วันหนึ่งที่ผมและภรรยาไปส่งหนังสือแถวสรงประภา เมื่อทำงานเสร็จเกิดหิวเพราะได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี ผมสอบถามคนแถวนั้นว่ามีร้านไหนอร่อยบ้าง ทุกคนชี้ไปที่ร้านชื่อ “แอบแซ่บ” ผมเดินเข้าไปในบ้านที่ปรับแต่งเป็นร้านอาหาร ดูเมนูแล้วถูกใจเพราะเป็นแนวส้มตำของโปรด เราเลยลองสั่งส้มตำปูม้า ตับหวาน หมูทอด และข้าวเหนียวมารับประทาน ปรากฏว่าอร่อยทุกอย่าง คราวนี้พอผมจะไปส่งหนังสือแถวดอนเมืองทีไร ผมจะเตรียมล้างท้องเพื่อไปกินร้านนี้โดยเฉพาะ แถมยังเคยคุยกับเจ้าของร้านด้วยว่า ถ้าทำอาหารอร่อยขนาดนี้ไม่ต้องแอบมาเปิดในซอยแล้ว ผมว่าไปอยู่ติดถนนใหญ่เลยดีกว่า คนจะได้มากินกันเยอะๆ

ร้านนี้ผมได้บอกต่อเพื่อนฝูงไปหลายคน ล่าสุดเพื่อนส่งข่าวว่า ร้านแอบแซ่บย้ายมาเปิดหน้าปากซอยแล้วนะ ผมและภรรยาคิดถึง เลยต้องขอไปเยี่ยมเสียหน่อย มาดูลายแทงร้านแอบแซ่บกันดีกว่าครับ... ถ้าวิ่งจากเส้นวิภาวดีรังสิต เข้ามาที่ถนนสรงประภา วิ่งมาเรื่อยๆ ซอยเลขคี่จะอยู่ทางซ้าย ซอยเลขคู่จะอยู่ทางขวา ซอยของร้านนี้ไม่มีชื่อ แต่จะอยู่ระหว่างซอยสรงประภา 14 และ 16 ให้วิ่งมาเรื่อยๆ จนถึงโรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง เตรียมชิดขวากลับรถ (ที่กลับรถอยู่ใต้สะพานลอยคนข้าม) เมื่อกลับรถแล้วชิดซ้าย สังเกต 7-11 หัวมุมแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ถ้าเจอศาลเจ้าแม่กวนอิมแสดงว่าเข้าถูกซอยแล้ว เลยมาอีกนิดจะเห็นธงชื่อร้าน หันมองทางขวาก็จะเจอเลย ร้านใหม่นี้หาง่ายมากๆ ครับ

มองเข้าไปจะเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งก้มหน้าก้มตาทำอาหารกันอยู่ คุณแม่ชื่อแม่อ้อม พูดจาไพเราะน่ารัก ส่วนลูกชายน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับผมชื่อคุณเอ้ เป็นคนเริ่มคิดจะทำร้านอาหารและตั้งชื่อร้าน “แอบแซ่บ” นั่นเอง ผมได้พูดคุยถึงความเป็นมาของร้านกับเจ้าของร้าน แม่อ้อมเล่าให้ฟังว่า คุณเอ้เคยเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งอยู่จังหวัดอุดรธานี แต่มีปัญหาชีวิตเลยกลับบ้านที่กรุงเทพฯ กลับมาหาแม่ และในที่สุดชวนแม่ทำกับข้าวขาย ครั้นจะทำเป็นอาหารตามสั่ง (ตอนนั้นเปิดร้านที่บ้าน) ทั้งกลิ่นและควันก็จะไปรบกวนเพื่อนบ้าน แม่อ้อมเลยบอกว่าแม่มีสูตรน้ำปลาร้าที่เพื่อนเคยสอน เรามาทำส้มตำกันดีกว่า อาหารไม่ส่งกลิ่นรบกวนมากนัก จากนั้นสองแม่ลูกก็เริ่มคิดเมนูและทำสูตรอาหารต่างๆ จนเข้าที่ หลังจากน้ำท่วมปี 2554 จัดการเรื่องบ้านเสร็จแล้ว ก็เปิดร้านที่บ้านเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ขนาดตั้งอยู่ท้ายซอยก็ยังขายดีมาก เพราะคนบอกปากต่อปาก จนรถลูกค้ามาจอดขวางหน้าบ้านเพื่อนบ้าน สองแม่ลูกเกรงใจมาก พอเห็นมีคูหาปากซอยว่าง เลยมาเซ้งเปิดร้านวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ทุกเช้าคุณเอ้จะตื่นไปตลาดซื้อวัตถุดิบ แม่อ้อมจะเตรียมปอกมะละกอ นึ่งข้าวเหนียว (ที่นี่มีข้าวเหนียวขาว ข้าวเหนียวดำ และข้าวเหนียวอัญชัน) ล้างปูให้สะอาด ปูม้าร้านนี้สดและสะอาดมากครับ แม่อ้อมบอกผมว่าล้างแล้วล้างอีก ล้างจนลูกแซวว่าถ้าแปรงฟันให้ปูได้คงทำไปแล้ว

