พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
3 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
เคาหยก

เคาหยก


เคาหยก อาหารขึ้นสำรับวันนี้ เป็นอาหารจีน ตำรับกวางตุ้ง ที่คนจีนหลายๆบ้านรู้จักดี โดยเฉพาะครอบครัวของ ดร.สันติ กนกธนาพร ผู้อำนวยการสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ภายใต้การกำกับดูแล ของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งรับประทานมาตั้งแต่ยังเด็กๆ โดยมีวิธีการปรุงที่หลากหลาย เคาหยกที่ใช้เผือกเป็นเครื่องปรุง จะมีชื่อเรียกเต็มยศว่า  หวู่เถาเคาหยก   แต่ถ้าเคาหยกแบบที่ปรุงกับผักกาดขาวหมักเกลือตากแห้ง ก็เรียกว่า หมุ่ยชอยเคาหยก


ดร.สันติ หรือที่เพื่อนๆสมัยเรียนเรียกกันว่า“แซน” ซึ่งย่อมาจากสันตินั่นเอง ได้เล่าว่า ครอบครัวผมลูกชายจะทำอาหารเป็นกันหมด ในขณะที่ลูกสาวบ้านนี้ทำกับข้าวไม่เป็นเลย!! คงจะเป็นเพราะผมคอยช่วยคุณแม่ทำครัวมาตั้งแต่เด็ก ได้เห็นได้เรียนรู้ไปด้วย ยิ่งเมื่อได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษ เช่าบ้านอยู่รวมกันกับคนจีนฮ่องกง ช่วยกันทำอาหารรับประทาน ก็เหมือนได้แลกเปลี่ยนสูตรอาหารกันและกันไปด้วย อย่างเช่น เป็ดย่างฮ่องกง ดร.แซนบอกว่า ผมก็เคยลองทำมาแล้วคร้าบ ขณะที่อาหารกวางตุ้งส่วนใหญ่ ดร.แซนจะได้สูตรมาจากคุณแม่ อย่างเช่น หวู่เถาเคาหยก นี้ ซึ่งจะต้องใส่เต้าหู้ยี้ด้วย


เครื่องปรุง : เนื้อหมู 3 ชั้น (แต่ถ้าเลือกได้ 5 ชั้น ยิ่งดี เพราะจะได้หมูชิ้นหนา) 6-8 ขีด/เผือก 1 หัว/ หอมแดง 3 หัว/รากผักชี 2 ต้น/น้ำมันงา 1/2 ชช./พริกไทยป่นหยาบ 1/2 ชช./ซีอิ๊วขาว/น้ำตาลทราย 2 ชช./เต้าหู้ยี้แดง 3 ก้อน และน้ำที่ดอง 2 ชต./น้ำมันหอย 1 ชต.


วิธีทำ 1) นำหมู 3 ชั้นลงทอดด้วยไฟปานกลาง ประมาณ 3-5 นาที พอให้เนื้อหมูรัดตัว เวลานำไปต้มเนื้อหมูจะได้ไม่ยุ่ย 2) นำเผือกมาผ่าครึ่งพร้อมปอกเปลือกออกให้หมด แล้วนำไปทอดด้วยไฟปานกลาง กลับไปมาสัก 2-3 ครั้งก็พอ แล้วพักไว้ 3) ต้มน้ำสะอาดปริมาณ 2 ลิตรจนเดือด จึงใส่หมูและเผือกที่ทอดลงไป พร้อมด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด ยกเว้นน้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาว เพราะต้องรอชิมรสสุดท้ายหลังจากเคี่ยวได้ที่แล้ว ความเค็มของเต้าหู้ยี้อาจทำให้ไม่ต้องเติมซีอิ๊วขาวอีก 4) เคี่ยวต่อด้วยไฟปานกลางสักครึ่ง ชม. จึงตักเอาเผือกออก จากนั้นคอยดูไม่ให้น้ำแห้ง โดย คอยเติมน้ำและตักฟองน้ำมันออก 5) หลังจากเคี่ยวได้ครบ 1 ชม. ชิมรสชาติอีกครั้ง ถ้ายังหวานเค็มไม่ถูกใจ ก็สามารถเติมน้ำตาลทรายและซีอิ๊วขาวได้ แล้วจึงตักหมูออกจากหม้อมาพักไว้ให้เย็น ส่วนน้ำที่เหลือเคี่ยวให้งวดลงอีก 6) นำหมูและเผือก มาหั่นเป็นชิ้นๆ และจัดเรียงสลับกันให้ดูสวยงาม แล้วราดน้ำที่เคี่ยวไว้ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ แต่ถ้ากลัวจะเลี่ยนไปก็มีผักแนมเป็นเครื่องเคียงไปด้วยก็ได้  เป็นผักกาดแก้วหรือผักหางหงส์ ตามชอบ และมีพริก (ตำ) น้ำส้มอีกหน่อยอร่อยชัวร์!!




Create Date : 03 สิงหาคม 2556
Last Update : 3 สิงหาคม 2556 1:42:13 น. 0 comments
Counter : 2865 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.