ส่วนผสมน้อยและไม่ยุ่งยากค่ะ แต่เลอะเทอะนิดหน่อย
ส่วนผสม
ฟักทองนึ่งสุก บดละเอียด 250 กรัม
แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
เกลือป่นหยิบนิ้ว (เติมเอง ในสูตรไม่มี)
น้ำตาลโตนด หรือน้ำตาลปึกแล้วแต่จะหาได้ สำหรับใส่ไส้
มันเทศ เราใช้มันเทศญี่ปุ่น 2 หัว
ลูกเดือย 1 ถ้วย
ขิงแก่ ปริมาณแล้วแต่ความชอบค่ะ
น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลกรวด ใช้ชิมเอาก็ได้นะคะ
วิธีทำ
แช่ลูกเดือยทิ้งไว้สัก 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้ต้มสุกง่าย ๆ
ขิงแก่ปอกและหั่นเป็นชิ้น ทุบๆ พอแหลก ใส่ลงในหม้อน้ำเดือด ต้มไฟปานกลางจนได้น้ำขิงรสชาดเผ็ดมากน้อยตามชอบ
ปอกมันเทศ แล้วนึ่งให้พอสุก หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ พักไว้
ที่นึ่งมันเทศต่างหาก เพราะถ้าหากใครใช้มันเทศสีม่วง ใส่ต้มลงไปพร้อมกันจะได้น้ำสีม่วงนะคะ ที่จริงเราอยากได้มันเทศสีม่วง แต่ซื้อมาแล้วมันเป็นสีเหลืองค่ะ แฮ่ ดูไม่เป็น
ใส่ฟักทองบดลงในชามผสมใบใหญ่หน่อย ใส่เกลือป่นลงไปคน ๆ ให้เข้ากัน แบ่งแป้งข้าวเหนียวออกเป็นสามส่วน ทะยอยใส่แป้งลงนวดกับฟักทองทีละส่วน นวดจนได้ส่วนผสมเนียน และไม่ติดมือ
การที่แบ่งแป้งออกเป็นส่วนจะได้ปรับเพิ่มลดได้ตอนนวดค่ะ ถ้าฟักทองแฉะมากก็เติมแป้งเพิ่มได้อีก หรือถ้าส่วนผสมดูแห้ง ก็อาจจะเติมน้ำได้นิดหน่อย
แบ่งน้ำตาลโตนดออกเป็นก้อนเล็ก ๆ กะให้เล็กกว่าขนาดของแป้งฟักทอง
โรยแป้งนวลบนถาดที่จะใช้คลึง แบ่งแป้งฟักทองบัวลอยของเราออกเป็นส่วน ๆ คลึงเป็นเส้นยาว กว้างสัก 1 นิ้ว ตัดเป็นชิ้นเท่า ๆ กัน หรือพยายามให้เท่า ๆ กัน(แบบเรา) คลึงแป้งให้เป็นลูกกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสัก 1 นิ้ว
แผ่แป้งออกให้เป็นวงกลม ใส่ไส้น้ำตาลโตนดที่ปั้นไว้ลงไป ห่อให้มิดคลึงให้กลมอีกที
สงลูกเดือยที่แช่ไว้ออกจากน้ำ ใส่ลงต้มในหม้อน้ำขิงจนลูกเดือยสุกนิ่ม ใส่น้ำตาลทรายลงไปชิมรสให้ถูกใจ
ตั้งน้ำในหม้อใหญ่ๆ หรือกะทะทองเหลืองอีกใบ พอน้ำเดือดลดไฟลงเป็นไฟกลาง ใส่บัวลอยที่ปั้นไว้ลงต้ม คนน้ำให้หมุน ๆ ในหม้อเพื่อไม่ให้บัวลอยจมลงไปติดก้นหม้อด้วยนะคะ บัวลอยที่สุกแล้วจะลอยตัวขึ้น สักพักใช้ตะหลิวโปร่งช้อนออกล้างในน้ำเย็นนิดนึง สะเด็ดน้ำให้หมดแล้วใส่บัวลอยลงในหม้อน้ำขิง ตามด้วยมันเทศ
ตั้งไฟให้เดือดอีกสักครู่ เสิร์ฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
cooking comment :
ตัวบัวลอยนี้ ถ้าปั้นแป้งห่อไส้ไว้ล่วงหน้านานเกิน น้ำตาลในไส้อาจจะละลายออกมา ทำให้บัวลอยแฉะและติดถาดนะคะ ไม่ควรทำไว้ก่อนลวกนาน ๆ
ถ้าจะให้ดี ปั้น ๆ แล้วใส่ลงไปต้มเลยน่าจะสะดวก เพราะปั้นง่ายใช้เวลานิดเดียว
ภาพที่เห็นเป็นวันรุ่งขึ้นจากที่ทำ ตอนทำเสร็จใหม่ ๆ น้ำจะใสสวยน่ากินค่ะ ดังนั้น ไม่ควรจะต้มไว้นานเกิน คิดว่าถ้าทำอีก จะแยกน้ำขิงเอาไว้ แล้วพอจะเสิร์ฟค่อยใส่ลูกเดือย มันเทศ และลวกบัวลอยใส่ดีกว่า
(จะยุ่งยากไปไหมเนี่ย)
ตัวแป้งที่ปั้นแล้วจะประมาณนี้ค่ะ
เราใช้น้ำตาลโตนดที่อยู่ในกระปุก ใช้ช้อนที่สำหรับคว้านแตงโมตักเป็นก้อน ๆ แล้วปั้นกลม ๆ
ภาพไม่ค่อยชัด แต่ให้ดูตอนทีแผ่แป้งห่อน้ำตาลเอาไว้ค่ะ ง่าย ๆ
พยายามคลึงแป้งให้กลม ๆ เวลาต้มจะได้ไม่มีรอยนะคะ
สุกแล้ว กินตอนร้อน ๆ อร่อยมาก
เป็นขนมที่เหมาะสำหรับอากาศเย็น ๆ แบบนี้
เวลากัดไปโดนไส้น้ำตาลโตนดหอม ๆ อร่อยค่ะ
กินแล้วรู้สึกดี
ร่างกายบอกว่า ชอบ ๆๆ
ที่แนะนำให้ลวกบัวลอยใส่ตอนจะเสิร์ฟ เพราะอีกสาเหตุหนึ่งคือ บางทีพอใส่ลูกบัวลอยลงไปแล้ว จะมาอุ่นอีกที แป้งบางลูกอาจจะแตก ทำให้น้ำตาลละลายออกมารบกวนรสชาดน้ำขิงค่ะ
ขอให้มีความสุขกับทุก ๆ เรื่องที่เข้ามาในชีวิตค่ะ
และขอให้มีสุขภาพแข็งแรง เต็มไปด้วยสิ่งที่ดีงามและแวดล้อมด้วยมิตรภาพในทุกที่ ตลอดไปค่ะ
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ ที่นี้เสมอมา