย โดยใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที เราก็จะได้กาแฟรสชาติที่ดื่มสบาย

ซึ่งการ DRIP กาแฟนั้นจะแตกต่างจาก ESPRESSO วิธีการชงโดยใช้แรงอัดไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียดในระยะเวลาสกัดประมาณ 20-30 วินาที จึงได้กาแฟสกัดเข้มข้นเป็นฐานของเครื่องดื่มในร้านกาแฟหลักๆ ที่มาของ ESPRESSO มาจากคำภาษาอิตาลีซึ่งแปลว่าเร่งด่วนนั่นเอง

เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ในการรู้ถึงเสน่ห์การ DRIP กาแฟ ที่บอกได้เลยว่าคนที่รักกาแฟควรไปลองทำหรือหาดื่มกัน.