เรายืนยันมาตลอด การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทุกอย่างสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หมด ใบหม่อนเอามาทำชา ตัวไหมนอกจากขายดักแด้เพื่อทอเป็นเส้นไหม สกัดสารโปรตีนทำเป็นเครื่องสำอาง ยิ่งตอนนี้ที่โด่งดังไปทั่วโลก เอาตัวดักแด้ หนอนไหมทำถั่งเช่า อาหารเสริมเพิ่มพลังทางเพศ จีน ญี่่ปุ่นเกาหลี ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่กระบวนการทำเขาปิดเป็นความลับ ถึงกระนั้นไม่เกินความสามารถของคนไทย วันนี้กรมหม่อนไหมสามารถทำถั่งเช่าได้แล้ว
นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมหม่อนไหม บอกว่า คิดทำขึ้นมาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม จากขายดักแด้ไหมราคากิโลกรัมละ 120-150 บาท ให้ขึ้นไปอยู่ที่หลักแสนเหมือนที่ประเทศอื่นๆเขาทำกันสำเร็จไปแล้ว
ทางกรมจึงได้เริ่มทำการศึกษา ด้วยการเอาถั่งเช่าสีทอง จากประเทศจีนกับถั่งเช่าหิมะจากเกาหลี ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับที่ญี่ปุ่นใช้มาศึกษาผลออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจนัก
เลยไปเอาเชื้อรากินแมลงในกลุ่มของ Ascomycetes ซึ่งมีสรรพคุณรักษาโรคต่างๆ ทั้งลดไขมันในร่างกาย รักษาระดับเม็ดสีผิว รักษาการทำงานของตับ ข้อต่อ กล้ามเนื้อ มาทดลองเพาะเลี้ยงขยายเชื้อ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับสถาบันราชภัฏเชียงใหม่ พบว่าสามารถขยายพันธุ์ มีการเจริญเติบโตดี จากนั้นนำเชื้อราดังกล่าวมาละลายในน้ำกลั่น ฉีดสเปรย์พ่นลงบนตัวหนอนไหมนางลายพันธุ์พื้นบ้านของไทย
เลือกใช้สายพันธุ์นี้เพราะ หาง่ายมีอยู่ทั่วไป แต่การพ่นเชื้อราลงบนตัวหนอนไหมต้องทำตอนที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ และเลี้ยงหนอนให้กินใบหม่อนจนถึงขั้นสร้างรังเข้าดักแด้ จากนั้นมาผ่าเปลือกดักแด้ (สปันซิล) คัดเอาเฉพาะตัวหนอนดักแด้สีเข้ม เพราะจะมีเชื้อราหรือถั่งเช่างอกขึ้นในตัวหนอนแล้ว จากนั้นนำไปเลี้ยงต่อในห้องเย็นอุณหภูมิ 15-21 ℃ ความชื้น 98% ใช้เวลาเลี้ยงเพียง 18-21 วัน เชื้อราสามารถสร้างใยสปอร์ได้ดี
เราเลือกใช้วิธีนี้เพราะเป็นการเลียนแบบการเกิดถั่งเช่าในธรรมชาติ ที่เกิดจากหญ้าหนอน หนอนผีเสื้อค้างคาว หรือผีเสื้อกะโหลก ในฤดูหนาวจะจำศีลฝังตัวอยู่ใต้หิมะลึกลงไปประมาณ 34 นิ้ว และกินสปอร์เชื้อราเข้าไป พอหิมะละลายอุณหภูมิเหมาะสม เชื้อราเจริญเติบโตจากตัวหนอนแทงออกมาเป็นเส้นใยถั่งเช่า ซึ่งถั่งเช่าธรรมชาติแบบนี้ราคาแพงมาก สูงถึง กก. 34 แสนบาท.