สัมภาษณ์เจ้าของร้านไป ผมก็สั่งเมนูโปรดกินไปด้วย ผมติดใจหมูทอดแสนกรอบอร่อย แม้เห็นหมูติดมัน แต่ก็อดใจไม่ได้จริงๆ (เดี๋ยววิ่งละลายไขมันตอนเย็นก็แล้วกันนะ) ไก่ทอดก็อร่อยมาก ส้มตำปูม้าของโปรด ส่วนภรรยาชอบตับหวานร้านนี้มาก ทำไม่ดิบเกินไปและไม่สุกจนแข็ง นุ่มกำลังดี ปรุงรสได้กลมกล่อม ผมได้ลองเมนูยอดฮิตที่เพื่อนชอบสั่งคือ “ตำลาวคักๆ” เป็นส้มตำที่ใส่มะเขือ มะเขือขื่นโรยหน้าด้วยเมล็ดกระถินและกุ้งฝอย รสชาติมันๆ เข้มข้นเลยทีเดียว ภรรยาสั่งอีกจานที่เป็นเมนูใหม่คือ ลาบปลาหมึก จานนี้ก็รสชาติดี ปลาหมึกนุ่มไม่เหนียวเหมือนหนังสติ๊ก

แม่อ้อมแนะนำเมนูยอดฮิตที่ลูกค้าชอบสั่งคือ ยำปูม้าและเกาเหลาปูม้า (เหมือนส้มตำปูม้า แต่ไม่ใส่เส้นมะละกอนั่นเอง)

เมนูที่พวกพี่ๆ ทหารชอบสั่งมาก คือ คอหมูมะนาวและตำถั่วหมูกรอบ ก็แซ่บถูกใจนักดื่ม

ร้านแอบแซ่บ เปิดตั้งแต่ 11 โมงถึง 2 ทุ่ม ผมแนะนำว่าถ้าสามารถมาเร็วได้ อยากให้มากันก่อนเที่ยงครับ เพราะมิฉะนั้นจะมีพี่ๆ ทหารและเจ้าหน้าที่การท่าฯ มาอุดหนุนกันเต็มร้าน อาจจะต้องรอนานหน่อย ใครสนใจอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม เข้าไปคุยและสอบถามเส้นทางกับคุณเอ้ เจ้าของร้านได้ที่เบอร์ 08-1922-4978, 08-0012-0595 หรือทาง facebook พิมพ์ค้นหา “ร้านแอบแซ่บ สรงประภา” แล้วชมเมนูเด็ดๆ ได้เลยครับ

ร้านอาหารมีมากมายที่อยากจะแนะนำ แต่ผมขอนำเสนอร้านที่คนในครอบครัวช่วยกันทำช่วยกันสร้าง ร้าน “แอบแซ่บ” ผมไปกินแล้วรู้สึกว่าใช่เลยทั้งด้านความอร่อยและความอบอุ่น ในวันธรรมดาร้านนี้จะมีสองแม่ลูกประจำอยู่ แต่ถ้าเป็นเสาร์-อาทิตย์ จะมีคุณพ่อและน้องสาวมาช่วยเสิร์ฟและล้างจานด้วย... ยิ่งทราบประวัติความเป็นมาของร้านยิ่งน่ารักครับ คนเราย่อมพบกับมรสุมชีวิตบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ บ้านที่อบอุ่นยังคงเปิดต้อนรับเราเสมอ ผมเชื่อว่าคนที่มีความกตัญญูและรักครอบครัวจะต้องได้ดีแน่นอนครับ